ภาพรวมของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (Profile of Prachuabkirikhan Province, Thailand)

choenkrainara 15 views 4 slides Nov 03, 2024
Slide 1
Slide 1 of 4
Slide 1
1
Slide 2
2
Slide 3
3
Slide 4
4

About This Presentation

ภาพรวมของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (Profile of Prachuabkirikhan Province, Thailand)


Slide Content

1

จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
1. ที่ ตั้ง ขน าด พื้ น ที่ จังห วัด
ประจวบคีรีขันธ์ตั้งอยู่ใต้สุดของภาคกลางอยู่ห่างจาก
กรุงเทพมหานครประมาณ 325.3 กิโลเมตร เป็น
จังหวัดขนาดกลางมีพื้นที่ทั้งหมด 6,367.62 ตาราง
กิโลเมตร หรือประมาณ 3.97 ล้านไร่ ความยาวของ
จังหวัดประมาณ 212 กิโลเมตร ส่วนที่แคบที่สุดของ
ประเทศและของจังหวัดอยู่ในเขตตำบลคลองวาฬ
อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จากอ่าวไทยถึงแนว
พรมแดนไทย-พม่าประมาณ 12 กิโลเมตร
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นเส้นทางคมนาคมข้าม
คาบสมุทรที่มีมีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ชาติไทยอย่างต่อเนื่องยาวนานทั้งในด้านการค้าและยุทธศาสตร์นับ
แต่ยุคสมัย “สุวรรณภูมิ”จนถึงสุโขทัย อยุธยา และรัตนโกสินทร์ ส่งผลให้จังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นประตูสู่
ภาคใต้และเป็น“เส้นทางคาบสมุทรสู่ทะเลอันดามัน”โดยมีอาณาเขตติดต่อดังนี้
• ทิศเหนือ ติดกับ อำเภอชะอำ อำเภอท่ายางและอำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
• ทิศใต้ ติดกับ อำเภอปะทิวและอำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร
• ทิศตะวันออก ติดกับ ทะเลอ่าวไทยความยาวชายฝั่งทะเลประมาณ 224.8 กิโลเมตร
• ทิศตะวันตก ติดกับ ประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่ามีพื้นที่เป็นแนวยาวขนาบด้วยทิวเขา
ตะนาวศรีเป็นพรมแดนยาวประมาณ 283 กิโลเมตร มีช่องทางติดต่อกันได้ 34 ช่องทาง
2. สภาพภูมิประเทศ ลักษณะทั่วไปของจังหวัดประประจวบคีรีขันธ์ ทิศตะวันตกเป็นเทือกเขาตะนาว
ศรี ซึ่งกั้นพรมแดนระหว่างไทยกับพม่าลาดเอียงลงสู่ทะเลอ่าวไทยด้านตะวันออกและมีเทือกเขาและภูเขาอยู่ทั่วไป
ทั้งบริเวณตอนกลางและบริเวณชายฝั่งทะเลของจังหวัด เทือกเขาที่สำคัญ ได้แก่ เทือกเขาสามร้อยยอด ความสูง
โดยเฉลี่ยของเทือกเขาด้านตะวันตกประมาณ 750 เมตร ความสูงที่สุดเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง 1,215 เมตร
และต่ำสุด 306 เมตร ส่วนความสูงจากระดับน้ำทะเลแถบชายฝั่งตะวันออกโดยเฉลี่ยประมาณ 1-5 เมตร จาก
ความลาดชันสูงก่อให้เกิดลำห้วยหลายสายไหลลงสู่คลองและแม่น้ำ ได้แก่ แม่น้ำปราณบุรี แม่น้ำกุยบุรี คลองบาง
สะพาน คลองบางนางรม และคลองกรูด มีเกาะเล็กเกาะน้อยอยู่ในท้องที่ทุกอำเภอทั่วทั้งจังหวัดประมาณ 21 เกาะ
บางแห่งเป็นเกาะปะการัง เช่น เกาะจาน เกาะท้ายทรี เกาะทะลุ เกาะสิงห์และเกาะสังข์ เป็นต้น
3. การปกครอง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 8 อำเภอ 48 ตำบล 453
หมู่บ้านองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นประกอบด้วยองค์การบริหารส่วนจังหวัด 1 แห่ง เทศบาลเมือง 2 แห่ง
เทศบาลตำบล 13 แห่ง และองค์การบริหารส่วนตำบล 48 แห่ง

2

4. ประชากร ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2554 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์มีจำนวนประชากรทั้งสิ้นจำนวน
512,568 คน เป็นชาย 256,429 คน (50.02 %) เป็นหญิง 256,139 คน (49.97 %) จำนวน 209,556
ครัวเรือน ความหนาแน่นประชากร 80 คน/ตารางกิโลเมตร
5. เศรษฐกิจ ปี 2553 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์มีผลิตภัณฑ์มวลรวม 63,698 ล้านบาท สูงเป็นลำดับที่ 34
ของประเทศ มูลค่าผลิตภัณฑ์จังหวัดเฉลี่ยต่อหัว 131,574 บาท/คน/ปี สูงเป็นลำดับที่ 18 ของประเทศ เศรษฐกิจ
ของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ขึ้นอยู่กับภาคเกษตรกรรมเป็นหลัก โดยมีมูลค่าผลิตภัณฑ์ 20,617 ล้านบาท คิดเป็น
สัดส่วนร้อยละ 32.4 รองลงมาคือ สาขาอุตสาหกรรมมีมูลค่าผลิตภัณฑ์ 11,390 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ
17.9 และสาขาการค้ามีมูลค่าผลิตภัณฑ์ 7,464 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 11.7 ส่วนที่เหลือร้อยละ 38 เป็น
สาขาบริการและอื่นๆ อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ณ ราคาคงที่ปี 2553 เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ร้อยละ 3.7
สำหรับอัตราการขยายตัวเฉลี่ย 5 ปี (2549-2553) คือร้อยละ 3.2 (ข้อมูล GPP ปี 2553 เป็นข้อมูลประมาณการที่ได้
จาก สบป./สศช.)
5.1 เกษตรกรรม มีพื้นที่ทำการเกษตรประมาณ 1.91 ล้านไร่ มีจำนวนเกษตรกร55,557 ครัวเรือน
โดยมีพืชเศรษฐกิจที่สำคัญคือ สับปะรดซึ่งทำรายได้ให้จังหวัดเป็นอันดับ 1 มีปริมาณการผลิตมากที่สุดในประเทศ
และส่งออกสูงเป็นอันดับหนึ่งของโลก รองลงมาคือมะพร้าวซึ่งปลูกมากที่สุดในประเทศตลอดทั้งมีการปลูกยางพารา
และปาล์มน้ำมัน นอกจากนี้ยังมีศักยภาพด้านการประมงสูงและมีผลผลิตปศุสัตว์ที่สำคัญคือ โคนม โคเนื้อ สุกร ไก่
เนื้อ
5.2 การค้า ปี 2553 มูลค่าการค้าระหว่างประเทศผ่านด่านศุลกากรประจวบคีรีขันธ์รวม 58,891.52
ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 34.59 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2552 โดยสินค้าส่งออกที่สำคัญคือ กรดไขมันปาล์ม เหล็กรีด
เย็น รถมอเตอร์ไซด์ เฌอร่าบอร์ด กระเบื้อง อิฐ สินค้านำเข้าที่สำคัญคือ เหล็กแท่งแสลป เหล็กแผ่นรีดร้อนมีความ
หนา เหล็กแผ่นรีดร้อนไม่ได้ทำ เหล็กรีดเย็น เป็นต้น สำหรับมูลค่าการค้าชายแดนอย่างเป็นทางการกับประเทศพม่า
ด้านจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ผ่านจุดผ่อนปรนทางการค้าด่านสิงขรในปีงบประมาณ 2554 มีสินค้าส่งออกมูลค่า 19
ล้านบาท มีสินค้านำเข้ามูลค่า 9 ล้านบาท ปีงบประมาณ 2555 ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2554–เดือนมีนาคม 2555 มี
สินค้าส่งออกมูลค่า 5 ล้านบาท มีสินค้านำเข้ามูลค่า 17 ล้านบาท สินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ รถแทรกเตอร์
อุปกรณ์ก่อสร้าง น้ำมันดีเซลและปูนซีเมนต์ และสินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ ไผ่ โค–กระบือ หวายและถ่านไม้
สำหรับมูลค่าการจำหน่ายสินค้าให้แก่กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างประเทศบริเวณด่านสิงขร (ฝั่งไทย) ประมาณ
60 ล้านบาทต่อปี และชาวพม่าข้ามพรมแดนมาซื้อสินค้าอุปโภค บริโภคประมาณ 81.60 ล้านบาทต่อปี
5.3 อุตสาหกรรม จังหวัดประจวบคีรีขันธ์มีศักยภาพในการพัฒนาอุตสาหกรรมที่สำคัญได้แก่
อุตสาหกรรมเหล็ก อุตสาหกรรมต่อเนื่องจากการเกษตร เช่น อุตสาหกรรมแปรรูปสับปะรด อุตสาหกรรมแปรรูป
มะพร้าว อุตสาหกรรมต่อเนื่องจากการประมง อุตสาหกรรมผลิตวัสดุเพื่อการก่อสร้าง และอุตสาหกรรมเมืองแร่
5.4 การท่องเที่ยว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์มีศักยภาพทางด้านการท่องเที่ยวเนื่องจากมีลักษณะภูมิ
ประเทศทางธรรมชาติที่มีความหลากหลายทั้งเทือกเขา เกาะและทะเล นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่มี
ความสำคัญและทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ศาสนาและวัฒนธรรม ประเพณี ตลอดทั้งแหล่งท่องเที่ยวที่สร้างขึ้นมา
ใหม่ ทำให้ในปี 2553 สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวมาท่องเที่ยวในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้จำนวน 2,448,176 คน
ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปี 2552 ร้อยละ 9.90 และในปี 2552 จังหวัดมีรายได้จากการท่องเที่ยวจำนวน 9,188.19 ล้าน
บาท สำหรับรายได้จากการท่องเที่ยวเข้าสู่จังหวัดเฉลี่ยระยะ 3 ปี (2550-2552) ประมาณ 9,421.23 ล้านบาท/ปี
6. ศักยภาพ และประเด็นปัญหาส าคัญ
6.1 ศักยภาพ

3

1) มีท่าเรือที่มีศักยภาพในการเป็นช่องทางการค้าระหว่างประเทศและมีแนวเขตติดต่อกับ
สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่ายาวถึง 283 กิโลเมตร ซึ่งมีช่องทางติดต่อกันได้ 34 ช่องทาง จึงมีศักยภาพในด้านการค้า
ชายแดนและการท่องเที่ยวบริเวณชายแดน ตลอดทั้งมีความสะดวกในการขนส่งทางถนน รถไฟและทางอากาศ
2) มีลักษณะภูมิประเทศทางธรรมชาติที่มีความหลากหลาทั้งเทือกเขา ทะเล เกาะ และชายหาด
นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีความสำคัญและทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ศาสนาและวัฒนธรรม ประเพณี
ตลอดทั้งแหล่งท่องเที่ยวที่สร้างขึ้นมาใหม่จึงมีศักยภาพทางการท่องเที่ยวสูง
3) เป็นแหล่งผลิตอุตสาหกรรมเหล็กต้นน้ำที่สำคัญของประเทศ และมีทรัพยากรที่ดินเพียงพอเพื่อ
การเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจ เช่น สับปะรด มะพร้าว ยางพาราและปาล์มน้ำมันและการประมง ซึ่งสามารถใช้เป็น
วัตถุดิบในการเชื่อมโยงการผลิตกับอุตสาหกรรมต่อเนื่องทางการเกษตร เช่น อุตสาหกรรมแปรรูปสับปะรดบรรจุ
กระป๋อง น้ำสับปะรดเข้มข้นบรรจุกระป๋อง ผลิตน้ำตาลทราย ผลิตนม และผลิตน้ำมันปาล์ม
6.2 ประเด็นปัญหา
1) ระบบโครงข่ายถนนของจังหวัดยังขาดถนนสายหลักและสายรองเพื่อการติดต่อระหว่าง
อำเภออย่างเป็นระบบและยังขาดสถานีขนส่งสินค้าเพื่อรวบรวม คัดแยกและกระจายสินค้าอย่างเป็นระบบ
2) ขาดการพัฒนาโครงข่ายคมนามคมขนส่งเพื่อรองรับการขนส่งสินค้าทางทะเล
3) ขาดระบบขนส่งสาธารณะเพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวอย่างเป็นระบบและขาดศูนย์บริการ
นักท่องเที่ยวและบุคลากรด้านการท่องเที่ยว
4) ขาดศูนย์กำจัดขยะรวมในระดับจังหวัดและขาดการจัดการขยะที่ถูกสุขอนามัยและการมี
ส่วนร่วมของชุมชนในการกำจัดขยะ
5) การขาดแคลนน้ำส่วนใหญ่เกิดบริเวณนอกเขตชลประทานขนาดใหญ่
6) ปัญหาน้ำท่วมชุมชนซ้ำซากโดยเฉพาะพื้นที่อำเภอบางสะพาน
7) การชะล้างพังทลายของดินและดินถล่มรวมทั้งปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งตลอดแนวชายฝั่ง
8) การขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมอย่างกระจัดกระจายโดยขาดการวางแผนทำให้ยากต่อ
การควบคุมสภาวะแวดล้อม
9) แนวปักปันเขตแดนไม่ชัดเจนรวมทั้งกฎหมายระหว่างประเทศส่งผลให้มีความเสี่ยงในแหล่ง
ท่องเที่ยวบางแห่ง
10) มีปัญหาที่กระทบต่อความมั่นคง เช่น การบุกรุกทำลายป่าและทรัพยากรสิ่งแวดล้อมและ
การจัดการทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล การแพร่ระบาดยาเสพติดและแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายจาก
ประเทศพม่า ลาว กัมพูชา ศรีลังกาและบังคลาเทศ

7. วิสัยทัศน์ ยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดที่มีความสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ประเทศ
ไทย 2015 - 2020
วิสัยทัศน์ : ““เมืองท่องเที่ยวที่ทรงคุณค่า สัปปะรด มะพร้าวที่หนึ่งของโลก สังคมแห่งมิตรไมตรี”

รายการ วิสัยทัศน์ประเทศไทย 2015 - 2020 ประชาคม

4

มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน อาเซียน
เป้าประสงค์รวม
1.เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยว   
2.เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในภาคเกษตรและ
อุตสาหกรรม
   
3.เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการค้าชายแดน    
4.ยกระดับคุณภาพขีวิตของประชาชนและสร้างความมั่นคงทาง
สังคมให้ทั่วถึง รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาความมั่นคง
บริเวณชายแดน
  
5.อนุรักษ์ ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อเป็นฐาน
การพัฒนาอย่างยั่งยืน
   
ประเด็นยุทธศาสตร์    
1.เสริมสร้างความโดดเด่นด้านการท่องเที่ยวบนพื้นฐาน
เอกลักษณ์ของจังหวัด
   
2.เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในด้านการผลิตและแปรรูป
สับปะรด มะพร้าวและสินค้าเกษตรสู่ตลาดโลก
   
3.เสริมสร้างระบบสนับสนุนความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การเมือง
การบริหาร สังคมและวัฒนธรรมรองรับประชาคมอาเซียนและ
ประชาคมโลก
  
4.เสริมสร้างความมั่นคงและสังคมคุณภาพตามวิถีภูมิปัญญาไทย   
5.เสริมสร้างประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่สมดุล
  
Tags