วิธีการให้คะแนนโดยใช้เกณฑ์ SCG; How to Score with SCG.pdf

maruay 36 views 89 slides Oct 19, 2025
Slide 1
Slide 1 of 89
Slide 1
1
Slide 2
2
Slide 3
3
Slide 4
4
Slide 5
5
Slide 6
6
Slide 7
7
Slide 8
8
Slide 9
9
Slide 10
10
Slide 11
11
Slide 12
12
Slide 13
13
Slide 14
14
Slide 15
15
Slide 16
16
Slide 17
17
Slide 18
18
Slide 19
19
Slide 20
20
Slide 21
21
Slide 22
22
Slide 23
23
Slide 24
24
Slide 25
25
Slide 26
26
Slide 27
27
Slide 28
28
Slide 29
29
Slide 30
30
Slide 31
31
Slide 32
32
Slide 33
33
Slide 34
34
Slide 35
35
Slide 36
36
Slide 37
37
Slide 38
38
Slide 39
39
Slide 40
40
Slide 41
41
Slide 42
42
Slide 43
43
Slide 44
44
Slide 45
45
Slide 46
46
Slide 47
47
Slide 48
48
Slide 49
49
Slide 50
50
Slide 51
51
Slide 52
52
Slide 53
53
Slide 54
54
Slide 55
55
Slide 56
56
Slide 57
57
Slide 58
58
Slide 59
59
Slide 60
60
Slide 61
61
Slide 62
62
Slide 63
63
Slide 64
64
Slide 65
65
Slide 66
66
Slide 67
67
Slide 68
68
Slide 69
69
Slide 70
70
Slide 71
71
Slide 72
72
Slide 73
73
Slide 74
74
Slide 75
75
Slide 76
76
Slide 77
77
Slide 78
78
Slide 79
79
Slide 80
80
Slide 81
81
Slide 82
82
Slide 83
83
Slide 84
84
Slide 85
85
Slide 86
86
Slide 87
87
Slide 88
88
Slide 89
89

About This Presentation

บทความนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล จากการศึกษาแนวทางการให้คะแนนของ SCG (Scoring Calibration Guidelines for Business/Nonprofit/Government โดย Mark L. Blazey, Cathy Ber...


Slide Content

วิธีการให้คะแนนโดยใช้เกณฑ์ SCG
How to Score with SCG
พลตรี มารวย ส่งทานินทร์
[email protected]
19 ตุลาคม 2568

เกริ่นน า
บทความนี้ เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล จากการศึกษาแนวทางการให้คะแนนของ
SCG(Scoring Calibration Guidelines for Business/Nonprofit/GovernmentโดยMark L. Blazey,
Cathy Bergland, and Paul Grizzell © 2025) และจากประสบการณ์การทดลองใช้งานจริงเป็น
เวลา 3ปี ในการตรวจประเมินองค์กร
การให้คะแนนตามแนวทางของ SCGมีทั้งข้อดีและมีส่วนที่ยังมีปัญหาในการตีความ
และการให้คะแนน
การแลกเปลี่ยนเรียนรู้นี้ อาจมีผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ซึ่งเป็นประเด็นที่จะ
อภิปรายให้มีความชัดเจน เพื่อประโยชน์ของผู้ตรวจประเมินได้ใช้เป็นแนวทางสืบไป

โครงสร้างของเกณฑ์
เกณฑ์มีทั้งหมด 17หัวข้อ และอีก 2หัวข้อในโครงร่างองค์กร
•หัวข้อเหล่านี้แบ่งออกเป็น 3กลุ่ม ตามประเภทของสารสนเทศที่ต้องการ คือ
•โครงร่างองค์กร ถามเพื่อให้องค์กรระบุสภาพแวดล้อมขององค์กร
•หัวข้อที่เป็นกระบวนการ (หมวด 1-6) ถามเพื่อให้องค์กรระบุกระบวนการต่าง ๆ
ขององค์กร
•หัวข้อที่เป็นผลลัพธ์ (หมวด 7) ถามเพื่อให้องค์กรรายงานผลลัพธ์ของกระบวนการ
ต่าง ๆ ขององค์กร

ระดับของค าถาม
ค าถามของเกณฑ์แบ่งออกเป็น 3 ระดับ คือ
•ค าถามพื้นฐาน (Basic questions) คือ ค าถามที่ตามหลังหัวข้อหลัก
•ค าถามโดยรวม (Overall questions) แสดงด้วยค าถามตัวอักษรหนาค าถามชี้น าเหล่านี้
เป็นจุดเริ่มต้นในการตอบค าถามของเกณฑ์
•ค าถามย่อย (Multiple questions) เป็นค าถามเดี่ยว ๆ ในแต่ละประเด็นพิจารณา รวมทั้ง
ค าถามที่เป็นตัวอักษรหนาโดยค าถามแรกแสดงถึงสิ่งที่ส าคัญที่สุดในชุดค าถามนั้น

Early Basic
Basic
Basic
Overall
Multiple

ระบบการให้คะแนน
การให้คะแนนตามเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติ
•ขึ้นอยู่กับการประเมินใน 2 มิติ: กระบวนการ (หมวด 1-6 มีคะแนนรวมกระบวนการ
600คะแนน) และ ผลลัพธ์(หมวด 7 มีคะแนนรวมผลลัพธ์ 400คะแนน)
•การให้คะแนนในแต่ละหัวข้อ (Item)พิจารณาจาก 1. สารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับค าถาม
ของหัวข้อนั้น 2. แนวทางการให้คะแนน

ช่วงของคะแนน
Band 1 Band 2 Band 3 Band 4 Band 5 Band 6
0-5 % 10-25% 30-45% 50-65% 70-85% 90-100%
No Evident or Not
Reported
EARLY BASIC
REQUIREMENTS
BASIC
REQUIREMENTS
OVERALL
REQUIREMENTS
MULTIPLE
REQUIREMENTS
MULTIPLE
REQUIREMENTS
•Basic Requirements (สีแสด และ สีเหลือง) มีคะแนน 10-45%
•Overall Requirements(สีเขียว) มีคะแนน 50-65%
•Multiple Requirements (สีน ้าเงิน และ สีคราม) มีคะแนน 70-100%
•ให้พิจารณาจากการอ่านรายงานองค์กรผู้สมัคร ทั้งหัวข้อ (Item) แล้วเริ่มต้นที่ Band4(50-65%)ว่า
ได้ตอบสนองในช่วงคะแนนนี้หรือไม่ (ถ้าไม่ใช่ จึงพิจารณาว่าจะเพิ่มหรือจะลด Bandต่อไป)

การให้คะแนนที่เหมาะสมที่สุด (From Baldrige)
การให้คะแนนที่เหมาะสมที่สุด (Best Scoring Fit)
•เพื่อการให้คะแนนที่เหมาะที่สุด เป็นสิ่งส าคัญที่จะต้องพิจารณาเกณฑ์การให้คะแนนแบบ
องค์รวม (Holistically)
•เริ่มจาก Band 4 (50-65%) แล้วพิจารณาทุก ๆ ปัจจัยที่วิเคราะห์ไว้ ว่าสมควรอยู่ใน
Band นี้หรือไม่ ถ้าไม่ ควรจะเพิ่มหรือจะลด Band โดยอาศัยจากค าอธิบายปัจจัยที่ใช้
พิจารณาทั้งหมด ไม่ใช่ปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งเท่านั้น
•ส่วนคะแนนสุดท้ายใน Band ให้มากหรือน้อย พิจารณาจากปัจจัยย่อยว่ามีแนวโน้มชิด
กับขอบคะแนนด้านใด

ศัพท์การให้คะแนน
ค าอธิบายศัพท์การให้คะแนน (Defining Scoring Terms)

4 Factors to Evaluate Processes:
ADLI

มิติการให้คะแนนกระบวนการ
1. แนวทาง (Approach–A) หมายถึง
•วิธีการที่ใช้เพื่อให้บรรลุผลตามกระบวนการ,
•ความเหมาะสมของวิธีการที่ใช้ตอบค าถามของหัวข้อต่าง ๆ ของเกณฑ์ และ
สภาพแวดล้อมการด าเนินงานขององค์กร,
•ความมีประสิทธิผลของการใช้วิธีการต่าง ๆ ขององค์กร, และ
•ระดับของการที่แนวทางนั้นน าไปใช้ซ ้าได้ และอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลและสารสนเทศที่
เชื่อถือได้ (ซึ่งหมายถึง การด าเนินการอย่างเป็นระบบ).

มิติการให้คะแนนกระบวนการ
2. การถ่ายทอดสู่การปฏิบัติ (Deployment–D) หมายถึง ความครอบคลุมและทั่วถึงของ
•การใช้แนวทางเพื่อตอบค าถามของหัวข้อที่มีความเกี่ยวข้องและส าคัญต่อองค์กร,
•การใช้แนวทางอย่างคงเส้นคงวา, และ
•การน าแนวทางไปใช้ในทุกหน่วยงานที่เหมาะสม.

มิติการให้คะแนนกระบวนการ
3. การเรียนรู้ (Learning-L) หมายถึง
•การปรับปรุงแนวทางให้ดีขึ้น โดยใช้วงจรการประเมินและการปรับปรุง,
•การปรับปรุงแนวทางด้วยการประยุกต์ใช้วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศหรือนวัตกรรม, และ
•การแบ่งปันความรู้ที่ได้จากการปรับปรุงแนวทางให้ดีขึ้นและนวัตกรรมกับหน่วยงาน
และกระบวนการอื่นที่เกี่ยวข้องภายในองค์กร.

มิติการให้คะแนนกระบวนการ
4. การบูรณาการ (Integration-I) หมายถึง ความครอบคลุมและทั่วถึง ของ
•แนวทางที่ใช้สอดคล้องไปในแนวทางเดียวกันกับความต้องการขององค์กร ตามที่ระบุไว้
ในโครงร่างองค์กร และเกณฑ์หมวดกระบวนการ (หมวด 1-6);
•การใช้ตัววัด, สารสนเทศ, และระบบการปรับปรุง ที่ช่วยเสริมซึ่งกันและกัน ทั้งระหว่าง
กระบวนการและระหว่างหน่วยงานทั่วทั้งองค์กร; และ
•แผนงาน, กระบวนการ, ผลลัพธ์, การวิเคราะห์, การเรียนรู้, และการปฏิบัติการ มีความ
สอดคล้องกลมกลืนกันในทุกกระบวนการและหน่วยงาน เพื่อสนับสนุนเป้าประสงค์ระดับ
องค์กร.

A = Approach
Band 1 Band 2 Band 3 Band 4 Band 5 Band 6
0-5 % 10-25% 30-45% 50-65% 70-85% 90-100%
No APPROACHEARLY BASIC
REQUIREMENTS
BASIC
REQUIREMENTS
OVERALL
REQUIREMENTS
MULTIPLE
REQUIREMENTS
MULTIPLE
REQUIREMENTS
No SYSTEMATIC,
ANECDOTAL
Beginning
SYSTEMATIC
EFFECTIVE,
SYSTEMATIC
EFFECTIVE,
SYSTEMATIC
EFFECTIVE,
SYSTEMATIC
Fully EFFECTIVE,
SYSTEMATIC
SYSTEMATIC. Well-ordered, repeatable, and exhibiting the use of data and information so that learning is
possible.
EFFECTIVE. How well a process or a measure addresses its intended purpose. Effectiveness requires
(1)evaluating how well the process is aligned with the organization’s needs and how well it is deployed or
(2)Evaluating the outcome of the measure as an indicator of process or product performance.

D = Deployment
Band 1 Band 2 Band 3 Band 4 Band 5 Band 6
0-5 % 10-25% 30-45% 50-65% 70-85% 90-100%
Little or No
DEPLOYMENT
EARLY BASIC
REQUIREMENTS
BASIC
REQUIREMENTS
OVERALL
REQUIREMENTS
MULTIPLE
REQUIREMENTS
MULTIPLE
REQUIREMENTS
Little or No evidentEarly stages in most
areas
DEPLOYED, some
areas in early stages
Well DEPLOYED, may
vary in some areas
Well DEPLOYED, with
no significant gaps
Fully DEPLOYED
without significant
weakness or gap
Few = 5-15%
Some = 15-30%
Many = 30-50%
Most = 50-80%
Nearly All = 80-90%
All = 100%

L = Learning
Band 1 Band 2 Band 3 Band 4 Band 5 Band 6
0-5 % 10-25% 30-45% 50-65% 70-85% 90-100%
No LEARNINGEARLY BASIC
REQUIREMENTS
BASIC
REQUIREMENTS
OVERALL
REQUIREMENTS
MULTIPLE
REQUIREMENTS
MULTIPLE
REQUIREMENTS
No evident, Reacting
to problems
Early stages to
general improvement
Beginning to
Evaluation and
Improvement (PDCA)
Fact-based,
Evaluation and
Improvement (PDCA)
+ INNOVATION
Fact-based,
Evaluation and
Improvement (PDCA)
+ INNOVATION +
Sharing
Fact-based,
Evaluation and
Improvement (PDCA)
+ INNOVATION +
Analysis & Sharing
throughout
Organization

I = Integration
Band 1 Band 2 Band 3 Band 4 Band 5 Band 6
0-5 % 10-25% 30-45% 50-65% 70-85% 90-100%
No ALIGNMENTEARLY BASIC
REQUIREMENTS
BASIC
REQUIREMENTS
OVERALL
REQUIREMENTS
MULTIPLE
REQUIREMENTS
MULTIPLE
REQUIREMENTS
Individual areas or
work units operate
independently
ALIGNED with other
areasthrough joint
problem solving
Early stages of
ALIGNMENT with
Basic Organizational
needs (OP) + other
process Items
ALIGNED with Overall
Organizational needs
(OP) + other process
Items
INTEGRATED current
and future
Organizational needs
(OP) + other process
Items
Well INTEGRATED
current and future
Organizational needs
(OP) + other process
Items

Tips on Process Scoring (Adapted from Baldrige Criteria)
30-45% 50-65% 70-85%
ARespond Basic questionsRespond Overall questionsRespond Multiple questions
DDeployed (some areas early)Well Deployed (some areas vary)Well Deployed (No sig. gap)
LBeginning Evaluation &
Improvement(PDCA)
Evaluate & Improve, sharing, BP,
innovation (key processes)
PDCA, sharing, BP, innovation
(Org. efficiency & effectiveness)
IEarly aligned Org. needs
(OP & other Items)
Aligned Org. needs
(OP & other Items)
Integrated current & future Org.
needs

4 Factors to Evaluate Results
LeTCI

มิติการให้คะแนนผลลัพธ์
1. ระดับ (Level-Le) หมายถึง ผลการด าเนินการในปัจจุบันของตัววัด ด้วยมาตรวัดที่มี
ความหมาย.
2. แนวโน้ม (Trend-T) หมายถึง อัตราของการปรับปรุงผลการด าเนินการ หรือความต่อเนื่อง
ของผลการด าเนินการที่ดีในประเด็นที่ส าคัญ (ความลาดชันของชุดข้อมูลเมื่อเวลาผ่านไป).

มิติการให้คะแนนผลลัพธ์
3. การเปรียบเทียบ (Comparison-C) หมายถึง ผลการด าเนินการขององค์กรเปรียบเทียบกับ
องค์กรอื่น ที่เหมาะสม เช่น คู่แข่ง หรือองค์กรที่คล้ายคลึงกัน หรือระดับเทียบเคียง
4. การบูรณาการ (Integration-I) หมายถึง ความครอบคลุมและทั่วถึงของตัววัดผลลัพธ์ต่าง
ๆ (มักมี การจ าแนกประเภท) ที่ระบุถึงผลการด าเนินการที่ส าคัญด้านลูกค้า, บุคลากร,
ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ, ตลาด, กระบวนการ, แผนปฏิบัติการ, และเป้าประสงค์ระดับ
องค์กร ตามที่ปรากฏอยู่ในโครงร่างองค์กร และในหมวดกระบวนการ.

Le = Levels
Band 1 Band 2 Band 3 Band 4 Band 5 Band 6
0-5 % 10-25% 30-45% 50-65% 70-85% 90-100%
EARLY BASIC
REQUIREMENTS
BASIC
REQUIREMENTS
OVERALL
REQUIREMENTS
MULTIPLE
REQUIREMENTS
MULTIPLE
REQUIREMENTS
No or poor RESULTSFew RESULTS & Early
Good Levels
responsive to BASIC
REQUIREMENTS
Good LEVELS
responsive to BASIC
REQUIREMENTS
Good LEVELS
responsive to
OVERALL
REQUIREMENTS
Good-to-excellent
LEVELS responsive to
MULTIPLE
REQUIREMENTS
Excellent LEVELS Fully
responsive to
MULTIPLE
REQUIREMENTS
Good = Better than average for relevant Competitors, above industry average or Median (top 50%)
Very Good = in top quartile of relevant Competitors (top 25%)
Excellent = At or near top of relevant Competitors (top 5%), best Benchmark, better than Best Competitor

T = Trends
Band 1 Band 2 Band 3 Band 4 Band 5 Band 6
0-5 % 10-25% 30-45% 50-65% 70-85% 90-100%
EARLY BASIC
REQUIREMENTS
BASIC
REQUIREMENTS
OVERALL
REQUIREMENTS
MULTIPLE
REQUIREMENTS
MULTIPLE
REQUIREMENTS
Not reported or mainly
Adverse
Some TRENDS
reported, with Some
Adverse
Some TRENDS
reported, Most
Beneficial
Beneficial TRENDSBeneficial TRENDS
Sustained over time in
Most areas
Beneficial TRENDS
Sustained over time in
All areas
Beneficial = Favorable or Advantageous; resulting is good

C = Comparisons
Band 1 Band 2 Band 3 Band 4 Band 5 Band 6
0-5 % 10-25% 30-45% 50-65% 70-85% 90-100%
EARLY BASIC
REQUIREMENTS
BASIC
REQUIREMENTS
OVERALL
REQUIREMENTS
MULTIPLE
REQUIREMENTS
MULTIPLE
REQUIREMENTS
Not reportedLittle or No
Comparative
information
Early stages of
obtaining Comparative
information
Some good LEVELS
against relevant
Comparisons and/or
BENCHMARKS
Many to most
TRENDS and LEVELS
very good against
relevant
Comparisons and/or
BENCHMARKS
Industry and
BENCHMARK
Leadership in many
areas

I = Integration
Band 1 Band 2 Band 3 Band 4 Band 5 Band 6
0-5 % 10-25% 30-45% 50-65% 70-85% 90-100%
EARLY BASIC
REQUIREMENTS
BASIC
REQUIREMENTS
OVERALL
REQUIREMENTS
MULTIPLE
REQUIREMENTS
MULTIPLE
REQUIREMENTS
Not reported Few areas of
importance to
accomplishment
organization’s
MISSION
Many areas of
importance to
accomplishment
organization’s
MISSION
Most KEY
CUSTOMER, market,
and PROCESS
Requirements
(Segmentation)
Most KEY
CUSTOMER, market,
and PROCESS
requirements
(Segmentation) +
ACTION PLAN
Most KEY
CUSTOMER, market,
and PROCESS
requirements
(Segmentation) +
ACTION PLAN +
PROJECTIONS

Tips on Results Scoring (Adapted from Mark L. Blazey)
30-45% 50-65% 70-85%
I Many reported to
Criteria/Importance
Most reported Segmentation
(Cust/WF/Process)
Most reported Segmentation
(Cust/WF/Process/Action Plans)
T Beneficial Trends (Some)Beneficial Trends (Most) Beneficial Trends (Most Sustained)
Le Respond Basic questionsRespond Overall questionsRespond Multiple questions
C Early comparisonSome Levels comparison/BMMany Trends comparison/leadership
I, T, Le/CMany, Some, Few Most, Most, Some Most, Most, Many

หลักเกณฑ์การให้
คะแนน
Clarify the Scoring
Guidelines

ชี้แจงหลักเกณฑ์การให้คะแนน
โอกาสพัฒนาของผู้ตรวจประเมินในการให้ข้อคิดเห็นและ
คะแนน
•ผู้ตรวจประเมินมักจะจับผิดผู้สมัคร โดยอ้างถึงโอกาส
ในการพัฒนาเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่ส าคัญ
•เนื่องจากมีแนวโน้มที่จะเลือกประเด็นเล็กๆ น้อยๆ
เป็นโอกาสในการพัฒนา
•คะแนนจึงต ่าอย่างไม่เหมาะสม และความคิดเห็นที่
ส าคัญ ก็ไม่ได้รับการเน้นย ้า

แนวคิดหลักของ SCG
การให้ข้อคิดเห็น
•ความคิดเห็นเกี่ยวกับ จุดแข็ง (Strengths: ST) มีวัตถุประสงค์เพื่ออธิบายกระบวนการ
และระบบที่ผู้สมัครมีอยู่ ซึ่งสนับสนุนหรือให้เหตุผลประกอบกับคะแนนที่ได้รับ
(supported or justified the score assigned)
•ความคิดเห็นเกี่ยวกับ โอกาสในการปรับปรุง (Opportunity for Improvement: OFI) มี
วัตถุประสงค์เพื่อระบุกระบวนการหรือระบบส าคัญๆ ไม่กี่อย่างที่ยังไม่มีอยู่ ซึ่งเป็น
อุปสรรคต่อการพัฒนาองค์กรไปสู่ระดับที่สูงขึ้น (kept the organization from moving to
the higher levels of performance)

แนวคิดหลักของ SCG
•เกณฑ์รางวัลก าหนดมาตรฐานความเป็นเลิศด้านผลประกอบการ เพื่อช่วยให้องค์กรก้าว
จากการ มุ่งเน้นการปฏิบัติตามกฎระเบียบ (compliance focus) ไปสู่การ มุ่งเน้นความ
เป็นเลิศ(excellence focus)
•เกณฑ์จะถามเกี่ยวกับกระบวนการ แนวปฏิบัติ และผลลัพธ์ ที่พบใน องค์กรที่มี
ประสิทธิภาพสูง (high-performing organizations) มี 3 ระดับคือค าถามพื้นฐาน (Basic)
ค าถามโดยรวม (Overall) และค าถามย่อย (Multiple)
•ค าถามจึงไม่ควรถือเป็น รายการตรวจสอบข้อก าหนด (checklist) ที่องค์กรต้องปฏิบัติ
ตามโดยครบถ้วน

แนวคิดหลักของ SCG
•องค์กรผู้สมัครเข้ารับรางวัล ยังคงต้องตอบค าถามเหล่านี้ เพื่อแสดงถึงวุฒิภาวะ
(maturity) ของระบบการจัดการและระบบคุณภาพ (management and quality systems)
•อย่างไรก็ตาม หากองค์กรเชื่อว่า ค าถามบางข้อ ไม่มีความส าคัญต่อความส าเร็จใน
ปัจจุบันหรืออนาคต พวกเขาควรอธิบายเหตุผลประกอบ
•ผู้ตรวจประเมินควรพิจารณาค าอธิบายของผู้สมัคร และใช้ความรู้ด้านอุตสาหกรรมและ
เกณฑ์การประเมินในการตัดสินใจ เพราะการประกาศเพียงว่า ค าถามนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ
องค์กรของเราไม่ท าให้ผู้ตรวจประเมินเชื่อว่า เป็นสิ่งที่ควรยกเว้น

Basic Questions
ค าถามพื้นฐาน (Basic Questions)
•ค าว่า "ค าถามพื้นฐาน" หมายถึงแนวคิดหลักที่สุดของหัวข้อค าถามเกณฑ์ ดังที่น าเสนอไว้
ในหัวข้อค าถาม (Basic questionsrefers to the most central concept of Criteria Item,
as presented in the Item title question)
•การตอบค าถามพื้นฐานในหัวข้อนั้นเพียงอย่างเดียว อาจส่งผลให้ได้คะแนนในระดับ
10–45%ขึ้นอยู่กับระดับการพัฒนาและการจัดวางระบบพื้นฐาน รวมถึงขอบเขตการใช้
งานของระบบเหล่านั้น
•ตัวอย่างเช่น หัวข้อ 1.1 องค์กรสามารถปฏิบัติตามข้อก าหนดพื้นฐานได้ โดยการท าให้
แน่ใจว่า ผู้น าระดับสูงบริหารองค์กรได้อย่างมีประสิทธิผล

Overall Questions
ค าถามโดยรวม (Overall Questions)
•ค าว่า "ค าถามโดยรวม" หมายถึงคุณลักษณะที่ส าคัญที่สุดของเกณฑ์ ที่มีรายละเอียดใน
ค าถามแรก (ข้อความน าหน้าที่เป็นตัวหนา) ในประเด็นพิจารณา ที่เป็นตัวอักษร/
หมายเลข ( Overall questionsrefers to the most important features of Criteria Item,
as elaborated in the first question (the leading statement in boldface) under each
lettered/numbered Area to Address)
•การตอบค าถามโดยรวมในหัวข้อนั้น อาจส่งผลให้ได้คะแนนในระดับ 50, 55, 60 หรือ
65%ขึ้นอยู่กับวุฒิภาวะของระบบโดยรวม
•อย่างไรก็ตาม เป็นที่ชัดเจนว่า องค์กรจ าเป็นต้องมีระบบเพิ่มเติมมากกว่าระดับพื้นฐาน

Multiple questions
ค าถามย่อย (Multiple questions)
•ค าว่า "ค าถามย่อย" หมายถึงรายละเอียดของเกณฑ์ ตามที่แสดงในแต่ละค าถามย่อย ๆ
ของประเด็นพิจารณา ที่มีการระบุตัวอักษรและหมายเลข (Multiple questionsrefers to
the details of Criteria Item, as expressed in the individual questions under each lettered
Area to Address, and numbered Subarea to Address)
•ช่วงคะแนน 70–85%ต้องอาศัย การที่มีประสิทธิภาพและเป็นระบบ ตอบสนองต่อ
ค าถามย่อยในหัวข้อนั้นที่ชัดเจน
•เพื่อให้ได้คะแนน 70% ขึ้นไป องค์กรจะต้องผ่านเกณฑ์ค าถามส าหรับคะแนน 65% และ
ผ่านเกณฑ์ค าถามเพิ่มเติม ในช่วง 70–85%

การก าหนดคะแนน
Assignment of Scores
The following guidelines should help in assigning
scores to Item responses.

แนวทางการก าหนดคะแนน
การให้คะแนนพิจารณาจาก
•การให้คะแนนจะเกิดขึ้นที่ระดับหัวข้อ (Item level) โดยอิงจากค าถามทั้งหมดส าหรับ
หัวข้อนั้นในแต่ละช่วงคะแนน ไม่ใช่ส่วนย่อยของเกณฑ์ภายในข้อนั้น
•ในการก าหนดคะแนน อันดับแรกให้ดูจุดแข็งที่ระบุไว้ ซึ่งแสดงถึงสิ่งที่ผู้สมัครก าลังท าอยู่
ในการตอบค าถามเกณฑ์
•โอกาสในการปรับปรุง สะท้อนถึงสิ่งที่เกณฑ์ที่ผู้สมัครไม่ได้ท า เป็นข้อคิดเห็นเพื่อให้
ผู้สมัครได้คะแนนสูงขึ้น และ/หรือ ให้ขึ้นไปอยู่ในจุดสูงสุดของช่วงคะแนนเดียวกัน
(ไม่ได้น ามาใช้หักคะแนน)

แนวทางการก าหนดคะแนนของหัวข้อกระบวนการ
•คะแนนกระบวนการ 50–65%หมายถึงแนวทาง (Approach) ที่ตอบทุกค าถามในหัวข้อ
พื้นฐาน (ช่วง 30–45%) และค าถามระดับโดยรวมบางข้อในหัวข้อนั้น ๆ มีการน าไปใช้
(deployed) อย่างสอดคล้องกันในหน่วยงานส่วนใหญ่ที่ครอบคลุมในหัวข้อนี้ ผ่านการ
ปรับปรุงและเรียนรู้ (cycles of improvement and learning) มาหลายรอบ และตอบสนอง
ความต้องการหลักขององค์กร (key organizational needs)
•คะแนนกระบวนการที่สูงขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงความส าเร็จที่มากขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นจาก
การน าไปใช้งานในวงกว้างมากขึ้น การเรียนรู้ที่ส าคัญขององค์กร รวมถึงการแบ่งปันการ
ปรับปรุง การเปลี่ยนแปลงที่มีความหมาย (นวัตกรรม) และการใช้แนวปฏิบัติที่ดีที่สุด
และการบูรณาการที่เพิ่มมากขึ้น

แนวทางการก าหนดคะแนนของหัวข้อผลลัพธ์
•คะแนนผลลัพธ์ 50–65%บ่งชี้แนวโน้มการปรับปรุงและ/หรือระดับประสิทธิภาพที่ดี
อย่างชัดเจน (improvement trends and/or good levels) โดยมีข้อมูลเปรียบเทียบที่
เหมาะสม (appropriate comparative data) ในประเด็นผลลัพธ์ที่ครอบคลุมในหัวข้อนั้น
และมีความส าคัญต่อองค์กรและพันธกิจขององค์กร (ผลลัพธ์ที่เกณฑ์ไม่ได้ถาม หรือไม่มี
ความหมาย หรือไม่เกี่ยวข้องกับความส าเร็จขององค์กร พันธกิจ วิสัยทัศน์ วัตถุประสงค์
เชิงกลยุทธ์ แผนปฏิบัติการ หรือข้อก าหนดด้านกฎระเบียบ จะไม่ถูกนับ)
•คะแนนที่สูงขึ้น จะพิจารณาจากอัตราการปรับปรุง และ/หรือระดับความส าคัญที่ดีขึ้น
ประสิทธิภาพการเปรียบเทียบที่ดีขึ้น และความครอบคลุมและการบูรณาการกับ
ข้อก าหนดทางธุรกิจที่กว้างขึ้น

ระบบการให้คะแนน
กระบวนการ
Processes Scoring System
Process refers to the methods the organization
uses and improves to address the Item questions in
Categories 1 through 6.

ปัจจัยส าคัญการให้คะแนนกระบวนการ
การวิเคราะห์กระบวนการ
•ในการน าเสนอนี้ จะพิจารณาช่วงคะแนนของค าถามพื้นฐาน (ช่วงคะแนน 10-25%,
30-45%) และค าถามโดยรวม (ช่วงคะแนน 50-65%) เท่านั้น
•เพราะเป็นช่วงคะแนนที่องค์กรส่วนใหญ่ในประเทศไทยได้รับ
•และอภิปรายว่า การจะก้าวข้ามช่วงของคะแนนนั้น จะพิจารณาจากปัจจัยหลักอะไร

ปัจจัยส าคัญการให้คะแนนกระบวนการ
•ใน 4 ปัจจัยที่ใช้พิจารณากระบวนการนั้น ปัจจัยแรกคือ แนวทาง(Approach) ว่าเป็น
ระบบและมีประสิทธิผลเพียงใด ที่เป็นพื้นฐานของแต่ละหัวข้อนั้น ว่าสิ่งที่เป็นแนวคิด
หลักที่ส าคัญที่สุดของหัวข้อค าถามเกณฑ์นั้นคืออะไร (the most central concept of
Criteria Item) ให้ได้เสียก่อน (แต่ละหัวข้ออาจมีหลายประเด็น) เพราะจะเป็นการก าหนด
อย่างคร่าว ๆ ว่าองค์กรควรอยู่ในช่วงคะแนนเท่าใด
•ปัจจัยที่ส าคัญมาก ๆ ที่จะท าให้องค์กรในการก้าวข้ามช่วงคะแนนได้ หรือยังไม่สามารถ
ก้าวข้ามผ่านช่วงคะแนนนั้น ๆ ไปได้คือ การเรียนรู้ (Learning:refining the approach
through cycles of evaluation and improvement)
•มีการประเมินแต่ยังไม่ได้ปรับปรุงกระบวนการที่ส าคัญ นับเป็นการตอบอยู่แค่ขั้นพื้นฐาน

ปัจจัยส าคัญการให้คะแนนกระบวนการ
ช่วงคะแนนของ การเรียนรู้ (Learning)
•10 -25 %ระยะเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงจากการตอบสนองต่อปัญหา ไปสู่แนวทาง
การปรับปรุงโดยทั่วไป
•30-45 %เริ่มมีแนวทางอย่างเป็นระบบในการประเมินและปรับปรุงกระบวนการที่
ส าคัญ
•50-65 %มีกระบวนการประเมินและปรับปรุงอย่างเป็นระบบโดยใช้ข้อมูลจริง และ
แสดงตัวอย่างของการใช้วิธีปฏิบัติ ที่เป็นเลิศ ตัวอย่างนวัตกรรม หรือการแบ่งปันการ
เปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น เพื่อการปรับปรุงประสิทธิภาพ และประสิทธิผลของกระบวนการที่
ส าคัญ

ปัจจัยส าคัญการให้คะแนนกระบวนการ
•ในหนังสือ SCGที่สังเกตพบคือ การก้าวข้ามช่วงคะแนนสู่ช่วงคะแนนที่สูงขึ้น มีค าว่า
ผู้สมัครได้ท าทุกอย่างที่จ าเป็น (doing everything required) ในช่วงคะแนนนั้นๆ ก่อน
และมีสิ่งเพิ่มเติมในช่วงคะแนนที่สูงกว่า จึงจะก้าวข้ามไปช่วงคะแนนที่สูงกว่าได้
•และองค์กรมักจะมี โอกาสในการปรับปรุง (Opportunity for Improvement: OFI) เรื่องการ
เรียนรู้ ท าให้ยังไม่สามารถได้คะแนนในช่วงที่สูงขึ้นไปได้ (Blocking OFI)
•นี่เป็นประเด็นอภิปราย เพราะในหนังสือเกณฑ์กล่าวว่า จะไม่ใช้ปัจจัยหนึ่งปัจจัยใดเป็น
ตัวกัน (gate)ให้คะแนนไม่สามารถขยับขึ้นไปในช่วงคะแนนที่สูงกว่า (ช่วงคะแนนที่
อธิบายระดับความส าเร็จขององค์กรที่ใกล้เคียงที่สุด ไม่จ าเป็นต้องสมบูรณ์แบบ)

แนวคิดหลักที่ส าคัญที่สุด
ของหัวข้อค าถามในเกณฑ์
The most central concept of Criteria Item

แนวคิดหลักที่ส าคัญที่สุดของหัวข้อในระดับพื้นฐาน
หมวด 1การน าองค์กร
•หัวข้อ 1.1การน าองค์กรโดยผู้น าระดับสูง
•1.1ก(1) ผู้น าระดับสูงด าเนินการในการก าหนดและถ่ายทอดสู่การปฏิบัติในเรื่อง
วิสัยทัศน์ และค่านิยม
•1.1ข ผู้น าระดับสูงด าเนินการในการสื่อสารกับบุคลากร

แนวคิดหลักที่ส าคัญที่สุดของหัวข้อในระดับพื้นฐาน
หมวด 1การน าองค์กร
•หัวข้อ 1.2 การก ากับดูแลองค์กรและการสร้างประโยชน์ให้สังคม
•1.2ก(1) องค์กรมีระบบการก ากับดูแลองค์กรที่มีความรับผิดชอบ (อาจรวมถึงภาระ
ความรับผิดชอบในการกระท าของผู้น าระดับสูง)
•1.2ค(1) องค์กรมีการกระท าเรื่องการสร้างประโยชน์ให้สังคม (อาจรวมถึงการสร้าง
สภาวะที่ดีแก่ระบบสิ่งแวดล้อม)

แนวคิดหลักที่ส าคัญที่สุดของหัวข้อในระดับพื้นฐาน
หมวด 2กลยุทธ์
•หัวข้อ 2.1การจัดท ากลยุทธ์
•2.1ก(1) องค์กรมีวิธีการในการจัดท ากลยุทธ์

แนวคิดหลักที่ส าคัญที่สุดของหัวข้อในระดับพื้นฐาน
หมวด 2กลยุทธ์
•หัวข้อ 2.2การน ากลยุทธ์ไปปฏิบัติ
•2.2ก(1) องค์กรมีวิธีการในการจัดท าแผนปฏิบัติการที่มีความสอดคล้องกับ
วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ขององค์กร
•2.2ก(2) องค์กรมีวิธีการในการถ่ายทอดแผนปฏิบัติการสู่การปฏิบัติ

แนวคิดหลักที่ส าคัญที่สุดของหัวข้อในระดับพื้นฐาน
หมวด 3ลูกค้า
•หัวข้อ 3.1ความคาดหวังของลูกค้า
•3.1ก(1) องค์กรมีวิธีการในการรับฟังลูกค้า (อาจรวมถึงการใช้แบบส ารวจ การ
สัมภาษณ์ หรือการใช้เทคนิคทางเว็บหรือโซเชียลมีเดีย เช่น บล็อก ห้องสนทนา
ผู้บริโภค หรือโซเชียลมีเดียรูปแบบอื่นๆ)
•3.1ข(2) องค์กรมีวิธีการในการก าหนดผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการที่น าเสนอ เพื่อ
ตอบสนองความต้องการของลูกค้า

แนวคิดหลักที่ส าคัญที่สุดของหัวข้อในระดับพื้นฐาน
หมวด 3ลูกค้า
•หัวข้อ 3.2ความผูกพันของลูกค้า
•3.2ก(1) องค์กรมีวิธีการรักษาลูกค้าไว้โดยการสร้างและจัดการความสัมพันธ์กับ
ลูกค้า (อาจเกี่ยวข้องกับ การแก้ไขปัญหาหรือข้อร้องเรียนอย่างทันท่วงที เพื่อ
เสริมสร้างความภักดี และสร้างความผูกพัน)

แนวคิดหลักที่ส าคัญที่สุดของหัวข้อในระดับพื้นฐาน
หมวด 4การวัด การวิเคราะห์ และการจัดการความรู้
•หัวข้อ 4.1การวัด การวิเคราะห์ และการปรับปรุงผลการด าเนินการ
•4.1ก(1) องค์กรมีการวัดผลการด าเนินการขององค์กร
•4.1ข(1) องค์กรมีวิธีการในการวิเคราะห์ ทบทวน และปรับปรุงผลการด าเนินการ
ขององค์กร

แนวคิดหลักที่ส าคัญที่สุดของหัวข้อในระดับพื้นฐาน
หมวด 4การวัด การวิเคราะห์ และการจัดการความรู้
•หัวข้อ 4.2 การจัดการสารสนเทศและการจัดการความรู้
•4.2ก(1) องค์กรมีวิธีการในการจัดการสารสนเทศขององค์กร (อาจรวมถึงคุณภาพ
ของข้อมูลสารสนเทศ ความพร้อมใช้งาน [4.2ก(2)] และความปลอดภัยทางไซ
เบอร์ [4.2ก(3)])
•4.2ข(1) องค์กรมีวิธีการจัดการความรู้ขององค์กร (อาจรวมถึงการสร้างความรู้
ภายในองค์กร)

แนวคิดหลักที่ส าคัญที่สุดของหัวข้อในระดับพื้นฐาน
หมวด 5บุคลากร
•หัวข้อ 5.1สภาพแวดล้อมของบุคลากร
•5.1ก(4) องค์กรมีวิธีการในการจัดรูปแบบการท างานและบริหารบุคลากร
•5.1ข(1) องค์กรด าเนินการในด้านสุขภาวะในสถานที่ท างาน และความสะดวกใน
การเข้าถึงสถานที่ท างานของบุคลากร
•5.1ข(2) องค์กรสนับสนุนบุคลากรโดยจัดให้มีค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์

แนวคิดหลักที่ส าคัญที่สุดของหัวข้อในระดับพื้นฐาน
หมวด 5บุคลากร
•หัวข้อ 5.2ความผูกพันของบุคลากร
•องค์กรมีวิธีการในการสร้างความผูกพันกับบุคลากรเพื่อรักษาบุคลากรไว้และให้มี
ผลการด าเนินการที่ดี

แนวคิดหลักที่ส าคัญที่สุดของหัวข้อในระดับพื้นฐาน
หมวด 6การปฏิบัติการ
•หัวข้อ 6.1กระบวนการท างาน
•6.1ก(2) องค์กรมีวิธีการในการออกแบบผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ และ
กระบวนการท างาน
•6.1ข(1) องค์กรมีวิธีการจัดการผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ และกระบวนการท างาน
•6.1ข(2) องค์กรมีวิธีการปรับปรุงผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ และกระบวนการ
ท างาน

แนวคิดหลักที่ส าคัญที่สุดของหัวข้อในระดับพื้นฐาน
หมวด 6การปฏิบัติการ
•หัวข้อ 6.2ประสิทธิผลของการปฏิบัติการ
•6.2ก องค์กรมีวิธีการในการจัดการประสิทธิผลของการปฏิบัติการ (อาจรวมการ
จัดการต้นทุน)
•6.2ข องค์กรมีวิธีการในการจัดการเครือข่ายอุปทาน
•6.2ค องค์กรมีวิธีการในการจัดการความปลอดภัย ความต่อเนื่องของธุรกิจ
ความสามารถในการฟื้นตัว และการบริหารความเสี่ยง

หมายเหตุ การให้คะแนนกระบวนการ
•ที่ได้น าแนวทาง (Approach) ที่เป็นแนวคิดหลักที่ส าคัญที่สุดของหัวข้อในระดับพื้นฐาน
(Basic Level) มาน าเสนอ เพราะเป็นจุดส าคัญในการตัดสินว่าหัวข้อ (Item) นั้นๆ
สมควรผ่านช่วงของคะแนน 30-45 % ได้หรือไม่
•องค์กรผู้สมัครจะได้รับโอกาสในการปรับปรุง (OFI) ส่วนมาก 2 ปัจจัยคือ ยังมีแนวทาง
(Approach) ที่ยังไม่เป็นระบบและมีประสิทธิผล (not effective and systematic Approach)
และไม่ชัดเจนเกี่ยวกับการเรียนรู้ (Learning) ขององค์กร (no evaluation and
improvement of key processes)
•ส่วนการถ่ายทอดสู่การปฏิบัติ (Deployment)ต้องแน่ใจจริง ๆ จึงให้ได้ หรือยืนยันได้
หลังจากท าการเยี่ยมหน่วยงานแล้วเท่านั้น

หมายเหตุ การให้คะแนนกระบวนการ
ความส าคัญของการเรียนรู้ (Learning) ในทุกหัวข้อ คะแนนจะเป็นรูปแบบที่คล้ายคลึงกันคือ
•10-25% เป็นการรับมือกับปัญหาด้านประสิทธิภาพการด าเนินงาน เป็นการท างานเพื่อ
ป้องกันปัญหายังอยู่ในช่วงเริ่มต้น (Reacting to problems with operational effectiveness
is widespread; working to prevent problems is in the beginning stages)
•30-45%องค์กรก าลังเริ่มมีการประเมินกระบวนการอย่างเป็นระบบ และอาจมีหรือไม่มี
การปรับปรุงตามการประเมินนั้น (The organization is beginning to systematically
evaluate some of the operations management processes and may or may not have made
improvements based on the evaluation)

หมายเหตุ การให้คะแนนกระบวนการ
ความส าคัญของการเรียนรู้ (Learning)
•50-65%องค์กรมีการประเมินและปรับปรุงประสิทธิภาพและ/หรือประสิทธิผลของ
แนวทางอย่างน้อยสองข้อจากข้อก าหนดโดยรวมที่ระบุไว้ โดยใช้
•กระบวนการประเมินและปรับปรุงที่อิงข้อเท็จจริงและเป็นระบบ และ
•การแบ่งปันการปรับปรุง และ
•การใช้แนวปฏิบัติที่ดีที่สุด หรือตัวอย่างนวัตกรรม (การเปลี่ยนแปลงที่มีความหมาย)

สรุปการให้คะแนนกระบวนการ
•10–25%. If Examiners observe the applicant is barely doing some of the things required
in the 10–25% scoring range, the score should be in the lower part of this range. If
they observe the applicant is doing everything required in the 10-25% range, but
nothing in the higher ranges, the score should be 25%.
•30–45%. If Examiners observe the applicant is doing everything required in the 10
25% scoring range, and additional things in the higher ranges, the score should be in
the lower part of the 30–45% range. If they observe the applicant is doing everything
required in the 30–45% range, but nothing in the higher ranges, the score should be
45%.

สรุปการให้คะแนนกระบวนการ
•50–65%. If Examiners observe the applicant is doing everything required in the 30
45% scoring range, and additional things in the higher ranges, the score should be in
the lower part of the 50–65% range. If they observe the applicant is doing everything
in the 50–65% range, but nothing non bold required in the next higher 70–85% range,
the score should be 65%.
•70–85% If Examiners observe the applicant is doing everything required in the 50
65% scoring range, and additional questions in the 70-100% scoring range, the score
should be in the lower part of the scoring range (e.g., 70%). If they observe the
applicant is meeting many to most questions in the 70–100% scoring range, including
some to many Deployment (D), Learning (L), and Integration (I) standards, the score
should be 85%.

ระบบการให้คะแนน
ผลลัพธ์
Results Scoring System
Results refer to outputs and outcomes achieved by
an organization in addressing the questions in
Category 7 (Items 7.1 to 7.5).

ค าอธิบายศัพท์ของผลลัพธ์

ข้อค านึงในการให้คะแนนผลลัพธ์
ข้อคิดในการให้คะแนนผลลัพธ์
•บางผลลัพธ์อาจเป็นเชิงคุณภาพ หรือไม่สามารถปรับให้เข้ากับแนวโน้มเมื่อเวลาผ่านไป
ได้ ตัวอย่างเช่น ผลลัพธ์ส าหรับความรับผิดชอบในการก ากับดูแลองค์กร การฝึกอบรมผู้
ส่งมอบเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการ หรือกระบวนการใหม่ๆ และ
ผลลัพธ์ส าหรับโครงการหรือกระบวนการแบบจ ากัดหรือแบบครั้งเดียว
•ข้อมูลเชิงเปรียบเทียบ ได้มาจากการเทียบเคียง (ทั้งภายในและภายนอกอุตสาหกรรม
ของผู้สมัคร ตามความเหมาะสม) และโดยการแสวงหาการเปรียบเทียบ ในบางกรณี
ข้อมูลเชิงเปรียบเทียบอาจไม่มีก็ได้เช่น ผลลัพธ์ของโครงการหรือกระบวนการที่มี
ลักษณะเฉพาะขององค์กร

ข้อคิดหลักในการให้คะแนนผลลัพธ์ ***
•ในการประเมินผล ผู้ตรวจประเมินจะตรวจสอบข้อมูลเพื่อตอบ 3 ค าถามต่อไปนี้:
ผลลัพธ์ที่ส าคัญต่อองค์กรองค์กรหรือไม่ มีการพัฒนาที่ดีขึ้นหรือไม่(แสดงให้เห็นถึง
แนวโน้มที่ดีขึ้น) และผลประกอบการอยู่ในเกณฑ์ดีหรือไม่ (โดยการแสดงให้เห็นถึง
ระดับที่ดีกว่าการเปรียบเทียบที่เกี่ยวข้อง)
•To evaluate results, Examiners review data to answer the following: For results
important to the organization, is it getting better (demonstrating improving trends) and
is its performance good (demonstrating performance levels better than relevant
comparisons)?

ข้อแตกต่างจากหนังสือเกณฑ์ ในการให้คะแนนผลลัพธ์
•ในหนังสือ SCG มีการล าดับปัจจัยการให้คะแนนผลลัพธ์ใหม่ จาก LeTCI เป็น ITLeC

ล าดับในการเรียงปัจจัยของผลลัพธ์
•1. ความส าคัญต่อองค์กร (Important: I) ผลลัพธ์ที่ตอบสนองความต้องการที่ส าคัญของ
ลูกค้า ตลาด กระบวนการ และแผนปฏิบัติการ ที่ระบุไว้ในโครงร่างองค์กร และที่พบใน
หัวข้อในกระบวนการ
•2. แนวโน้ม(Trends: T) อัตราการปรับปรุงผลประกอบการ หรือความยั่งยืนของผล
ประกอบการที่ดี (beneficial) ในช่วงเวลาหนึ่ง (แนวโน้มความชันของข้อมูล)
•3. ระดับและการเปรียบเทียบ (Levels and Comparison: Le/C) ผลประกอบการปัจจุบัน
ขององค์กร เมื่อเทียบกับคู่แข่งหรือองค์กรที่คล้ายคลึงกัน และ/หรือเกณฑ์มาตรฐาน
หรือผู้น าในอุตสาหกรรม

สรุปหลักการให้คะแนนหัวข้อผลลัพธ์
โดยสรุป
•ผู้ตรวจประเมินจะวิเคราะห์ข้อมูลผลลัพธ์เพื่อตอบค าถามต่อไปนี้: เป็นผลลัพธ์ที่ส าคัญต่อ
องค์กรหรือไม่(I) ผลประกอบการขององค์กรดีขึ้นหรือไม่ (T) และผลประกอบการของ
องค์กรดีเพียงใด (Le/C)
•ผลลัพธ์ที่ไม่ระบุไว้ในเกณฑ์ หรือไม่มีความหมาย หรือไม่เกี่ยวข้องกับความส าเร็จของ
องค์กรในเรื่อง พันธกิจ วิสัยทัศน์ วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ แผนปฏิบัติการ หรือ
ข้อก าหนดด้านกฎระเบียบ จะไม่น ามาคิดรวมกับผลลัพธ์ที่ใช้ในการพิจารณา***

คะแนนของหัวข้อผลลัพธ์
การให้ช่วงคะแนนของหัวข้อผลลัพธ์
•จากการสังเกตช่วงของคะแนนที่ได้ ของผลลัพธ์ทุกหัวข้อ มีดังนี้คือ ***
Early Basic (10-25%): I, T, Le/C = few, some, few
Basic (30-45%): I, T, Le/C = many, most, some
Overall (50-65%): I, T, Le/C = most, most, some
Multiple (70-85%): I, T, Le/C = most, most, many to most

การค านวณคะแนนของผลลัพธ์
ขั้นตอนการให้คะแนนของหมวดผลลัพธ์
1. ในแต่ละหัวข้อนั้น หลังจากท าตารางผลลัพธ์ที่คาดหวัง จากเกณฑ์ + จากโครงร่างองค์กร +
ผลลัพธ์จากกระบวนการ (Criteria + Organizational Profile + Process Item)มาเป็นตัวตั้ง แล้ว
นับจ านวนภาพ ที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ (Item under review) น ามาเข้าสัดส่วนกัน คือNumber of
Provided Figures/Number of Expected Results จะได้ปัจจัยการพิจารณาคือ Importance
2. ผลลัพธ์จากข้อที่ 1 แปลได้ดังนี้ คือ None = 0-5%, Few = 6-15%, Some = 16-30%, Many =
31-50%, Most = 51-99%, All = 100% (กรุณาจ าตัวเลขเหล่านี้ไว้ให้ได้ เพราะจะใช้อ้างอิงใน
การให้คะแนนของผลลัพธ์ของแนวทางนี้)

การค านวณคะแนนของผลลัพธ์
3. สังเกตว่า การค านวณตามแบบนี้ เริ่มจาก I ก่อน ต่อมาให้ดูปัจจัยอื่นคือ แนวโน้ม (Trends)
ให้นับว่ามีจ านวนที่เป็น beneficial ว่ามีจ านวนเท่าใด แล้วหารด้วยจ านวนของภาพที่
น าเสนอทั้งหมด (ไม่ใช่จ านวนทั้งหมดในตาราง TOER) คือ No. of Beneficial Trends/ No.
of Provided Figures ผลที่ได้คือ few, some,many,most
4. สุดท้ายดูที่ Le/C (Levels/Comparisons) ให้นับจ านวนภาพของระดับที่มีการเทียบเคียง
(ในบางประเด็น เกณฑ์ไม่ได้บังคับว่าต้องเปรียบเทียบ แต่ถ้ามีได้ก็จะดีมาก ๆ) แล้ว
ท าซ ้าเช่นเดียวกับแนวโน้ม คือ No. of Levels/Comparisons / No. of Provided Figuresผล
ที่ได้คือ few, some,many,most นั่นเอง

การค านวณคะแนนของผลลัพธ์
5. จะได้ Key Word3 ค า ของ Importance, Trends, Levels/Comparison เช่น I, T, Le/C =many,
most, few ตามที่ค านวณไว้ เมื่อได้ Key Wordของแต่ละปัจจัยแล้ว ย้อนกับไปดูตารางการ
ให้คะแนนของหมวดผลลัพธ์ ว่าจะให้คะแนนอยู่ในช่วงใด
6. ดังนั้น ในแต่ละหัวข้อนั้นก่อนที่จะให้คะแนนจึงจ าเป็นต้องท า ตารางผลลัพธ์ที่คาดหวัง
(Table of Expected Results: TOER) ก่อนเสมอ ซึ่งน ามาจาก เกณฑ์ + โครงร่างองค์กร +
กระบวนการ (Criteria + Organizational Profile + Process Item)
7. สุดท้าย การแปลงเป็นคะแนนของ Key Word3 ค า ไม่ตรงไปตรงมาเสียทีเดียว ต้องใช้
วิจารณญาณประกอบในการตัดสินใจ (เป็นประเด็นอภิปราย)

ตารางผลลัพธ์ที่คาดหวัง (Table of Expected Results)
ผลลัพธ์ที่คาดหวังได้มาจาก 3แหล่ง
•โครงร่างองค์กร (Organizational Profile)
•กระบวนการ หมวด 1-6 (Narrative in Category 1-6)
•เกณฑ์ค าถามขั้นพื้นฐาน ค าถามโดยรวม และค าถามย่อย (CriteriaRequired ofBasic,
Overall, and Multiple)

การแสดงผลลัพธ์ขององค์กร
การแสดงผลลัพธ์ไม่ควรมากเกินไปหรือน้อยเกินไป
•น้อยเกินไป เพราะตอบเท่าที่เกณฑ์ถาม หรือน าเสนอแต่เฉพาะผลลัพธ์ที่คาดว่าจะท า
คะแนนได้ดีเท่านั้น
•มากเกินไป เพราะตัวอย่างจากองค์กรอื่นที่มีการน าเสนอผลลัพธ์เป็นจ านวนมาก หรือ
น าเสนอสิ่งที่ไม่ใช่ผลลัพธ์การประกอบการ เช่น จ านวนคู่มือ จ านวนรายงานจ านวนการ
ประชุม หรือลงรายละเอียดมากถึงข้อย่อยในแต่ละกลุ่ม แต่ไม่ได้รายงานผลประกอบการ
โดยรวม

ผลลัพธ์ด้านลูกค้า จากเกณฑ์

ผลลัพธ์ด้านลูกค้า จากโครงร่างองค์กรและกระบวนการ
7.2ก(1) ความพึงพอใจและ
ความไม่พึงพอใจของลูกค้า
7.2ก(2) ความผูกพันของ
ลูกค้า
OP1ข(2) ความคาดหวังของลูกค้า
3.2ข การประเมินความพึงพอใจ ความไม่พึงพอใจ และ
ความผูกพัน
3.2ก(1) ประสบการณ์ของลูกค้า
3.2ขการประเมินความพึงพอใจ ความไม่พึงพอใจ และ
ความผูกพัน

ตัวอย่าง Table of Expected Results (TOER)8 Column

ข้อสังเกตจากตัวอย่าง
จากตัวอย่าง 7.2
•1. Expected Results = 21
•2. Provided Results = 10 (12-2 [excluded Fig. 7.2-5, and 7.2-11])
•3. Important (I) = 48% (many)
•4. Trends (T) = 100% (all)
•5. Levels/Comparison (Le/C) = 100% (all)
•6. Key words = many, all, all
•7. Score = 45% (does not meet letter b in 50-65% range)

อธิบายวิธีการให้คะแนนโดยละเอียด ***
การให้คะแนนจากตัวอย่าง
•ในตัวอย่าง key wordsของ I, T, Le/C คือ many, all, all
•Early Basic 10-25 % (I, T, Le/C = few, some, few)พิจารณาจาก a, b, a, d ให้ผ่าน
•Basic 30-45% (I, T, Le/C = many, most, some)พิจารณาจาก a, b, a, d ให้ผ่าน
•Overall 50-65% (I, T, Le/C = most, most, some)พิจารณาจาก a, b, a, d ไม่ผ่าน bจึง
ต้องย้อนกลับมาดูที่ 30-45%ใหม่ (เพราะ Iได้แค่ manyไม่ใช่ most)
•จาก Scoring Summary ของ 30-45% และ 50-65% การได้ 50%จะต้องผ่าน bของ
50-65%ด้วย ดังนั้นคะแนนสุดท้ายจึงเป็น 45%(ถ้ายังไม่เข้าใจ ให้อ่านพร้อมกับดูทีละ
รูปถัดไปทั้ง 3 รูป ที่ใช้ประกอบค าอธิบายอีกครั้งหนึ่ง)

จากตัวอย่างหัวข้อ 7.2 ผลลัพธ์ด้านลูกค้า:
Early Basic 10-25 % (I, T, Le/C = few, some, few)

จากตัวอย่างหัวข้อ 7.2 ผลลัพธ์ด้านลูกค้า:
Basic 30-45% (I, T, Le/C = many, most, some)

จากตัวอย่างหัวข้อ 7.2 ผลลัพธ์ด้านลูกค้า:
Overall 50-65% (I, T, Le/C = most, most, some)

ข้อสังเกตแนวตั้ง (column) ที่ 8
แนวตั้งที่ 8 ในตาราง คือตัวเลขที่เราต้องใส่ในถัง (BucketAssignment) มีดังนี้
1.Results showing favorable trends
2.Results showing good levels
3.Results showing unfavorable trends
4.Results showing poor levels or no relevant comparisons
5.Results showing incomplete trends (fewer than three data points) or flat trends
6.Missing expected and important results

การเขียนข้อคิดเห็นของผลลัพธ์
•จากตารางผลลัพธ์ที่คาดหวัง เมื่อการประชุม Consensus ของผลลัพธ์หลังจากใส่ข้อมูล
ลงในตารางแล้ว ที่อเมริกา โปรแกรมจะเขียนข้อคิดเห็น ทั้งจุดแข็งและโอกาสในการ
ปรับปรุงโดยอัตโนมัติ ในรายงานป้อนกลับของแต่ละหัวข้อ
•แต่ทีมยังคงต้องเขียน Key Theme ของผลลัพธ์ ทั้งจุดแข็งและโอกาสในการปรับปรุง

ข้อคิดการให้คะแนนผลลัพธ์
การให้คะแนนผลลัพธ์
•ในการให้คะแนน ให้ดูหัวข้อ a, b, c, d ว่าองค์ประกอบของช่วงคะแนนนั้น มี
องค์ประกอบอะไรบ้าง
•การจะก้าวข้ามช่วงคะแนนได้นั้น ที่สังเกตพบคือ ตัว d (Le/C) คือต้องมีตัวเทียบเคียง ถ้า
องค์กรไม่น าเสนอการเทียบเคียงมาบ้างเลย (0%) จะท าให้การก้าวข้ามช่วงคะแนน
ค่อนข้างจะยาก (อย่าลืมว่า เกณฑ์ผลักดันสู่ความเป็นเลิศ ไม่เพียงให้แค่ผ่านตาม
กฎระเบียบได้เท่านั้น) นี้เป็นประเด็นอภิปรายอีกประเด็นหนึ่ง
•ส่วนการให้คะแนนสุดท้าย ให้อ่าน Scoring Summary (ตัวหัก/เพิ่มคะแนน)

Don't listen to the person
who has the answers;
listen to the person who
has the questions.
-Albert Einstein