Thai - The Book of Psalms - Google Cloud Translation.pdf

adrian1baldovino 12 views 54 slides Jan 22, 2025
Slide 1
Slide 1 of 54
Slide 1
1
Slide 2
2
Slide 3
3
Slide 4
4
Slide 5
5
Slide 6
6
Slide 7
7
Slide 8
8
Slide 9
9
Slide 10
10
Slide 11
11
Slide 12
12
Slide 13
13
Slide 14
14
Slide 15
15
Slide 16
16
Slide 17
17
Slide 18
18
Slide 19
19
Slide 20
20
Slide 21
21
Slide 22
22
Slide 23
23
Slide 24
24
Slide 25
25
Slide 26
26
Slide 27
27
Slide 28
28
Slide 29
29
Slide 30
30
Slide 31
31
Slide 32
32
Slide 33
33
Slide 34
34
Slide 35
35
Slide 36
36
Slide 37
37
Slide 38
38
Slide 39
39
Slide 40
40
Slide 41
41
Slide 42
42
Slide 43
43
Slide 44
44
Slide 45
45
Slide 46
46
Slide 47
47
Slide 48
48
Slide 49
49
Slide 50
50
Slide 51
51
Slide 52
52
Slide 53
53
Slide 54
54

About This Presentation

The Book of Psalms, also known as the Psalms, or the Psalter, is the first book of the third section of the Tanakh called Ketuvim, and a book of the Old Testament. The book is an anthology of Hebrew religious hymns.


Slide Content

บทสดุดี
บทที่1
1ผู้ที่ไม่ดําเนินตามคําแนะนําของคนอธรรมไม่ยืนในทาง
ของคนบาปและไม่นั่งอยู่ในที่นั่งของคนเยาะเย้ยนั้นเป็น
บุคคลผู้เป็นสุข
2แต่ความชื่นชมยินดีของเขาอยู่ในธรรมบัญญัติของพระเย
โฮวาห์และเขาตรึกตรองถึงธรรมบัญญัติของพระองค์ทั้ง
กลางวันและกลางคืน
3และเขาจะเป็นเหมือนต้นไม้ที่ปลูกไว้ริมธารนํ้าที่ให้ผลตาม
ฤดูใบก็จะไม่เหี่ยวเฉาและทุกสิ่งที่พวกเขาทําก็จะเจริญงอก
งาม
4คนอธรรมไม่เป็นเช่นนั้นแต่เป็นเหมือนแกลบที่ลมพัดไป
5เพราะฉะนั้นคนอธรรมจะไม่ยืนอยู่ได้ในวันพิพากษาและ
คนบาปจะไม่ยืนอยู่ในที่ชุมนุมของผู้ชอบธรรม
6เพราะพระเยโฮวาห์ทรงทราบทางของผู้ชอบธรรมแต่ทาง
ของผู้อธรรมจะพินาศไป
บทที่2
1เหตุใดพวกต่างชาติจึงโกรธแค้นและผู้คนคิดแต่เรื่องไร้
สาระ?
2บรรดากษัตริย์แห่งแผ่นดินโลกตั้งตนขึ้นและบรรดา
ผู้ปกครองก็ปรึกษากันต่อต้านพระเจ้าและผู้ที่พระองค์ทรง
เจิมโดยกล่าวว่า
3ให้เราทําลายพันธนาการของพวกเขาให้ขาดออกจากกัน
และทิ้งเชือกผูกของพวกเขาไปจากเรา
4พระองค์ผู้ประทับบนสวรรค์จะทรงหัวเราะและองค์พระผู้
เป็นเจ้าจะทรงเยาะเย้ยพวกเขา
5แล้วพระองค์จะตรัสแก่พวกเขาด้วยพระพิโรธและทรงทํา
ให้พวกเขาขุ่นเคืองเพราะความไม่พอพระทัยอย่างยิ่ง
6แล้วเราได้ตั้งกษัตริย์ของเราไว้บนภูเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งศิโยน
7ข้าพเจ้าจะประกาศพระโอวาทองค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสกับ
ข้าพเจ้าว่าเจ้าเป็นบุตรของเราวันนี้เราได้ให้กําเนิดเจ้าแล้ว
8จงขอจากเราและเราจะมอบพวกต่างชาติให้เป็นมรดกแก่
ท่านและมอบทั้งแผ่นดินโลกให้เป็นกรรมสิทธิ์ของท่าน
9เจ้าจะทุบพวกมันให้แตกด้วยคทาเหล็กและเจ้าจะทุบพวก
มันให้เป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเหมือนภาชนะของช่างปั้นหม้อ
10เพราะฉะนั้นบัดนี้กษัตริย์ทั้งหลายจงมีปัญญาเถิดผู้
พิพากษาทั้งหลายแห่งแผ่นดินโลกจงรับคําสั่งสอนเถิด
11จงปรนนิบัติพระเยโฮวาห์ด้วยความเกรงกลัวและชื่นชม
ยินดีด้วยความสั่นสะท้าน
12จงจูบพระบุตรเพื่อพระองค์จะได้ไม่ทรงกริ้วและพวกท่าน
จะต้องพินาศไปจากหนทางเมื่อพระพิโรธของพระองค์ลุก
โชนเพียงเล็กน้อยผู้ที่ไว้วางใจในพระองค์ก็เป็นสุข
บทที่3
1(บทเพลงสดุดีของดาวิดเมื่อครั้งที่เขาหนีจากอับซาโลม
บุตรของเขา)ข้าแต่พระเยโฮวาห์คนที่ทําให้ข้าพระองค์
เดือดร้อนมีมากเพียงไรคนจํานวนมากลุกขึ้นต่อต้านข้า
พระองค์
2มีคนมากมายที่กล่าวถึงจิตวิญญาณของฉันว่า"ในพระเจ้า
ไม่มีความช่วยเหลือใดๆสําหรับเขาเลย"เซลาห์
3แต่พระองค์เป็นโล่ห์คุ้มครองข้าพระองค์เป็นสง่าราศีของ
ข้าพระองค์และทรงเป็นผู้ชูศีรษะของข้าพระองค์
4ข้าพเจ้าร้องทูลพระเจ้าด้วยเสียงของข้าพเจ้าและพระองค์
ทรงได้ยินข้าพเจ้าจากภูเขาอันบริสุทธิ์ของพระองค์เซลาห์
5ข้าพระองค์ได้นอนลงและหลับไปข้าพระองค์ได้ตื่นขึ้น
เพราะพระเจ้าทรงอุ้มชูข้าพระองค์ไว้
6ข้าพระองค์จะไม่กลัวประชาชนนับหมื่นที่ตั้งตนเป็นศัตรูต่อ
ข้าพระองค์โดยรอบ
7ข้าแต่พระเยโฮวาห์ขอทรงลุกขึ้นช่วยข้าพระองค์ด้วยเถิด
พระเจ้าของข้าพระองค์เพราะพระองค์ทรงตบแก้มศัตรูของ
ข้าพระองค์ทุกคนและทรงหักฟันของคนอธรรม
8ความรอดเป็นของพระเยโฮวาห์พระพรของพระองค์มีแก่
ประชากรของพระองค์เซลาห์
บทที่4
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงในเพลงเนกิโนธสดุดีของดาวิด)
ขอทรงฟังข้าพระองค์เมื่อข้าพระองค์เรียกข้าแต่พระเจ้าผู้
ทรงชอบธรรมของข้าพระองค์พระองค์ทรงขยายข้าพระองค์
ให้กว้างขวางขึ้นเมื่อข้าพระองค์อยู่ในความทุกข์ยากขอทรง
มีเมตตาต่อข้าพระองค์และทรงฟังคําอธิษฐานของข้า
พระองค์
2โอ้บุตรมนุษย์ทั้งหลายพวกเจ้าจะทําให้ความรุ่งโรจน์ของ
ข้าพเจ้าเป็นความอับอายไปอีกนานเพียงไรพวกเจ้าจะรัก
ความไร้สาระและแสวงหาการเช่าอีกนานเพียงไรเซลาห์
3แต่จงรู้เถิดว่าพระเยโฮวาห์ทรงแยกคนดีไว้สําหรับพระองค์
เองพระเยโฮวาห์จะทรงฟังเมื่อข้าพเจ้าเรียกหาพระองค์
4จงยืนหยัดด้วยความเกรงกลัวและอย่าทําบาปจงสนทนา
กับใจของคุณเองบนที่นอนและอยู่นิ่งๆเซลาห์
5จงถวายเครื่องบูชาแห่งความชอบธรรมและวางใจในพระเย
โฮวาห์
6มีคนจํานวนมากพูดว่า"ใครจะแสดงความดีแก่เราบ้าง"ข้า
แต่พระเยโฮวาห์โปรดทรงส่องแสงสว่างแห่งพระพักตร์ของ
พระองค์มายังพวกเรา
7พระองค์ทรงประทานความยินดีไว้ในใจของข้าพระองค์
มากกว่าเวลาที่ข้าวและเหล้าองุ่นของพวกเขาเพิ่มมากขึ้น
8ข้าพระองค์จะนอนลงในความสันติและหลับใหลเพราะว่า
พระองค์เท่านั้นที่ทรงให้ข้าพระองค์อาศัยอยู่อย่างปลอดภัย
บทที่5
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงสดุดีเนฮิโลธของดาวิด)ข้าแต่พระ
เจ้าขอทรงเงี่ยพระกรรณฟังถ้อยคําของข้าพระองค์ขอทรง
พิจารณาคําครุ่นคิดของข้าพระองค์
2ข้าแต่พระราชาและพระเจ้าของข้าพเจ้าขอทรงสดับฟัง
เสียงร้องของข้าพเจ้าเพราะว่าข้าพเจ้าจะอธิษฐานต่อ
พระองค์
3พระองค์จะทรงสดับเสียงของข้าพระองค์ในตอนเช้าข้าแต่
พระเยโฮวาห์ข้าพระองค์จะอธิษฐานต่อพระองค์ในตอนเช้า
และเฝ้ามองดูพระองค์
4เพราะว่าพระองค์มิใช่พระเจ้าผู้พอใจในความชั่วร้ายความ
ชั่วจะไม่สถิตกับพระองค์เลย
5คนโง่เขลาจะไม่ยืนอยู่ต่อพระเนตรของพระองค์พระองค์
ทรงเกลียดชังคนกระทําความชั่วทุกคน
6เจ้าจะทําลายผู้ที่พูดจาเท็จเสียพระเจ้าทรงเกลียดชังคนที่
กระหายเลือดและหลอกลวง
7แต่ส่วนข้าพระองค์จะเข้าไปในพระนิเวศน์ของพระองค์โดย
ความอุดมแห่งพระเมตตาของพระองค์และด้วยความเกรง
กลัวพระองค์ข้าพระองค์จะนมัสการตรงต่อพระวิหารอัน
บริสุทธิ์ของพระองค์

บทสดุดี
8ข้าแต่พระเยโฮวาห์ขอทรงนําข้าพระองค์ไปตามความชอบ
ธรรมของพระองค์เนื่องด้วยศัตรูของข้าพระองค์ขอทรงทํา
ให้ทางของพระองค์ตรงไปต่อหน้าข้าพระองค์
9เพราะว่าในปากของพวกเขาไม่มีความซื่อสัตย์จิตใจของ
พวกเขาชั่วร้ายมากลําคอของพวกเขาคือหลุมฝังศพที่เปิด
อยู่พวกเขาประจบสอพลอด้วยลิ้นของพวกเขา
10ขอพระองค์ทรงทําลายพวกเขาเสียพระเจ้าขอทรงให้
พวกเขาล้มลงตามความคิดของตนเองขอทรงขับไล่พวกเขา
ออกไปเพราะการล่วงละเมิดมากมายของพวกเขาเพราะพวก
เขาได้กบฏต่อพระองค์
11แต่ขอให้ผู้ที่วางใจในพระองค์ทุกคนชื่นชมยินดีให้พวก
เขาส่งเสียงร้องด้วยความยินดีเสมอเพราะพระองค์ทรง
ปกป้องพวกเขาขอให้ผู้ที่รักพระนามของพระองค์ชื่นชมยินดี
ในพระองค์เช่นกัน
12เพราะว่าพระองค์ผู้เป็นพระเยโฮวาห์จะทรงอวยพรผู้ชอบ
ธรรมและพระองค์จะทรงปกป้องเขาไว้ด้วยความโปรดปราน
ดุจเป็นโล่ห์ป้องกัน
บทที่6
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงในเพลงเนกิโนธในเพลงเชมินิท
สดุดีของดาวิด)ข้าแต่พระเยโฮวาห์ขออย่าทรงตําหนิข้า
พระองค์ด้วยพระพิโรธของพระองค์และอย่าทรงลงโทษข้า
พระองค์ด้วยความไม่พอพระทัยอย่างรุนแรงของพระองค์
2ขอทรงมีพระเมตตาต่อข้าพระองค์เถิดข้าแต่พระเยโฮวาห์
เพราะข้าพระองค์อ่อนแอข้าแต่พระเยโฮวาห์โปรดทรง
รักษาข้าพระองค์เถิดเพราะกระดูกของข้าพระองค์ได้รับการ
ทรมาน
3จิตใจของข้าพระองค์ก็เศร้าโศกเสียใจแต่พระองค์ผู้เป็น
พระเยโฮวาห์จะทรงทนอยู่อีกนานเพียงไร?
4โปรดหันกลับมาเถิดข้าแต่พระเยโฮวาห์โปรดช่วยชีวิตข้า
พระองค์ด้วยพระเมตตาของพระองค์
5เพราะว่าในความตายไม่มีการรําลึกถึงพระองค์ในหลุมศพ
ใครจะขอบพระคุณพระองค์ได้?
6ข้าพระองค์เหนื่อยอ่อนเพราะเสียงครํ่าครวญของข้า
พระองค์ข้าพระองค์เก็บที่นอนของข้าพระองค์ไว้ตลอดคืน
ข้าพระองค์รดนํ้าที่นอนของข้าพระองค์ด้วยนํ้าตาของข้า
พระองค์
7ตาของข้าพระองค์เศร้าโศกเสียใจและแก่ลงเพราะศัตรู
ของข้าพระองค์ทุกคน
8จงออกไปจากข้าพเจ้าเสียพวกเจ้าที่กระทําความชั่ว
ทั้งหลายเพราะว่าพระเยโฮวาห์ทรงได้ยินเสียงร้องไห้ของ
ข้าพเจ้า
9พระเจ้าทรงได้ยินคําวิงวอนของข้าพเจ้าและพระองค์จะ
ทรงรับคําอธิษฐานของข้าพเจ้า
10ขอให้ศัตรูของข้าพเจ้าทุกคนได้รับความละอายและความ
ทุกข์ใจอย่างยิ่งขอให้พวกเขากลับมาและต้องอับอายทันที
บทที่7
1(ชิกะโยนของดาวิดซึ่งเขาได้ขับร้องถวายพระเยโฮวาห์
เกี่ยวกับถ้อยคําของคูชชาวเบนจามิน)ข้าแต่พระเยโฮวาห์
พระเจ้าของข้าพเจ้าข้าพเจ้าวางใจในพระองค์ขอทรงช่วย
ข้าพเจ้าให้พ้นจากคนข่มเหงข้าพเจ้าทุกคนและทรงช่วยกู้
ข้าพเจ้าให้พ้น
2มิให้เขาฉีกจิตวิญญาณของข้าพเจ้าเหมือนสิงโตฉีกเป็น
ชิ้นเล็กชิ้นน้อยในขณะที่ไม่มีใครช่วยได้
3ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของข้าพระองค์หากข้าพระองค์
ได้กระทําเช่นนั้นหากมีความชั่วอยู่ในมือข้าพระองค์
4ถ้าข้าพเจ้าได้ตอบแทนความชั่วแก่ผู้ที่อยู่สันติกับข้าพเจ้า
(แม้ข้าพเจ้าได้ช่วยผู้ที่เป็นศัตรูของข้าพเจ้าโดยไม่มีเหตุผล)
5ขอให้ศัตรูข่มเหงชีวิตของฉันและเอาชีวิตฉันไปและขอให้
เขาเหยียบยํ่าชีวิตของฉันลงบนแผ่นดินและให้เกียรติของ
ฉันจมอยู่ในผงคลีดินเซลาห์
6ข้าแต่พระเยโฮวาห์ขอทรงลุกขึ้นด้วยพระพิโรธของ
พระองค์ขอทรงยกพระองค์ขึ้นเพราะความโกรธของศัตรูของ
ข้าพระองค์และขอทรงตื่นขึ้นเพื่อข้าพระองค์ในการ
พิพากษาที่พระองค์ทรงบัญชาไว้
7ดังนั้นประชาคมแห่งประชาชนจะล้อมรอบพระองค์ดังนั้น
เพื่อประโยชน์ของพวกเขาพระองค์จึงทรงเสด็จกลับจากที่
สูง
8พระเจ้าจะทรงพิพากษาประชากรขอทรงพิพากษาข้า
พระองค์ตามความชอบธรรมของข้าพระองค์และตามความ
ซื่อสัตย์ที่มีอยู่ในข้าพระองค์
9ขอให้ความชั่วของคนชั่วสิ้นสุดไปแต่ขอทรงสถาปนาคน
ชอบธรรมเพราะว่าพระเจ้าผู้ชอบธรรมทรงทดสอบจิตใจและ
ความคิด
10การแก้ต่างของข้าพเจ้าก็อยู่ที่พระเจ้าผู้ทรงช่วยผู้เที่ยง
ธรรมในใจ
11พระเจ้าทรงพิพากษาคนชอบธรรมและพระเจ้าทรงพิโรธ
คนชั่วทุกวัน
12ถ้าพระองค์ไม่ทรงหันกลับพระองค์จะลับดาบของ
พระองค์พระองค์จะโก่งธนูของพระองค์และเตรียมพร้อมไว้
13พระองค์ได้ทรงเตรียมเครื่องมือแห่งความตายไว้สําหรับ
เขาและทรงกําหนดลูกศรของพระองค์ไว้ต่อสู้กับบรรดาผู้ข่ม
เหง
14ดูเถิดเขากระทําความชั่วและตั้งครรภ์ความชั่วและ
คลอดความเท็จออกมา
15เขาขุดหลุมแล้วตกลงไปในคูที่เขาขุดไว้
16ความชั่วร้ายของเขาจะกลับมาที่ศีรษะของเขาเองและ
การกระทําอันทารุณของเขาจะลงมาที่ศีรษะของเขาเอง
17ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระเยโฮวาห์ตามความชอบธรรมของ
พระองค์และจะร้องเพลงสรรเสริญพระนามพระเยโฮวาห์ผู้
สูงสุด
บทที่8
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงสดุดีของดาวิดตามบทเพลงกิตทิธ)
ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกเราพระนามของพระองค์
เป็นที่สรรเสริญยิ่งนักทั่วทั้งแผ่นดินผู้ทรงตั้งพระสิริของ
พระองค์ไว้เหนือสวรรค์
2พระองค์ได้ทรงสถาปนาความเข้มแข็งจากปากของเด็ก
อ่อนและเด็กที่ยังกินนมเพราะเหตุศัตรูของพระองค์เพื่อว่า
พระองค์จะได้สงบสติอารมณ์ศัตรูและผู้แก้แค้นได้
3เมื่อข้าพระองค์พิจารณาดูฟ้าสวรรค์ของพระองค์ซึ่งเป็น
ผลงานแห่งพระหัตถ์ของพระองค์ดวงจันทร์และดวงดาวซึ่ง
พระองค์ได้ทรงสถาปนาไว้
4มนุษย์เป็นสิ่งใดเล่าที่พระองค์ทรงระลึกถึงเขาและบุตร
มนุษย์เป็นสิ่งใดเล่าที่พระองค์ทรงเยี่ยมเยียนเขา
5เพราะพระองค์ได้ทรงสร้างเขาให้ตํ่ากว่าทูตสวรรค์หน่อย
หนึ่งและทรงสวมมงกุฎแห่งสง่าราศีและเกียรติยศให้แก่เขา
6พระองค์ทรงทําให้เขามีอํานาจเหนือผลงานของพระหัตถ์
ของพระองค์พระองค์ทรงวางทุกสิ่งไว้ใต้พระบาทของเขา
7แกะและวัวทุกตัวรวมทั้งสัตว์ป่าด้วย
8นกในอากาศปลาในทะเลและทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านไปมา
ในท้องทะเล
9ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกเราพระนามของ
พระองค์เป็นที่สรรเสริญยิ่งนักทั่วทั้งแผ่นดินโลก

บทสดุดี
บทที่9
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงมุธลาบเบนสดุดีของดาวิด)ข้า
พระองค์จะสรรเสริญพระองค์ด้วยทั้งดวงใจข้าพระองค์จะ
ประกาศการงานมหัศจรรย์ของพระองค์ทั้งหมด
2ข้าพระองค์จะยินดีและชื่นชมยินดีในพระองค์ข้าพระองค์
จะร้องเพลงสรรเสริญพระนามของพระองค์โอ้พระองค์ผู้
สูงสุด
3เมื่อศัตรูของข้าพระองค์หันกลับพวกเขาจะล้มลงและ
พินาศไปเมื่อพระองค์ปรากฏกาย
4เพราะพระองค์ได้ทรงรักษาสิทธิและความยุติธรรมของข้า
พระองค์ไว้และทรงประทับบนพระที่นั่งเพื่อพิพากษาอย่าง
ชอบธรรม
5พระองค์ได้ทรงตักเตือนคนต่างชาติพระองค์ได้ทรง
ทําลายคนชั่วพระองค์ได้ทรงลบชื่อของพวกเขาออกไปชั่วนิ
รันดร์
6โอศัตรูของเราความพินาศได้สิ้นสุดลงเป็นนิตย์แล้วและ
เจ้าได้ทําลายเมืองต่างๆเสียอนุสรณ์สถานของเมือง
เหล่านั้นก็พินาศไปด้วย
7แต่พระเจ้าจะทรงคงอยู่ชั่วนิรันดร์พระองค์ทรงเตรียม
บัลลังก์ของพระองค์เพื่อการพิพากษา
8และพระองค์จะทรงพิพากษาโลกด้วยความชอบธรรมและ
จะทรงพิพากษาประชากรด้วยความเที่ยงธรรม
9พระเยโฮวาห์จะทรงเป็นที่ลี้ภัยแก่ผู้ถูกกดขี่และเป็นที่ลี้ภัย
ในยามทุกข์ยาก
10และบรรดาผู้ที่รู้จักพระนามของพระองค์ก็จะวางใจใน
พระองค์เพราะว่าพระองค์ผู้เป็นพระเยโฮวาห์มิได้ทรงละทิ้ง
บรรดาผู้ที่แสวงหาพระองค์
11จงร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าผู้ประทับในศิโยนจงบอก
เล่าถึงการกระทําของพระองค์ในท่ามกลางประชาชน
12เมื่อพระองค์ทรงสอบสวนเรื่องโลหิตพระองค์ทรงจําไว้
พระองค์ไม่ทรงลืมเสียงร้องไห้ของผู้ถ่อมตน
13ขอทรงมีพระเมตตาต่อข้าพระองค์เถิดข้าแต่พระเยโฮวาห์
โปรดทอดพระเนตรความทุกข์ยากที่ข้าพระองค์ต้องทนทุกข์
เพราะบรรดาผู้เกลียดชังข้าพระองค์ผู้ทรงยกข้าพระองค์ขึ้น
จากประตูแห่งความตาย
14เพื่อข้าพระองค์จะได้สรรเสริญพระองค์อย่างครบถ้วนใน
ประตูเมืองของธิดาศิโยนข้าพระองค์จะชื่นชมยินดีในความ
รอดของพระองค์
15พวกต่างชาติจมลงในหลุมที่พวกเขาทําไว้และในตาข่าย
ที่พวกเขาซ่อนไว้เท้าของพวกเขาเองก็ติดอยู่
16พระเจ้าทรงเป็นที่รู้จักโดยการพิพากษาที่พระองค์ทรง
กระทําคนชั่วถูกดักจับโดยการกระทําของมือของเขาเองฮิก
กายอนเซลาห์
17คนชั่วจะต้องลงนรกพร้อมกับบรรดาประชาชาติทั้งปวงที่
ลืมพระเจ้า
18เพราะคนขัดสนจะไม่ถูกลืมเสมอไปและความคาดหวัง
ของคนยากจนจะไม่สูญสิ้นไปตลอดกาล
19ขอทรงลุกขึ้นเถิดพระเจ้าอย่าให้มนุษย์ชนะเลยขอให้
บรรดาคนต่างชาติถูกพิพากษาในสายพระเนตรของพระองค์
20ขอทรงทําให้พวกเขากลัวเถิดพระเจ้าเพื่อว่าประชาชาติ
ทั้งหลายจะได้รู้ว่าพวกเขาเป็นเพียงมนุษย์เท่านั้นเซลาห์
บทที่10
1เหตุไฉนพระองค์จึงทรงยืนอยู่ห่างๆพระเยโฮวาห์เหตุไฉน
พระองค์จึงทรงซ่อนพระองค์ในยามทุกข์ยาก
2คนชั่วข่มเหงคนยากจนด้วยความเย่อหยิ่งปล่อยให้พวก
เขาติดกับกลอุบายที่พวกเขาคิดขึ้น
3เพราะคนชั่วอวดอ้างสิ่งที่ใจตนปรารถนาและอวยพรแก่คน
โลภที่พระเจ้าทรงเกลียดชัง
4คนชั่วนั้นเพราะความเย่อหยิ่งบนใบหน้าของเขาจึงไม่
แสวงหาพระเจ้าเพราะว่าพระเจ้าไม่ได้อยู่ในความคิดของ
เขาทั้งสิ้น
5วิถีทางของพระองค์นั้นน่าเศร้าโศกเสมอการพิพากษาของ
พระองค์อยู่สูงพ้นสายตาของพระองค์ส่วนศัตรูของพระองค์
ทุกคนพระองค์ทรงพ่นใส่พวกเขา
6เขาพูดในใจว่า“ข้าพเจ้าจะไม่หวั่นไหวเพราะว่าข้าพเจ้าจะ
ไม่ตกอยู่ในความทุกข์ยากเลย”
ปากของเขาเต็มไปด้วยคําสาปแช่งการหลอกลวงและการ
ฉ้อโกงและใต้ลิ้นของเขามีสิ่งชั่วร้ายและความไร้สาระ
8เขาประทับนั่งในที่ซุ่มซ่อนตามหมู่บ้านและสังหารผู้
บริสุทธิ์ในที่ลับเขาเฝ้าดูคนยากจนอย่างลับๆ
9เขาซุ่มซ่อนอยู่ในที่ลับเหมือนสิงโตอยู่ในถํ้าเขาซุ่มจับคน
ยากจนเขาจับคนยากจนได้เมื่อเขาดึงคนยากจนเข้ามาในตา
ข่ายของเขา
10เขาหมอบลงและถ่อมตนลงเพื่อคนยากจนจะล้มลงโดย
อาศัยผู้เข้มแข็งของเขา
11เขาคิดอยู่ในใจว่าพระเจ้าทรงลืมแล้วพระองค์ทรงซ่อน
พระพักตร์ของพระองค์พระองค์จะไม่เห็นเลย
12ข้าแต่พระเยโฮวาห์ขอทรงลุกขึ้นข้าแต่พระเจ้าขอทรงชู
พระหัตถ์ของพระองค์ขออย่าทรงลืมผู้ถ่อมตน
13เหตุใดคนชั่วจึงดูหมิ่นพระเจ้าเขาคิดในใจว่าพระองค์ไม่
ต้องการสิ่งนั้น
14พระองค์ได้ทรงเห็นแล้วเพราะพระองค์ทอดพระเนตรเห็น
ความชั่วร้ายและความเคียดแค้นจึงทรงตอบแทนด้วยมือ
พระองค์เองคนจนก็มอบตัวไว้กับพระองค์พระองค์เป็น
ผู้ช่วยเด็กกําพร้า
15ขอทรงหักแขนของคนชั่วและคนเลวจงเสาะหาความชั่ว
ของเขาจนกระทั่งเจ้าไม่พบ
16พระเยโฮวาห์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ตลอดไปชั่วนิรันดร์
บรรดาประชาชาติทั้งหลายพินาศไปจากแผ่นดินของพระองค์
17ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระองค์ทรงได้ยินความปรารถนาของ
คนใจถ่อมพระองค์จะทรงเตรียมใจของเขาไว้พระองค์จะ
ทรงให้หูของพระองค์ได้ยิน
18เพื่อทรงพิพากษาเด็กกําพร้าและผู้ถูกกดขี่เพื่อมนุษย์
แห่งแผ่นดินจะได้ไม่กดขี่อีกต่อไป
บทที่11
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงสดุดีของดาวิด)ข้าพเจ้าวางใจใน
พระเยโฮวาห์แล้วพวกท่านจะพูดกับจิตวิญญาณของ
ข้าพเจ้าว่าจงหนีไปที่ภูเขาเหมือนนกหรือ?
2เพราะดูเถิดคนชั่วก็โก่งธนูเตรียมลูกธนูไว้บนสายเพื่อจะ
ยิงไปที่คนใจเที่ยงธรรมโดยลับๆ
3ถ้ารากฐานถูกทําลายลงคนชอบธรรมจะทําอะไรได้?
4พระเยโฮวาห์ทรงสถิตอยู่ในพระวิหารอันบริสุทธิ์ของ
พระองค์และพระที่นั่งของพระเยโฮวาห์ทรงอยู่ในสวรรค์
พระเนตรของพระองค์ทอดพระเนตรและพระเนตรของ
พระองค์ทดสอบบุตรทั้งหลายของมนุษย์
5พระเจ้าทรงทดสอบคนชอบธรรมแต่พระองค์ทรงเกลียด
คนชั่วและผู้ที่รักความรุนแรง
6พระองค์จะทรงโปรยกับดักไฟและกํามะถันและพายุร้าย
ลงมายังคนชั่วนี่จะเป็นส่วนถ้วยของพวกเขา
7เพราะว่าพระเยโฮวาห์ผู้ชอบธรรมทรงรักความชอบธรรม
และพระพักตร์ของพระองค์มองเห็นคนเที่ยงธรรม

บทสดุดี
บทที่12
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงสดุดีเชมินิทของดาวิด)ขอทรงช่วย
เถิดพระเจ้าเพราะคนดีจะสูญสิ้นไปเพราะคนซื่อสัตย์จะสูญ
สิ้นไปจากลูกหลานของมนุษย์
2พวกเขาพูดจาไร้สาระกับเพื่อนบ้านแต่ละคนพูดด้วยริม
ฝีปากที่ยกยอและด้วยใจสองใจ
3พระเจ้าจะทรงตัดริมฝีปากที่ประจบสอพลอและลิ้นที่พูดจา
โอ้อวดออกไปเสีย
4ผู้ที่กล่าวว่า"เราจะชนะด้วยลิ้นของเราและริมฝีปากของ
เราก็เป็นของเราใครเล่าเป็นเจ้านายเหนือเรา"
5เพราะการข่มเหงคนยากจนและเสียงครํ่าครวญของผู้ขัด
สนเราจะลุกขึ้นเดี๋ยวนี้พระเจ้าตรัสเราจะปกป้องเขาให้
ปลอดภัยจากผู้ที่พ่นคําขู่ใส่เขา
6ถ้อยคําของพระเยโฮวาห์เป็นถ้อยคําที่บริสุทธิ์เหมือนเงินที่
ถูกหลอมในเตาไฟบนดินแล้วผ่านการทําให้บริสุทธิ์ถึงเจ็ด
ครั้ง
7พระองค์จะทรงรักษาพวกเขาไว้ข้าแต่พระเยโฮวาห์และ
จะทรงรักษาพวกเขาไว้จากชั่วอายุคนนี้ตลอดไป
8คนชั่วเดินไปมาทุกด้านในขณะที่คนชั่วที่สุดได้รับการยก
ย่อง
บทที่13
1(ถึงหัวหน้านักร้องสดุดีของดาวิด)ข้าแต่พระเยโฮวาห์
พระองค์จะทรงลืมข้าพระองค์ไปนานเพียงไรตลอดไป
เพียงไรพระองค์จะซ่อนพระพักตร์จากข้าพระองค์นาน
เพียงไร
2ข้าพเจ้าจะต้องคิดในใจนานเพียงใดและมีความทุกข์อยู่ใน
ใจทุกวันศัตรูของข้าพเจ้าจะเชิดชูข้าพเจ้านานเพียงใด
3ขอทรงพิจารณาและฟังข้าพระองค์เถิดข้าแต่พระเยโฮวาห์
พระเจ้าของข้าพระองค์ขอทรงโปรดให้ดวงตาข้าพระองค์
แจ่มใสเพื่อข้าพระองค์จะไม่ต้องหลับในความตาย
4อย่าให้ศัตรูของข้าพเจ้ากล่าวว่าข้าพเจ้าเอาชนะเขาได้
และคนเหล่านั้นที่รบกวนข้าพเจ้าจะยินดีเมื่อข้าพเจ้าหวั่นไหว
5แต่ข้าพระองค์ได้วางใจในความเมตตาของพระองค์และใจ
ของข้าพระองค์จะชื่นชมยินดีในความรอดของพระองค์
6ข้าพเจ้าจะร้องเพลงสรรเสริญพระเยโฮวาห์เพราะพระองค์
ทรงกระทําแก่ข้าพเจ้าอย่างอุดม
บทที่14
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงสดุดีของดาวิด)คนโง่พูดในใจว่า"
ไม่มีพระเจ้า"พวกเขาฉ้อฉลพวกเขากระทําการที่น่ารังเกียจ
ไม่มีใครทําความดี
2พระเจ้าทรงมองลงมาจากสวรรค์ดูบุตรมนุษย์เพื่อดูว่ามีคน
ใดบ้างที่เข้าใจและแสวงหาพระเจ้า
3พวกเขาทั้งหมดออกไปหมดแล้วพวกเขาทั้งหมดก็สกปรก
ด้วยกันหมดไม่มีใครทําดีไม่มีสักคนเดียว
4พวกผู้กระทําความชั่วทั้งหลายไม่มีความรู้หรือ?พวกเขากิน
ประชากรของฉันเหมือนกับกินขนมปังและไม่ร้องเรียกพระ
เจ้า
5พวกเขาอยู่ในความกลัวยิ่งนักเพราะว่าพระเจ้าทรงสถิตอยู่
ในชั่วอายุคนของผู้ชอบธรรม
6เจ้าได้ทําให้คําแนะนําของคนยากจนอับอายเพราะว่าพระ
เยโฮวาห์ทรงเป็นที่ลี้ภัยของเขา
7ขอให้ความรอดของอิสราเอลมาจากศิโยนเถิดเมื่อพระเจ้า
ทรงนําเชลยแห่งประชากรของพระองค์กลับคืนมายาโคบจะ
ชื่นชมยินดีและอิสราเอลจะยินดี
บทที่15
1(บทเพลงสดุดีของดาวิด)ข้าแต่พระเยโฮวาห์ใครจะอาศัย
อยู่ในพลับพลาของพระองค์ใครจะอาศัยอยู่ในภูเขา
ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
2คือผู้ที่ดําเนินชีวิตชอบธรรมและกระทําความชอบธรรมและ
พูดความจริงจากใจของตน
3ผู้ที่ไม่นินทาด้วยลิ้นของตนและไม่ทําชั่วต่อเพื่อนบ้าน
และไม่พูดจาเสียดสีเพื่อนบ้านของตน
4ผู้ที่คนชั่วถูกดูหมิ่นในสายตาของเขาแต่กลับยกย่องผู้ที่ยํา
เกรงพระเจ้าผู้ที่สาบานจนทําให้ตัวเองเสียหายแต่ไม่
เปลี่ยนแปลง
5ผู้ที่ไม่ยอมให้เงินของตนเป็นดอกเบี้ยและไม่รับเงินตอบ
แทนจากผู้บริสุทธิ์ผู้ที่กระทําสิ่งเหล่านี้จะไม่มีวันเปลี่ยนใจ
บทที่16
1(มิกทามของดาวิด)ขอทรงรักษาข้าพระองค์ไว้พระเจ้า
เพราะข้าพระองค์ไว้วางใจในพระองค์
2จิตวิญญาณของข้าพเจ้าเอ๋ยเจ้าได้กล่าวแก่พระเยโฮวาห์
ว่าพระองค์เป็นพระเจ้าของข้าพเจ้าความดีของข้าพเจ้ามิได้
แผ่ไปถึงพระองค์เลย
3แต่สําหรับบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในแผ่นดินโลกและ
สําหรับบรรดาผู้ดีเลิศซึ่งเป็นผู้ที่ฉันชื่นชมยินดีเป็นอย่างยิ่ง
4ความทุกข์โศกของพวกเขาจะทวีคูณขึ้นหากพวกเขาเร่ง
รีบติดตามพระเจ้าองค์อื่นเราจะไม่ถวายเครื่องดื่มบูชาที่เป็น
เลือดแก่พวกเขาและเราจะไม่เอ่ยชื่อของพวกเขาในริม
ฝีปากของเรา
5พระเยโฮวาห์ทรงเป็นส่วนมรดกของข้าพเจ้าและเป็นส่วน
ถ้วยของข้าพเจ้าพระองค์ทรงรักษาส่วนแบ่งของข้าพเจ้าไว้
6เขตแดนนั้นตกแก่ข้าพเจ้าในสถานที่อันน่ารื่นรมย์เออ
ข้าพเจ้ามีมรดกอันดีงาม
7ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระเยโฮวาห์ผู้ทรงให้คําแนะนําแก่
ข้าพเจ้าและจิตใจของข้าพเจ้ายังสั่งสอนข้าพเจ้าในเวลา
กลางคืนด้วย
8ข้าพเจ้าได้ตั้งพระเยโฮวาห์ไว้ตรงหน้าข้าพเจ้าเสมอเพราะ
พระองค์ทรงอยู่ทางขวามือของข้าพเจ้าข้าพเจ้าจึงไม่
หวั่นไหว
9เพราะฉะนั้นใจของข้าพเจ้าจึงชื่นชมยินดีและความ
รุ่งโรจน์ของข้าพเจ้าก็เปรมปรีดิ์เนื้อหนังของข้าพเจ้าก็จะได้
พักผ่อนในความหวัง
10เพราะพระองค์จะไม่ทรงละทิ้งจิตวิญญาณของข้าพระองค์
ไว้ในนรกและพระองค์จะไม่ทรงปล่อยให้ผู้บริสุทธิ์ของ
พระองค์ต้องเสื่อมสลาย
11พระองค์จะทรงชี้ทางแห่งชีวิตให้ข้าพระองค์เห็นในที่
ประทับของพระองค์มีความปิติอย่างเต็มเปี่ยมและที่พระหัตถ์
ขวาของพระองค์มีความเพลิดเพลินชั่วนิรันดร์
บทที่17
1(คําอธิษฐานของดาวิด)ข้าแต่พระเยโฮวาห์โปรดฟังคํา
อธิษฐานของข้าพระองค์โปรดเงี่ยพระกรรณฟังคําอธิษฐาน
ของข้าพระองค์ที่มิได้ออกมาจากริมฝีปากที่เสแสร้ง
2ขอให้คําพิพากษาของข้าพเจ้าออกมาจากพระพักตร์
พระองค์ขอให้พระเนตรของพระองค์เห็นสิ่งที่เท่าเทียมกัน
3พระองค์ทรงพิสูจน์ใจข้าพระองค์พระองค์ทรงเยี่ยมเยียน
ข้าพระองค์ในเวลากลางคืนพระองค์ทรงทดสอบข้าพระองค์
และจะไม่พบสิ่งใดข้าพระองค์ตั้งใจไว้ว่าจะไม่ปล่อยให้ปาก
ของข้าพระองค์ล่วงละเมิด

บทสดุดี
4ในส่วนของการงานของมนุษย์ข้าพระองค์ได้รักษาพระองค์
ให้พ้นจากวิถีของผู้ทําลายด้วยพระวจนะของพระองค์
5โปรดทรงประคองทางของข้าพระองค์ให้มั่นคงในวิถีของ
พระองค์เพื่อข้าพระองค์จะได้ไม่สะดุดล้ม
6ข้าพระองค์ร้องเรียกพระองค์เพราะพระองค์จะทรงฟังข้า
พระองค์ข้าแต่พระเจ้าโปรดทรงเอียงพระกรรณฟังข้า
พระองค์และทรงฟังคําพูดของข้าพระองค์
7ขอทรงแสดงความรักมั่นคงอันมหัศจรรย์ของพระองค์โอ้
พระองค์ผู้ทรงช่วยผู้ที่วางใจในพระองค์ให้พ้นจากศัตรูที่ลุก
ขึ้นต่อต้านพวกเขาโดยพระหัตถ์ขวาของพระองค์
8โปรดทรงรักษาข้าพระองค์ไว้ดุจดั่งแก้วตาดวงใจโปรด
ซ่อนข้าพระองค์ไว้ใต้ร่มปีกของพระองค์
9จากคนชั่วที่ข่มเหงข้าพระองค์จากศัตรูผู้โหดร้ายที่คอยรุม
ล้อมข้าพระองค์
10พวกเขาถูกปกคลุมด้วยไขมันของตนเองพวกเขาพูดจา
โอ้อวดด้วยปากของพวกเขา
11บัดนี้พวกเขาได้ล้อมรอยเท้าของเราไว้แล้วพวกเขาก้มตา
ลงสู่พื้นดิน
12เหมือนอย่างสิงโตที่ตะกละเหยื่อและเหมือนลูกสิงโตที่
ซุ่มซ่อนอยู่ในที่ลับ
13ขอทรงลุกขึ้นเถิดพระเจ้าข้าขอทรงทําลายเขาเสียขอ
ทรงช่วยชีวิตข้าพระองค์ให้พ้นจากคนชั่วซึ่งก็คือดาบของ
พระองค์
14จากมนุษย์ที่เป็นพระหัตถ์ของพระองค์ข้าแต่พระเยโฮ
วาห์จากมนุษย์ในโลกที่มีส่วนร่วมในชีวิตนี้และที่พระองค์
ทรงเติมท้องของพวกเขาด้วยสมบัติที่ซ่อนไว้พวกเขามีลูก
มากมายและทิ้งทรัพย์สินที่เหลือไว้ให้ลูกอ่อนของพวกเขา
15ข้าพระองค์จะเฝ้ามองดูพระพักตร์ของพระองค์ด้วย
ความชอบธรรมเมื่อข้าพระองค์ตื่นขึ้นข้าพระองค์จะอิ่มเอิบ
ใจด้วยพระฉายาของพระองค์
บทที่18
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงสดุดีของดาวิดผู้รับใช้ของพระเจ้า
ผู้ได้กล่าวถ้อยคําของบทเพลงนี้แก่พระเจ้าในวันที่พระเจ้า
ทรงช่วยกู้พระองค์จากมือศัตรูทั้งสิ้นของพระองค์และจาก
มือของซาอูลและพระองค์ได้กล่าวว่า)ข้าพระองค์จะรัก
พระองค์ข้าแต่พระเจ้าผู้ทรงเป็นกําลังของข้าพระองค์
2พระเยโฮวาห์ทรงเป็นศิลาและป้อมปราการของข้าพเจ้า
และผู้ช่วยให้รอดของข้าพเจ้าพระเจ้าของข้าพเจ้าทรงเป็น
กําลังของข้าพเจ้าซึ่งข้าพเจ้าจะวางใจในพระองค์ทรงเป็น
โล่และเขาแห่งความรอดของข้าพเจ้าและเป็นป้อมปราการ
สูงของข้าพเจ้า
3ข้าพเจ้าจะร้องเรียกพระเยโฮวาห์ซึ่งทรงสมควรแก่การ
สรรเสริญดังนั้นข้าพเจ้าจึงจะได้รับการช่วยให้รอดจากศัตรู
ของข้าพเจ้า
4ความโศกเศร้าแห่งความตายล้อมรอบฉันและกระแสนํ้า
แห่งคนอธรรมทําให้ฉันรู้สึกกลัว
5ความโศกเศร้าแห่งนรกล้อมรอบฉันไว้และบ่วงแห่งความ
ตายก็ขัดขวางฉันไว้
6ในยามทุกข์ยากข้าพเจ้าร้องเรียกพระเยโฮวาห์และร้องทูล
ต่อพระเจ้าของข้าพเจ้าพระองค์ทรงสดับเสียงของข้าพเจ้า
จากพระวิหารของพระองค์และเสียงร้องไห้ของข้าพเจ้าได้
ยินไปถึงพระพักตร์ของพระองค์แม้กระทั่งในพระกรรณของ
พระองค์
7แผ่นดินก็สั่นสะเทือนและสะเทือนไปทั่วรากฐานของภูเขา
ก็สั่นสะเทือนเพราะพระองค์ทรงกริ้ว
8ควันพวยพุ่งออกมาจากช่องพระนาสิกของพระองค์และไฟ
ก็ลุกไหม้ออกจากพระโอษฐ์ของพระองค์ถ่านก็ถูกจุดขึ้นด้วย
ไฟนั้น
9พระองค์ทรงก้มฟ้าสวรรค์ลงและเสด็จลงมาและความมืดก็
อยู่ใต้พระบาทของพระองค์
10และพระองค์ทรงขี่บนรูปเคารพและทรงบินไปแท้จริง
พระองค์ทรงบินไปบนปีกของลม
11พระองค์ทรงทําให้ความมืดเป็นที่ลี้ลับของพระองค์และ
พระองค์ทรงมีนํ้ามืดและเมฆหนาทึบอยู่โดยรอบพระองค์
12เมื่อแสงสว่างที่อยู่เบื้องหน้าของพระองค์ก้อนเมฆอัน
หนาทึบของพระองค์ลอยผ่านไปก็มีลูกเห็บหินและถ่านไฟ
ตกลงมา
13พระเจ้าทรงคํารามในสวรรค์และองค์ผู้สูงสุดก็เปล่งพระ
สุรเสียงลูกเห็บเป็นหินและถ่านไฟ
14พระองค์ทรงส่งลูกศรของพระองค์ออกไปและทําให้พวก
เขาแตกกระจัดกระจายและพระองค์ทรงยิงฟ้าแลบและทํา
ให้พวกเขาแตกกระจัดกระจาย
15แล้วช่องนํ้าก็ปรากฏให้เห็นและรากฐานของโลกก็ถูก
ค้นพบโดยการตักเตือนของพระองค์ข้าแต่พระเยโฮวาห์
ด้วยลมหายใจที่พวยพุ่งจากช่องพระนาสิกของพระองค์
16พระองค์ทรงส่งมาจากเบื้องบนพระองค์ทรงนําข้าพเจ้ามา
พระองค์ทรงดึงข้าพเจ้าออกมาจากนํ้ามากมาย
17พระองค์ทรงช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากศัตรูผู้แข็งแกร่งของ
ข้าพเจ้าและจากบรรดาผู้ที่เกลียดชังข้าพเจ้าเพราะพวกเขา
แข็งแกร่งเกินกว่าข้าพเจ้าจะรับมือได้
18พวกเขาได้ขัดขวางข้าพเจ้าในวันที่ข้าพเจ้าประสบภัย
พิบัติแต่พระเจ้าทรงเป็นที่พักพิงของข้าพเจ้า
19พระองค์ได้ทรงนําข้าพเจ้าออกมายังที่กว้างใหญ่พระองค์
ทรงช่วยข้าพเจ้าไว้เพราะพระองค์ทรงพอพระทัยในข้าพเจ้า
20พระเยโฮวาห์ทรงตอบแทนข้าพเจ้าตามความชอบธรรม
ของข้าพเจ้าพระองค์ทรงตอบแทนข้าพเจ้าตามความสะอาด
ของมือข้าพเจ้า
21เพราะข้าพระองค์ได้ประพฤติตามทางของพระเจ้าและ
ไม่ได้ละทิ้งพระเจ้าของข้าพระองค์อย่างชั่ว
22เพราะคําพิพากษาของพระองค์ก็อยู่ต่อหน้าข้าพเจ้าและ
ข้าพเจ้ามิได้ละทิ้งบัญญัติของพระองค์ไปจากข้าพเจ้า
23ข้าพระองค์ก็ประพฤติชอบธรรมต่อพระพักตร์พระองค์และ
ข้าพระองค์ก็รักษาตนให้พ้นจากความชั่วช้าของข้าพระองค์
24เพราะฉะนั้นพระเยโฮวาห์ทรงตอบแทนข้าพเจ้าตาม
ความชอบธรรมของข้าพเจ้าและตามความสะอาดของมือ
ของข้าพเจ้าในสายพระเนตรของพระองค์
25พระองค์จะทรงสําแดงพระองค์ว่ามีเมตตาต่อผู้แสดงความ
เมตตาพระองค์จะทรงสําแดงพระองค์ว่าเป็นผู้เที่ยงธรรมต่อ
ผู้ชอบธรรม
26พระองค์จะทรงสําแดงพระองค์ว่าบริสุทธิ์ต่อผู้บริสุทธิ์และ
ทรงสําแดงพระองค์ว่าดื้อต่อผู้คดโกง
27เพราะว่าพระองค์จะทรงช่วยประชากรผู้ทุกข์ยากแต่
พระองค์จะทรงทําให้ความหวังอันสูงส่งต้องหดหาย
28เพราะพระองค์จะทรงจุดตะเกียงของข้าพเจ้าและพระเย
โฮวาห์พระเจ้าของข้าพเจ้าจะทรงให้ความมืดของข้าพเจ้า
สว่างขึ้น
29เพราะว่าโดยพระองค์ข้าพระองค์สามารถวิ่งฝ่ากองทัพได้
และโดยพระเจ้าของข้าพระองค์ข้าพระองค์สามารถกระโดด
ข้ามกําแพงได้
30ส่วนพระเจ้านั้นหนทางของพระองค์ก็สมบูรณ์พระวจนะ
ของพระเจ้าก็พิสูจน์แล้วพระองค์เป็นเกราะป้องกันให้แก่คน
ทั้งปวงที่วางใจในพระองค์
31เพราะผู้ใดเป็นพระเจ้านอกจากพระเยโฮวาห์หรือผู้ใดเป็น
ศิลานอกจากพระเจ้าของเรา

บทสดุดี
32พระเจ้าทรงประทานกําลังให้ข้าพเจ้าและทรงทําให้ทาง
ของข้าพเจ้าสมบูรณ์
33พระองค์ทรงทําให้เท้าของข้าพเจ้าเหมือนเท้ากวางและ
ทรงตั้งข้าพเจ้าไว้บนที่สูง
34พระองค์ทรงสอนมือของข้าพเจ้าให้ทําสงครามดังนั้น
แขนของข้าพเจ้าจึงหักคันธนูเหล็กกล้าได้
35พระองค์ยังทรงประทานโล่แห่งความรอดของพระองค์
ให้แก่ข้าพระองค์ด้วยและพระหัตถ์ขวาของพระองค์ได้คํ้าชู
ข้าพระองค์ไว้และความอ่อนโยนของพระองค์ได้ทําให้ข้า
พระองค์ยิ่งใหญ่ขึ้น
36พระองค์ทรงขยายก้าวเดินของข้าพระองค์ให้กว้างขึ้น
เพื่อเท้าของข้าพระองค์จะได้ไม่พลาด
37ข้าพระองค์ได้ไล่ตามศัตรูของข้าพระองค์และได้ทันพวก
เขาแล้วและข้าพระองค์ไม่หันกลับอีกจนกว่าพวกเขาจะถูก
ผลาญไป
38ข้าพระองค์ได้ทําร้ายพวกเขาจนไม่สามารถลุกขึ้นได้พวก
เขาล้มลงใต้เท้าข้าพระองค์
39เพราะพระองค์ได้ทรงเสริมกําลังให้ข้าพระองค์พร้อม
สําหรับการทําศึกพระองค์ได้ทรงปราบพวกที่ลุกขึ้นต่อสู้ข้า
พระองค์ให้ราบคาบ
40พระองค์ยังทรงมอบคอของศัตรูของข้าพระองค์ให้ข้า
พระองค์เพื่อข้าพระองค์จะได้ทําลายพวกที่เกลียดชังข้า
พระองค์เสีย
41พวกเขาได้ร้องขอความช่วยเหลือแต่ไม่มีใครช่วยพวก
เขาได้แม้แต่ร้องทูลต่อพระเจ้าแต่พระองค์ไม่ทรงตอบพวก
เขา
42แล้วข้าพระองค์ได้บดขยี้พวกเขาให้แหลกละเอียดเหมือน
ฝุ่นละอองต่อหน้าลมและข้าพระองค์ได้ขับไล่พวกเขา
ออกไปเหมือนเศษดินบนถนน
43พระองค์ได้ทรงช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากการต่อสู้ดิ้นรน
ของชนชาติทั้งหลายและทรงตั้งข้าพระองค์ให้เป็นหัวหน้า
ของบรรดาประชาชาติที่ข้าพระองค์ไม่รู้จักชนชาติที่ข้า
พระองค์ไม่รู้จักก็จะรับใช้ข้าพระองค์
44เมื่อพวกเขาได้ยินถึงฉันพวกเขาก็จะเชื่อฟังฉันคนต่าง
ด้าวก็จะยอมจํานนต่อฉัน
45คนต่างด้าวจะหายสาบสูญไปและจะกลัวไปจากที่ปิดของ
พวกเขา
46พระเยโฮวาห์ทรงพระชนม์อยู่ขอทรงสรรเสริญพระศิลา
ของข้าพเจ้าขอพระเจ้าแห่งความรอดของข้าพเจ้าทรงได้รับ
การยกย่อง
47พระเจ้าทรงเป็นผู้แก้แค้นให้ข้าพระองค์และทรง
ปราบปรามประชากรภายใต้ข้าพระองค์
48พระองค์ทรงช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากศัตรูของข้าพเจ้า
พระองค์ทรงชูข้าพเจ้าให้เหนือบรรดาผู้ที่ลุกขึ้นต่อต้าน
ข้าพเจ้าพระองค์ทรงช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากคนโหดร้าย
49เพราะฉะนั้นข้าพระองค์จะถวายคําสรรเสริญพระองค์แก่
บรรดาประชาชาติต่างชาติข้าแต่พระเยโฮวาห์และจะร้อง
เพลงสรรเสริญพระนามของพระองค์
50พระองค์ประทานการปลดปล่อยอันยิ่งใหญ่แก่กษัตริย์ของ
พระองค์และทรงแสดงความเมตตาต่อผู้ที่พระองค์เจิมคือ
ดาวิดและต่อพงศ์พันธุ์ของเขาตลอดไป
บทที่19
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงสดุดีของดาวิด)ฟ้าสวรรค์ประกาศ
ถึงพระสิริของพระเจ้าและท้องฟ้าแสดงพระราชกิจของ
พระองค์
2วันต่อวันกล่าววาจาและคืนต่อคืนแสดงความรู้
3ไม่มีคําพูดหรือภาษาใดที่ไม่ได้ยินเสียงของพวกเขา
4ถ้อยคําของพวกเขาก็แพร่ออกไปทั่วแผ่นดินโลกและ
ถ้อยคําของพวกเขาก็ไปถึงสุดปลายแผ่นดินโลกพระองค์
ทรงสร้างพลับพลาสําหรับดวงอาทิตย์ไว้ในนั้น
5ซึ่งเปรียบเหมือนเจ้าบ่าวออกจากห้องหอของตนและชื่น
ชมยินดีอย่างคนแข็งแรงที่วิ่งแข่งขัน
6การเสด็จออกของพระองค์นั้นมาจากปลายสุดของสวรรค์
และวงเวียนของพระองค์นั้นก็ไปถึงปลายสุดทั้งหลายและไม่
มีสิ่งใดซ่อนเร้นจากความร้อนของสวรรค์นั้นได้
ธรรมบัญญัติของพระเจ้าทรงสมบูรณ์และเปลี่ยนแปลงจิต
วิญญาณคําพยานของพระเจ้าทรงเชื่อถือได้และกระทําให้
คนรู้น้อยมีปัญญา
8บัญญัติของพระเยโฮวาห์นั้นถูกต้องทําให้ใจชื่นบานพระ
บัญญัติของพระเยโฮวาห์นั้นบริสุทธิ์ทําให้ดวงตาแจ่มใส
9ความยําเกรงพระเจ้าเป็นที่บริสุทธิ์ยั่งยืนชั่วนิรันดร์
กฎเกณฑ์ของพระเจ้าก็เที่ยงตรงและชอบธรรมทั้งสิ้น
10ยิ่งกว่าทองคํายิ่งกว่าทองคําบริสุทธิ์มากมายและยัง
หวานกว่านํ้าผึ้งและรวงผึ้งอีกด้วย
11ยิ่งกว่านั้นผู้รับใช้ของพระองค์ก็ได้รับการตักเตือนโดยสิ่ง
เหล่านั้นและการรักษาสิ่งเหล่านี้ก็มีบําเหน็จใหญ่หลวง
12ผู้ใดจะเข้าใจความผิดพลาดของเขาได้ขอทรงชําระข้า
พระองค์ให้บริสุทธิ์จากความผิดที่ซ่อนเร้น
13ขอทรงรักษาผู้รับใช้ของพระองค์ให้พ้นจากบาปอันอวดดี
อย่าให้บาปเหล่านั้นมีอํานาจเหนือข้าพระองค์เมื่อนั้นข้า
พระองค์จะเป็นผู้เที่ยงธรรมและจะพ้นจากความผิดใหญ่
หลวงนั้นได้
14ขอให้ถ้อยคําแห่งปากของข้าพระองค์และการตรึกตรอง
ของใจข้าพระองค์เป็นที่พอพระทัยในสายพระเนตรของ
พระองค์ข้าแต่พระเยโฮวาห์ผู้ทรงเป็นกําลังและพระผู้ไถ่
ของข้าพระองค์
บทที่20
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงสดุดีของดาวิด)พระเจ้าทรงฟังเจ้า
ในวันแห่งความยากลําบากพระนามของพระเจ้าของยาโคบ
จะปกป้องเจ้า
2ขอทรงส่งความช่วยเหลือมาจากสถานศักดิ์สิทธิ์และทรง
เสริมกําลังเจ้าจากศิโยน
3ขอทรงระลึกถึงเครื่องบูชาทั้งสิ้นของพระองค์และทรงรับ
เครื่องเผาบูชาของพระองค์เซลาห์
4ขอทรงประทานตามพระทัยของพระองค์เองและทรง
กระทําตามคําปรึกษาของพระองค์ทุกประการ
5พวกเราจะชื่นชมยินดีในความรอดของคุณและในพระนาม
ของพระเจ้าของเราเราจะชูธงของเราขอพระเจ้าทรงทําตาม
คําร้องขอของคุณทุกประการ
6บัดนี้ข้าพเจ้ารู้แล้วว่าพระเยโฮวาห์ทรงช่วยผู้ที่พระองค์เจิม
ไว้และพระองค์จะทรงฟังเขาจากสวรรค์อันบริสุทธิ์ของ
พระองค์ด้วยพระหัตถ์ขวาอันทรงฤทธิ์ที่ช่วยให้รอด
7บางคนวางใจในรถศึกบางคนวางใจในม้าแต่เราจะระลึก
ถึงพระนามพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเรา
8พวกเขาถูกทําให้ล้มลงและล้มลงไปแต่เราได้ลุกขึ้นและ
ยืนตรงขึ้น
9ขอทรงช่วยด้วยพระเยโฮวาห์ขอกษัตริย์ทรงสดับฟังเมื่อ
เราร้องเรียก
บทที่21
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงสดุดีของดาวิด)กษัตริย์จะชื่นชม
ยินดีในความเข้มแข็งของพระองค์ข้าแต่พระเยโฮวาห์และ
ในความรอดของพระองค์พระองค์จะชื่นชมยินดียิ่งนัก!

บทสดุดี
2พระองค์ได้ทรงประทานสิ่งที่เขาปรารถนาให้สมความ
ปรารถนาและมิได้ทรงยับยั้งคําทูลขอของเขาไว้เลย
3เพราะพระองค์ทรงป้องกันเขาโดยอาศัยพรแห่งความดี
พระองค์ทรงสวมมงกุฎทองคําบริสุทธิ์บนศีรษะของเขา
4เขาขอชีวิตจากคุณและคุณก็ให้เขามีชีวิตยืนยาวชั่วนิรันดร์
5พระสิริรุ่งโรจน์ของท่านก็ยิ่งใหญ่เนื่องด้วยการช่วยให้รอด
ของท่านพระองค์ทรงประทานเกียรติและความสง่างามแก่
ท่าน
6เพราะพระองค์ได้ทรงโปรดให้เขาได้รับพระพรอย่างที่สุด
เป็นนิตย์และทรงทําให้เขามีความยินดียิ่งด้วยพระพักตร์ของ
พระองค์
7เพราะว่ากษัตริย์วางใจในพระเยโฮวาห์และเพราะพระ
กรุณาของพระองค์ผู้สูงสุดพระองค์จึงจะไม่หวั่นไหวเลย
8พระหัตถ์ของพระองค์จะค้นพบศัตรูทุกคนของพระองค์
และพระหัตถ์ขวาของพระองค์จะค้นพบบรรดาผู้ที่เกลียดชัง
พระองค์
9ในเวลาที่พระองค์ทรงโกรธนั้นเจ้าจะกระทําให้พวกเขา
เหมือนเตาไฟร้อนจัดพระเจ้าจะกลืนพวกเขาด้วยพระพิโรธ
ของพระองค์และไฟจะเผาผลาญพวกเขา
10พระองค์จะทรงทําลายผลของพวกเขาจากแผ่นดินและ
ทําลายพงศ์พันธุ์ของพวกเขาจากลูกหลานของมนุษย์
11เพราะพวกเขาคิดร้ายต่อเจ้าพวกเขาคิดแผนชั่วร้ายซึ่ง
พวกเขาไม่สามารถทําได้
12เพราะฉะนั้นเจ้าจะทําให้พวกเขาหันหลังกลับเมื่อเจ้า
เตรียมลูกศรไว้บนสายธนูโจมตีหน้าพวกเขา
13ขอพระองค์ทรงได้รับการยกย่องด้วยพระกําลังของ
พระองค์เองและเราจะร้องเพลงสรรเสริญพระกําลังของ
พระองค์
บทที่22
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าดาวิด)พระ
เจ้าของข้าพเจ้าพระเจ้าของข้าพเจ้าเหตุใดพระองค์ทรงละ
ทิ้งข้าพเจ้าเหตุใดพระองค์จึงทรงอยู่ห่างไกลจากการ
ช่วยเหลือข้าพเจ้าและจากคําคํารามของข้าพเจ้า
2ข้าแต่พระเจ้าของข้าพเจ้าข้าพเจ้าร้องเรียกในเวลา
กลางวันแต่พระองค์ไม่ทรงฟังและในเวลากลางคืนข้าพเจ้า
ก็ไม่นิ่งเงียบ
3แต่พระองค์เป็นผู้บริสุทธิ์โอ้พระองค์ผู้สถิตอยู่ในคํา
สรรเสริญของอิสราเอล
4บรรพบุรุษของพวกเราวางใจในพระองค์พวกเขาวางใจ
และพระองค์ก็ทรงช่วยพวกเขาไว้
5พวกเขาร้องเรียกพระองค์แล้วก็ได้รับการช่วยให้รอดพวก
เขาวางใจในพระองค์และไม่รู้สึกอับอาย
6แต่ข้าพระองค์เป็นเพียงหนอนไม่ใช่มนุษย์เป็นที่เหยียด
หยามของมนุษย์และเป็นที่เหยียดหยามของประชาชน
7ทุกคนที่ได้เห็นฉันก็หัวเราะเยาะฉันพวกเขาพูดจาเยาะเย้ย
และส่ายหัวว่า
8เขาวางใจในพระเยโฮวาห์ว่าพระองค์จะทรงช่วยเขาให้พ้น
พระองค์ก็ทรงช่วยเขาให้พ้นเพราะพระองค์ทรงพอพระทัย
ในตัวเขา
9แต่พระองค์เป็นผู้ที่นําข้าพระองค์ออกมาจากครรภ์พระองค์
ทรงทําให้ข้าพระองค์มีความหวังเมื่อข้าพระองค์อยู่บนอก
มารดา
10ข้าพระองค์ถูกมอบไว้กับพระองค์ตั้งแต่อยู่ในครรภ์
พระองค์เป็นพระเจ้าของข้าพระองค์ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา
11อย่าทรงอยู่ห่างจากข้าพระองค์เพราะความทุกข์ยาก
กําลังใกล้เข้ามาเพราะไม่มีผู้ใดช่วยได้
12วัวกระทิงจํานวนมากได้ล้อมข้าพเจ้าไว้วัวกระทิงที่
แข็งแรงของบาซานได้ล้อมข้าพเจ้าไว้
13พวกเขาอ้าปากค้างใส่ข้าพเจ้าเหมือนสิงโตคํารามและกัด
แทะ
14ข้าพระองค์ถูกเทออกเหมือนนํ้าและกระดูกทั้งสิ้นของข้า
พระองค์ก็ผิดรูปไปหัวใจของข้าพระองค์เป็นเหมือนขี้ผึ้งซึ่ง
ละลายอยู่ภายในลําไส้ของข้าพระองค์
15กําลังของข้าพระองค์แห้งเหือดไปเหมือนเศษหม้อและ
ลิ้นของข้าพระองค์ก็เกาะติดที่ขากรรไกรของข้าพระองค์และ
พระองค์ได้ทรงนําข้าพระองค์เข้าไปในผงคลีแห่งความตาย
16เพราะสุนัขล้อมข้าพเจ้าไว้ฝูงชนชั่วได้ล้อมข้าพเจ้าไว้
เขาแทงมือและเท้าข้าพเจ้า
17ข้าพเจ้าสามารถบอกกระดูกของข้าพเจ้าได้ทั้งหมด
กระดูกเหล่านั้นมองดูและจ้องมองข้าพเจ้า
18เขาทั้งหลายนําเสื้อผ้าของข้าพเจ้ามาแบ่งปันกันและจับ
ฉลากแบ่งเสื้อผ้าของข้าพเจ้า
19แต่ขอพระองค์อย่าทรงอยู่ห่างไกลจากข้าพระองค์เลยข้า
แต่พระเยโฮวาห์ขอทรงรีบมาช่วยข้าพระองค์เถิด
20โปรดทรงช่วยชีวิตข้าพระองค์จากดาบและทรงช่วยที่รัก
ของข้าพระองค์จากอํานาจของสุนัข
21ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากปากสิงโตเพราะ
พระองค์ทรงฟังข้าพระองค์ตั้งแต่เขาของยูนิคอร์นแล้ว
22ข้าพระองค์จะประกาศพระนามของพระองค์แก่พี่น้องของ
ข้าพระองค์และในท่ามกลางชุมนุมชนข้าพระองค์จะ
สรรเสริญพระองค์
23พวกท่านที่ยําเกรงพระเจ้าจงสรรเสริญพระองค์พวกท่าน
ผู้เป็นพงศ์พันธุ์ของยาโคบจงถวายพระเกียรติแด่พระองค์
และพวกท่านผู้เป็นพงศ์พันธุ์ของอิสราเอลจงยําเกรง
พระองค์
24เพราะพระองค์มิได้ทรงดูหมิ่นหรือสะอิดสะเอียนความ
ทุกข์ยากของผู้ที่ถูกข่มเหงและมิได้ซ่อนพระพักตร์จากเขา
แต่เมื่อพระองค์ร้องเรียกเขาพระองค์ทรงได้ยิน
25ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์ในที่ชุมนุมใหญ่ข้า
พระองค์จะทําตามคําปฏิญาณของข้าพระองค์ต่อหน้าผู้ที่ยํา
เกรงพระองค์
26ผู้ที่อ่อนโยนจะได้กินและอิ่มหนําผู้ที่แสวงหาพระองค์จะ
สรรเสริญพระเยโฮวาห์ใจของท่านจะมีชีวิตอยู่ชั่วนิรันดร์
27บรรดาส่วนแห่งแผ่นดินโลกทั้งสิ้นจะจดจําและหันมาหา
พระเยโฮวาห์และบรรดาเผ่าพันธุ์ของบรรดาประชาชาติทั้ง
ปวงจะนมัสการต่อพระพักตร์พระองค์
28เพราะว่าราชอาณาจักรนั้นเป็นของพระเยโฮวาห์และ
พระองค์ทรงเป็นผู้ปกครองท่ามกลางบรรดาประชาชาติ
29บรรดาคนอ้วนพีทั้งหลายบนแผ่นดินโลกจะได้กินและบูชา
บรรดาคนทั้งปวงที่ลงไปสู่ผงคลีดินจะกราบลงต่อพระพักตร์
พระองค์และไม่มีใครสามารถรักษาจิตวิญญาณของตนเอง
ให้มีชีวิตอยู่ได้
30เชื้อสายจะรับใช้พระองค์และจะถูกนับต่อพระเจ้าตลอด
ชั่วอายุคน
31พวกเขาจะมาและประกาศความชอบธรรมของพระองค์แก่
ชนชาติหนึ่งที่จะเกิดมาว่าพระองค์ทรงกระทําการนี้
บทที่23
1(บทเพลงสดุดีของดาวิด)พระเยโฮวาห์ทรงเป็นผู้เลี้ยงดู
ข้าพเจ้าข้าพเจ้าจะไม่ขัดสน
2พระองค์ทรงทําให้ข้าพเจ้านอนลงบนทุ่งหญ้าเขียวขจี
พระองค์ทรงนําข้าพเจ้าไปริมฝั่งนํ้าอันสงบ

บทสดุดี
3พระองค์ทรงฟื้นฟูจิตวิญญาณของข้าพเจ้าพระองค์ทรงนํา
ข้าพเจ้าไปในวิถีแห่งความชอบธรรมเพื่อเห็นแก่พระนามของ
พระองค์
4ถึงแม้ข้าพระองค์จะเดินไปตามหุบเขาเงามัจจุราชข้า
พระองค์ก็จะไม่กลัวอันตรายใดๆเพราะว่าพระองค์สถิตกับข้า
พระองค์ไม้เท้าและไม้ตะพดของพระองค์ปลอบโยนข้า
พระองค์
5พระองค์ทรงเตรียมโต๊ะให้ข้าพระองค์ต่อหน้าศัตรูของข้า
พระองค์พระองค์ทรงเจิมศีรษะข้าพระองค์ด้วยนํ้ามันถ้วย
ของข้าพระองค์ก็ล้นอยู่
6แน่ทีเดียวความดีและความเมตตาจะติดตามข้าพเจ้าไป
ตลอดวันชีวิตของข้าพเจ้าและข้าพเจ้าจะอยู่ในพระนิเวศน์
ของพระเจ้าตลอดไป
บทที่24
1(บทเพลงสดุดีของดาวิด)แผ่นดินโลกกับสิ่งที่อยู่ในนั้นนั้น
เป็นของพระเจ้าทั้งโลกและบรรดาผู้ที่อาศัยอยู่ในนั้น
2เพราะพระองค์ได้ทรงสร้างโลกไว้บนทะเลและทรง
สถาปนาโลกไว้บนนํ้าท่วม
3ใครจะขึ้นไปบนภูเขาของพระเจ้า?หรือใครจะยืนอยู่ใน
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์?
4คือผู้ที่มีมือสะอาดและใจบริสุทธิ์ผู้ที่ไม่ยกจิตวิญญาณของ
ตนขึ้นในทางที่ไร้สาระและไม่สาบานอย่างหลอกลวง
5เขาจะได้รับพระพรจากพระเยโฮวาห์และความชอบธรรม
จากพระเจ้าแห่งความรอดของเขา
6นี่แหละเป็นพวกที่แสวงหาพระองค์แสวงหาพระพักตร์ของ
พระองค์โอยาโคบเซลาห์
7จงยกหัวของพวกเจ้าขึ้นเถิดประตูทั้งหลายเอ๋ยจงยกขึ้น
เถิดประตูชั่วนิรันดร์เอ๋ยและกษัตริย์ผู้ทรงสง่าราศีจะเสด็จ
เข้ามา
8กษัตริย์ผู้ทรงสง่าราศีนี้คือผู้ใดพระเจ้าทรงเข้มแข็งและ
ทรงฤทธิ์พระเจ้าทรงฤทธิ์ในการรบ
9ประตูทั้งหลายเอ๋ยจงยกหัวของพวกเจ้าขึ้นเถิดประตูชั่วนิ
รันดร์เอ๋ยจงยกมันขึ้นเถิดและกษัตริย์ผู้ทรงสง่าราศีจะเสด็จ
เข้ามา
10กษัตริย์ผู้ทรงสง่าราศีนี้คือผู้ใด?พระเจ้าจอมโยธา
พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ผู้ทรงสง่าราศีเซลาห์
บทที่25
1(บทสดุดีของดาวิด)ข้าพระองค์ขอถวายจิตวิญญาณของ
ข้าพระองค์แด่พระองค์ข้าแต่พระเยโฮวาห์
2ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ข้าพระองค์วางใจในพระองค์
ขออย่าให้ข้าพระองค์อับอายและอย่าให้ศัตรูของข้าพระองค์
มีชัยชนะเหนือข้าพระองค์
3อย่าให้ใครที่รอคอยพระองค์ต้องอับอายแต่ขอให้ผู้ที่
ละเมิดโดยไม่มีเหตุผลต้องอับอาย
4ข้าแต่พระเยโฮวาห์โปรดทรงสอนทางของพระองค์แก่ข้า
พระองค์ขอทรงสอนข้าพระองค์ถึงหนทางของพระองค์
5ขอทรงนําข้าพระองค์ไปตามความจริงของพระองค์และ
ทรงสอนข้าพระองค์เพราะว่าพระองค์เป็นพระเจ้าแห่งความ
รอดของข้าพระองค์ข้าพระองค์รอคอยพระองค์วันยังคํ่า
6ข้าแต่พระเยโฮวาห์ขอทรงจดจําพระกรุณาและความรัก
มั่นคงของพระองค์ไว้เพราะว่าสิ่งเหล่านี้มีมาแต่โบราณกาล
7ขออย่าทรงจดจําความผิดของข้าพระองค์ในวัยหนุ่มและ
ความผิดบาปของข้าพระองค์แต่ขอทรงระลึกถึงข้าพระองค์
ตามพระกรุณาของพระองค์เพื่อความดีของพระองค์ข้าแต่
พระเยโฮวาห์
8พระเยโฮวาห์ทรงเป็นผู้ดีและเที่ยงธรรมเพราะฉะนั้น
พระองค์จะทรงสอนคนบาปในหนทาง
9พระองค์จะทรงนําผู้อ่อนโยนไปสู่ความยุติธรรมและ
พระองค์จะทรงสอนทางของพระองค์แก่ผู้อ่อนโยน
10วิถีทั้งสิ้นของพระเจ้าทรงเป็นความเมตตาและความจริง
แก่บรรดาผู้ที่รักษาพันธสัญญาและพระโอวาทของพระองค์
11เพราะเห็นแก่พระนามของพระองค์ข้าแต่พระเยโฮวาห์
โปรดทรงยกโทษความผิดของข้าพระองค์เพราะมันยิ่งใหญ่
มาก
12ผู้ใดเล่าที่ยําเกรงพระเจ้าพระองค์จะทรงสอนเขาตามทาง
ที่พระองค์จะทรงเลือก
13จิตวิญญาณของเขาจะอยู่อย่างสุขสบายและพงศ์พันธุ์
ของเขาจะได้สืบทอดแผ่นดินโลก
14ความลับของพระเจ้าอยู่กับผู้ที่ยําเกรงพระองค์และ
พระองค์จะทรงสําแดงพันธสัญญาของพระองค์แก่พวกเขา
15ดวงตาของข้าพเจ้าจะจ้องไปที่พระเยโฮวาห์เสมอ
เพราะว่าพระองค์จะทรงถอนเท้าของข้าพเจ้าออกจากตาข่าย
16ขอพระองค์หันมาหาข้าพระองค์และมีเมตตาต่อข้า
พระองค์เพราะว่าข้าพระองค์ถูกทิ้งร้างและทุกข์ใจ
17ความเดือดร้อนในใจของข้าพระองค์ก็ทวีขึ้นขอพระองค์
ทรงนําข้าพระองค์ออกจากความทุกข์ยาก
18โปรดทอดพระเนตรความทุกข์ยากและความเจ็บปวดของ
ข้าพเจ้าและโปรดยกโทษบาปทั้งหมดของข้าพเจ้า
19ขอทรงพิจารณาศัตรูของข้าพระองค์เพราะว่าพวกเขามี
มากและพวกเขาเกลียดชังข้าพระองค์ด้วยความเกลียดชัง
อย่างโหดร้าย
20ขอทรงรักษาจิตวิญญาณของข้าพระองค์และช่วยข้า
พระองค์ให้พ้นอย่าให้ข้าพระองค์ต้องอับอายเพราะข้า
พระองค์วางใจในพระองค์
21ขอความซื่อสัตย์และความเที่ยงธรรมรักษาข้าพเจ้าไว้
เพราะข้าพเจ้ารอคอยพระองค์
22ขอทรงช่วยอิสราเอลให้พ้นจากความทุกข์ยากทั้งสิ้นของ
เขาข้าแต่พระเจ้า
บทที่26
1(บทสดุดีของดาวิด)ขอทรงพิพากษาข้าพระองค์เถิดข้าแต่
พระเยโฮวาห์เพราะข้าพระองค์ได้ดําเนินตามความซื่อสัตย์
ข้าพระองค์ได้วางใจในพระเยโฮวาห์ดังนั้นข้าพระองค์จึงจะ
ไม่ล้มเหลว
2ขอทรงตรวจสอบข้าพระองค์และทรงพิสูจน์ข้าพระองค์ขอ
ทรงทดสอบจิตใจและจิตใจของข้าพระองค์
3เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ก็อยู่ต่อหน้าข้าพระองค์
และข้าพระองค์ได้ดําเนินตามความจริงของพระองค์
4ข้าพระองค์มิได้นั่งอยู่กับคนไร้สาระและจะไม่เข้ากับคน
หลอกลวง
5ข้าพระองค์เกลียดชุมนุมคนทําชั่วและไม่ยอมนั่งอยู่กับคน
ชั่ว
6ข้าพระองค์จะล้างมือด้วยความบริสุทธิ์ข้าพระองค์จะ
ล้อมรอบแท่นบูชาของพระองค์ด้วยพระยาห์เวห์
7เพื่อข้าพเจ้าจะได้ประกาศด้วยเสียงขอบพระคุณและบอก
เล่าถึงการงานอันอัศจรรย์ของพระองค์ทั้งหมด
8ข้าแต่พระเยโฮวาห์ข้าพระองค์รักที่ประทับของพระนิเวศน์
ของพระองค์และสถานที่ที่พระเกียรติของพระองค์ประทับอยู่
9อย่ารวบรวมจิตวิญญาณของข้าพเจ้าไว้กับคนบาปและอย่า
รวบรวมชีวิตข้าพเจ้าไว้กับคนกระหายเลือด
10ผู้ที่มีมือชั่วร้ายและมือขวาของเขาเต็มไปด้วยสินบน

บทสดุดี
11ส่วนข้าพระองค์ข้าพระองค์จะดําเนินตามความซื่อสัตย์
ของข้าพระองค์ขอทรงช่วยข้าพระองค์และทรงมีเมตตาต่อ
ข้าพระองค์ด้วย
12เท้าของข้าพเจ้ายืนอยู่ในที่ราบข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระ
เจ้าในที่ชุมนุมชน
บทที่27
1(บทเพลงสดุดีของดาวิด)พระเยโฮวาห์ทรงเป็นความสว่าง
และความรอดของข้าพเจ้าข้าพเจ้าจะต้องกลัวใครพระเยโฮ
วาห์ทรงเป็นกําลังแห่งชีวิตข้าพเจ้าข้าพเจ้าจะต้องกลัวใคร
2เมื่อคนชั่วคือศัตรูและศัตรูของข้าพเจ้าเข้ามาหาข้าพเจ้า
เพื่อจะกินเนื้อของข้าพเจ้าพวกเขาก็สะดุดและล้มลง
3แม้กองทัพจะตั้งค่ายล้อมข้าพเจ้าใจของข้าพเจ้าก็จะไม่
หวั่นไหวแม้สงครามจะลุกขึ้นต่อต้านข้าพเจ้าข้าพเจ้าก็จะ
มั่นใจในเรื่องนี้
4ข้าพเจ้าปรารถนาสิ่งหนึ่งจากพระเยโฮวาห์ซึ่งข้าพเจ้าจะ
เสาะหาต่อไปคือการที่ข้าพเจ้าจะได้อยู่ในพระนิเวศน์ของ
พระเจ้าตลอดชีวิตของข้าพเจ้าเพื่อจะดูความงามของพระ
เจ้าและเพื่อจะค้นดูอยู่ในพระวิหารของพระองค์
5เพราะว่าพระองค์จะทรงซ่อนข้าพเจ้าไว้ในพลับพลาของ
พระองค์ในเวลาแห่งความยากลําบากพระองค์จะทรงซ่อน
ข้าพเจ้าไว้ในความลับแห่งพลับพลาของพระองค์พระองค์จะ
ทรงตั้งข้าพเจ้าไว้บนศิลา
6และบัดนี้ศีรษะของข้าพเจ้าจะถูกยกขึ้นเหนือศัตรูที่อยู่รอบ
ข้างข้าพเจ้าเพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจะถวายเครื่องบูชาแห่ง
ความชื่นชมยินดีในพลับพลาของพระองค์ข้าพเจ้าจะร้อง
เพลงข้าพเจ้าจะร้องเพลงสรรเสริญแด่พระเยโฮวาห์
7ข้าแต่พระเยโฮวาห์โปรดทรงฟังเมื่อข้าพระองค์ร้องทูล
ด้วยเสียงของข้าพระองค์ขอทรงมีพระเมตตาต่อข้าพระองค์
และทรงตอบข้าพระองค์
8เมื่อเจ้ากล่าวว่าจงแสวงหาพระพักตร์ของเราใจของฉันก็
พูดกับเจ้าว่าข้าแต่พระเจ้าข้าพระองค์จะแสวงหาพระพักตร์
ของพระองค์
9ขออย่าทรงซ่อนพระพักตร์ของพระองค์ให้ห่างจากข้า
พระองค์ขออย่าทรงทําให้ผู้รับใช้ของพระองค์ต้องพิโรธ
พระองค์ได้ทรงเป็นผู้ช่วยเหลือของข้าพระองค์ขออย่าทรง
ละทิ้งข้าพระองค์เสียพระเจ้าแห่งความรอดของข้าพระองค์
10เมื่อบิดามารดาของฉันละทิ้งฉันพระเจ้าจะทรงรับฉันไว้
11ขอทรงสอนทางของพระองค์แก่ข้าพระองค์ข้าแต่พระเย
โฮวาห์และทรงนําข้าพระองค์ไปในวิถีอันราบเรียบเนื่องด้วย
ศัตรูของข้าพระองค์
12ขออย่าทรงมอบข้าพระองค์ให้เป็นไปตามความประสงค์
ของศัตรูของข้าพระองค์เพราะว่ามีพยานเท็จลุกขึ้นต่อต้าน
ข้าพระองค์และหายใจออกมาด้วยความโหดร้าย
13ข้าพเจ้าจะหมดแรงไปถ้าข้าพเจ้าไม่เชื่อว่าจะได้พบเห็น
คุณความดีของพระเจ้าในแผ่นดินของผู้มีชีวิต
14จงคอยพระเยโฮวาห์จงมีใจกล้าหาญและพระองค์จะทํา
ให้ใจของเจ้าเข้มแข็งขึ้นฉันพูดว่าจงคอยพระเยโฮวาห์
บทที่28
1(บทเพลงสดุดีของดาวิด)ข้าพระองค์จะร้องทูลต่อพระองค์
ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระศิลาของข้าพระองค์โปรดอย่าทรง
เงียบต่อข้าพระองค์เกรงว่าหากพระองค์ทรงเงียบต่อข้า
พระองค์ข้าพระองค์จะกลายเป็นเหมือนคนเหล่านั้นที่ลงไป
ยังหลุม
2โปรดทรงฟังเสียงการวิงวอนของข้าพระองค์เมื่อข้า
พระองค์ร้องเรียกพระองค์เมื่อข้าพระองค์ยกมือขึ้นไปยังพระ
โอวาทศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
3ขออย่าทรงพาข้าพระองค์ไปกับผู้ชั่วและกับผู้กระทําความ
ชั่วผู้พูดสันติกับเพื่อนบ้านของตนแต่ความชั่วร้ายอยู่ในใจ
ของพวกเขา
4ขอทรงตอบแทนพวกเขาตามการกระทําของพวกเขาและ
ตามความชั่วร้ายแห่งความพยายามของพวกเขาขอทรงตอบ
แทนการงานแห่งมือของพวกเขาและตอบแทนความแห้ง
แล้งของพวกเขา
5เพราะพวกเขาไม่นับถือการงานของพระเจ้าหรือการ
ดําเนินการของพระหัตถ์ของพระองค์พระองค์จึงจะทรง
ทําลายพวกเขาและไม่ทรงสร้างพวกเขาขึ้น
6จงถวายพระพรแด่พระเยโฮวาห์เพราะพระองค์ทรงได้ยิน
เสียงวิงวอนของข้าพเจ้า
7พระเยโฮวาห์ทรงเป็นกําลังและเป็นโล่ห์ของข้าพเจ้าจิตใจ
ของข้าพเจ้าวางใจในพระองค์และข้าพเจ้าก็ได้รับความ
ช่วยเหลือเพราะฉะนั้นจิตใจของข้าพเจ้าจึงชื่นชมยินดีอย่าง
ยิ่งและด้วยบทเพลงของข้าพเจ้าข้าพเจ้าจะสรรเสริญ
พระองค์
8พระเยโฮวาห์ทรงเป็นกําลังของพวกเขาและพระองค์ทรง
เป็นกําลังช่วยให้รอดของผู้ที่พระองค์ทรงเจิม
9ขอทรงช่วยประชากรของพระองค์ให้รอดและอวยพรมรดก
ของพระองค์ขอทรงเลี้ยงดูพวกเขาด้วยและทรงชูพวกเขา
ขึ้นตลอดไป
บทที่29
1(บทเพลงสดุดีของดาวิด)จงถวายแด่พระเยโฮวาห์บรรดา
ผู้กล้าที่เข้มแข็งจงถวายพระสิริและพละกําลังแด่พระเยโฮ
วาห์
2จงถวายพระเกียรติอันควรแก่พระนามของพระองค์แด่พระ
เยโฮวาห์จงนมัสการพระเยโฮวาห์ด้วยความงดงามแห่ง
ความบริสุทธิ์
3พระสุรเสียงของพระเจ้าอยู่บนนํ้าพระเจ้าแห่งสง่าราศีทรง
คํารามพระเจ้าทรงอยู่เหนือนํ้ามากมาย
4พระสุรเสียงของพระเจ้าทรงทรงพลังพระสุรเสียงของพระ
เจ้าทรงเปี่ยมด้วยความยิ่งใหญ่
5เสียงของพระเจ้าทรงหักต้นซีดาร์เออพระเจ้าทรงหักต้นซี
ดาร์ของเลบานอน
6พระองค์ทรงทําให้พวกเขากระโดดเหมือนลูกโคเลบานอน
และซิริออนเหมือนลูกยูนิคอร์น
7เสียงของพระเจ้าทรงแบ่งเปลวเพลิงออกจากกัน
8เสียงของพระเจ้าทรงเขย่าถิ่นทุรกันดารพระเจ้าทรงเขย่า
ถิ่นทุรกันดารคาเดช
9พระสุรเสียงของพระเจ้าทรงกระทําให้กวางตกลูกและทรง
ค้นพบป่าไม้และในพระวิหารของพระองค์ทุกคนก็พูดถึงพระ
สิริของพระองค์
10พระเจ้าทรงประทับเหนือนํ้าท่วมแท้จริงพระเจ้าทรง
ประทับเป็นพระราชาตลอดไป
11พระเจ้าจะทรงประทานกําลังแก่ประชากรของพระองค์
และพระเจ้าจะทรงอวยพรประชากรของพระองค์ให้มีสันติสุข
บทที่30
1(บทเพลงสดุดีและเพลงสรรเสริญในพิธีอุทิศบ้านของดาวิด)
ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์ข้าแต่พระเยโฮวาห์เพราะ
พระองค์ทรงชูข้าพระองค์ขึ้นและพระองค์ไม่ทรงทําให้ศัตรู
ของข้าพระองค์ชื่นชมยินดีเหนือข้าพระองค์

บทสดุดี
2ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของข้าพระองค์ข้าพระองค์ร้อง
ทูลต่อพระองค์และพระองค์ได้ทรงรักษาข้าพระองค์
3ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระองค์ทรงนําจิตวิญญาณของข้า
พระองค์ขึ้นมาจากหลุมศพพระองค์ทรงทําให้ข้าพระองค์มี
ชีวิตอยู่เพื่อข้าพระองค์จะไม่ต้องลงไปสู่หลุมศพ
4จงร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าผู้เป็นนักบุญของพระองค์
และถวายคําขอบพระคุณเมื่อรําลึกถึงความบริสุทธิ์ของ
พระองค์
5เพราะว่าพระพิโรธของพระองค์นั้นคงอยู่เพียงชั่วขณะหนึ่ง
แต่ความโปรดปรานของพระองค์นั้นมีชีวิตการร้องไห้อาจคง
อยู่ได้หนึ่งคืนแต่ความชื่นบานจะมาในเวลาเช้า
6และเมื่อข้าพเจ้ามีความเจริญข้าพเจ้าได้กล่าวว่าข้าพเจ้า
จะไม่หวั่นไหวเลย
7ข้าแต่พระเยโฮวาห์ด้วยพระกรุณาของพระองค์พระองค์
ทรงทําให้ภูเขาของข้าพเจ้าตั้งมั่นคงพระองค์ทรงซ่อนพระ
พักตร์ของพระองค์และข้าพเจ้าก็ทุกข์ใจ
8ข้าพระองค์ร้องทูลต่อพระองค์ข้าแต่พระเยโฮวาห์และข้า
พระองค์ได้วิงวอนต่อพระเยโฮวาห์
9เลือดของข้าพเจ้าจะได้ประโยชน์อะไรเมื่อข้าพเจ้าลงไป
ในหลุมนั้นผงธุลีจะสรรเสริญพระองค์หรือผงธุลีจะประกาศ
ความจริงของพระองค์หรือ
10ขอทรงฟังข้าพเจ้าด้วยเถิดข้าแต่พระเยโฮวาห์และทรงมี
พระกรุณาต่อข้าพเจ้าขอทรงเป็นผู้ช่วยของข้าพเจ้า
11พระองค์ได้ทรงเปลี่ยนการครํ่าครวญของข้าพระองค์ให้
เป็นการเต้นรําพระองค์ทรงถอดผ้ากระสอบของข้าพระองค์
ออกและทรงคาดเอวข้าพระองค์ด้วยความยินดี
12เพื่อว่าพระสิริรุ่งโรจน์ของข้าพระองค์จะร้องเพลง
สรรเสริญพระองค์และไม่เงียบงันข้าแต่พระเจ้าของข้า
พระองค์ข้าพระองค์จะขอบพระคุณพระองค์ตลอดไป
บทที่31
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงสดุดีของดาวิด)ข้าพระองค์วางใจ
ในพระองค์ข้าแต่พระเยโฮวาห์โปรดอย่าให้ข้าพระองค์ต้อง
อับอายเลยโปรดช่วยข้าพระองค์ในความชอบธรรมของ
พระองค์
2โปรดเงี่ยพระกรรณฟังข้าพระองค์ขอทรงช่วยข้าพระองค์
โดยเร็วขอทรงเป็นศิลาเข้มแข็งของข้าพระองค์เป็นปราการ
ที่ช่วยกู้ข้าพระองค์
3เพราะพระองค์ทรงเป็นศิลาและป้อมปราการของข้าพเจ้า
ฉะนั้นขอทรงนําข้าพเจ้าและชี้แนะข้าพเจ้าเพราะเห็นแก่พระ
นามของพระองค์
4ขอทรงดึงข้าพระองค์ออกจากตาข่ายซึ่งเขาได้วางไว้เป็น
ส่วนตัวเพื่อข้าพระองค์เพราะพระองค์เป็นกําลังของข้า
พระองค์
5ข้าพระองค์ฝากจิตวิญญาณของข้าพระองค์ไว้ในพระหัตถ์
ของพระองค์พระองค์ได้ทรงไถ่ข้าพระองค์โอ้พระยาห์เวห์
พระเจ้าแห่งความจริง
6ข้าพระองค์เกลียดคนเหล่านั้นที่คิดแต่เรื่องเท็จแต่ข้า
พระองค์วางใจในพระเยโฮวาห์
7ข้าพระองค์จะยินดีและเปรมปรีดิ์ในพระเมตตาของพระองค์
เพราะพระองค์ทรงทราบความทุกข์ยากของข้าพระองค์และ
ทรงทราบจิตใจข้าพระองค์ในยามทุกข์ยาก
8และมิได้ทรงขังข้าพระองค์ไว้ในมือของศัตรูแต่ทรงวาง
เท้าข้าพระองค์ไว้ในห้องใหญ่
9ขอทรงมีพระเมตตาต่อข้าพระองค์เถิดข้าแต่พระเยโฮวาห์
เพราะข้าพระองค์กําลังทุกข์ใจตาของข้าพระองค์เศร้าโศก
ทั้งจิตวิญญาณและท้องของข้าพระองค์ด้วย
10เพราะชีวิตของฉันหมดไปด้วยความเศร้าโศกและปีเดือน
ของฉันหมดไปด้วยความครํ่าครวญกําลังของฉันหมดลง
เพราะความชั่วของฉันและกระดูกของฉันก็ถูกเผาไหม้
11ข้าพระองค์เป็นที่ตําหนิติเตียนของบรรดาศัตรูของข้า
พระองค์โดยเฉพาะอย่างยิ่งของบรรดาเพื่อนบ้านของข้า
พระองค์และเป็นที่เกรงกลัวของผู้ที่รู้จักข้าพระองค์ผู้ที่ได้
เห็นข้าพระองค์จากภายนอกก็หนีไปจากข้าพระองค์
12ข้าพระองค์ถูกลืมเหมือนคนตายที่ไร้ความทรงจําข้า
พระองค์เป็นเหมือนภาชนะที่แตก
13เพราะว่าข้าพเจ้าได้ยินคําใส่ร้ายของคนเป็นอันมากแล้ว
ความกลัวก็เกิดขึ้นทุกด้านขณะที่พวกเขาร่วมกันคิดร้ายต่อ
ข้าพเจ้าพวกเขาคิดอุบายที่จะนําชีวิตของข้าพเจ้าไป
14แต่ข้าพระองค์วางใจในพระองค์ข้าแต่พระเยโฮวาห์ข้า
พระองค์กล่าวว่าพระองค์เป็นพระเจ้าของข้าพระองค์
15เวลาของข้าพระองค์อยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์โปรด
ช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากมือศัตรูและจากคนเหล่านั้นที่ข่ม
เหงข้าพระองค์
16ขอทรงให้พระพักตร์ของพระองค์ส่องมายังผู้รับใช้ของ
พระองค์ขอทรงช่วยข้าพระองค์ด้วยพระเมตตาของพระองค์
17ขออย่าให้ข้าพระองค์ต้องอับอายเลยพระเจ้าเพราะข้า
พระองค์ร้องเรียกพระองค์ขอให้คนชั่วต้องอับอายและขอให้
พวกเขานิ่งเงียบอยู่ในหลุมศพ
18จงให้ริมฝีปากที่พูดโกหกเงียบลงซึ่งพูดจาหยาบคายด้วย
ความจองหองและดูถูกเหยียดหยามต่อผู้ชอบธรรม
19ความดีของพระองค์ยิ่งใหญ่เพียงไรซึ่งพระองค์ได้ทรง
สะสมไว้เพื่อบรรดาผู้ยําเกรงพระองค์และทรงกระทําเพื่อ
บรรดาผู้วางใจในพระองค์ต่อหน้าบรรดาบุตรของมนุษย์!
20เจ้าจะซ่อนพวกเขาไว้ในความลับแห่งการประทับอยู่ของ
พระองค์จากความเย่อหยิ่งของมนุษย์และเจ้าจะรักษาพวก
เขาไว้ในที่ลับไม่ให้มีการโต้เถียงกันของภาษา
21จงถวายพระพรแด่พระเยโฮวาห์เพราะพระองค์ทรงแสดง
พระกรุณาอันมหัศจรรย์แก่ข้าพเจ้าในเมืองที่มีกําลังเข้มแข็ง
22เพราะข้าพระองค์รีบเร่งกล่าวในความเร่งรีบว่าข้าพระองค์
ถูกตัดขาดจากสายตาของพระองค์แล้วแต่พระองค์ยังทรง
ฟังเสียงวิงวอนของข้าพระองค์เมื่อข้าพระองค์ร้องทูล
พระองค์
23โอท่านผู้เป็นนักบุญทุกคนของพระองค์จงรักพระเยโฮ
วาห์เพราะว่าพระเยโฮวาห์ทรงคุ้มครองผู้ซื่อสัตย์และทรง
ตอบแทนผู้กระทําที่จองหองอย่างอุดมสมบูรณ์
24จงมีใจกล้าหาญและพระองค์จะทําให้ใจของพวกท่าน
เข้มแข็งขึ้นพวกท่านทุกคนที่หวังในพระเยโฮวาห์
บทที่32
1(บทเพลงสดุดีของดาวิดมัสชิล)ผู้ที่ได้รับการอภัย
ความผิดและผู้ที่ได้รับการปกปิดบาปนั้นเป็นสุข
2บุคคลผู้ซึ่งพระเจ้าไม่ทรงถือโทษและผู้ซึ่งจิตใจของเขา
ไม่มีการหลอกลวงนั้นเป็นบุคคลผู้เป็นสุข
3เมื่อข้าพระองค์เงียบอยู่กระดูกของข้าพระองค์ก็ชราลง
เพราะข้าพระองค์ครํ่าครวญอยู่ตลอดวัน
4เพราะว่าพระหัตถ์ของพระองค์กดทับข้าพระองค์ทั้งวันและ
คืนความชื้นของข้าพระองค์ก็กลายเป็นความแห้งแล้งของ
ฤดูร้อนเซลาห์
5ข้าพระองค์สารภาพบาปของข้าพระองค์ต่อพระองค์และข้า
พระองค์มิได้ซ่อนความผิดของข้าพระองค์ไว้ข้าพระองค์
กล่าวว่าข้าพระองค์จะสารภาพความผิดของข้าพระองค์ต่อ
พระเยโฮวาห์และพระองค์ก็ทรงยกโทษความผิดบาปของข้า
พระองค์เสียเซลาห์

บทสดุดี
6เพราะว่าทุกคนที่ยําเกรงพระเจ้าจะอธิษฐานต่อพระองค์
อย่างนี้ในเวลาที่อาจพบพระองค์ได้แน่นอนว่าในนํ้าท่วม
ใหญ่นํ้าจะไม่มาใกล้พระองค์เลย
7พระองค์ทรงเป็นที่ซ่อนของข้าพเจ้าพระองค์จะทรงรักษา
ข้าพเจ้าให้พ้นจากความทุกข์ยากพระองค์จะทรงล้อมรอบ
ข้าพเจ้าด้วยเพลงแห่งการปลดปล่อยเซลาห์
8เราจะชี้แนะและสอนเจ้าถึงทางที่เจ้าควรจะเดินไปเราจะนํา
เจ้าด้วยตาของเรา
9อย่าเป็นเหมือนม้าหรือลาซึ่งไม่มีความเข้าใจซึ่งต้องปิด
ปากของมันด้วยปากคาบและบังเหียนเพื่อมันจะไม่เข้าใกล้
เจ้า
10ผู้ชั่วจะมีความทุกข์มากแต่ผู้วางใจในพระเยโฮวาห์พระ
กรุณาจะล้อมรอบเขาไว้
11จงชื่นชมยินดีในพระเยโฮวาห์และเปรมปรีดิ์เถิดบรรดาผู้
ชอบธรรมจงโห่ร้องด้วยความยินดีบรรดาผู้เที่ยงธรรมใจ
ทั้งสิ้น
บทที่33
1จงชื่นชมยินดีในพระเยโฮวาห์เถิดพวกผู้ชอบธรรมเพราะ
การสรรเสริญนั้นเป็นสิ่งที่น่าชมเชยแก่คนเที่ยงธรรม
2จงสรรเสริญพระเยโฮวาห์ด้วยพิณใหญ่จงขับร้องสรรเสริญ
พระองค์ด้วยพิณใหญ่และพิณสิบสาย
3จงร้องเพลงใหม่แด่พระองค์และเล่นดนตรีอย่างชํานาญ
ด้วยเสียงดัง
4เพราะพระคําของพระเจ้าเป็นความจริงและพระราชกิจของ
พระองค์ทั้งสิ้นก็กระทําไปตามความจริง
5พระองค์ทรงรักความชอบธรรมและความยุติธรรมแผ่นดิน
โลกเต็มไปด้วยความดีของพระเจ้า
6โดยพระวจนะของพระเจ้าสวรรค์ทั้งหลายจึงได้ถูกสร้างขึ้น
และกองทัพทั้งสิ้นก็เกิดขึ้นด้วยลมพระโอษฐ์ของพระองค์
7พระองค์ทรงรวบรวมนํ้าทะเลไว้เป็นกองและทรงเก็บนํ้าลึก
ไว้ในคลังสินค้า
8ขอให้แผ่นดินโลกทั้งสิ้นยําเกรงพระเยโฮวาห์ขอให้
ชาวโลกทั้งสิ้นยืนยําเกรงพระองค์
9เพราะพระองค์ตรัสแล้วมันก็เกิดขึ้นพระองค์ทรงบัญชา
และมันก็ยืนหยัดมั่นคง
10พระเจ้าทรงทําให้การปรึกษาของคนต่างชาติไร้ผล
พระองค์ทรงทําให้แผนการของชนชาติต่างๆไร้ผล
11แผนการของพระเยโฮวาห์ยืนยงคงอยู่ชั่วนิรันดร์และพระ
ดําริในพระทัยของพระองค์ยืนยงอยู่ทุกชั่วคน
12สุขแก่ประชาชาติที่พระเจ้าของเขาคือพระเยโฮวาห์และ
แก่ชนชาติซึ่งพระองค์ทรงเลือกสรรเป็นมรดกของพระองค์
13พระเจ้าทรงมองลงมาจากสวรรค์พระองค์ทรงเห็นบุตร
ของมนุษย์ทุกคน
14จากสถานที่ประทับของพระองค์พระองค์ทรงมองดูบรรดา
ผู้อาศัยในแผ่นดินโลกทั้งสิ้น
15พระองค์ทรงสร้างจิตใจของพวกเขาให้เหมือนกัน
พระองค์ทรงพิจารณาการกระทําของพวกเขาทั้งสิ้น
16กษัตริย์องค์ใดจะรอดไม่ได้ด้วยกองทัพจํานวนมากมาย
และคนที่มีกําลังมากก็ช่วยกษัตริย์องค์นั้นไม่พ้น
17ม้านั้นไม่มีประโยชน์ที่จะให้ปลอดภัยและด้วยกําลังอัน
ใหญ่หลวงของมันมันก็ไม่อาจช่วยชีวิตใครได้
18ดูเถิดพระเนตรของพระเจ้าทรงอยู่เหนือผู้ที่ยําเกรง
พระองค์เหนือผู้ที่หวังในความเมตตาของพระองค์
19เพื่อทรงช่วยจิตวิญญาณของเขาทั้งหลายให้พ้นจากความ
ตายและทรงให้เขาทั้งหลายมีชีวิตอยู่ได้ในยามขาดแคลน
อาหาร
20จิตวิญญาณของเราคอยพระเยโฮวาห์พระองค์ทรงเป็น
ความช่วยเหลือและเป็นโล่ของเรา
21เพราะจิตใจของเราจะชื่นชมยินดีในพระองค์เพราะเรา
ไว้วางใจในพระนามอันบริสุทธิ์ของพระองค์
22ขอพระเมตตาของพระองค์อยู่กับเราตามที่เรามีความหวัง
ในพระองค์
บทที่34
1(บทเพลงสดุดีของดาวิดเมื่อเขาได้เปลี่ยนความประพฤติ
ของเขาต่อหน้าอาบีเมเลคซึ่งเขาได้ขับไล่เขาออกไปและ
เขาก็จากไป)ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระเจ้าทุกเวลาคํา
สรรเสริญพระองค์จะอยู่ในปากของข้าพเจ้าเสมอ
2จิตใจของข้าพเจ้าจะอวดอ้างพระยาห์เวห์ผู้ที่ถ่อมตนจะได้
ยินและมีความยินดี
3จงยกย่องพระเยโฮวาห์ร่วมกับข้าพเจ้าและให้เราสรรเสริญ
พระนามของพระองค์ร่วมกัน
4ข้าพเจ้าได้แสวงหาพระเยโฮวาห์และพระองค์ทรงฟัง
ข้าพเจ้าและทรงช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากความกลัวทั้งสิ้น
5พวกเขามองดูพระองค์แล้วเบิกบานใจและหน้าของพวก
เขาก็ไม่ละอายเลย
6คนยากจนคนนี้ร้องไห้และพระเจ้าทรงได้ยินและทรงช่วย
เขาให้พ้นจากความทุกข์ยากทั้งสิ้นของเขา
7ทูตสวรรค์ของพระเจ้าทรงตั้งค่ายล้อมรอบบรรดาผู้ที่ยํา
เกรงพระองค์และทรงช่วยพวกเขาให้รอด
8จงชิมแล้วดูว่าพระเยโฮวาห์ทรงดีเพียงใดความสุขมีแก่คน
ที่วางใจในพระองค์
9โอพวกท่านผู้บริสุทธิ์ของพระองค์จงยําเกรงพระเจ้า
เพราะว่าผู้ที่ยําเกรงพระองค์จะไม่ขาดแคลนเลย
10สิงโตหนุ่มยังขาดแคลนและหิวโหยแต่บรรดาผู้แสวงหา
พระเจ้าจะไม่ขาดสิ่งดีใดๆเลย
11จงมาเถิดบุตรทั้งหลายจงฟังเราเราจะสอนเจ้าให้รู้ถึง
ความเกรงกลัวพระเจ้า
12มนุษย์คนใดปรารถนาชีวิตและรักวันเวลามากมายเพื่อจะ
ได้เห็นสิ่งดี?
13จงระวังลิ้นของเจ้าจากความชั่วและระวังริมฝีปากของเจ้า
จากการพูดหลอกลวง
14จงละทิ้งความชั่วแล้วกระทําความดีจงแสวงหาสันติสุข
และติดตามมัน
15พระเนตรของพระเยโฮวาห์เฝ้าดูผู้ชอบธรรมและพระ
กรรณของพระองค์สดับฟังเสียงร้องไห้ของพวกเขา
16พระพักตร์ของพระเยโฮวาห์ตั้งต่อสู้กับผู้ทําความชั่วเพื่อ
จะตัดการรําลึกถึงพวกเขาเสียจากแผ่นดินโลก
17คนชอบธรรมร้องทูลพระเจ้าทรงฟังและทรงช่วยพวกเขา
ให้พ้นจากความทุกข์ยากลําบากทั้งสิ้นของพวกเขา
18พระเจ้าทรงอยู่ใกล้ผู้ที่มีใจสลายและทรงช่วยผู้ที่มีจิตใจ
สํานึกผิด
19ผู้ชอบธรรมมีความทุกข์ลําบากมากแต่พระเจ้าทรงช่วย
เขาให้พ้นจากความทุกข์เหล่านั้นหมด
20พระองค์ทรงรักษากระดูกของเขาไว้ทุกซี่ไม่หักสักซี่เดียว
21ความชั่วจะสังหารคนชั่วและบรรดาผู้ที่เกลียดชังคนชอบ
ธรรมจะพินาศไป
22พระเจ้าทรงไถ่ชีวิตผู้รับใช้ของพระองค์และผู้ที่ไว้วางใจ
ในพระองค์จะไม่มีความพินาศเลย

บทสดุดี
บทที่35
1(บทเพลงสดุดีของดาวิด)ข้าแต่พระเยโฮวาห์โปรดทรง
ต่อสู้คดีกับผู้ที่ต่อสู้กับข้าพระองค์ขอทรงต่อสู้กับผู้ที่ต่อสู้กับ
ข้าพระองค์
2จงถือโล่และโล่ห์และยืนขึ้นเพื่อช่วยเหลือข้าพเจ้า
3จงทรงชูหอกและปิดทางไว้ต่อสู้คนเหล่านั้นที่ข่มเหงข้า
พระองค์จงกล่าวแก่จิตวิญญาณข้าพระองค์ว่าข้าพระองค์
เป็นความรอดของเจ้า
4ขอให้ผู้แสวงหาจิตวิญญาณของข้าพเจ้าได้รับความอับอาย
และอับอายขอให้ผู้คิดร้ายต่อข้าพเจ้าได้รับความอับอายและ
อับอายขายหน้า
5ขอให้พวกเขาเป็นเหมือนแกลบต่อหน้าลมและขอให้ทูต
สวรรค์ของพระเยโฮวาห์ทรงไล่ตามพวกเขาไป
6ขอให้ทางของพวกเขามืดมนและลื่นและขอให้ทูตสวรรค์
ของพระเยโฮวาห์ข่มเหงพวกเขา
เพราะเขาทั้งหลายได้ซ่อนตาข่ายของตนไว้ในหลุมโดยไม่มี
เหตุผลเพื่อดักจับข้าพระองค์ทั้งๆที่พวกเขาได้ขุดหลุมไว้
สําหรับจิตวิญญาณของข้าพระองค์โดยไม่มีเหตุผล
8ขอให้ความพินาศมาถึงเขาโดยไม่ทันรู้ตัวและขอให้ตา
ข่ายที่เขาซ่อนไว้ติดกับเขาเองขอให้เขาตกลงในความ
พินาศนั้นเอง
9จิตใจของข้าพเจ้าจะชื่นชมยินดีในพระเยโฮวาห์และจะชื่น
ชมยินดีในความรอดของพระองค์
10กระดูกทั้งสิ้นของข้าพระองค์จะกล่าวว่า“ข้าแต่พระเยโฮ
วาห์ผู้ใดเหมือนพระองค์ผู้ทรงช่วยคนยากจนจากผู้ที่
เข้มแข็งเกินกว่าเขาและผู้ยากไร้และขัดสนจากผู้ที่ปล้นเขา”
11มีพยานเท็จลุกขึ้นมาและกล่าวหาข้าพเจ้าด้วยเรื่องซึ่ง
ข้าพเจ้าไม่รู้
12พวกเขาตอบแทนฉันด้วยความชั่วตอบแทนความดีจน
ทําลายจิตวิญญาณของฉัน
13ส่วนข้าพเจ้าเมื่อพวกเขาป่วยข้าพเจ้าก็นุ่งห่มผ้ากระสอบ
ข้าพเจ้าข่มจิตใจตนเองด้วยการอดอาหารและกลับมา
อธิษฐานที่อกของตนเองอีกครั้ง
14ฉันก็ประพฤติตนราวกับว่าเขาเป็นเพื่อนหรือเป็นพี่น้อง
ของฉันฉันก็ก้มศีรษะลงอย่างหนักเหมือนกับคนที่ไว้ทุกข์ให้
มารดาของเขา
15แต่เมื่อข้าพเจ้าประสบความทุกข์ยากพวกเขาก็ชื่นชม
ยินดีและรวมตัวกันแม้แต่พวกอันธพาลก็รวมตัวกันต่อต้าน
ข้าพเจ้าและข้าพเจ้าก็ไม่รู้พวกเขาฉีกข้าพเจ้าและไม่หยุด
หย่อน
16พวกเขาเยาะเย้ยเยาะเย้ยในงานเลี้ยงและขบเขี้ยวเคี้ยว
ฟันใส่ข้าพเจ้า
17ข้าแต่พระเจ้าพระองค์จะทรงเฝ้าดูอยู่นานเพียงไรโปรด
ช่วยจิตวิญญาณของข้าพระองค์ให้รอดพ้นจากการทําลาย
ล้างของพวกเขาโปรดช่วยที่รักของข้าพระองค์ให้รอดพ้น
จากสิงโต
18ข้าพระองค์จะถวายคําขอบพระคุณพระองค์ต่อหน้าชุมนุม
ชนใหญ่ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์ท่ามกลางคนเป็นอัน
มาก
19อย่าให้ศัตรูของข้าพเจ้ามีความชื่นชมยินดีในตัวข้าพเจ้า
อย่างไม่เป็นธรรมและอย่าให้บรรดาผู้ที่เกลียดชังข้าพเจ้า
โดยไม่มีเหตุผลกระพริบตาด้วย
20เพราะว่าพวกเขาไม่พูดสันติสุขแต่พวกเขาคิดเรื่อง
หลอกลวงต่อบรรดาผู้สงบสุขในแผ่นดิน
21พวกเขาเปิดปากกว้างต่อข้าพเจ้าและกล่าวว่าอะฮาอะฮา
ตาของพวกเราได้เห็นมันแล้ว
22พระองค์ได้เห็นสิ่งนี้แล้วข้าแต่พระเยโฮวาห์โปรดอย่า
ทรงนิ่งเฉยข้าแต่พระเยโฮวาห์โปรดอย่าทรงอยู่ห่างไกล
จากข้าพระองค์
23จงลุกขึ้นและตื่นขึ้นต่อการพิพากษาของข้าพเจ้าคือเพื่อ
ความยุติธรรมของข้าพเจ้าพระเจ้าของข้าพเจ้าและพระ
เจ้าของข้าพเจ้า
24ขอทรงพิพากษาข้าพระองค์ตามความชอบธรรมของ
พระองค์ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของข้าพระองค์และขอ
อย่าให้พวกเขาชื่นชมยินดีในตัวข้าพระองค์
25อย่าให้พวกเขาพูดในใจว่า“โอ้เราก็อยากได้อย่างนั้น”
อย่าให้พวกเขาพูดได้ว่า“เราได้กลืนเขาไปแล้ว”
26ขอให้พวกเขาที่ชื่นชมยินดีในความเจ็บปวดของข้าพเจ้า
ได้รับความอับอายและความสับสนร่วมกันขอให้พวกเขาที่
อวดดีต่อข้าพเจ้าได้รับความอับอายและความเสื่อมเสีย
27ขอให้บรรดาผู้ที่เห็นชอบในความชอบธรรมของข้าพเจ้า
โห่ร้องและมีความยินดีและขอให้พวกเขากล่าวอยู่เสมอว่า
ขอให้พระเจ้าทรงเป็นที่ยกย่องซึ่งทรงพอพระทัยในความ
เจริญรุ่งเรืองของผู้รับใช้ของพระองค์
28และลิ้นของข้าพระองค์จะกล่าวถึงความชอบธรรมของ
พระองค์และคําสรรเสริญพระองค์ตลอดวัน
บทที่36
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงสดุดีของดาวิดผู้รับใช้ของพระเจ้า)
ความผิดของคนชั่วบอกอยู่ในใจฉันว่าไม่มีความเกรงกลัว
พระเจ้าอยู่เบื้องหน้าพระองค์
2เพราะเขาเอาอกเอาใจตนเองจนความชั่วของเขาเป็นที่
เกลียดชัง
3คําพูดจากปากของเขาเป็นความชั่วร้ายและการหลอกลวง
เขาละทิ้งความฉลาดและการกระทําดี
4เขาคิดความชั่วร้ายบนที่นอนของเขาเขาตั้งตนในทางที่ไม่
ดีเขาไม่เกลียดความชั่วร้าย
5พระกรุณาของพระองค์ข้าแต่พระเยโฮวาห์อยู่ในสวรรค์
และความสัตย์ซื่อของพระองค์ไปถึงเมฆ
6ความชอบธรรมของพระองค์เหมือนภูเขาใหญ่และคํา
พิพากษาของพระองค์เหมือนที่ลึกมากข้าแต่พระเยโฮวาห์
พระองค์ทรงคุ้มครองมนุษย์และสัตว์
7ความรักมั่นคงของพระองค์ช่างเลิศลํ้ายิ่งนักพระเจ้าข้า
เพราะฉะนั้นลูกหลานของมนุษย์จึงวางใจอยู่ใต้ร่มปีกของ
พระองค์
8พวกเขาจะอิ่มหนําด้วยความอุดมสมบูรณ์แห่งบ้านของ
พระองค์และพระองค์จะทรงให้พวกเขาดื่มจากแม่นํ้าแห่ง
ความสุขของพระองค์
เพราะว่านํ้าพุแห่งชีวิตอยู่กับพระองค์เราจะเห็นความสว่างได้
โดยความสว่างของพระองค์
10ขอทรงโปรดแสดงความรักมั่นคงต่อผู้ที่รู้จักพระองค์และ
โปรดให้ความชอบธรรมของพระองค์ดํารงต่อผู้เที่ยงธรรมใน
ใจ
11ขออย่าให้เท้าแห่งความเย่อหยิ่งเหยียบยํ่าข้าพระองค์
และอย่าให้มือของคนชั่วสามารถเอาข้าพระองค์ไปได้
12พวกผู้กระทําความชั่วก็ล้มลงที่นั่นพวกเขาถูกเหวี่ยงลง
มาและจะไม่สามารถลุกขึ้นอีกได้
บทที่37
1(บทเพลงสดุดีของดาวิด)อย่ากังวลใจเพราะคนทําชั่วและ
อย่าอิจฉาคนที่ทําความชั่ว
2เพราะอีกไม่นานเขาทั้งหลายจะถูกตัดลงเหมือนหญ้าและ
เหี่ยวเฉาเหมือนหญ้าอ่อน

บทสดุดี
3จงวางใจพระเยโฮวาห์และกระทําดีดังนั้นเจ้าจะได้อาศัย
อยู่ในแผ่นดินและเจ้าจะได้รับการเลี้ยงดูอย่างแน่นอน
4จงชื่นชมยินดีในพระเยโฮวาห์และพระองค์จะประทานสิ่งที่
ใจท่านปรารถนา
5จงมอบทางของคุณไว้กับพระเยโฮวาห์จงวางใจใน
พระองค์และพระองค์จะทรงทําให้สําเร็จ
6และพระองค์จะทรงให้ความชอบธรรมของท่านปรากฏ
เหมือนความสว่างและความยุติธรรมของท่านปรากฏเหมือน
เที่ยงวัน
จงพักผ่อนในพระเยโฮวาห์และอดทนรอคอยพระองค์อย่า
กังวลใจเรื่องผู้ที่เจริญตามทางของตนและเรื่องผู้ที่วางแผน
ชั่วร้าย
8จงเลิกโกรธและละทิ้งความพิโรธอย่ากังวลใจที่จะทําชั่ว
เลย
9เพราะคนกระทําชั่วจะถูกตัดขาดแต่คนเหล่านั้นที่รอคอย
พระเจ้าจะได้แผ่นดินโลกเป็นมรดก
10เพราะว่าอีกไม่นานคนชั่วก็จะไม่มีอีกแต่เจ้าจงพิจารณา
สถานที่ของเขาให้ดีมันก็จะไม่มีอีก
11แต่คนอ่อนโยนจะได้แผ่นดินเป็นมรดกและจะชื่นชมยินดี
ในความสงบสุขที่อุดมสมบูรณ์
12คนชั่ววางแผนร้ายต่อคนชอบธรรมและขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน
ใส่เขา
13พระเจ้าจะทรงหัวเราะเยาะเขาเพราะพระองค์เห็นว่าวัน
ของเขากําลังมาถึง
14คนชั่วได้ชักดาบออกมาและโก่งธนูของตนเพื่อสังหารคน
จนและคนขัดสนและเพื่อสังหารผู้ที่ประพฤติตนชอบธรรม
15ดาบของพวกเขาจะเข้าไปในใจของพวกเขาเองและธนู
ของพวกเขาจะหัก
16สิ่งเล็กน้อยที่คนชอบธรรมมีดีกว่าทรัพย์สมบัติของคนชั่ว
มากมาย
17เพราะแขนของคนชั่วจะหักแต่พระเจ้าทรงประคองคน
ชอบธรรม
18พระเจ้าทรงทราบวันเวลาของผู้ชอบธรรมและมรดกของ
เขาจะคงอยู่ชั่วนิรันดร์
19พวกเขาจะไม่อับอายในยามชั่วร้ายและในยามขาดแคลน
พวกเขาจะอิ่มหนํา
20แต่คนชั่วจะพินาศไปและศัตรูของพระเจ้าจะเหมือนไขมัน
ของลูกแกะจะถูกเผาผลาญจะถูกเผาไหม้จนกลายเป็นควัน
21คนชั่วขอยืมและไม่จ่ายคืนแต่คนชอบธรรมแสดงความ
เมตตาและให้
22เพราะคนเหล่านั้นที่ได้รับพระพรจากพระองค์จะได้สืบ
ทอดแผ่นดินโลกและคนที่ถูกสาปแช่งจากพระองค์จะถูกตัด
ออกไป
23ขั้นตอนของคนดีนั้นพระเจ้าทรงกําหนดไว้และพระองค์
ทรงพอพระทัยในทางของเขา
24แม้เขาจะล้มลงเขาก็จะไม่ล้มลงอย่างสิ้นเชิงเพราะว่า
พระเจ้าทรงพยุงเขาไว้ด้วยพระหัตถ์ของพระองค์
25ข้าพเจ้าเคยเป็นหนุ่มและบัดนี้แก่แล้วแต่ข้าพเจ้าไม่เคย
เห็นคนชอบธรรมถูกละทิ้งและไม่เคยเห็นพงศ์พันธุ์ของเขา
ขอทานอาหาร
26เขาเมตตาและให้ยืมเสมอและพงศ์พันธุ์ของเขาก็เป็นสุข
27จงละทิ้งความชั่วและทําความดีและดํารงอยู่ชั่วนิรันดร์
28เพราะว่าพระเยโฮวาห์ทรงรักการพิพากษาและไม่ทรงละ
ทิ้งบรรดาผู้บริสุทธิ์ของพระองค์พวกเขาจะได้รับการอนุรักษ์
ไว้เป็นนิตย์แต่พงศ์พันธุ์ของคนชั่วจะถูกตัดออกไป
29คนชอบธรรมจะได้แผ่นดินเป็นมรดกและอาศัยอยู่ที่นั่น
ตลอดไป
30ปากของผู้ชอบธรรมพูดความฉลาดและลิ้นของเขาพูด
เรื่องความยุติธรรม
31ธรรมบัญญัติของพระเจ้าอยู่ในใจของเขาและก้าวเดิน
ของเขาจะไม่พลาดแม้แต่ก้าวเดียว
32คนชั่วเฝ้าดูคนชอบธรรมและพยายามที่จะฆ่าเขา
33พระเจ้าจะไม่ทรงละทิ้งเขาไว้ในมือของเขาและจะไม่ทรง
ประณามเขาเมื่อเขาถูกพิพากษา
34จงคอยพระเจ้าและรักษาทางของพระองค์และพระองค์จะ
ทรงยกย่องเจ้าให้ได้สืบทอดแผ่นดินเมื่อคนชั่วถูกตัดขาด
เจ้าจะเห็นมัน
35ฉันได้เห็นคนชั่วมีอํานาจมากและแผ่กิ่งก้านสาขาออกไป
เหมือนต้นไม้ที่เขียวชะอุ่ม
36เขาได้เสียชีวิตไปและดูเถิดเขาก็ไม่อยู่แล้วถึงแม้
ข้าพเจ้าจะแสวงหาเขาแต่ก็ไม่พบเขา
37จงสังเกตคนดีที่สมบูรณ์และมองดูคนชอบธรรมเพราะจุด
จบของคนนั้นคือสันติภาพ
38แต่คนล่วงละเมิดจะถูกทําลายไปด้วยกันจุดจบของคนชั่ว
จะถูกตัดออกไป
39ความรอดของผู้ชอบธรรมมาจากพระเยโฮวาห์พระองค์
ทรงเป็นกําลังของเขาในยามทุกข์ยาก
40และพระเจ้าจะทรงช่วยเหลือพวกเขาและทรงช่วยกู้พวก
เขาพระองค์จะทรงช่วยกู้พวกเขาจากคนชั่วและช่วยพวกเขา
ให้รอดเพราะพวกเขาวางใจในพระองค์
บทที่38
1(บทสดุดีของดาวิดเพื่อรําลึก)ข้าแต่พระเยโฮวาห์โปรด
อย่าทรงตําหนิข้าพระองค์ด้วยความพิโรธของพระองค์และ
อย่าทรงตีสอนข้าพระองค์ด้วยความไม่พอพระทัยอย่าง
รุนแรงของพระองค์
2เพราะลูกศรของพระองค์ปักติดแน่นอยู่ในตัวข้าพระองค์
และพระหัตถ์ของพระองค์กดทับข้าพระองค์จนเจ็บปวด
3เพราะพระพิโรธของพระองค์ข้าพระองค์จึงไม่มีความปกติ
ในเนื้อหนังของข้าพระองค์และเพราะบาปของข้าพระองค์
ข้าพระองค์จึงไม่มีความสงบในกระดูกของข้าพระองค์
4เพราะความผิดบาปของข้าพระองค์ท่วมศีรษะข้าพระองค์
แล้วเหมือนภาระอันหนักเกินกําลังข้าพระองค์จะรับไหว
5บาดแผลของข้าพเจ้าเหม็นและเน่าเปื่อยเพราะความโง่
เขลาของข้าพเจ้า
6ข้าพระองค์ทุกข์ใจข้าพระองค์หมอบกราบลงมากข้า
พระองค์โศกเศร้าไปตลอดวัน
7เพราะว่าเอวของข้าพระองค์เต็มไปด้วยโรคที่น่ารังเกียจ
และเนื้อหนังของข้าพระองค์ก็ไม่มีความปกติเลย
8ข้าพระองค์อ่อนเปลี้ยและเจ็บปวดข้าพระองค์คํารามเพราะ
ความไม่สงบในใจของข้าพระองค์
9ข้าแต่พระเจ้าความปรารถนาทั้งหมดของข้าพเจ้าอยู่ต่อ
พระพักตร์พระองค์และเสียงครํ่าครวญของข้าพเจ้าก็มิได้
ซ่อนไว้จากพระองค์
10หัวใจของข้าพระองค์เต้นแรงและกําลังของข้าพระองค์ก็
หมดไปส่วนความสว่างของดวงตาข้าพระองค์ก็หายไปจาก
ข้าพระองค์แล้ว
11คนรักและมิตรสหายของข้าพเจ้าก็ยืนห่างเหินจากความ
ทุกข์ยากของข้าพเจ้าและญาติพี่น้องของข้าพเจ้าก็ยืนอยู่
ห่างออกไป
12คนเหล่านั้นที่แสวงหาชีวิตข้าพระองค์ก็วางกับดักไว้เพื่อ
ข้าพระองค์และคนเหล่านั้นที่แสวงหาอันตรายต่อข้าพระองค์
ก็พูดจาคดโกงและคิดหลอกลวงอยู่ตลอดวันยังคํ่า
13แต่ข้าพระองค์เหมือนคนหูหนวกข้าพระองค์จึงไม่ได้ยิน
อะไรเลยและข้าพระองค์ก็เหมือนคนใบ้ที่ไม่เปิดปากของตน
14เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าก็เป็นเหมือนคนไม่ฟังและไม่มีคํา
ตําหนิใดๆในปากของเขา

บทสดุดี
15เพราะว่าข้าพระองค์หวังในพระองค์ข้าแต่พระเยโฮวาห์
พระองค์จะทรงฟังข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของข้า
พระองค์
16เพราะข้าพเจ้ากล่าวว่าจงฟังข้าพเจ้ามิฉะนั้นพวกเขาจะ
ไม่ชื่นชมยินดีในข้าพเจ้าเมื่อเท้าข้าพเจ้าลื่นพวกเขาก็พอง
ตัวขึ้นต่อต้านข้าพเจ้า
17เพราะว่าข้าพระองค์พร้อมที่จะหยุดและความเศร้าโศก
ของข้าพระองค์ก็อยู่ต่อหน้าข้าพระองค์เสมอ
18เพราะว่าเราจะสําแดงความชั่วของเราและจะเสียใจใน
บาปของเรา
19แต่ศัตรูของข้าพระองค์ก็มีชีวิตชีวาและเข้มแข็งและ
บรรดาผู้ที่เกลียดชังข้าพระองค์อย่างไม่เป็นธรรมก็เพิ่ม
จํานวนขึ้น
20และบรรดาผู้ที่ทําชั่วตอบแทนความดีก็เป็นศัตรูของ
ข้าพเจ้าเพราะว่าข้าพเจ้าติดตามสิ่งดี
21ขออย่าทอดทิ้งข้าพระองค์เลยพระเจ้าของข้าพระองค์
ขออย่าทรงอยู่ห่างไกลจากข้าพระองค์
22ขอทรงรีบมาช่วยข้าพระองค์เถิดพระเจ้าผู้ทรงช่วยให้รอด
ของข้าพระองค์
บทที่39
1(ถึงหัวหน้านักร้องคือถึงเยดูธุนเพลงสดุดีของดาวิด)
ข้าพเจ้ากล่าวว่าข้าพเจ้าจะระวังรักษาทางของข้าพเจ้าไว้
เพื่อจะไม่ให้ลิ้นของข้าพเจ้าทําบาปข้าพเจ้าจะควบคุมปาก
ของข้าพเจ้าขณะที่คนชั่วอยู่ต่อหน้าข้าพเจ้า
2ฉันก็นิ่งเงียบและนิ่งคิดแม้จากเรื่องดีๆและความโศกเศร้า
ของฉันก็ถูกปลุกเร้า
3ใจของข้าพเจ้าร้อนรุ่มอยู่ภายในขณะที่ข้าพเจ้ากําลัง
ครุ่นคิดไฟก็ลุกโชนขึ้นข้าพเจ้าจึงพูดด้วยลิ้นของข้าพเจ้าว่า
4ข้าแต่พระเยโฮวาห์โปรดให้ข้าพระองค์ทราบถึงจุดจบของ
ข้าพระองค์และให้ข้าพระองค์ทราบว่าวันเวลาของข้า
พระองค์จะยาวนานเพียงใดเพื่อข้าพระองค์จะได้ทราบว่าข้า
พระองค์เปราะบางเพียงใด
5ดูเถิดพระองค์ทรงทําให้วันเวลาของข้าพเจ้ายาวเพียงฝ่า
มือเดียวและอายุของข้าพเจ้าก็ไม่ต่างอะไรจากสิ่งใดเลยต่อ
หน้าพระองค์แท้จริงมนุษย์ทุกคนที่มีฐานะดีที่สุดก็ล้วนแต่
เป็นความไร้สาระทั้งสิ้นเซลาห์
6มนุษย์ทุกคนเดินไปตามทางที่ไร้ประโยชน์แน่ทีเดียวพวก
เขากระสับกระส่ายอยู่เปล่าๆเขาสะสมทรัพย์สมบัติไว้แต่ไม่
รู้ว่าใครจะรวบรวมมันไว้
7และบัดนี้ข้าพเจ้าจะรอคอยอะไรอีกพระเจ้าข้าข้าพเจ้ามี
ความหวังอยู่ในพระองค์
8ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากความผิดบาปทั้งสิ้นขอ
อย่าทรงทําให้ข้าพระองค์เป็นที่ตําหนิของคนโง่เขลา
9ข้าพระองค์เป็นใบ้ข้าพระองค์ไม่อ้าปากของข้าพระองค์
เพราะพระองค์ทรงกระทํา
10ขอทรงถอนพระหัตถ์ของพระองค์ออกไปจากข้าพระองค์
เถิดข้าพระองค์ก็จมอยู่กับการตีของพระองค์แล้ว
11เมื่อพระองค์ตักเตือนมนุษย์เกี่ยวกับความชั่วพระองค์ก็
ทรงทําลายความงามของเขาไปเหมือนแมลงเม่ามนุษย์ทุก
คนล้วนแต่เป็นความไร้สาระเซลาห์
12ข้าแต่พระเยโฮวาห์ขอทรงสดับคําอธิษฐานของข้า
พระองค์และทรงเงี่ยพระกรรณฟังเสียงร้องไห้ของข้า
พระองค์ขออย่าทรงนิ่งเฉยต่อนํ้าตาของข้าพระองค์
เพราะว่าข้าพระองค์เป็นแขกแปลกหน้าของพระองค์และเป็น
คนอาศัยชั่วคราวเช่นเดียวกับบรรพบุรุษของข้าพระองค์
ทั้งหลาย
13โปรดทรงละเว้นข้าพเจ้าไว้เพื่อข้าพเจ้าจะได้ฟื้นกําลังขึ้น
ใหม่ก่อนที่ข้าพเจ้าจะไปจากที่นี่และจะไม่มีอยู่อีกต่อไป
บทที่40
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงสดุดีของดาวิด)ข้าพเจ้ารอคอยพระ
เยโฮวาห์ด้วยความอดทนและพระองค์ทรงเอนพระกายเข้า
มาหาข้าพเจ้าและทรงฟังเสียงร้องของข้าพเจ้า
2พระองค์ได้ทรงดึงข้าพเจ้าขึ้นมาจากหลุมอันน่าสะพรึงกลัว
ออกจากโคลนตมและทรงวางเท้าของข้าพเจ้าไว้บนศิลา
และทรงทําให้ทางของข้าพเจ้ามั่นคงอยู่
3และพระองค์ได้ทรงใส่เพลงใหม่ในปากข้าพเจ้าคือเพลง
สรรเสริญแด่พระเจ้าของเราคนเป็นอันมากจะเห็นและเกรง
กลัวและวางใจในพระเจ้า
4ผู้ที่ทําให้พระเจ้าเป็นที่วางใจเป็นผู้ที่ได้รับพรและไม่
เคารพผู้เย่อหยิ่งหรือผู้ที่หันไปพึ่งคําโกหก
5ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของข้าพระองค์พระราชกิจอัน
มหัศจรรย์ของพระองค์ที่พระองค์ทรงกระทําและพระดําริ
ของพระองค์ที่มีต่อข้าพระองค์นั้นมีมากมายสิ่งเหล่านี้นับไม่
ถ้วนต่อหน้าพระองค์หากข้าพระองค์จะประกาศและพูดถึงสิ่ง
เหล่านี้ก็จะมีมากเกินกว่าจะนับได้
6พระองค์ไม่ทรงต้องการเครื่องบูชาและเครื่องบูชาไถ่บาป
แต่พระองค์ทรงเปิดหูของข้าพระองค์พระองค์ไม่ได้ทรง
เรียกร้องเครื่องเผาบูชาและเครื่องบูชาล้างบาป
7แล้วข้าพเจ้าก็กล่าวว่าดูเถิดข้าพเจ้ามาแล้วในหนังสือมี
เขียนถึงข้าพเจ้าไว้ว่า
8ข้าพระองค์ชอบที่จะกระทําตามพระประสงค์ของพระองค์
ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ธรรมบัญญัติของพระองค์อยู่ใน
จิตใจของข้าพระองค์
9ข้าพระองค์ได้ประกาศความชอบธรรมต่อหน้าชุมนุมชน
ใหญ่ดูเถิดข้าพระองค์มิได้ยับยั้งริมฝีปากของข้าพระองค์ไว้
เลยข้าแต่พระเยโฮวาห์พระองค์ทรงทราบ
10ข้าพระองค์มิได้ซ่อนความชอบธรรมของพระองค์ไว้ในใจ
ของข้าพระองค์ข้าพระองค์ได้ประกาศความซื่อสัตย์และ
ความรอดของพระองค์ข้าพระองค์มิได้ซ่อนความรักมั่นคง
และความจริงของพระองค์ไว้จากชุมนุมใหญ่
11ข้าแต่พระเยโฮวาห์ขออย่าทรงยับยั้งพระกรุณาอัน
อ่อนโยนของพระองค์จากข้าพระองค์เลยขอความรักมั่นคง
และความจริงของพระองค์คุ้มครองข้าพระองค์ไว้ตลอดไป
12เพราะความชั่วช้ามากมายได้ล้อมข้าพเจ้าไว้ความผิด
บาปของข้าพเจ้าได้ครอบงําข้าพเจ้าจนข้าพเจ้าไม่อาจเงย
หน้าขึ้นมองได้มันมากกว่าเส้นผมบนศีรษะของข้าพเจ้า
ฉะนั้นใจของข้าพเจ้าจึงล้มเหลว
13ข้าแต่พระเยโฮวาห์โปรดทรงพอพระทัยที่จะช่วยข้า
พระองค์ให้พ้นข้าแต่พระเยโฮวาห์โปรดทรงรีบมาช่วยข้า
พระองค์เถิด
14ขอให้พวกเขาที่แสวงหาชีวิตข้าพระองค์เพื่อทําลายมัน
ได้รับความอับอายและอับอายด้วยกันขอให้พวกเขาที่
ปรารถนาความชั่วต่อข้าพระองค์ได้รับความอับอายและถูกขับ
ไล่ถอยหลัง
15ขอให้พวกเขาต้องรกร้างว่างเปล่าเพื่อเป็นรางวัลสําหรับ
ความอับอายของพวกเขาที่พูดกับเราว่า“อะฮาอะฮา”
16ขอให้บรรดาผู้แสวงหาพระองค์ชื่นชมยินดีและยินดีใน
พระองค์ขอให้ผู้ที่รักความรอดของพระองค์กล่าวเสมอว่า
พระเจ้าทรงได้รับการยกย่อง
17ส่วนข้าพเจ้าเป็นคนยากจนและขัดสนแต่พระเจ้าทรงนึก
ถึงข้าพเจ้าพระองค์ทรงเป็นผู้ช่วยเหลือและผู้ปลดปล่อยของ
ข้าพเจ้าขออย่าทรงรอช้าเลยพระเจ้าของข้าพเจ้า

บทสดุดี
บทที่41
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงสดุดีของดาวิด)ผู้คํานึงถึงคน
ยากจนเป็นสุขพระเจ้าจะทรงช่วยเขาในยามทุกข์ยาก
2พระเจ้าจะทรงรักษาเขาไว้และให้เขามีชีวิตอยู่และเขาจะ
ได้รับพระพรบนแผ่นดินโลกและพระองค์จะไม่ทรงมอบเขา
ให้แก่ความประสงค์ของศัตรูของเขา
3พระเจ้าจะทรงเสริมกําลังเขาในยามที่เขาเจ็บป่วยและ
พระองค์จะทรงทําให้ทุกอย่างลงตัวในยามที่เขาเจ็บป่วย
4ข้าพเจ้ากล่าวว่าข้าแต่พระเยโฮวาห์โปรดทรงเมตตา
ข้าพเจ้าโปรดรักษาจิตวิญญาณของข้าพเจ้าด้วยเพราะ
ข้าพเจ้าได้ทําบาปต่อพระองค์
5ศัตรูของข้าพเจ้าพูดร้ายข้าพเจ้าว่า"เมื่อไรเขาจะตายและ
ชื่อของเขาจะต้องพินาศไป"
6และถ้าเขามาพบข้าพเจ้าเขาก็พูดจาเหลวไหลใจของเขา
เก็บรวบรวมความชั่วไว้เองเมื่อเขาออกไปเขาก็เล่าเรื่องนั้น
ให้คนอื่นฟัง
7บรรดาคนที่เกลียดชังข้าพระองค์ต่างก็กระซิบกันต่อต้าน
ข้าพระองค์พวกเขาคิดร้ายต่อข้าพระองค์
8พวกเขากล่าวว่าโรคร้ายนั้นติดตัวเขาไปและบัดนี้เมื่อเขา
นอนอยู่เขาก็จะไม่ลุกขึ้นอีกเลย
9แม้เพื่อนสนิทของข้าพเจ้าเองที่ข้าพเจ้าไว้วางใจและกิน
อาหารของข้าพเจ้าก็หันหลังกลับทําร้ายข้าพเจ้า
10แต่ข้าแต่พระเยโฮวาห์ขอพระองค์โปรดเมตตาข้า
พระองค์และโปรดทรงยกข้าพระองค์ขึ้นเพื่อข้าพระองค์จะ
ตอบแทนพวกเขาได้
11ด้วยเหตุนี้ข้าพเจ้าจึงรู้ว่าพระองค์ทรงโปรดปรานข้าพเจ้า
เพราะว่าศัตรูของข้าพเจ้าไม่เอาชนะข้าพเจ้าได้
12ส่วนข้าพเจ้าพระองค์ทรงคํ้าจุนข้าพเจ้าไว้ด้วยความ
ซื่อสัตย์และทรงตั้งข้าพเจ้าไว้ตรงพระพักตร์พระองค์
ตลอดไป
13จงถวายพระพรแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของอิสราเอล
ตั้งแต่ชั่วนิรันดร์และชั่วนิรันดร์อาเมนอาเมน
บทที่42
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงมัสชิลเพื่อลูกหลานของโคราห์)
กวางโหยหาลําธารที่มีนํ้าฉันใดจิตวิญญาณของฉันก็โหย
หาพระองค์ฉันนั้นข้าแต่พระเจ้า
2จิตวิญญาณของข้าพเจ้ากระหายหาพระเจ้าคือหาพระเจ้าผู้
ทรงชีวิตเมื่อไรข้าพเจ้าจะได้มาปรากฏต่อพระพักตร์พระเจ้า?
3นํ้าตาของข้าพเจ้าเป็นอาหารของข้าพเจ้าทั้งวันและคืน
ขณะที่คนพูดกับข้าพเจ้าอยู่เสมอว่า"พระเจ้าของเจ้าอยู่ที่
ไหน"
4เมื่อข้าพเจ้าระลึกถึงสิ่งเหล่านี้ข้าพเจ้าก็เทจิตวิญญาณ
ของข้าพเจ้าออกมาในตัวข้าพเจ้าเพราะว่าข้าพเจ้าได้ไปกับ
ฝูงชนข้าพเจ้าได้ไปกับพวกเขาไปยังพระนิเวศน์ของพระเจ้า
ด้วยเสียงแห่งความยินดีและคําสรรเสริญกับฝูงชนที่กําลังถือ
เทศกาลศักดิ์สิทธิ์
5เหตุใดเจ้าจึงเศร้าโศกจิตใจของข้าพเจ้าเอ๋ยและเหตุใด
เจ้าจึงกระสับกระส่ายอยู่ในตัวข้าพเจ้าจงวางใจในพระเจ้า
เพราะข้าพเจ้าจะยังสรรเสริญพระองค์สําหรับการช่วยเหลือที่
ปรากฏอยู่บนใบหน้าของพระองค์
6ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์จิตใจของข้าพระองค์เศร้า
หมองอยู่ภายในข้าพระองค์เพราะฉะนั้นข้าพระองค์จึงจะ
ระลึกถึงพระองค์ตั้งแต่แผ่นดินแห่งแม่นํ้าจอร์แดนจนถึงชาวเ
ฮอร์โมนตั้งแต่เนินเขามิซาร์
7เสียงนํ้าพุของพระองค์ที่ลึกก็เรียกหาที่ลึกคลื่นและระลอก
นํ้าของพระองค์ท่วมข้าพระองค์ไปหมด
8แต่พระเยโฮวาห์จะทรงบัญชาความรักมั่นคงของพระองค์
ในเวลากลางวันและในเวลากลางคืนเพลงของพระองค์จะ
อยู่กับข้าพเจ้าและคําอธิษฐานของข้าพเจ้าต่อพระเจ้าแห่ง
ชีวิตของข้าพเจ้า
9ข้าพเจ้าจะกล่าวแก่พระเจ้าผู้เป็นศิลาของข้าพเจ้าว่าเหตุ
ใดพระองค์ทรงลืมข้าพเจ้าเสียเหตุใดข้าพเจ้าจึงต้องไปครํ่า
ครวญเพราะการกดขี่ของศัตรู
10ศัตรูของข้าพเจ้าเยาะเย้ยข้าพเจ้าเหมือนกับมีดาบอยู่ใน
กระดูกของข้าพเจ้าขณะที่พวกเขากล่าวกับข้าพเจ้าทุกวันว่า
"พระเจ้าของเจ้าอยู่ที่ไหน?"
11เหตุใดเจ้าจึงหดหู่ใจจิตใจของข้าพเจ้าและเหตุใดเจ้าจึง
กระสับกระส่ายอยู่ภายในข้าพเจ้าจงหวังในพระเจ้าเพราะ
ข้าพเจ้าจะยังคงสรรเสริญพระองค์ผู้ทรงเป็นสุขภาพแห่ง
ใบหน้าของข้าพเจ้าและเป็นพระเจ้าของข้าพเจ้า
บทที่43
1ขอทรงพิพากษาข้าพระองค์เถิดพระเจ้าและทรงต่อสู้คดี
ของข้าพระองค์ต่อประชาชาติที่อธรรมขอทรงช่วยข้า
พระองค์ให้พ้นจากคนหลอกลวงและคนไม่ยุติธรรม
2เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของกําลังของข้าพเจ้าเหตุ
ใดพระองค์จึงทรงทอดทิ้งข้าพเจ้าเหตุใดข้าพเจ้าจึงต้องไป
ครํ่าครวญเพราะการกดขี่ของศัตรู
3โปรดส่งความสว่างและความจริงของพระองค์ออกไป
ขอให้สิ่งเหล่านี้นําทางข้าพระองค์ขอให้สิ่งเหล่านี้นําข้า
พระองค์ไปยังภูเขาอันบริสุทธิ์ของพระองค์และไปยังพลับ
พลาของพระองค์
4แล้วข้าพระองค์จะไปยังแท่นบูชาของพระเจ้าไปหาพระ
เจ้าผู้เป็นความยินดียิ่งของข้าพระองค์ข้าพระองค์จะ
สรรเสริญพระองค์ด้วยพิณโอ้พระเจ้าผู้เป็นพระเจ้าของข้า
พระองค์
5เหตุใดจิตใจของข้าพเจ้าจึงหดหู่และเหตุใดจิตใจของ
ข้าพเจ้าจึงกระสับกระส่ายจงหวังในพระเจ้าเพราะข้าพเจ้า
จะยังคงสรรเสริญพระองค์ผู้ทรงเป็นสุขภาพของใบหน้าของ
ข้าพเจ้าและเป็นพระเจ้าของข้าพเจ้า
บทที่44
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงสดุดีลูกหลานของโคราห์มัสคิล)
ข้าแต่พระเจ้าบรรพบุรุษของเราได้เล่าให้เราฟังถึงงานซึ่ง
พระองค์ทรงกระทําในสมัยของพวกเขาในสมัยโบราณ
2พระองค์ได้ขับไล่พวกต่างชาติออกไปด้วยพระหัตถ์ของ
พระองค์และทรงปลูกพวกเขาไว้และทรงทําให้ประชาชน
ทุกข์ยากและขับไล่พวกเขาออกไป
3เพราะเขาทั้งหลายมิได้ยึดครองแผ่นดินนั้นด้วยดาบของ
ตนเองและแขนของพวกเขาก็มิได้ช่วยพวกเขาให้รอดแต่
ด้วยพระหัตถ์ขวาและพระกรของพระองค์และความสว่างจาก
สีพระพักตร์ของพระองค์เพราะพระองค์ได้ทรงโปรดปราน
พวกเขา
4พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ของข้าพระองค์ข้าแต่พระเจ้าขอ
ทรงโปรดประทานการปลดปล่อยแก่ยาโคบ
5โดยพระองค์เราจะผลักดันศัตรูของเราลงและโดยพระ
นามของพระองค์เราจะเหยียบยํ่าพวกเขาที่ลุกขึ้นต่อต้านเรา
6เพราะว่าข้าพระองค์จะไม่วางใจในธนูของข้าพระองค์และ
ดาบของข้าพระองค์ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตข้าพระองค์ได้
7แต่พระองค์ได้ทรงช่วยเราให้พ้นจากศัตรูของเราและทรง
ทําให้ผู้ที่เกลียดชังเราต้องอับอาย
8เราอวดพระเจ้าตลอดวันและสรรเสริญพระนามของ
พระองค์ตลอดไปเซลาห์

บทสดุดี
9แต่ท่านได้ทอดทิ้งและทําให้เราอับอายและไม่เสด็จ
ออกไปกับกองทัพของเรา
10พระองค์ทรงทําให้เราหันกลับจากศัตรูและบรรดาผู้ที่
เกลียดชังเราก็ปล้นเอาทรัพย์สินของตนไป
11พระองค์ได้ทรงประทานพวกเราให้เป็นเหมือนแกะที่ถูก
กําหนดให้เป็นอาหารและทรงกระจายพวกเราไปท่ามกลาง
บรรดาประชาชาติต่างชาติ
12เจ้าขายประชากรของเจ้าไปฟรีๆและเจ้าไม่เพิ่มทรัพย์
สมบัติของเจ้าด้วยราคาของพวกเขา
13พระองค์ทรงทําให้เราเป็นที่อับอายแก่เพื่อนบ้านของเรา
เป็นที่เหยียดหยามและดูถูกเหยียดหยามแก่ผู้ที่อยู่รอบข้าง
เรา
14เจ้าทําให้เราเป็นคําด่ากันท่ามกลางพวกต่างชาติเป็นที่
สั่นหัวในหมู่ประชาชน
15ความอับอายของข้าพเจ้าอยู่ตรงหน้าข้าพเจ้าเสมอและ
ความอับอายของใบหน้าข้าพเจ้าก็ปกคลุมข้าพเจ้าไว้
16เพราะเสียงของคนตําหนิติเตียนและดูหมิ่นพระเจ้าโดย
อาศัยศัตรูและผู้แก้แค้น
17สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นแก่พวกเราแต่พวกเราก็มิได้ลืมพระองค์
และมิได้ประพฤติผิดในพันธสัญญาของพระองค์
18ใจของข้าพระองค์มิได้หันกลับและก้าวของข้าพระองค์
มิได้หันออกจากทางของพระองค์
19ถึงแม้ว่าพระองค์จะทรงทําให้เราแตกสลายในที่แห่งมังกร
และทรงปกคลุมเราไว้ด้วยเงาแห่งความตาย
20ถ้าเราลืมพระนามพระเจ้าของเราหรือยื่นมือของเรา
ออกไปยังพระเจ้าอื่น
21พระเจ้าจะไม่ทรงค้นหาเรื่องนี้หรือ?เพราะพระองค์ทรง
ทราบความลับของหัวใจ
22เพราะเห็นแก่ท่านข้าพระองค์ทั้งหลายจึงถูกฆ่าวันยังคํ่า
ข้าพระองค์ถูกนับเป็นแกะสําหรับฆ่า
23เหตุใดพระองค์จึงทรงหลับอยู่โปรดทรงลุกขึ้นเถิดอย่า
ทรงทอดทิ้งเราเสียเป็นนิตย์
24เหตุไฉนพระองค์จึงซ่อนพระพักตร์และลืมความทุกข์ยาก
และการกดขี่ของเราเสีย?
25เพราะว่าจิตวิญญาณของเราหมอบลงถึงผงคลีดินและ
ท้องของเราก็เกาะติดกับดิน
26ขอทรงลุกขึ้นช่วยเราและทรงไถ่เราเพราะพระเมตตาของ
พระองค์
บทที่45
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงสรรเสริญตามบทเพลงโชชานนิม
เพื่อลูกหลานของโคราห์มัสชิลเพลงแห่งความรัก)ใจของ
ข้าพเจ้ากําลังเขียนเรื่องดีๆข้าพเจ้าพูดถึงสิ่งต่างๆที่ข้าพเจ้า
ได้ทําเกี่ยวกับกษัตริย์ลิ้นของข้าพเจ้าเหมือนปากกาของ
นักเขียนที่ชํานาญ
2พระองค์มีพระสิริมงคลแก่บรรดาลูกหลานของมนุษย์
พระองค์ทรงหลั่งพระกรุณาลงบนริมฝีปากของพระองค์
เพราะฉะนั้นพระเจ้าจึงทรงอวยพรพระองค์ตลอดไป
3ขอทรงคาดดาบไว้ที่ต้นขาของพระองค์โอผู้ทรงอํานาจ
ที่สุดด้วยพระสิริรุ่งโรจน์และความสง่างามของพระองค์
4และขอพระองค์ทรงขี่ม้าอย่างรุ่งเรืองด้วยพระเกียรติคุณ
เพราะความจริงความอ่อนโยนและความชอบธรรมและพระ
หัตถ์ขวาของพระองค์จะสอนสิ่งที่น่ากลัวแก่พระองค์
5ลูกศรของพระองค์คมอยู่ในใจของศัตรูของกษัตริย์ทําให้
ประชาชนล้มลงภายใต้พระองค์
6พระที่นั่งของพระองค์ข้าแต่พระเจ้าดํารงอยู่ชั่วนิรันดร์คทา
แห่งราชอาณาจักรของพระองค์ก็เป็นคทาที่ถูกต้อง
7พระองค์ทรงรักความชอบธรรมและทรงเกลียดความชั่วร้าย
เพราะฉะนั้นพระเจ้าคือพระเจ้าของพระองค์ได้ทรงเจิม
พระองค์ด้วยนํ้ามันแห่งความยินดีเหนือบรรดาเพื่อนมนุษย์
ของพระองค์
8เสื้อผ้าของพระองค์ท่านทั้งสิ้นมีกลิ่นหอมของมดยอบและ
ว่านหางจระเข้และอบเชยจากพระราชวังงาช้างซึ่งทําให้
พระองค์ยินดี
ธิดาของกษัตริย์9องค์อยู่ท่ามกลางสตรีผู้มีเกียรติของคุณ
และทางขวามือของคุณก็มีราชินีผู้สวมทองคําแห่งโอฟีร์ยืน
อยู่
10จงฟังเถิดธิดาเอ๋ยจงพินิจพิจารณาและเอียงหูของเจ้า
ไว้และจงลืมชนชาติของเจ้าเองและลืมบ้านของบิดาเจ้า
เสีย
11ดังนั้นกษัตริย์จะทรงปรารถนาความงามของคุณอย่างยิ่ง
เพราะว่าเขาเป็นพระเจ้าของคุณและจงนมัสการพระองค์
12และธิดาแห่งเมืองไทร์จะอยู่ที่นั่นพร้อมด้วยของขวัญและ
คนรวยท่ามกลางประชาชนก็จะขอความโปรดปรานจากคุณ
13ธิดาของกษัตริย์มีสง่าราศีทั้งตัวเสื้อผ้าของเธอก็ทําด้วย
ทองคํา
14นางจะต้องถูกนําเข้ามาเฝ้ากษัตริย์ในชุดงานเย็บปักถัก
ร้อยและเพื่อนสาวพรหมจารีที่ติดตามนางจะต้องนําเข้ามา
เฝ้าพระองค์
15พวกเขาจะถูกพาไปด้วยความยินดีและรื่นเริงพวกเขาจะ
เข้าไปในพระราชวังของกษัตริย์
16บุตรทั้งหลายของพระองค์จะแทนบิดาของพระองค์ซึ่ง
พระองค์จะทรงตั้งให้เป็นเจ้านายทั่วแผ่นดินโลก
17ข้าพระองค์จะทําให้พระนามของพระองค์เป็นที่จดจําไป
ตลอดชั่วคนเพราะฉะนั้นประชาชนจะสรรเสริญพระองค์
ตลอดไปชั่วนิรันดร์
บทที่46
1(ถึงหัวหน้านักร้องสําหรับลูกหลานของโคราห์เพลงสดุดี
แห่งอาลาโมธ)พระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัยและความเข้มแข็งของ
เราเป็นความช่วยเหลือที่ทันท่วงทีในยามทุกข์ยาก
2เพราะฉะนั้นเราจะไม่กลัวเลยแม้ว่าแผ่นดินโลกจะเคลื่อน
ออกไปและแม้ว่าภูเขาทั้งหลายจะพัดลงไปในกลางทะเลก็
ตาม
3แม้นํ้าในนั้นคํารามและปั่นป่วนแม้ภูเขาสั่นสะเทือนเพราะ
คลื่นที่ซัดขึ้นมาเซลาห์
4มีแม่นํ้าสายหนึ่งซึ่งลําธารจะทําให้นครของพระเจ้ามีความ
ยินดีและเป็นที่บริสุทธิ์ของพลับพลาของผู้สูงสุด
5พระเจ้าทรงอยู่ท่ามกลางนางเธอจะไม่มีวันหวั่นไหวพระ
เจ้าจะทรงช่วยนางและจะทรงช่วยนางโดยเร็วที่สุด
6ประชาชาติทั้งหลายก็โกรธแค้นอาณาจักรทั้งหลายก็
เคลื่อนไหวพระองค์เปล่งพระสุรเสียงแผ่นดินก็ละลายไป
7พระเจ้าจอมโยธาทรงอยู่กับเราพระเจ้าของยาโคบทรงเป็น
ที่ลี้ภัยของเราเซลาห์
8จงมาดูการงานของพระเจ้าว่าพระองค์ทรงทําให้แผ่นดินรก
ร้างว่างเปล่าเพียงใด
9พระองค์ทรงทําให้สงครามยุติลงจนสุดแผ่นดินโลก
พระองค์ทรงหักธนูและฟันหอกให้แตกเป็นชิ้นๆพระองค์ทรง
เผารถศึกไว้ในกองไฟ
10จงสงบนิ่งและรู้เถิดว่าเราเป็นพระเจ้าเราจะได้รับการยก
ย่องท่ามกลางบรรดาประชาชาติเราจะได้รับการยกย่องใน
แผ่นดินโลก
11พระเจ้าจอมโยธาทรงอยู่กับเราพระเจ้าของยาโคบทรง
เป็นที่ลี้ภัยของเราเซลาห์

บทสดุดี
บทที่47
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงสดุดีสําหรับลูกหลานของโคราห์)
จงปรบมือเถิดทุกคนเอ๋ยจงร้องตะโกนต่อพระเจ้าด้วยเสียง
แห่งชัยชนะ
2เพราะว่าพระเยโฮวาห์ผู้สูงสุดนั้นน่ากลัวยิ่งพระองค์ทรง
เป็นพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่เหนือแผ่นดินโลกทั้งสิ้น
3พระองค์จะทรงปราบประชากรให้อยู่ใต้พวกเราและ
ปราบปรามประชาชาติต่างๆให้อยู่ใต้เท้าพวกเรา
4พระองค์จะทรงเลือกมรดกของเราให้แก่เราคือความสง่า
งามของยาโคบซึ่งพระองค์ทรงรักเซลาห์
5พระเจ้าทรงเสด็จขึ้นไปด้วยเสียงตะโกนพระเยโฮวาห์
เสด็จขึ้นไปด้วยเสียงแตร
6จงร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าจงร้องเพลงสรรเสริญจงร้อง
เพลงสรรเสริญพระราชาของเราจงร้องเพลงสรรเสริญ
เพราะว่าพระเจ้าทรงเป็นพระมหากษัตริย์เหนือแผ่นดินโลก
ทั้งสิ้นจงร้องเพลงสรรเสริญด้วยความเข้าใจ
8พระเจ้าทรงครอบครองเหนือบรรดาประชาชาติต่างชาติ
พระเจ้าทรงประทับบนพระที่นั่งแห่งความบริสุทธิ์ของ
พระองค์
9พวกผู้นําของประชาชนก็ประชุมกันคือประชาชนของพระ
เจ้าแห่งอับราฮัมเพราะว่าโล่แห่งแผ่นดินโลกเป็นของพระ
เจ้าพระองค์ทรงยกย่องยิ่งใหญ่
บทที่48
1(บทเพลงและสดุดีสําหรับลูกหลานของโคราห์)พระเจ้า
ยิ่งใหญ่และสมควรได้รับการสรรเสริญอย่างยิ่งในนครแห่ง
พระเจ้าของเราบนภูเขาแห่งความบริสุทธิ์ของพระองค์
2ภูเขาศิโยนซึ่งตั้งอยู่บนไหล่เขาทางทิศเหนือเป็นนครของ
พระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่เป็นสถานที่งดงามสําหรับความชื่น
บานของแผ่นดินโลกทั้งสิ้น
3พระเจ้าทรงเป็นที่รู้จักในพระราชวังของเธอในฐานะที่เป็น
สถานที่ลี้ภัย
4เพราะดูเถิดกษัตริย์ทั้งหลายประชุมกันและเสด็จไปพร้อม
กัน
5เมื่อพวกคนเหล่านั้นเห็นดังนั้นก็ประหลาดใจและตกใจ
มากจึงรีบหนีไป
6ความกลัวเข้าครอบงําพวกเขาที่นั่นและมีความเจ็บปวด
เหมือนกับสตรีที่กําลังคลอดบุตร
7พระองค์ทรงทําลายเรือแห่งเมืองทาร์ชิชด้วยลมตะวันออก
8เราได้ยินมาแล้วอย่างไรเราก็ได้เห็นแล้วอย่างนั้นในนคร
ของพระเจ้าจอมโยธาในนครของพระเจ้าของเราพระเจ้าจะ
ทรงสถาปนานครนั้นไว้เป็นนิตย์เซลาห์
9ข้าพระองค์คิดถึงความรักมั่นคงของพระองค์ข้าแต่พระเจ้า
ในท่ามกลางพระวิหารของพระองค์
10ตามพระนามของพระองค์ข้าแต่พระเจ้าคําสรรเสริญ
พระองค์ก็ไปถึงสุดปลายแผ่นดินโลกอย่างนั้นพระหัตถ์ขวา
ของพระองค์เต็มไปด้วยความชอบธรรม
11ขอให้ภูเขาศิโยนชื่นชมยินดีและให้ธิดาแห่งยูดาห์ชื่นชม
ยินดีเนื่องด้วยคําพิพากษาของพระองค์
12จงเดินรอบศิโยนและไปให้รอบเถิดบอกหอคอยของศิ
โยน
13จงสังเกตปราการของนางให้ดีและพิจารณาปราสาทของ
นางเพื่อจะได้บอกเรื่องนี้แก่คนรุ่นต่อไป
14เพราะพระเจ้าผู้นี้ทรงเป็นพระเจ้าของเราตลอดไปชั่วนิรัน
ดร์และจะทรงเป็นผู้นําเราแม้จนความตาย
บทที่49
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงสดุดีสําหรับลูกหลานของโคราห์)
จงฟังสิ่งนี้ทุกท่านที่อาศัยอยู่ในโลกจงเงี่ยหูฟัง
2ทั้งคนตํ่าและคนสูงทั้งคนรวยและคนจนก็อยู่ด้วยกัน
3ปากของข้าพเจ้าจะกล่าวถึงปัญญาและความคิดตรึกตรอง
ของใจข้าพเจ้าจะกล่าวถึงความเข้าใจ
4ข้าพระองค์จะเอียงหูฟังคําอุปมาข้าพระองค์จะเปล่งวาจา
อันมืดมนของข้าพระองค์ออกมาด้วยพิณ
5เหตุไฉนข้าพเจ้าจึงต้องกลัวในสมัยที่ชั่วร้ายเมื่อความชั่ว
ช้าของข้าพเจ้าจะล้อมข้าพเจ้าไว้
6คนที่วางใจในทรัพย์สมบัติของตนและอวดอ้างในทรัพย์
สมบัติอันมากมายของตน
7ไม่มีผู้ใดจะไถ่พี่น้องของตนได้และไม่อาจถวายค่าไถ่แด่
พระเจ้าเพื่อเขาได้
8(เพราะการไถ่ชีวิตของเขาเป็นสิ่งลํ้าค่าและไม่มีวันสิ้นสุด)
9เพื่อเขาจะได้มีชีวิตอยู่ตลอดไปและไม่ต้องเห็นความเน่า
เปื่อยอีก
10เพราะเขาเห็นว่าคนมีปัญญาก็ต้องตายคนโง่และคนโฉด
ก็ต้องพินาศและทิ้งทรัพย์สมบัติของตนไว้ให้คนอื่น
11ความคิดภายในของพวกเขาก็คือว่าบ้านเรือนของพวกเขา
จะคงอยู่ตลอดไปและที่อยู่อาศัยของพวกเขาจะคงอยู่ไปทุก
ชั่วคนพวกเขาเรียกดินแดนของตนตามชื่อของตนเอง
12แม้กระนั้นมนุษย์ก็ยังอยู่อย่างมีเกียรติไม่ได้เขาเป็น
เหมือนสัตว์ที่พินาศ
13นี่เป็นวิถีทางของพวกเขาที่เป็นความโง่เขลาแต่ลูกหลาน
ของพวกเขากลับเห็นด้วยกับคําพูดของพวกเขาเซลาห์
14เหมือนแกะที่ถูกวางไว้ในหลุมฝังศพความตายจะกินเนื้อ
พวกเขาและคนชอบธรรมจะครอบครองพวกเขาในยามเช้า
และความงามของพวกเขาจะถูกเผาผลาญในหลุมฝังศพจาก
ที่อยู่อาศัยของพวกเขา
15แต่พระเจ้าจะทรงไถ่จิตวิญญาณของข้าพเจ้าจากอํานาจ
ของหลุมฝังศพเพราะว่าพระองค์จะทรงรับข้าพเจ้าไว้
16อย่ากลัวเลยเมื่อคนๆหนึ่งรํ่ารวยขึ้นเมื่อสง่าราศีของบ้าน
ของเขาเพิ่มขึ้น
17เพราะเมื่อเขาตายเขาจะไม่สามารถเอาสิ่งใดติดตัวไปได้
เลยและสง่าราศีของเขาจะไม่ลงมาหาเขาอีก
18ถึงแม้ว่าขณะที่เขายังมีชีวิตอยู่เขาได้อวยพรจิตวิญญาณ
ของเขาและผู้คนจะสรรเสริญคุณเมื่อคุณทําดีต่อตัวคุณเอง
19เขาจะไปหาพวกบรรพบุรุษของเขาและพวกเขาจะไม่เห็น
แสงสว่างเลย
20มนุษย์ที่มีเกียรติแต่ไม่เข้าใจก็เป็นเหมือนสัตว์ที่พินาศ
บทที่50
1(สดุดีของอาสาฟ)พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่คือพระเยโฮวาห์ทรง
ตรัสและทรงเรียกแผ่นดินโลกตั้งแต่ที่ดวงอาทิตย์ขึ้นจนถึงที่
ดวงอาทิตย์ตก
2พระเจ้าทรงฉายแสงออกมาจากศิโยนซึ่งเป็นความงดงาม
อันสมบูรณ์แบบ
3พระเจ้าของเราจะเสด็จมาและจะไม่ทรงเงียบอยู่ไฟจะเผา
ผลาญต่อพระพักตร์พระองค์และโดยรอบพระองค์จะมีพายุ
รุนแรงมาก
4พระองค์จะทรงเรียกจากสวรรค์เบื้องบนและจากแผ่นดิน
โลกเพื่อพระองค์จะทรงพิพากษาประชากรของพระองค์
5จงรวบรวมบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ของฉันมาหาฉันคือผู้ที่ทํา
พันธสัญญากับฉันโดยการถวายเครื่องบูชา
6และสวรรค์จะประกาศความชอบธรรมของพระองค์เพราะว่า
พระเจ้าทรงเป็นผู้พิพากษาเองเซลาห์

บทสดุดี
7จงฟังเถิดประชาชนของฉันแล้วฉันจะพูดโอ้อิสราเอล
แล้วฉันจะเป็นพยานกล่าวโทษคุณฉันคือพระเจ้าคือพระ
เจ้าของคุณ
8เราจะไม่ตําหนิเจ้าเรื่องเครื่องบูชาของเจ้าและเรื่องเครื่อง
เผาบูชาของเจ้าที่ได้มีอยู่ต่อพระพักตร์เราเสมอ
9เราจะไม่นําวัวผู้จากบ้านของคุณและไม่นําแพะผู้จากคอก
ของคุณไปด้วย
10เพราะสัตว์ป่าทุกตัวเป็นของเราและสัตว์เลี้ยงบนเนินเขา
นับพันลูกก็เป็นของเรา
11ฉันรู้จักนกทุกตัวบนภูเขาและสัตว์ป่าในทุ่งก็เป็นของฉัน
12ถ้าเราหิวเราก็ไม่บอกเจ้าเพราะว่าโลกและสิ่งที่เต็มไป
หมดก็เป็นของเรา
13ฉันจะกินเนื้อวัวผู้หรือดื่มเลือดแพะหรือ?
14จงถวายการขอบพระคุณแด่พระเจ้าและจงทําตามคํา
ปฏิญาณต่อองค์ผู้สูงสุด
15และจงร้องเรียกเราในวันทุกข์ยากเราจะช่วยเจ้าให้พ้น
และเจ้าจะได้ถวายพระเกียรติแก่เรา
16แต่พระเจ้าตรัสแก่คนชั่วว่า"เจ้ามีสิทธิ์อะไรในการประกาศ
บัญญัติของเราหรือรับพันธสัญญาของเราไว้ในปากเจ้า"
17เพราะเจ้าเกลียดการสั่งสอนและโยนคําของเราไว้ข้าง
หลังเจ้า
18เมื่อเจ้าเห็นโจรเจ้าก็ยอมอยู่กับเขาและร่วมคบกับคนล่วง
ประเวณี
19เจ้าปล่อยให้ปากของเจ้าพูดกับสิ่งชั่วและลิ้นของเจ้าก็
สร้างการหลอกลวง
20เจ้านั่งพูดจาใส่ร้ายพี่น้องของเจ้าและเจ้าใส่ร้ายลูกชาย
มารดาของเจ้าเอง
21เจ้าได้กระทําสิ่งเหล่านี้แล้วแต่เรามิได้กระทําเจ้าคิดว่า
เราเป็นเหมือนเจ้าทุกประการแต่เราจะตักเตือนเจ้าและเรา
จะจัดลําดับสิ่งเหล่านี้ต่อหน้าเจ้า
22บัดนี้พวกท่านที่ลืมพระเจ้าจงพิจารณาสิ่งนี้เสียเพื่อว่า
เราจะไม่ฉีกพวกท่านเป็นชิ้นๆและจะไม่มีใครช่วยท่านได้
23ผู้ใดถวายคําสรรเสริญก็ถวายเกียรติแก่เราและเราจะ
สําแดงความรอดของพระเจ้าแก่ผู้ที่จัดลําดับการประพฤติ
ของตนอย่างถูกต้อง
บทที่51
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงสดุดีของดาวิดเมื่อนาธานผู้เผย
พระวจนะมาหาเขาหลังจากที่เขาได้เข้าไปหานางบัทเชบา
แล้ว)ขอทรงมีพระเมตตาต่อข้าพระองค์ตามพระกรุณาอัน
เปี่ยมล้นของพระองค์ขอทรงลบล้างการล่วงละเมิดของข้า
พระองค์ตามพระกรุณาอันล้นเหลือของพระองค์
2โปรดทรงชําระข้าพระองค์ให้พ้นจากความชั่วช้าของข้า
พระองค์และทรงชําระข้าพระองค์ให้พ้นจากบาปของข้า
พระองค์
3เพราะข้าพระองค์ยอมรับการล่วงละเมิดของข้าพระองค์
และความบาปของข้าพระองค์ก็อยู่ต่อหน้าข้าพระองค์เสมอ
4ข้าพระองค์ได้ทําบาปต่อพระองค์แต่ผู้เดียวและได้ทําสิ่ง
ชั่วร้ายในสายพระเนตรพระองค์เพื่อว่าพระองค์จะได้ทรง
ชอบธรรมเมื่อพระองค์ตรัสและทรงบริสุทธิ์เมื่อพระองค์
พิพากษา
5ดูเถิดข้าพระองค์เกิดมาในความชั่วและมารดาของข้า
พระองค์ก็ตั้งครรภ์ข้าพระองค์ในความบาป
6ดูเถิดพระองค์ทรงปรารถนาความจริงในส่วนลึกและ
พระองค์จะทรงทําให้ข้าพเจ้ารู้จักปัญญาในส่วนที่ซ่อนเร้น
7จงชําระข้าพระองค์ด้วยต้นฮิสโซปและข้าพระองค์จะ
สะอาดจงชําระข้าพระองค์และข้าพระองค์จะขาวกว่าหิมะ
8โปรดให้ข้าพเจ้าได้ยินความยินดีและความยินดีเพื่อกระดูก
ที่พระองค์ทรงหักนั้นจะชื่นชมยินดี
9โปรดซ่อนพระพักตร์จากบาปของข้าพระองค์และลบล้าง
ความชั่วของข้าพระองค์ทั้งหมด
10ขอทรงสร้างใจที่บริสุทธิ์ในตัวข้าพระองค์เถิดพระเจ้า
และทรงสร้างจิตใจอันชอบธรรมขึ้นใหม่ในตัวข้าพระองค์
11ขออย่าทรงขับไล่ข้าพระองค์ไปจากพระพักตร์ของ
พระองค์และขออย่าทรงนําพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์
ไปจากข้าพระองค์
12โปรดทรงคืนความชื่นบานแห่งความรอดให้แก่ข้าพระองค์
และโปรดทรงชูข้าพระองค์ไว้ด้วยจิตวิญญาณอันเสรีของ
พระองค์
13แล้วข้าพระองค์จะสอนผู้ละเมิดถึงทางของพระองค์และ
คนบาปจะกลับใจมาหาพระองค์
14ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากความผิดฐานทําโลหิต
ตกข้าแต่พระเจ้าผู้เป็นพระเจ้าแห่งความรอดของข้า
พระองค์และลิ้นของข้าพระองค์จะร้องเพลงสรรเสริญ
ความชอบธรรมของพระองค์
15ข้าแต่พระเยโฮวาห์โปรดทรงเปิดริมฝีปากของข้า
พระองค์และปากของข้าพระองค์จะกล่าวสรรเสริญพระองค์
16เพราะว่าพระองค์ไม่ทรงต้องการเครื่องบูชาถ้าไม่มีเครื่อง
บูชานั้นข้าพระองค์ก็จะถวายให้พระองค์ไม่ทรงพอพระทัย
ในเครื่องเผาบูชา
เครื่องบูชาที่พระเจ้าทรงถวายคือจิตใจที่แตกสลายจิตใจที่
ชอกชํ้าและสํานึกผิดนั้นพระเจ้ามิได้ทรงดูหมิ่น
18ขอทรงกระทําความดีต่อศิโยนตามพระกรุณาของพระองค์
ขอทรงสร้างกําแพงแห่งเยรูซาเล็ม
19แล้วพระองค์จะทรงพอพระทัยในเครื่องบูชาแห่ง
ความชอบธรรมด้วยเครื่องเผาบูชาและเครื่องเผาบูชาทั้งตัว
แล้วพวกเขาจะถวายวัวตัวผู้บนแท่นบูชาของพระองค์
บทที่52
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงมัสชิลสดุดีของดาวิดเมื่อโดเอก
ชาวเอโดมมาแจ้งแก่ซาอูลและกล่าวแก่เขาว่าดาวิดได้ไปที่
บ้านของอาหิเมเลคแล้ว)เหตุใดท่านจึงโอ้อวดในความชั่ว
ร้ายโอ้ผู้ยิ่งใหญ่ความดีของพระเจ้าดํารงอยู่ตลอดไป
2ลิ้นของเจ้าคิดแผนการชั่วร้ายเหมือนมีดโกนที่คมซึ่งทํา
การหลอกลวง
3เจ้ารักความชั่วมากกว่าความดีและการโกหกมากกว่าการ
พูดความชอบธรรมเซลาห์
4เจ้ารักคําที่กลืนกินทุกคําโอลิ้นที่หลอกลวง
5พระเจ้าจะทรงทําลายเจ้าเสียตลอดกาลพระองค์จะทรงนํา
เจ้าไปจากที่อยู่ของเจ้าและจะทรงถอนรากเจ้าออกจาก
แผ่นดินของผู้มีชีวิตเซลาห์
6คนชอบธรรมจะเห็นและกลัวและจะหัวเราะเยาะเขา
7ดูเถิดบุคคลผู้นี้มิได้ให้พระเจ้าเป็นกําลังของตนแต่กลับ
วางใจในความอุดมสมบูรณ์ของทรัพย์สมบัติของตนและ
เสริมกําลังตนเองด้วยความชั่วของตน
8แต่ข้าพระองค์เป็นเหมือนต้นมะกอกเขียวอยู่ในพระนิเวศ
ของพระเจ้าข้าพระองค์วางใจในความเมตตาของพระเจ้า
ตลอดไปชั่วนิรันดร์
9ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์ตลอดไปเพราะพระองค์ได้
ทรงกระทําเช่นนั้นและข้าพระองค์จะรอคอยพระนามของ
พระองค์เพราะเป็นพระนามที่ดีต่อบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ของ
พระองค์

บทสดุดี
บทที่53
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้ามัสชิลบทเพลง
สรรเสริญของดาวิด)คนโง่พูดในใจว่า"ไม่มีพระเจ้า"พวก
เขาทุจริตและกระทําความชั่วช้าน่ารังเกียจไม่มีใครทําดี
2พระเจ้าทรงมองลงมาจากสวรรค์ดูมนุษย์เพื่อดูว่ามีคน
ใดบ้างที่เข้าใจและแสวงหาพระเจ้า
3พวกเขาทั้งหมดก็กลับไปเป็นเหมือนเดิมพวกเขาทั้งหมดก็
กลายเป็นคนสกปรกไม่มีใครทําดีไม่มีสักคนเดียว
4พวกผู้กระทําความชั่วไม่มีความรู้หรือ?พวกเขากิน
ประชากรของฉันเหมือนกินขนมปังพวกเขาไม่ได้ร้องเรียก
พระเจ้า
5พวกเขาอยู่นั่นกลัวยิ่งนักในที่ซึ่งไม่กลัวเลยเพราะพระเจ้า
ทรงกระจายกระดูกของคนที่ตั้งค่ายต่อต้านเจ้าพระองค์ได้
ทรงทําให้พวกเขาอับอายเพราะพระเจ้าทรงเหยียดหยาม
พวกเขา
6ขอให้ความรอดของอิสราเอลมาจากศิโยนเถิดเมื่อพระเจ้า
ทรงนําเชลยแห่งประชากรของพระองค์กลับคืนมายาโคบจะ
ชื่นชมยินดีและอิสราเอลจะยินดี
บทที่54
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงในเพลงเนกิโนธมัสชิลสดุดีของ
ดาวิดเมื่อพวกซิฟิมเข้ามาและกล่าวแก่ซาอูลว่า“ดาวิดไม่
ซ่อนตัวอยู่กับพวกเราหรือ?”)ขอทรงช่วยข้าพระองค์ด้วยพระ
นามของพระองค์และทรงพิพากษาข้าพระองค์ด้วยพระกําลัง
ของพระองค์
2ขอทรงฟังคําอธิษฐานของข้าพระองค์ข้าแต่พระเจ้าโปรด
เงี่ยพระกรรณฟังถ้อยคําจากปากข้าพระองค์
3เพราะคนแปลกหน้าลุกขึ้นต่อต้านข้าพเจ้าและผู้ข่มเหง
แสวงหาชีวิตของข้าพเจ้าพวกเขาไม่ได้ตั้งพระเจ้าไว้
ตรงหน้าพวกเขาเซลาห์
4ดูเถิดพระเจ้าทรงเป็นผู้ช่วยของข้าพเจ้าพระเจ้าทรงอยู่กับ
ผู้ที่คํ้าจุนจิตวิญญาณของข้าพเจ้า
5พระองค์จะทรงตอบแทนความชั่วแก่ศัตรูของข้าพระองค์
ขอทรงตัดพวกเขาออกด้วยความจริงของพระองค์
6ข้าพระองค์จะถวายสัตวบูชาแด่พระองค์อย่างเต็มใจข้า
พระองค์จะสรรเสริญพระนามของพระองค์ข้าแต่พระเยโฮ
วาห์เพราะพระนามนั้นดี
เพราะพระองค์ทรงช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากความทุกข์ยาก
ทั้งสิ้นและตาของข้าพเจ้าได้เห็นความปรารถนาของ
พระองค์ต่อศัตรูของข้าพเจ้า
บทที่55
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงในเพลงเนกิโนธมัสชิลสดุดีของ
ดาวิด)ขอทรงเงี่ยพระกรรณฟังคําอธิษฐานของข้าพระองค์
ข้าแต่พระเจ้าและอย่าซ่อนพระองค์จากคําวิงวอนของข้า
พระองค์
2ขอทรงสดับและฟังข้าพระองค์ข้าพระองค์ครํ่าครวญใน
ความเจ็บไข้ของข้าพระองค์และส่งเสียงร้อง
3เพราะเสียงของศัตรูเพราะการข่มเหงของคนชั่วเพราะว่า
พวกเขาโยนความชั่วใส่ฉันและในความโกรธพวกเขาเกลียด
ชังฉัน
4ใจของข้าพเจ้าเจ็บปวดอยู่ภายในข้าพเจ้าและความ
หวาดกลัวแห่งความตายก็ตกอยู่บนข้าพเจ้า
5ความหวาดกลัวและความสั่นสะเทือนได้เกิดขึ้นกับข้าพเจ้า
และความสยดสยองได้ครอบงําข้าพเจ้า
6ข้าพเจ้ากล่าวว่าถ้าข้าพเจ้ามีปีกเหมือนนกพิราบก็จะดี
เพราะจะได้บินไปและได้พักผ่อน
7ดูเถิดข้าพเจ้าคงจะหนีไปไกลและคงอยู่ในถิ่นทุรกันดาร
ต่อไป
8ข้าพเจ้าจะรีบหนีจากพายุลมแรงและพายุฝนฟ้าคะนอง
9ขอทรงทําลายเสียเถิดพระเจ้าและแบ่งแยกภาษาของ
พวกเขาเสียเพราะว่าข้าพระองค์ได้เห็นความรุนแรงและการ
ทะเลาะวิวาทในเมือง
10พวกเขาเดินไปมาบนกําแพงเมืองนั้นทั้งวันและคืนมีเรื่อง
เลวร้ายและความเศร้าโศกอยู่ท่ามกลางนั้น
11มีความชั่วร้ายอยู่ท่ามกลางเธอความหลอกลวงและการ
หลอกลวงไม่หายไปจากถนนของเธอ
12เพราะว่าศัตรูมิได้เป็นผู้ตําหนิติเตียนข้าพเจ้าข้าพเจ้าจึง
สามารถทนต่อศัตรูนั้นได้และผู้ที่เกลียดชังข้าพเจ้าก็มิใช่
เป็นผู้ยิ่งใหญ่ต่อข้าพเจ้าข้าพเจ้าจึงจะซ่อนตัวจากเขา
13แต่เป็นเจ้าเป็นคนเสมอเหมือนฉันเป็นผู้นําทางและเป็น
คนรู้จักของฉัน
14เราจึงสนทนากันอย่างชื่นบานและเดินไปที่พระนิเวศน์
ของพระเจ้าด้วยกัน
15ขอให้ความตายจับพวกเขาไว้และขอให้พวกเขาลงไปสู่
นรกโดยเร็วเพราะว่าความชั่วร้ายอยู่ในที่อยู่อาศัยของพวก
เขาและท่ามกลางพวกเขา
16ส่วนข้าพเจ้าจะร้องทูลต่อพระเจ้าและพระเจ้าจะทรงช่วย
ข้าพเจ้า
17เวลาเย็นเวลาเช้าและเวลาเที่ยงข้าพเจ้าจะอธิษฐาน
และร้องตะโกนและพระองค์จะทรงฟังเสียงของข้าพเจ้า
18พระองค์ทรงช่วยชีวิตของข้าพเจ้าให้รอดจากสงครามที่
โจมตีข้าพเจ้าเพราะว่ามีคนเป็นอันมากอยู่ร่วมกับข้าพเจ้า
19พระเจ้าจะทรงสดับฟังและทรงลงโทษพวกเขาแม้แต่ผู้ที่
ดํารงอยู่แต่โบราณกาลเซลาห์เพราะว่าพวกเขาไม่มีการ
เปลี่ยนแปลงดังนั้นพวกเขาจึงไม่เกรงกลัวพระเจ้า
20เขาได้ยื่นมือของเขาต่อสู้บุคคลผู้มีสันติกับเขาเขาได้
ละเมิดพันธสัญญาของเขา
21ถ้อยคําจากปากของเขานุ่มนวลกว่าเนยแต่สงครามอยู่ใน
ใจของเขาถ้อยคําของเขานุ่มนวลกว่านํ้ามันแต่กลับเป็นดาบ
ที่ชักออกมา
22จงมอบภาระของคุณไว้กับพระเยโฮวาห์และพระองค์จะ
ทรงคํ้าจุนคุณพระองค์จะไม่ทรงยอมให้ผู้ชอบธรรมหวั่นไหว
เลย
23แต่พระเจ้าข้าพระองค์จะทรงเหวี่ยงพวกเขาลงในหลุม
แห่งความพินาศคนกระหายเลือดและคนหลอกลวงจะมีชีวิต
อยู่ได้ไม่ถึงครึ่งวันของอายุขัยของพวกเขาแต่ข้าพระองค์จะ
วางใจในพระองค์
บทที่56
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงแห่งโยนาเธเลมเรโคคิมมิคทาม
แห่งดาวิดเมื่อพวกฟีลิสเตียจับเขาไว้ที่เมืองกัท)ขอทรงมี
เมตตาต่อข้าพระองค์เถิดพระเจ้าเพราะว่ามนุษย์จะกลืนข้า
พระองค์เสียเขาข่มเหงข้าพระองค์อยู่ทุกวัน
2ศัตรูของข้าพระองค์จะกลืนข้าพระองค์ทุกวันเพราะว่ามี
จํานวนมากที่ต่อสู้ข้าพระองค์โอ้พระองค์ผู้สูงสุด
3เมื่อข้าพระองค์กลัวข้าพระองค์จะวางใจในพระองค์
4ในพระเจ้าฉันจะสรรเสริญพระวจนะของพระองค์ในพระเจ้า
ฉันวางใจฉันจะไม่กลัวว่าเนื้อหนังจะทําอะไรฉันได้
5พวกเขาบิดเบือนคําพูดของข้าพระองค์ทุกวันความคิดของ
พวกเขาทั้งหมดมุ่งร้ายต่อข้าพระองค์

บทสดุดี
6พวกเขารวมตัวกันพวกเขาซ่อนตัวพวกเขาสังเกตรอยเท้า
ของข้าพระองค์เมื่อพวกเขารอคอยจิตวิญญาณของข้า
พระองค์
7พวกเขาจะหนีรอดไปได้เพราะความชั่วหรือ?ด้วยพระพิโรธ
ของพระองค์ขอทรงเหวี่ยงประชากรลงเถิดพระเจ้า
8ท่านเล่าถึงการระหกระเหินของข้าพเจ้าท่านทรงเก็บนํ้าตา
ของข้าพเจ้าใส่ขวดของท่านนํ้าตานั้นไม่อยู่ในหนังสือของ
ท่านหรือ?
9เมื่อข้าพระองค์ร้องเรียกพระองค์ศัตรูของข้าพระองค์ก็จะ
หันกลับข้าพระองค์ทราบเรื่องนี้เพราะว่าพระเจ้าทรงอยู่ฝ่าย
ข้าพระองค์
10ในพระเจ้าข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระวจนะของพระองค์ใน
พระเจ้าข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระวจนะของพระองค์
11ข้าพระองค์วางใจในพระเจ้าข้าพระองค์จะไม่กลัวว่า
มนุษย์จะทําอะไรข้าพระองค์ได้
12ข้าแต่พระเจ้าข้าพระองค์ขอถวายคําปฏิญาณของ
พระองค์ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์
13เพราะพระองค์ได้ทรงช่วยชีวิตข้าพระองค์ให้พ้นจากความ
ตายแล้วและพระองค์จะไม่ทรงช่วยเท้าข้าพระองค์ให้พ้น
จากการล้มหรือเพื่อข้าพระองค์จะได้เดินไปต่อหน้าพระเจ้า
ในความสว่างแห่งชีวิตหรือ?
บทที่57
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงอัลทัสชิธมิคทามแห่งดาวิดเมื่อ
เขาหลบหนีจากซาอูลในถํ้า)ขอทรงมีพระกรุณาต่อข้า
พระองค์ข้าแต่พระเจ้าขอทรงมีพระกรุณาต่อข้าพระองค์
เพราะว่าจิตวิญญาณของข้าพระองค์วางใจในพระองค์ข้า
พระองค์จะลี้ภัยอยู่ภายใต้ร่มปีกของพระองค์จนกว่าภัยพิบัติ
เหล่านี้จะผ่านพ้นไป
2ข้าพเจ้าจะร้องเรียกพระเจ้าผู้สูงสุดคือพระเจ้าผู้ทรงกระทํา
ทุกสิ่งเพื่อข้าพเจ้า
3พระองค์จะทรงส่งมาจากสวรรค์และช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจาก
การดูหมิ่นของคนที่จะกลืนข้าพเจ้าเสียเซลาห์พระเจ้าจะ
ทรงส่งความเมตตาและความจริงของพระองค์มา
4จิตวิญญาณของฉันอยู่ท่ามกลางพวกสิงโตและฉันยังนอน
อยู่ท่ามกลางพวกที่ถูกจุดไฟเผาคือบุตรของมนุษย์ที่มีฟัน
เป็นหอกและลูกศรและลิ้นของพวกเขาเป็นดาบที่คม
5ข้าแต่พระเจ้าขอพระองค์ทรงยกย่องเหนือฟ้าสวรรค์และ
ขอให้พระสิริของพระองค์สูงส่งเหนือแผ่นดินโลกทั้งสิ้น
6พวกเขาได้เตรียมตาข่ายไว้สําหรับย่างเท้าของข้าพระองค์
จิตใจข้าพระองค์ก็หมอบลงพวกเขาได้ขุดหลุมไว้ต่อหน้าข้า
พระองค์และพวกเขาก็ล้มลงไปในหลุมนั้นเสียแล้วเซลาห์
7ใจของข้าพระองค์มั่นคงแล้วข้าแต่พระเจ้าใจของข้า
พระองค์มั่นคงแล้วข้าพระองค์จะร้องเพลงสรรเสริญ
8จงตื่นเถิดผู้ทรงเกียรติของฉันจงตื่นเถิดพิณและพิณเล็ก
ๆจงตื่นเถิดฉันเองจะตื่นแต่เช้า
9ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์ท่ามกลางประชาชนข้า
พระองค์จะร้องเพลงสรรเสริญพระองค์ท่ามกลางประชาชาติ
ต่างๆ
10เพราะว่าพระกรุณาของพระองค์ใหญ่ถึงฟ้าสวรรค์และ
ความจริงของพระองค์ก็สูงถึงเมฆ
11ข้าแต่พระเจ้าขอพระองค์ทรงยกย่องเหนือฟ้าสวรรค์
ขอให้พระสิริของพระองค์สูงส่งเหนือแผ่นดินโลกทั้งสิ้น
บทที่58
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงอัลทัสคิธมิคทามแห่งดาวิด)พวก
ท่านพูดจาชอบธรรมจริงหรือชุมชนเอ๋ยพวกท่านพิพากษา
อย่างเที่ยงธรรมหรือไม่บุตรแห่งมนุษย์เอ๋ย
2แม้พวกท่านคิดชั่วในใจและชั่งความรุนแรงที่มือพวกท่าน
กระทําลงในแผ่นดิน
3คนชั่วหลงผิดตั้งแต่เกิดหลงผิดตั้งแต่เกิดมาโดยพูด
โกหก
4พิษของเขาทั้งหลายเหมือนพิษงูเขาทั้งหลายเหมือนงูเห่า
หูหนวกที่อุดหูของตน
5ซึ่งไม่เคยฟังเสียงของนักจับเสน่ห์ผู้ที่ไม่เคยจับเสน่ห์
อย่างฉลาดมาก่อน
6ขอพระเจ้าทรงหักฟันในปากของพวกเขาเสียขอพระเจ้า
ทรงหักฟันอันใหญ่ของสิงโตหนุ่มเสีย
7ขอให้พวกเขาละลายไปเหมือนนํ้าที่ไหลไม่หยุดเมื่อ
พระองค์ทรงงอธนูเพื่อยิงลูกศรขอให้พวกเขาถูกหั่นเป็นชิ้น

8เหมือนหอยทากที่ละลายขอให้ทุกสิ่งหายไปเหมือนการ
เกิดก่อนเวลาอันควรของสตรีเพื่อจะไม่เห็นดวงอาทิตย์
9ก่อนที่หม้อของท่านจะรู้สึกถึงหนามพระองค์จะทรงกําจัด
มันออกไปเหมือนพายุหมุนทั้งที่ยังมีชีวิตและในความพิโรธ
ของพระองค์
10คนชอบธรรมจะชื่นชมยินดีเมื่อเห็นการแก้แค้นเขาจะล้าง
เท้าของเขาด้วยโลหิตของคนชั่ว
11เพื่อให้คนกล่าวว่าแท้จริงมีรางวัลสําหรับผู้ชอบธรรม
แท้จริงพระองค์คือพระเจ้าผู้ทรงพิพากษาบนแผ่นดินโลก
บทที่59
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงอัลทัสชิธมิคทามแห่งดาวิดเมื่อ
ซาอูลส่งคนไปเฝ้าบ้านเพื่อจะฆ่าเขา)ขอทรงช่วยข้าพระองค์
ให้พ้นจากศัตรูของข้าพระองค์ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์
ขอทรงปกป้องข้าพระองค์จากผู้ที่ลุกขึ้นต่อต้านข้าพระองค์
2ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากคนทําความชั่วและทรง
ช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากคนกระหายเลือด
3เพราะดูเถิดพวกเขาซุ่มคอยเอาชีวิตข้าพระองค์เหล่าผู้มี
อํานาจก็รวมตัวต่อต้านข้าพระองค์ไม่ใช่เพราะการละเมิด
ของข้าพระองค์หรือเพราะบาปของข้าพระองค์เลยข้าแต่
พระเยโฮวาห์
4พวกเขาวิ่งไปเตรียมตัวโดยไม่มีความผิดของข้าพเจ้าพวก
เขาตื่นขึ้นเพื่อช่วยข้าพเจ้าและมองดู
5เพราะฉะนั้นพระเยโฮวาห์พระเจ้าจอมโยธาพระเจ้าของ
อิสราเอลขอพระองค์โปรดทรงตื่นขึ้นเพื่อทรงเยี่ยมเยียน
บรรดาคนต่างชาติขออย่าทรงมีเมตตาต่อคนชั่วร้ายที่ล่วง
ละเมิดเลยเซลาห์
6พวกเขาก็กลับมาในตอนเย็นพวกเขาก็ส่งเสียงดังเหมือน
สุนัขและเดินไปทั่วเมือง
7ดูเถิดพวกเขาพ่นคําพูดออกมามีดาบอยู่ในริมฝีปากของ
พวกเขาเพราะพวกเขาคิดว่าใครจะได้ยิน?
8แต่พระองค์เองพระเจ้าจะทรงหัวเราะเยาะพวกเขาและคน
ต่างชาติทั้งปวงจะต้องหัวเราะเยาะพระองค์
9เพราะพระกําลังของพระองค์ข้าพระองค์จะคอยพระองค์
เพราะว่าพระเจ้าทรงเป็นผู้พิทักษ์ข้าพระองค์
10พระเจ้าแห่งความเมตตาของข้าพเจ้าจะทรงป้องกัน
ข้าพเจ้าพระเจ้าจะทรงให้ข้าพเจ้าเห็นความปรารถนาของ
ข้าพเจ้าต่อศัตรูของข้าพเจ้า

บทสดุดี
11อย่าสังหารพวกเขาเลยเพื่อประชาชนของข้าพเจ้าจะลืม
ขอทรงกระจายพวกเขาด้วยพระอํานาจของคุณและทรง
ทําลายพวกเขาลงโอ้พระเยโฮวาโล่ของพวกเรา
12เพราะบาปแห่งปากของพวกเขาและถ้อยคําแห่งริมฝีปาก
ของพวกเขาขอให้พวกเขาตกอยู่ในความเย่อหยิ่งและ
เพราะการสาปแช่งและการโกหกที่พวกเขาพูด
13ขอทรงเผาผลาญพวกเขาด้วยพระพิโรธขอทรงเผา
ผลาญพวกเขาเสียเพื่อพวกเขาจะไม่มีอีกต่อไปและขอให้
พวกเขารู้ว่าพระเจ้าทรงปกครองในยาโคบจนสุดปลาย
แผ่นดินโลกเซลาห์
14และเมื่อถึงเวลาเย็นให้พวกเขากลับไปและให้พวกเขา
ส่งเสียงดังเหมือนสุนัขและเดินไปรอบๆเมือง
15ปล่อยให้พวกเขาเที่ยวไปกินและบ่นว่าไม่พอใจ
16แต่ข้าพระองค์จะร้องเพลงถึงพระเดชานุภาพของพระองค์
ข้าพระองค์จะร้องเพลงด้วยเสียงดังถึงพระเมตตาของ
พระองค์ในยามเช้าเพราะว่าพระองค์ทรงเป็นป้อมปราการ
และที่ลี้ภัยของข้าพระองค์ในวันทุกข์ยากของข้าพระองค์
17ข้าพระองค์จะร้องเพลงสรรเสริญพระองค์ผู้เป็นกําลังของ
ข้าพระองค์เพราะพระเจ้าทรงเป็นแนวป้องกันข้าพระองค์
และทรงเป็นพระเจ้าแห่งความเมตตาของข้าพระองค์
บทที่60
1(ถึงหัวหน้านักร้องในนครชูสาเนดูธมิคทามแห่งดาวิดเพื่อ
สอนเมื่อเขาโต้เถียงกับอารามนาฮาราอิมและกับอารามโซ
บาห์เมื่อโยอาบกลับมาและโจมตีเอโดมในหุบเขาเกลือหนึ่ง
หมื่นสองพันคน)ข้าแต่พระเจ้าพระองค์ทรงทอดทิ้งพวกเรา
พระองค์ทรงกระจัดกระจายพวกเราพระองค์ทรงไม่พอพระ
ทัยข้าแต่พระเจ้าขอพระองค์ทรงหันพระองค์กลับมาหาพวก
เราอีกครั้ง
2พระองค์ทรงทําให้แผ่นดินโลกสั่นสะเทือนพระองค์ทรงทํา
ให้มันแตกร้าวโปรดรักษารอยแตกของแผ่นดินโลกเพราะมัน
สั่นสะเทือน
3พระองค์ได้ทรงแสดงสิ่งที่ยากลําบากแก่ประชากรของ
พระองค์พระองค์ได้ทรงให้เราได้ดื่มไวน์แห่งความประหลาด
ใจ
4พระองค์ได้ทรงประทานธงให้ผู้ที่ยําเกรงพระองค์เพื่อจะได้
แสดงให้คนเหล่านั้นเห็นความจริงเซลาห์
5เพื่อว่าผู้ที่พระองค์ทรงรักจะได้รับการช่วยให้พ้นขอทรง
ช่วยโดยพระหัตถ์ขวาของพระองค์และทรงฟังข้าพระองค์
6พระเจ้าได้ตรัสในความบริสุทธิ์ของพระองค์ว่า“เราจะชื่น
ชมยินดีเราจะแบ่งเมืองเชเค็มและแบ่งหุบเขาซุคโคธออก”
7กิลอาดเป็นของเราและมนัสเสห์ก็เป็นของเราเอฟราอิม
เป็นที่พึ่งของเรายูดาห์เป็นผู้บัญญัติธรรมบัญญัติของเรา
8โมอาบเป็นอ่างล้างของฉันฉันจะโยนรองเท้าของฉันลงบน
เอโดมฟีลิสเตียเจ้าจงมีชัยชนะเพราะฉัน
9ใครจะพาข้าพเจ้าเข้าไปในเมืองเข้มแข็ง?ใครจะพา
ข้าพเจ้าเข้าไปในเอโดม?
10พระองค์ผู้ได้ทรงทอดทิ้งพวกเราเสียแล้วหรือ?และ
พระองค์ผู้มิได้ทรงเสด็จออกไปกับกองทัพของพวกเราเล่า?
11ขอทรงช่วยเหลือเราให้พ้นจากความยากลําบากเพราะ
ความช่วยเหลือของมนุษย์นั้นไร้ผล
12โดยพระเจ้าเราจะกระทําด้วยความกล้าหาญเพราะว่า
พระองค์คือผู้ที่จะเหยียบยํ่าศัตรูของเรา
บทที่61
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงสดุดีเนกินาห์ของดาวิด)ขอทรง
สดับเสียงร้องไห้ของข้าพระองค์ขอทรงสดับคําอธิษฐาน
ของข้าพระองค์
2เมื่อใจข้าพเจ้าท้อแท้ข้าพเจ้าจะร้องเรียกพระองค์จาก
ปลายแผ่นดินโลกโปรดนําข้าพเจ้ามายังศิลาที่สูงกว่า
ข้าพเจ้า
3เพราะท่านได้ทรงเป็นที่ลี้ภัยแก่ข้าพระองค์และเป็น
หอคอยแข็งแกร่งให้พ้นจากศัตรู
4ข้าพระองค์จะสถิตอยู่ในพลับพลาของพระองค์ตลอดไป
ข้าพระองค์จะวางใจในที่กําบังแห่งปีกของพระองค์เซลาห์
5เพราะว่าพระองค์ทรงฟังคําปฏิญาณของข้าพระองค์ข้าแต่
พระเจ้าพระองค์ทรงประทานมรดกของผู้ที่ยําเกรงพระนาม
ของพระองค์ให้แก่ข้าพระองค์
6พระองค์จะทรงยืดพระชนม์ชีพของกษัตริย์และทรงยืดปี
เดือนของพระองค์ให้ยืนนานหลายชั่วรุ่น
7เขาจะยืนอยู่ต่อพระพักตร์พระเจ้าตลอดไปจงเตรียมความ
เมตตาและความจริงไว้ซึ่งจะรักษาเขาไว้
8ข้าพระองค์จะร้องเพลงสรรเสริญพระนามของพระองค์
ตลอดไปเพื่อข้าพระองค์จะได้ทําตามคําปฏิญาณทุกวัน
บทที่62
1(ถึงหัวหน้านักร้องถึงเยดูธุนสดุดีของดาวิด)แท้จริงจิตใจ
ของข้าพเจ้ารอคอยพระเจ้าความรอดของข้าพเจ้ามาจาก
พระองค์
2พระองค์เท่านั้นทรงเป็นหินผาและความรอดของข้าพเจ้า
พระองค์ทรงเป็นแนวป้องกันของข้าพเจ้าข้าพเจ้าจะไม่
หวั่นไหวมาก
3พวกเจ้าจะคิดร้ายต่อผู้อื่นนานเพียงไรพวกเจ้าทุกคน
จะต้องถูกสังหารเหมือนกําแพงที่โค้งงอและรั้วที่โยกเยก
4พวกเขาคิดแต่จะปลดเขาออกจากตําแหน่งเท่านั้นพวกเขา
พอใจในคําโกหกพวกเขาอวยพรด้วยปากของพวกเขาแต่
พวกเขาสาปแช่งอยู่ภายในเซลาห์
5จิตใจของฉันจงคอยพระเจ้าแต่ผู้เดียวเพราะว่าความหวัง
ของฉันมาจากพระองค์
6พระองค์เท่านั้นทรงเป็นหินผาและความรอดของข้าพเจ้า
พระองค์ทรงเป็นปราการป้องกันของข้าพเจ้าข้าพเจ้าจะไม่
หวั่นไหว
ความรอดและความรุ่งโรจน์ของข้าพเจ้าอยู่ที่พระเจ้าศิลา
แห่งความเข้มแข็งและที่ลี้ภัยของข้าพเจ้าก็อยู่ที่พระเจ้า
8จงวางใจในพระองค์เสมอประชาชนทั้งหลายจงระบาย
ความในใจของท่านต่อพระองค์พระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัย
สําหรับเราเซลาห์
9แท้จริงคนชั้นตํ่าก็เป็นสิ่งไร้สาระและคนชั้นสูงก็เป็นเรื่อง
โกหกเมื่อต้องชั่งดูพวกเขาก็เบากว่าความไร้สาระเสียอีก
10อย่าวางใจในการกดขี่และอย่ามัวเมาในการขโมยของถ้า
ความรํ่ารวยเพิ่มขึ้นอย่าตั้งจิตไว้ในความรํ่ารวยนั้น
11พระเจ้าได้ตรัสครั้งหนึ่งข้าพเจ้าได้ยินเรื่องนี้สองครั้งแล้ว
ว่าฤทธิ์อํานาจนั้นเป็นของพระเจ้า
12พระกรุณาของพระองค์ก็เป็นของพระองค์พระเจ้า
เพราะว่าพระองค์ทรงตอบแทนมนุษย์แต่ละคนตามการงาน
ของเขา
บทที่63
1(บทเพลงสดุดีของดาวิดเมื่อท่านอยู่ในถิ่นทุรกันดารแห่งยู
ดาห์)ข้าแต่พระเจ้าพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์

บทสดุดี
ข้าพระองค์จะแสวงหาพระองค์แต่เช้าจิตวิญญาณของข้า
พระองค์กระหายหาพระองค์เนื้อหนังของข้าพระองค์โหยหา
พระองค์ในดินแดนที่แห้งแล้งและกระหายนํ้าที่ไม่มีนํ้า
2เพื่อจะได้เห็นฤทธานุภาพและพระสิริของพระองค์เหมือน
อย่างที่ข้าพระองค์ได้เห็นพระองค์ในสถานศักดิ์สิทธิ์
3เพราะว่าความรักมั่นคงของพระองค์ดีกว่าชีวิตริมฝีปาก
ของข้าพระองค์จึงจะสรรเสริญพระองค์
4ข้าพระองค์จะอวยพรพระองค์อย่างนี้ตราบเท่าที่ข้าพระองค์
ยังมีชีวิตอยู่ข้าพระองค์จะยกมือขึ้นในพระนามของพระองค์
5จิตใจของข้าพเจ้าจะอิ่มเอิบเหมือนไขกระดูกและไขมัน
และปากของข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระองค์ด้วยริมฝีปากที่
เปี่ยมด้วยความปีติยินดี
6เมื่อข้าพระองค์ระลึกถึงพระองค์ขณะอยู่บนที่นอนและ
ภาวนาถึงพระองค์ในเวลากลางคืน
7เพราะว่าพระองค์ได้ทรงเป็นผู้ช่วยเหลือข้าพเจ้าข้าพเจ้า
จึงจะชื่นชมยินดีอยู่ใต้ร่มปีกของพระองค์
8จิตวิญญาณของข้าพระองค์ติดตามพระองค์อย่างใกล้ชิด
พระหัตถ์ขวาของพระองค์คอยคํ้าจุนข้าพระองค์
9แต่คนเหล่านั้นที่แสวงหาจิตวิญญาณของฉันเพื่อทําลายมัน
จะลงไปในส่วนที่ลึกที่สุดของแผ่นดินโลก
10พวกเขาจะล้มลงด้วยดาบพวกเขาจะเป็นส่วนของสุนัข
จิ้งจอก
11แต่กษัตริย์จะชื่นชมยินดีในพระเจ้าทุกคนที่สาบานในพระ
นามของพระองค์จะอวดดีแต่ปากของคนที่พูดโกหกจะถูก
ปิด
บทที่64
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงสดุดีของดาวิด)ข้าแต่พระเจ้า
โปรดฟังเสียงข้าพระองค์ในคําอธิษฐานของข้าพระองค์ขอ
ทรงรักษาชีวิตข้าพระองค์ไว้ให้พ้นจากความกลัวศัตรู
2ขอทรงซ่อนข้าพระองค์จากแผนการลับๆของคนชั่วและ
จากการก่อกบฏของคนทําความชั่ว
3ผู้ลับลิ้นของตนเหมือนดาบและโก่งธนูเพื่อยิงลูกศร
แม้กระทั่งถ้อยคําอันขมขื่น
4เพื่อพวกเขาจะได้ยิงเขาอย่างลับๆพวกเขายิงเขาอย่าง
กะทันหันและไม่กลัวเขาเลย
5พวกเขาปลอบใจตัวเองในเรื่องชั่วร้ายพวกเขาคุยกันเรื่อง
การวางกับดักอย่างลับๆพวกเขาพูดว่าใครจะเห็นพวกเขาได้
6พวกเขาค้นหาความชั่วพวกเขาแสวงหาอย่างขยันขันแข็ง
ทั้งความคิดภายในของพวกเขาและหัวใจก็ลึกซึ้ง
7แต่พระเจ้าจะทรงยิงลูกศรใส่พวกเขาและพวกเขาจะได้รับ
บาดเจ็บทันที
8ฉะนั้นพวกเขาจึงทําให้ลิ้นของพวกเขาตกบนตัวพวกเขา
เองทุกคนที่เห็นพวกเขาจะหนีไป
9และมนุษย์ทั้งหลายจะเกรงกลัวและจะประกาศถึงการงาน
ของพระเจ้าเพราะว่าพวกเขาจะพิจารณาการกระทําของ
พระองค์อย่างชาญฉลาด
10คนชอบธรรมจะชื่นชมยินดีในพระเจ้าและจะวางใจใน
พระองค์และคนใจเที่ยงธรรมทุกคนจะอวดดี
บทที่65
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงสดุดีและเพลงของดาวิด)การ
สรรเสริญรอคอยพระองค์อยู่ข้าแต่พระเจ้าในศิโยนและคํา
ปฏิญาณจะสําเร็จต่อพระองค์
2โอ้ผู้ทรงสดับคําอธิษฐานมนุษย์ทั้งปวงจะมาหาพระองค์
3ความชั่วช้าทั้งหลายครอบงําข้าพเจ้าส่วนความผิดบาป
ของข้าพเจ้าพระองค์จะทรงชําระมันเสีย
4บุคคลซึ่งพระองค์ทรงเลือกและนําเข้ามาใกล้พระองค์เพื่อ
จะได้อาศัยอยู่ในบริเวณของพระองค์นั้นเป็นสุขจริงเราจะ
อิ่มเอิบด้วยความดีงามของพระนิเวศของพระองค์คือพระ
วิหารอันบริสุทธิ์ของพระองค์
5ด้วยสิ่งน่ากลัวในความชอบธรรมพระองค์จะทรงตอบเรา
ข้าแต่พระเจ้าแห่งความรอดของพวกเราผู้ทรงเป็นความ
ไว้วางใจของบรรดาปลายแผ่นดินโลกทั้งสิ้นและของคนที่
อยู่ไกลออกไปบนทะเล
6ซึ่งทรงตั้งภูเขาให้มั่นคงด้วยกําลังของพระองค์ทรงมีฤทธา
นุภาพ
7ผู้ทรงทําให้เสียงทะเลเงียบลงเสียงคลื่นและเสียง
โกลาหลของชนชาติต่างๆ
8บรรดาผู้ที่อาศัยอยู่ณส่วนขอบนอกสุดก็ยังกลัว
สัญลักษณ์ของพระองค์พระองค์ทรงทําให้การออกไปใน
ยามเช้าและยามเย็นมีความชื่นชมยินดี
9พระองค์ทรงเยี่ยมเยียนแผ่นดินโลกและทรงรดนํ้ามัน
พระองค์ทรงทําให้แผ่นดินโลกอุดมด้วยแม่นํ้าของพระเจ้าซึ่ง
เต็มไปด้วยนํ้าพระองค์ทรงเตรียมข้าวโพดให้แก่มันเมื่อ
พระองค์ทรงจัดเตรียมให้เช่นนั้น
10พระองค์ทรงรดนํ้าตามร่องดินของมันอย่างอุดมสมบูรณ์
พระองค์ทรงทําให้ดินอ่อนนุ่มด้วยฝนพระองค์ทรงอวยพรให้
นํ้าที่มันงอกเงย
11พระองค์ทรงสวมมงกุฎแห่งความดีของพระองค์ให้ปีและ
ทางของพระองค์ก็เต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์
12ทุ่งหญ้าเหล่านั้นตกลงบนทุ่งหญ้าในถิ่นทุรกันดารและ
เนินเขาเล็กๆก็ชื่นชมยินดีอยู่ทุกด้าน
13ทุ่งหญ้าเต็มไปด้วยฝูงแกะหุบเขาก็ปกคลุมไปด้วย
ข้าวโพดพวกเขาโห่ร้องด้วยความยินดีพวกเขาร้องเพลง
บทที่66
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงหรือสดุดี)จงเปล่งเสียงร้องยินดี
แด่พระเจ้าแผ่นดินทั้งหลายเอ๋ย
2จงขับร้องสรรเสริญพระนามของพระองค์ให้การสรรเสริญ
พระองค์เป็นที่สรรเสริญ
3จงกล่าวแก่พระเจ้าว่าพระองค์ทรงกระทําการใหญ่โตน่า
เกรงขามยิ่งนักเพราะพระอํานาจอันยิ่งใหญ่ของพระองค์
ศัตรูของพระองค์จะยอมจํานนต่อพระองค์
4แผ่นดินโลกทั้งสิ้นจะนมัสการพระองค์และจะร้องเพลง
สรรเสริญพระองค์พวกเขาจะร้องเพลงสรรเสริญพระนามของ
พระองค์เซลาห์
5จงมาดูการงานของพระเจ้าพระองค์ทรงกระทําอย่างน่า
กลัวต่อมนุษย์
6พระองค์ทรงทําให้ทะเลกลายเป็นดินแห้งพวกเขาเดินเท้า
ลุยนํ้าท่วมไปณที่นั่นเราจึงชื่นชมยินดีในพระองค์
7พระองค์ทรงปกครองด้วยพระอํานาจของพระองค์ตลอดไป
พระเนตรของพระองค์เฝ้าดูประชาชาติต่างๆอย่าให้พวกกบฏ
ยกย่องตนเองเลยเซลาห์
8จงสรรเสริญพระเจ้าของเราชนชาติทั้งหลายและให้เสียง
สรรเสริญพระองค์เป็นที่ได้ยิน
9ซึ่งยึดถือจิตวิญญาณของเราในชีวิตและไม่ยอมให้เท้าเรา
สะดุดล้ม
10เพราะว่าพระเจ้าทรงทดสอบเราพระองค์ทรงทดสอบเรา
เหมือนกับทดสอบเงิน
11เจ้าได้นําเราเข้ามาในตาข่ายและเจ้าได้วางความทุกข์
ยากไว้บนเอวของเรา
12พระองค์ได้ทรงให้คนขี่เหนือหัวพวกเราพวกเราต้องลุย
ไฟและลุยนํ้าแต่พระองค์ได้ทรงนําพวกเราออกมาสู่สถานที่
อันมั่งคั่ง

บทสดุดี
13ข้าพเจ้าจะเข้าไปในบ้านของท่านพร้อมกับเครื่องเผาบูชา
ข้าพเจ้าจะทําตามคําปฏิญาณของท่าน
14ซึ่งริมฝีปากของข้าพระองค์ได้กล่าวออกมาและปากของ
ข้าพระองค์ได้พูดเมื่อข้าพระองค์อยู่ในความลําบาก
15ข้าพระองค์จะถวายสัตว์อ้วนพีเป็นเครื่องเผาบูชาแด่
พระองค์พร้อมกับธูปหอมของแกะผู้ข้าพระองค์จะถวายโคผู้
และแพะเป็นเครื่องบูชาเซลาห์
16จงมาและฟังเถิดบรรดาผู้ยําเกรงพระเจ้าและฉันจะเล่า
ให้ฟังว่าพระองค์ทรงทําอะไรแก่จิตวิญญาณของฉัน
17ข้าพเจ้าร้องทูลพระองค์ด้วยปากของข้าพเจ้าและ
พระองค์ทรงได้รับการสรรเสริญด้วยลิ้นของข้าพเจ้า
18ถ้าข้าพเจ้าคิดสิ่งชั่วร้ายไว้ในใจองค์พระผู้เป็นเจ้าจะไม่
ทรงฟังข้าพเจ้า
19แต่พระเจ้าทรงได้ยินฉันจริงๆพระองค์ทรงสดับเสียงคํา
อธิษฐานของฉัน
20จงถวายพระพรแด่พระเจ้าผู้ซึ่งไม่ทรงปฏิเสธคําอธิษฐาน
ของข้าพเจ้าและมิทรงปฏิเสธความเมตตาของพระองค์ไป
จากข้าพเจ้า
บทที่67
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงในเพลงเนกิโนธสดุดีหรือเพลง
สรรเสริญ)ขอพระเจ้าทรงเมตตาต่อเราและอวยพรเราและ
ขอทรงให้พระพักตร์ของพระองค์ส่องสว่างแก่เราเซลาห์
2เพื่อว่าทางของพระองค์จะได้เป็นที่รู้จักบนแผ่นดินโลก
และเพื่อความรอดของพระองค์ในหมู่ประชาชาติทั้งหลาย
3ขอให้ประชากรทั้งหลายสรรเสริญพระองค์ข้าแต่พระเจ้า
ขอให้ประชากรทั้งหลายสรรเสริญพระองค์
4ขอให้บรรดาประชาชาติทั้งหลายยินดีและร้องเพลงด้วย
ความปิติเพราะว่าพระองค์จะทรงพิพากษาชนชาติทั้งหลาย
ด้วยความชอบธรรมและทรงปกครองประชาชาติทั้งหลายบน
แผ่นดินโลกเซลาห์
5ขอให้ประชากรทั้งหลายสรรเสริญพระองค์ข้าแต่พระเจ้า
ขอให้ประชากรทั้งหลายสรรเสริญพระองค์
6แล้วแผ่นดินโลกก็จะให้ผลอุดมสมบูรณ์และพระเจ้าคือพระ
เจ้าของเราเองจะอวยพรเรา
7พระเจ้าจะอวยพรแก่เราและบรรดาทุกแผ่นดินของโลกจะ
ยําเกรงพระองค์
บทที่68
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงสดุดีหรือเพลงของดาวิด)ขอให้
พระเจ้าทรงลุกขึ้นขอให้ศัตรูของพระองค์กระจัดกระจายไป
ขอให้บรรดาผู้เกลียดชังพระองค์หนีไปจากพระพักตร์
พระองค์
2ควันถูกไล่ไปอย่างไรก็จงไล่สิ่งเหล่านั้นไปอย่างนั้นขี้ผึ้ง
ละลายต่อหน้าไฟอย่างไรก็ขอให้คนชั่วพินาศไปต่อหน้าพระ
เจ้าอย่างนั้น
3แต่ขอให้ผู้ชอบธรรมมีความยินดีขอให้พวกเขาชื่นชมยินดี
ต่อพระพักตร์พระเจ้าขอให้พวกเขาชื่นชมยินดีเป็นอย่างยิ่ง
4จงร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าร้องเพลงสรรเสริญพระนาม
ของพระองค์สรรเสริญพระองค์ผู้ทรงขี่บนสวรรค์โดยพระ
นามของพระองค์คือพระเยโฮวาห์และจงชื่นชมยินดีต่อพระ
พักตร์พระองค์
5พระเจ้าทรงเป็นพระบิดาของเด็กกําพร้าและทรงเป็นผู้
พิพากษาของหญิงม่ายในที่ประทับอันบริสุทธิ์ของพระองค์
พระเจ้าทรงให้คนโดดเดี่ยวอยู่เป็นครอบครัวพระองค์ทรงนํา
ผู้ที่ถูกพันธนาการด้วยโซ่ตรวนออกมาแต่ผู้ที่กบฏจะอาศัย
อยู่ในแผ่นดินแห้งแล้ง
7ข้าแต่พระเจ้าเมื่อพระองค์เสด็จนําหน้าประชากรของ
พระองค์เมื่อพระองค์เสด็จผ่านถิ่นทุรกันดารเซลาห์
8แผ่นดินโลกสั่นสะเทือนท้องฟ้าก็ถล่มลงมาเมื่อพระเจ้า
เสด็จมาแม้แต่ซีนายเองก็สั่นสะเทือนเมื่อทรงพบพระเจ้าคือ
พระเจ้าของอิสราเอล
9ข้าแต่พระเจ้าพระองค์ทรงส่งฝนที่ตกหนักเพื่อทรงให้
มรดกของพระองค์มั่นคงขึ้นเมื่อมันอ่อนล้า
10ประชาคมของพระองค์ได้อาศัยอยู่ที่นั่นข้าแต่พระเจ้า
พระองค์ได้ทรงจัดเตรียมความดีของพระองค์ไว้ให้คนยากจน
11องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประทานพระวจนะว่าบรรดาผู้
ประกาศพระวจนะนั้นมีมาก
12กษัตริย์แห่งกองทัพก็หนีไปอย่างรวดเร็วและผู้หญิงที่อยู่
ที่บ้านก็แบ่งของที่ปล้นมาแบ่งกัน
13ถึงแม้เจ้าทั้งหลายนอนอยู่ท่ามกลางหม้อดินเจ้าทั้งหลาย
ก็จะเป็นเหมือนปีกนกพิราบที่อาบเงินและขนของมันที่อาบ
ทองคํา
14เมื่อองค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ทรงกระจายกษัตริย์ลงไปในนั้น
มันก็ขาวเหมือนหิมะที่ตกลงบนภูเขาซัลมอน
15เนินเขาของพระเจ้าเหมือนเนินเขาบาซานเนินเขาสูง
เหมือนเนินเขาบาซาน
16เหตุใดเจ้าทั้งหลายที่อยู่บนภูเขาสูงจงกระโดดโลดเต้น
ไปเถิดนี่คือภูเขาที่พระเจ้าทรงปรารถนาจะประทับอยู่เออ
พระเจ้าจะทรงประทับอยู่เป็นนิตย์
17รถศึกของพระเจ้ามีจํานวนสองหมื่นคันคือมีทูตสวรรค์เป็น
พันๆองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่ท่ามกลางรถศึกเหล่านั้น
เหมือนกับที่ซีนายในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
18พระองค์เสด็จขึ้นสู่ที่สูงพระองค์ได้นําเชลยไปเป็นเชลย
พระองค์ได้รับของขวัญเพื่อมนุษย์แม้แต่เพื่อผู้ที่กบฏด้วย
เพื่อว่าพระเจ้าจะได้ประทับอยู่ท่ามกลางพวกเขา
19จงถวายพระพรแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงประทาน
คุณประโยชน์แก่เราทุกวันคือพระเจ้าแห่งความรอดของเรา
เซลาห์
20พระเจ้าของเราเป็นพระเจ้าแห่งความรอดและพระเจ้าทรง
เป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าซึ่งทรงหลั่งไหลออกจากความตาย
21แต่พระเจ้าจะทรงทําร้ายศีรษะของศัตรูของพระองค์และ
หนังศีรษะที่มีขนดกหนาของผู้ที่ยังคงประพฤติผิดอยู่
22พระเจ้าตรัสว่าเราจะนําคนของเรากลับคืนมาจากบาซาน
เราจะนําคนของเรากลับคืนมาจากก้นทะเล
23เพื่อว่าเท้าของท่านจะได้จุ่มลงในโลหิตของศัตรูของท่าน
และลิ้นสุนัขของท่านจะได้จุ่มลงในโลหิตนั้นด้วย
24พวกเขาได้เห็นการเสด็จของพระองค์แล้วข้าแต่พระเจ้า
คือการเสด็จของพระเจ้าของข้าพเจ้ากษัตริย์ของข้าพเจ้า
ในสถานศักดิ์สิทธิ์
25นักร้องเดินไปข้างหน้านักดนตรีเล่นเครื่องดนตรีตามหลัง
และมีหญิงสาวเล่นฉิ่งอยู่ด้วย
26จงสรรเสริญพระเจ้าในชุมนุมชนคือองค์พระผู้เป็นเจ้า
จากนํ้าพุแห่งอิสราเอล
27พวกเบนจามินนั้นก็ตัวเล็กอยู่กับผู้ปกครองของพวกเขามี
พวกหัวหน้าของยูดาห์และสภาของพวกเขามีพวกหัวหน้า
ของเศบูลุนและพวกหัวหน้าของนัฟทาลี
28พระเจ้าของท่านได้ทรงบัญชากําลังของท่านไว้ข้าแต่
พระเจ้าขอทรงเสริมกําลังสิ่งที่ท่านได้กระทําเพื่อพวกเรา
29เพราะเหตุพระวิหารของพระองค์ที่เยรูซาเล็มกษัตริย์
ทั้งหลายจึงจะนําของกํานัลมาถวายพระองค์
30ขอทรงตําหนิพวกทหารถือหอกฝูงวัวและลูกโคของ
ประชากรจนกว่าทุกคนจะยอมจํานนต่อเหรียญเงินจงกระจัด
กระจายประชากรที่ชื่นชอบในการสงคราม
31เจ้านายทั้งหลายจะออกมาจากอียิปต์และเอธิโอเปียจะ
ยื่นมือของเธอออกไปสู่พระเจ้าโดยเร็ว

บทสดุดี
32จงร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าอาณาจักรทั้งหลายของ
แผ่นดินโลกจงร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าเซลาห์
33พระองค์ผู้ทรงเสด็จไปบนสวรรค์ชั้นฟ้าทั้งหลายในสมัย
โบราณดูเถิดพระองค์ทรงส่งพระสุรเสียงของพระองค์ซึ่ง
เป็นเสียงอันทรงพลัง
34จงถวายกําลังแด่พระเจ้าความสูงส่งของพระองค์อยู่เหนือ
อิสราเอลและกําลังของพระองค์อยู่ในเมฆ
35ข้าแต่พระเจ้าพระองค์ทรงน่าเกรงขามในสถานศักดิ์สิทธิ์
ของพระองค์พระเจ้าของอิสราเอลทรงเป็นผู้ประทานกําลัง
และกําลังแก่ประชากรของพระองค์สรรเสริญพระเจ้า
บทที่69
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงสดุดีของดาวิดตามบทเพลงสดุดี)
โปรดช่วยข้าพระองค์ด้วยพระเจ้าเพราะนํ้าได้ไหลเข้าสู่จิต
วิญญาณของข้าพระองค์แล้ว
2ข้าพระองค์จมลงในโคลนลึกซึ่งไม่มีที่ยืนข้าพระองค์มาอยู่
ในนํ้าลึกซึ่งนํ้าท่วมข้าพระองค์
3ข้าพระองค์เหนื่อยหน่ายกับการร้องไห้ลําคอแห้งผากตา
ของข้าพระองค์พร่ามัวในขณะที่ข้าพระองค์รอคอยพระ
เจ้าของข้าพระองค์
4บรรดาคนที่เกลียดชังข้าพระองค์โดยไม่มีเหตุผลมี
มากกว่าเส้นผมบนศีรษะข้าพระองค์บรรดาผู้ที่ต้องการ
ทําลายข้าพระองค์ซึ่งเป็นศัตรูของข้าพระองค์อย่างไม่เป็น
ธรรมล้วนมีกําลังมากข้าพระองค์จึงคืนสิ่งที่ข้าพระองค์ไม่ได้
เอากลับไป
5ข้าแต่พระเจ้าพระองค์ทรงทราบถึงความโง่เขลาของข้า
พระองค์และบาปของข้าพระองค์ก็มิได้ซ่อนเร้นจากพระองค์
6ข้าแต่พระยาห์เวห์พระเจ้าจอมโยธาขออย่าให้บรรดาผู้ที่
คอยรับใช้พระองค์ต้องอับอายเพราะข้าพระองค์และขออย่า
ให้บรรดาผู้ที่แสวงหาพระองค์ต้องอับอายเพราะข้าพระองค์
ข้าแต่พระเจ้าของอิสราเอล
เพราะว่าเพราะเห็นแก่พระองค์ข้าพระองค์จึงต้องทนรับการดู
หมิ่นความอับอายได้ปกคลุมหน้าข้าพระองค์ไว้
8ข้าพระองค์กลายเป็นคนแปลกหน้าสําหรับพี่น้องของข้า
พระองค์และเป็นคนต่างด้าวสําหรับบุตรแห่งมารดาข้า
พระองค์
เพราะว่าความกระตือรือร้นต่อพระนิเวศน์ของพระองค์ได้กิน
กินข้าพระองค์ไปและความอับอายของบรรดาผู้ที่เยาะเย้ย
พระองค์ก็ตกอยู่บนข้าพระองค์
10เมื่อข้าพระองค์ร้องไห้และลงโทษจิตวิญญาณของข้า
พระองค์ด้วยการอดอาหารนั่นคือสิ่งที่ข้าพระองค์ถูกตําหนิ
11ข้าพระองค์ได้ทําผ้ากระสอบให้เป็นเสื้อของข้าพระองค์
และข้าพระองค์ได้กลายเป็นสุภาษิตแก่พวกเขา
12คนที่นั่งอยู่ที่ประตูเมืองก็พูดจาไม่ดีต่อข้าพเจ้าและ
ข้าพเจ้าก็เป็นเพลงที่พวกขี้เมาร้อง
13ส่วนข้าพระองค์คําอธิษฐานของข้าพระองค์คือต่อ
พระองค์ข้าแต่พระเยโฮวาห์ในเวลาอันชอบข้าแต่พระเจ้า
ด้วยพระเมตตาอันอุดมของพระองค์ขอทรงฟังข้าพระองค์
โดยความจริงแห่งความรอดของพระองค์
14โปรดทรงช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากหล่มโคลนและอย่า
ให้ข้าพระองค์จมลงขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากคน
เหล่านั้นที่เกลียดชังข้าพระองค์และจากนํ้าลึก
15ขออย่าให้นํ้าท่วมข้าพระองค์และอย่าให้นํ้าลึกกลืนข้า
พระองค์เสียและอย่าให้หลุมบ่อปิดปากข้าพระองค์ไว้
16ขอทรงฟังข้าพระองค์เถิดข้าแต่พระเยโฮวาห์เพราะ
ความรักมั่นคงของพระองค์นั้นดีขอทรงหันมาหาข้าพระองค์
ตามพระกรุณาอันอุดมของพระองค์
17ขออย่าทรงซ่อนพระพักตร์จากผู้รับใช้ของพระองค์เลย
เพราะข้าพระองค์กําลังเดือดร้อนขอทรงฟังข้าพระองค์
โดยเร็ว”
18จงมาใกล้จิตวิญญาณของข้าพระองค์และไถ่มันไว้โปรด
ช่วยข้าพระองค์ให้พ้นเพราะศัตรูของข้าพระองค์
19พระองค์ทรงทราบถึงการดูหมิ่นเหยียดหยามของข้า
พระองค์ความอับอายและความเสื่อมเสียของข้าพระองค์
ศัตรูของข้าพระองค์ทุกคนอยู่ต่อพระพักตร์พระองค์
20การถูกตําหนิทําให้ใจข้าพระองค์แตกสลายและข้า
พระองค์ก็เต็มไปด้วยความโศกเศร้าข้าพระองค์มองหาผู้ที่จะ
สงสารแต่ก็ไม่มีเลยและมองหาผู้ปลอบโยนแต่ก็ไม่พบเลย
21เขาทั้งหลายยังให้ข้าพเจ้ามีนํ้าดีเป็นอาหารด้วยและเมื่อ
ข้าพเจ้ากระหายนํ้าเขาก็ให้ข้าพเจ้าดื่มนํ้าส้มสายชู
22ขอให้โต๊ะอาหารของพวกเขาเป็นกับดักต่อหน้าพวกเขา
และสิ่งที่ควรจะเป็นเพื่อสวัสดิภาพของพวกเขาก็กลายเป็น
กับดัก
23ขอให้ตาของพวกเขามืดไปเพื่อจะมองไม่เห็นและขอให้
เอวของพวกเขาสั่นอยู่เสมอ
24ขอพระองค์ทรงเทความกริ้วของพระองค์ลงเหนือพวกเขา
และขอให้ความกริ้วโกรธของพระองค์ครอบงําพวกเขา
25ขอให้ที่อยู่ของพวกเขารกร้างว่างเปล่าและขอให้ไม่มีใคร
อาศัยอยู่ในเต็นท์ของพวกเขา
26เพราะพวกเขาข่มเหงผู้ที่พระองค์ได้ทรงเฆี่ยนตีและพวก
เขาพูดถึงความทุกข์โศกของผู้ที่พระองค์ได้ทรงทําร้าย
27ขอทรงเพิ่มความผิดบาปเข้ากับความผิดบาปของพวกเขา
และอย่าให้พวกเขาบรรลุถึงความชอบธรรมของพระองค์
28ขอให้พวกเขาถูกลบออกจากหนังสือแห่งชีวิตและไม่ได้
ถูกจารึกไว้ร่วมกับผู้ชอบธรรม
29ส่วนข้าพระองค์เป็นคนยากจนและเศร้าโศกขอความรอด
ของพระองค์พระเจ้าโปรดทรงยกข้าพระองค์ขึ้นสูง
30ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระนามของพระเจ้าด้วยบทเพลง
และจะยกย่องพระองค์ด้วยการขอบพระคุณ
31การกระทําเช่นนี้จะเป็นที่พอพระทัยพระเจ้ามากกว่าวัว
หรือควายที่มีเขาและกีบ
32ผู้ที่ถ่อมตนจะเห็นสิ่งนี้และมีความยินดีและใจของท่านจะ
มีชีวิตชีวาผู้ที่แสวงหาพระเจ้า
33เพราะว่าพระเยโฮวาห์ทรงฟังผู้ยากจนและมิได้ทรงดู
หมิ่นนักโทษของพระองค์
34ขอให้ฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกสรรเสริญพระองค์ทะเล
และสรรพสิ่งที่เคลื่อนไหวอยู่ในนั้น
35เพราะพระเจ้าจะทรงช่วยศิโยนและจะทรงสร้างเมือง
ต่างๆของยูดาห์ขึ้นใหม่เพื่อให้เขาทั้งหลายอาศัยอยู่ที่นั่น
และถือเอาเป็นกรรมสิทธิ์ของเมืองนั้น
36เชื้อสายของผู้รับใช้ของพระองค์ก็จะได้เป็นมรดกและ
บรรดาผู้ที่รักพระนามของพระองค์ก็จะอาศัยอยู่ที่นั่น
บทที่70
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงสดุดีของดาวิดเพื่อเป็นการรําลึก)
ข้าแต่พระเจ้าโปรดทรงรีบมาช่วยข้าพระองค์เถิดข้าแต่พระ
เยโฮวาห์โปรดทรงรีบมาช่วยข้าพระองค์เถิด
2ขอให้ผู้แสวงหาจิตวิญญาณของข้าพระองค์ได้รับความอับ
อายและสับสนขอให้ผู้ปรารถนาความเจ็บปวดของข้า
พระองค์ต้องหันกลับไปและสับสน
3ขอให้พวกเขาต้องกลับไปเป็นรางวัลสําหรับความอับอาย
ของพวกเขาที่พูดว่าอะฮาอะฮา
4ขอให้บรรดาผู้แสวงหาพระองค์ชื่นชมยินดีและยินดีใน
พระองค์และขอให้ผู้ที่รักความรอดของพระองค์กล่าวเสมอ
ว่าขอให้พระเจ้าทรงได้รับการยกย่อง

บทสดุดี
5ส่วนข้าพระองค์เป็นคนยากจนและขัดสนขอทรงรีบมาหา
ข้าพระองค์เถิดข้าแต่พระเจ้าพระองค์ทรงเป็นผู้ช่วยเหลือ
และผู้ช่วยให้รอดของข้าพระองค์ข้าแต่พระเยโฮวาห์โปรด
อย่าทรงชักช้า
บทที่71
1ข้าพระองค์วางใจในพระองค์ข้าแต่พระเยโฮวาห์โปรด
อย่าให้ข้าพระองค์ต้องสับสนอีกเลย
2ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้รอดพ้นโดยความชอบธรรมของ
พระองค์และโปรดให้ข้าพระองค์รอดพ้นด้วยเถิด
3ขอให้พระองค์ทรงเป็นที่อยู่อาศัยอันมั่นคงของข้าพเจ้า
เพื่อข้าพเจ้าจะอาศัยในที่นั้นตลอดไปพระองค์ทรงบัญชาให้
ช่วยข้าพเจ้าเพราะพระองค์ทรงเป็นศิลาและป้อมปราการ
ของข้าพเจ้า
4โปรดทรงช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากมือคนชั่วจากมือของ
คนอธรรมและคนโหดร้าย
5เพราะพระองค์ทรงเป็นความหวังของข้าพระองค์ข้าแต่พระ
ยาห์เวห์องค์เจ้านายพระองค์ทรงเป็นความไว้วางใจของข้า
พระองค์ตั้งแต่เยาว์วัย
6ข้าพระองค์ได้รับการหนุนใจตั้งแต่อยู่ในครรภ์โดยพระองค์
พระองค์ทรงเป็นผู้นําข้าพระองค์ออกมาจากครรภ์มารดาข้า
พระองค์จะสรรเสริญพระองค์เสมอ
7ข้าพระองค์เป็นที่น่าอัศจรรย์แก่คนจํานวนมากแต่พระองค์
เป็นที่ลี้ภัยอันมั่นคงของข้าพระองค์
8ขอให้ปากของข้าพระองค์เต็มไปด้วยคําสรรเสริญพระองค์
และถวายเกียรติพระองค์ตลอดวัน
9อย่าทรงทอดทิ้งข้าพระองค์เมื่อแก่ชราและอย่าทรง
ทอดทิ้งข้าพระองค์เมื่อข้าพระองค์หมดกําลัง
10เพราะศัตรูของข้าพระองค์พูดจาโจมตีข้าพระองค์และ
บรรดาผู้ที่คอยจ้องจับผิดชีวิตของข้าพระองค์ก็ปรึกษาหารือ
กัน
11กล่าวว่าพระเจ้าทรงละทิ้งเขาแล้วจงข่มเหงและจับเขา
ไปเพราะไม่มีใครช่วยเขาให้พ้นได้
12ข้าแต่พระเจ้าขออย่าทรงอยู่ห่างไกลจากข้าพระองค์ข้า
แต่พระเจ้าของข้าพระองค์ขอทรงรีบมาช่วยข้าพระองค์เถิด
13ขอให้ผู้ที่เป็นปฏิปักษ์ต่อจิตวิญญาณของข้าพเจ้าได้รับ
ความอับอายและพินาศไปขอให้ผู้ที่แสวงหาอันตรายต่อ
ข้าพเจ้าได้รับการปกปิดด้วยความอับอายและความเสื่อมเสีย
14แต่ข้าพเจ้าจะหวังอยู่เสมอและจะสรรเสริญพระองค์มาก
ยิ่งขึ้น
15ปากของข้าพระองค์จะประกาศความชอบธรรมและความ
รอดของพระองค์ตลอดวันเพราะข้าพระองค์ไม่รู้ว่ามีจํานวน
เท่าใด
16ข้าพระองค์จะไปด้วยกําลังของพระเจ้าผู้เป็นพระเจ้าข้า
พระองค์จะกล่าวถึงความชอบธรรมของพระองค์คือของ
พระองค์แต่ผู้เดียว
17ข้าแต่พระเจ้าพระองค์ทรงสอนข้าพระองค์ตั้งแต่เยาว์วัย
และข้าพระองค์ยังได้ประกาศถึงการงานอันอัศจรรย์ของ
พระองค์จนถึงปัจจุบัน
18บัดนี้เมื่อข้าพระองค์ชราและมีผมหงอกแล้วข้าแต่พระเจ้า
ขออย่าทรงละทิ้งข้าพระองค์เสียจนกว่าข้าพระองค์จะแสดง
ความเข้มแข็งของพระองค์แก่คนรุ่นนี้และแสดงอานุภาพ
ของพระองค์แก่คนทุกรุ่นที่จะเกิดมา
19ความชอบธรรมของพระองค์ก็สูงส่งยิ่งนักข้าแต่พระเจ้าผู้
ทรงกระทําการใหญ่โตข้าแต่พระเจ้าผู้ทรงเป็นเหมือน
พระองค์
20พระองค์ผู้ทรงทําให้ข้าพระองค์ประสบความทุกข์ยากแสน
สาหัสและยากลําบากจะทรงทําให้ข้าพระองค์ฟื้นคืนชีพอีก
ครั้งและจะทรงดึงข้าพระองค์ขึ้นมาจากส่วนลึกของแผ่นดิน
โลกอีกครั้ง
21เจ้าจะทรงเพิ่มพูนความยิ่งใหญ่ของข้าพระองค์และจะ
ทรงปลอบโยนข้าพระองค์ทุกด้าน
22ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์ด้วยพิณใหญ่คือความ
จริงของพระองค์ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ข้าพระองค์จะ
ร้องเพลงสรรเสริญพระองค์ด้วยพิณใหญ่ข้าแต่พระผู้บริสุทธิ์
แห่งอิสราเอล
23ริมฝีปากของข้าพระองค์จะชื่นชมยินดีอย่างยิ่งเมื่อข้า
พระองค์ร้องเพลงสรรเสริญพระองค์และจิตวิญญาณของข้า
พระองค์ซึ่งพระองค์ได้ทรงไถ่ไว้
24ลิ้นของข้าพระองค์จะพูดถึงความชอบธรรมของพระองค์
ตลอดวันเพราะว่าผู้แสวงหาอันตรายต่อข้าพระองค์จะต้อง
อับอายและอับอายขายหน้า
บทที่72
1(บทสดุดีสําหรับซาโลมอน)ขอทรงมอบความยุติธรรมของ
พระองค์แก่กษัตริย์ข้าแต่พระเจ้าและความชอบธรรมของ
พระองค์แก่โอรสของกษัตริย์
2พระองค์จะทรงพิพากษาประชากรของพระองค์ด้วย
ความชอบธรรมและจะทรงพิพากษาคนยากจนของพระองค์
ด้วยความยุติธรรม
3ภูเขาจะนําสันติสุขมาสู่ประชาชนและเนินเขาเล็กๆจะนํา
สันติสุขมาสู่ด้วยความชอบธรรม
4พระองค์จะทรงพิพากษาคนยากจนของประชาชนพระองค์
จะทรงช่วยบุตรหลานของผู้ขัดสนและจะทรงทําลายผู้กดขี่
เสียเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
5พวกเขาจะเกรงกลัวพระองค์ตราบเท่าที่ดวงอาทิตย์และ
ดวงจันทร์คงอยู่ตลอดทุกชั่วรุ่นทุกสมัย
6พระองค์จะเสด็จลงมาเหมือนฝนที่ตกบนหญ้าที่ตัดแล้ว
เหมือนฝนที่รดแผ่นดินโลก
ในสมัยของท่านผู้ชอบธรรมจะเจริญและจะมีสันติสุขอย่าง
ล้นเหลือตราบเท่าดวงจันทร์
8พระองค์จะทรงครอบครองตั้งแต่ทะเลถึงทะเลและจาก
แม่นํ้าจนสุดแผ่นดินโลก
9บรรดาผู้ที่อาศัยอยู่ในถิ่นทุรกันดารจะกราบลงต่อพระองค์
และศัตรูของพระองค์จะเลียผงคลีดิน
10กษัตริย์แห่งเมืองทาร์ชิชและของเกาะต่างๆจะนําของ
กํานัลมาและกษัตริย์แห่งเมืองเชบาและเสบาจะนําของ
กํานัลมาด้วย
11กษัตริย์ทั้งหลายจะกราบลงต่อพระพักตร์พระองค์บรรดา
ประชาชาติทั้งปวงจะปรนนิบัติพระองค์
12เพราะพระองค์จะทรงช่วยผู้ขัดสนเมื่อเขาร้องเรียกคน
ยากจนและคนที่ไม่มีผู้ช่วยเหลือ
13พระองค์จะทรงสงสารคนยากจนและคนขัดสนและจะ
ช่วยชีวิตของผู้ขัดสน
14พระองค์จะทรงไถ่จิตวิญญาณของพวกเขาจากการ
หลอกลวงและความรุนแรงและโลหิตของพวกเขาจะ
ประเสริฐในสายพระเนตรของพระองค์
15และเขาจะมีชีวิตและทองคําแห่งเชบาจะประทานให้แก่
เขาเขาจะอธิษฐานเพื่อเขาเสมอและเขาจะได้รับการ
สรรเสริญทุกวัน
16จะมีข้าวอยู่ในกํามือหนึ่งบนแผ่นดินบนยอดภูเขาผลของ
มันจะสั่นไหวเหมือนเลบานอนและคนในเมืองจะเจริญงอก
งามเหมือนหญ้าในแผ่นดิน
17พระนามของพระองค์จะคงอยู่ชั่วนิรันดร์พระนามของ
พระองค์จะคงอยู่ตราบเท่าดวงอาทิตย์และมนุษย์ทั้งหลาย

บทสดุดี
จะได้รับพระพรเพราะพระองค์ประชาชาติทั้งหลายจะเรียก
พระองค์ว่าผู้ได้รับพระพร
18จงถวายพระพรแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าคือพระเจ้าของ
อิสราเอลผู้ทรงกระทําการอัศจรรย์แต่ผู้เดียว
19จงถวายพระเกียรติแด่พระนามอันรุ่งโรจน์ของพระองค์
ตลอดไปและให้แผ่นดินโลกทั้งสิ้นเต็มไปด้วยพระสิริของ
พระองค์อาเมนและอาเมน
20คําอธิษฐานของดาวิดบุตรชายเจสซีสิ้นสุดแล้ว
บทที่73
1(สดุดีของอาสาฟ)แท้จริงพระเจ้าทรงดีต่ออิสราเอลแม้ต่อ
บุคคลผู้มีใจบริสุทธิ์
2ส่วนข้าพเจ้านั้นเท้าของข้าพเจ้าแทบจะหายไปแล้วและ
ก้าวเดินของข้าพเจ้าก็แทบจะพลาดไป
3เพราะข้าพเจ้าอิจฉาคนโง่เขลาเมื่อเห็นความเจริญของคน
ชั่ว
4เพราะว่าความตายนั้นไม่มีพันธะผูกพันแต่กําลังของเขา
มั่นคง
5พวกเขาไม่ประสบปัญหาเหมือนคนอื่นๆและไม่ประสบ
ความทุกข์ยากเหมือนคนอื่นๆ
6เพราะฉะนั้นความเย่อหยิ่งจึงปกคลุมพวกเขาไว้เหมือนโซ่
ตรวนความรุนแรงปกคลุมพวกเขาไว้เหมือนเสื้อผ้า
7ดวงตาของพวกเขาดูอ้วนท้วนพวกเขามีมากกว่าที่หัวใจ
ปรารถนา
8พวกเขาทุจริตและพูดจาชั่วร้ายเกี่ยวกับการกดขี่พวกเขา
พูดจาโอ้อวด
9พวกเขาตั้งปากของพวกเขาต่อสู้กับสวรรค์และลิ้นของ
พวกเขาก็ลุยไปในโลก
10ดังนั้นประชากรของพระองค์จึงหันกลับมาที่นี่และนํ้าเต็ม
ถ้วยก็ถูกบีบให้พวกเขา
11และพวกเขาพูดว่าพระเจ้าทรงทราบได้อย่างไร?และ
ความรู้มีอยู่ในพระองค์ผู้สูงสุดหรือไม่?
12ดูเถิดคนเหล่านี้แหละที่เป็นคนอธรรมย่อมเจริญในโลก
มั่งคั่งขึ้นในทรัพย์สมบัติ
13แท้จริงฉันได้ชําระใจของฉันให้บริสุทธิ์และได้ล้างมือ
ของฉันอย่างบริสุทธิ์ใจ
เพราะว่าข้าพเจ้าถูกทรมานอยู่ตลอดวันและถูกตีสอนอยู่ทุก
เช้า
15ถ้าข้าพเจ้าพูดว่าข้าพเจ้าจะพูดอย่างนี้ดูเถิดข้าพเจ้าจะ
ทําผิดต่อรุ่นบุตรหลานของท่าน
16เมื่อฉันคิดว่าจะรู้เรื่องนี้ก็รู้สึกเจ็บปวดเกินไปสําหรับฉัน
17จนข้าพเจ้าเข้าไปในสถานศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าแล้ว
ข้าพเจ้าก็เข้าใจจุดจบของพวกเขา
18แท้จริงพระองค์ได้ทรงวางพวกเขาไว้ในที่ลื่นและทรง
เหวี่ยงพวกเขาลงไปในความพินาศ
19พวกเขาถูกทําให้รกร้างว่างเปล่าเพียงชั่วพริบตาพวกเขา
ถูกครอบงําด้วยความหวาดกลัวอย่างสิ้นเชิง
20เหมือนความฝันเมื่อตื่นฉันใดเมื่อพระองค์ตื่นพระองค์ก็
จะดูหมิ่นรูปเคารพของพวกเขาฉันนั้นข้าแต่พระเจ้า
21ดังนั้นใจของข้าพเจ้าจึงเศร้าโศกและข้าพเจ้าก็รู้สึกถูก
ตําหนิ
22ข้าพระองค์เป็นคนโง่เขลาและไม่มีความรู้ข้าพระองค์
เหมือนสัตว์ร้ายต่อพระพักตร์พระองค์
23ถึงกระนั้นก็ดีข้าพระองค์อยู่กับพระองค์เสมอพระองค์
ทรงยึดข้าพระองค์ไว้ด้วยมือขวา
24พระองค์จะทรงนําข้าพเจ้าด้วยคําปรึกษาของพระองค์
และภายหลังพระองค์จะทรงนําข้าพเจ้าให้ได้รับความรุ่งโรจน์
25ข้าพเจ้าไม่มีใครในสวรรค์นอกจากท่านและนอกจากท่าน
แล้วข้าพเจ้าไม่ปรารถนาใครในโลกนี้เลย
26เนื้อหนังและใจของข้าพระองค์วายไปแต่พระเจ้าทรงเป็น
กําลังใจของข้าพระองค์และเป็นส่วนของพระองค์ตลอดไป
27เพราะดูเถิดคนที่อยู่ห่างไกลจากเจ้าจะพินาศเจ้าได้
ทําลายคนโสเภณีจากเจ้าทุกคนเสีย
28แต่การที่ข้าพระองค์เข้าใกล้พระเจ้านั้นดีสําหรับข้า
พระองค์ข้าพระองค์วางใจในองค์พระผู้เป็นเจ้าพระเจ้าเพื่อ
ข้าพระองค์จะได้เล่าถึงพระราชกิจทั้งสิ้นของพระองค์
บทที่74
1(มัสชิลแห่งอาสาฟ)ข้าแต่พระเจ้าเหตุใดพระองค์จึงทรง
ทอดทิ้งพวกเราเสียเป็นนิตย์เหตุใดพระองค์จึงทรงกริ้วต่อ
แกะในทุ่งหญ้าของพระองค์
2ขอทรงระลึกถึงชุมนุมของพระองค์ซึ่งพระองค์ได้ทรงไถ่ไว้
แต่โบราณกาลและทรงระลึกถึงไม้เท้าแห่งมรดกของ
พระองค์ซึ่งพระองค์ได้ทรงไถ่ไว้คือภูเขาศิโยนนี้ซึ่ง
พระองค์ได้ทรงประทับอยู่
3จงยกพระบาทของพระองค์ขึ้นในที่รกร้างว่างเปล่าชั่วนิรัน
ดร์คือทุกสิ่งที่ศัตรูได้กระทําชั่วในสถานศักดิ์สิทธิ์
4ศัตรูของพระองค์คํารามอยู่ในท่ามกลางชุมนุมของพระองค์
พวกเขาตั้งธงประจําพระองค์ไว้เป็นสัญญาณ
5บุคคลหนึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังจากการที่เขายกขวานขึ้นเหนือ
ต้นไม้อันหนาทึบ
6แต่บัดนี้พวกเขาทําลายงานแกะสลักของมันลงทันทีด้วย
ขวานและค้อน
7พวกเขาได้เอาไฟมาเผาสถานศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์พวก
เขาได้ทําให้สถานที่ซึ่งพระนามของพระองค์เป็นมลทินโดย
ทําลายลงสู่พื้นดิน
8พวกเขาคิดในใจว่า“ให้เราทําลายพวกเขาด้วยกันเถิด
พวกเขาได้เผาทําลายธรรมศาลาของพระเจ้าทั้งหมดบน
แผ่นดิน”
9เราไม่เห็นสัญญาณต่างๆของเราเลยไม่มีผู้เผยพระวจนะ
อีกต่อไปและไม่มีผู้ใดในพวกเราที่รู้ว่านานเท่าใด
10ข้าแต่พระเจ้าศัตรูจะเยาะเย้ยพระนามของพระองค์นาน
เพียงไรศัตรูจะหมิ่นประมาทพระนามของพระองค์ตลอดไป
หรือ?
11เหตุไฉนพระองค์จึงทรงถอนพระหัตถ์ของพระองค์คือ
พระหัตถ์ขวาของพระองค์ออกไป?ขอทรงดึงพระหัตถ์นั้น
ออกจากอกของพระองค์เถิด.
12เพราะว่าพระเจ้าทรงเป็นพระมหากษัตริย์ของข้าพระองค์
ตั้งแต่โบราณกาลทรงกระทําการช่วยให้รอดในท่ามกลาง
แผ่นดินโลก
13พระองค์ทรงแบ่งทะเลด้วยพระกําลังของพระองค์
พระองค์ทรงหักหัวมังกรในนํ้า
14พระองค์ทรงหักหัวของเลวีอาธานเป็นชิ้นๆและทรงให้
มันกลายเป็นอาหารแก่ผู้คนที่อาศัยอยู่ในถิ่นทุรกันดาร
15พระองค์ทรงแยกแหล่งนํ้าและนํ้าท่วมและทรงทําให้
แม่นํ้าใหญ่แห้งไป
วันเป็นของพระองค์กลางคืนก็เป็นของพระองค์พระองค์ได้
ทรงจัดเตรียมแสงสว่างและดวงอาทิตย์ไว้
17พระองค์ทรงกําหนดขอบเขตของแผ่นดินโลกทั้งสิ้น
พระองค์ทรงสร้างฤดูร้อนและฤดูหนาว
18ขอทรงจําไว้ว่าศัตรูได้เยาะเย้ยพระองค์และชนชาติที่โง่
เขลาได้ดูหมิ่นพระนามของพระองค์
19ขออย่าทรงมอบชีวิตนกเขาของพระองค์ให้แก่คนชั่ว
จํานวนมากขออย่าทรงลืมชุมนุมคนยากจนของพระองค์
ตลอดไป

บทสดุดี
20จงเคารพพันธสัญญาเพราะว่าสถานที่มืดมิดของโลกเต็ม
ไปด้วยที่อยู่ของความโหดร้าย
21ขออย่าให้ผู้ถูกข่มเหงต้องอับอายอีกต่อไปขอให้ผู้
ยากจนและขัดสนสรรเสริญพระนามของพระองค์
22ข้าแต่พระเจ้าขอทรงลุกขึ้นทรงต่อสู้คดีของพระองค์
ทรงระลึกว่าคนโง่เยาะเย้ยพระองค์ทุกวัน
23อย่าลืมเสียงของศัตรูของพระองค์เสียงวุ่นวายของบรรดา
คนที่ลุกขึ้นต่อต้านพระองค์ก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
บทที่75
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงสดุดีหรือเพลงของอาสาฟ)ข้าแต่
พระเจ้าข้าพระองค์ทั้งหลายขอบพระคุณพระองค์ข้าแต่พระ
เจ้าข้าพระองค์ทั้งหลายขอบพระคุณพระองค์เพราะว่าพระ
นามของพระองค์อยู่ใกล้ข้าพระองค์ทั้งหลายประกาศถึงการ
งานอัศจรรย์ของพระองค์
2เมื่อเราจะรับชุมชนนั้นเราจะพิพากษาอย่างเที่ยงธรรม
3แผ่นดินโลกและผู้อยู่อาศัยทั้งสิ้นก็ละลายไปฉันเป็นผู้คํ้า
เสาของแผ่นดินโลกไว้เซลาห์
4ข้าพเจ้าได้พูดกับคนโง่ว่าอย่าทําอย่างโง่เขลาและแก่คน
ชั่วว่าอย่ายกเขาขึ้น
5อย่ายกเขาของคุณขึ้นสูงอย่าพูดจาแข็งกร้าว
6เพราะการเลื่อนตําแหน่งไม่ได้มาจากทิศตะวันออกทิศ
ตะวันตกหรือทิศใต้
7แต่พระเจ้าทรงเป็นผู้พิพากษาพระองค์ทรงปลดคนหนึ่งลง
และทรงตั้งอีกคนหนึ่งขึ้น
8เพราะว่าในพระหัตถ์ของพระเจ้ามีถ้วยและเหล้าองุ่นก็เป็น
สีแดงเต็มไปด้วยส่วนผสมและพระองค์ทรงเทออกจากถ้วย
นั้นแต่ตะกอนของถ้วยนั้นคนชั่วทั้งหลายแห่งแผ่นดินโลก
จะบีบและดื่มมัน
9แต่เราจะประกาศไว้ตลอดไปและจะร้องเพลงสรรเสริญแด่
พระเจ้าของยาโคบ
10เขาทั้งหลายของคนชั่วเราจะตัดทิ้งเสียหมดแต่เขา
ทั้งหลายของผู้ชอบธรรมจะถูกเชิดชูขึ้น
บทที่76
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงในเพลงเนกิโนธสดุดีหรือเพลง
ของอาสาฟ)ในยูดาห์พระเจ้าทรงรู้จักและพระนามของ
พระองค์ก็ยิ่งใหญ่ในอิสราเอล
2พลับพลาของพระองค์ก็อยู่ในซาเลมและที่ประทับของ
พระองค์ก็อยู่ในศิโยน
3พระองค์ทรงหักลูกศรของคันธนูโล่และดาบและการสู้รบ
เสียที่นั่นเซลาห์
4พระองค์ทรงมีพระเกียรติและเลิศยิ่งกว่าภูเขาแห่งเหยื่อ
5คนใจกล้าก็เสียไปพวกเขาหลับใหลไปและไม่มีคนกล้า
คนใดเลยที่ได้พบมือของตัวเอง
6เมื่อพระองค์ทรงตักเตือนโอพระเจ้าของยาโคบทั้งรถ
และม้าก็ตกอยู่ในอาการหลับใหล
7พระองค์เองทรงเป็นสิ่งที่ควรเกรงกลัวและใครจะยืนเฝ้า
พระองค์ได้เมื่อพระองค์ทรงกริ้ว?
8พระองค์ทรงให้การพิพากษาได้ยินมาจากสวรรค์แผ่นดินก็
กลัวและสงบนิ่ง
9เมื่อพระเจ้าทรงลุกขึ้นพิพากษาเพื่อช่วยคนอ่อนโยน
ทั้งหลายแห่งแผ่นดินโลกเซลาห์
10แน่นอนความกริ้วโกรธของมนุษย์จะสรรเสริญพระองค์
และพระองค์จะยับยั้งความกริ้วโกรธที่เหลืออยู่
11จงปฏิญาณต่อพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านและให้ทุก
คนที่อยู่โดยรอบพระองค์นําของกํานัลมาถวายแด่พระองค์ซึ่ง
ควรได้รับการเกรงกลัว
12พระองค์จะทรงตัดวิญญาณของบรรดาเจ้านายพระองค์
ทรงน่ากลัวต่อบรรดากษัตริย์แห่งแผ่นดินโลก
บทที่77
1(ถึงหัวหน้านักร้องถึงเยดูธุนสดุดีของอาสาฟ)ข้าพเจ้าร้อง
ทูลต่อพระเจ้าด้วยเสียงของข้าพเจ้าต่อพระเจ้าด้วยเสียง
ของข้าพเจ้าและพระองค์ทรงฟังข้าพเจ้า
2ในวันแห่งความทุกข์ยากของข้าพเจ้าข้าพเจ้าได้แสวงหา
พระเจ้าความเจ็บปวดของข้าพเจ้าวิ่งไปในตอนกลางคืนไม่
หยุดเลยจิตใจของข้าพเจ้าปฏิเสธที่จะรับการปลอบโยน
3ข้าพเจ้าระลึกถึงพระเจ้าและรู้สึกหนักใจข้าพเจ้าบ่นและ
จิตใจของข้าพเจ้าก็ท้อถอยเซลาห์
4พระองค์ทรงประคองตาข้าพระองค์ไว้ไม่ให้หลับข้า
พระองค์กังวลจนพูดไม่ออก
5ข้าพเจ้าคิดถึงวันเก่าๆและปีแห่งยุคโบราณ
6ข้าพระองค์รําลึกถึงบทเพลงของข้าพระองค์ในยามคํ่าคืน
ข้าพระองค์สนทนากับใจของข้าพระองค์เองและวิญญาณ
ของข้าพระองค์ก็เสาะหาอย่างขยันขันแข็ง
7พระเจ้าจะทรงทอดทิ้งเขาไปตลอดกาลหรือ?และพระองค์
จะไม่ทรงโปรดปรานเขาอีกต่อไปหรือ?
8พระกรุณาของพระองค์จะหมดสิ้นไปตลอดกาลหรือ?พระ
สัญญาของพระองค์จะสูญสิ้นไปตลอดกาลหรือ?
9พระเจ้าทรงลืมที่จะแสดงพระกรุณาหรือ?ในความโกรธ
ของพระองค์พระองค์ทรงปิดกั้นพระกรุณาอันอ่อนโยนไว้
หรือ?เซลาห์
10และข้าพเจ้ากล่าวว่านี่แหละเป็นความเจ็บป่วยของ
ข้าพเจ้าแต่ข้าพเจ้าจะระลึกถึงปีเดือนแห่งพระหัตถ์ขวาของ
ผู้สูงสุด
11ข้าพระองค์จะระลึกถึงพระราชกิจของพระเจ้าและจะระลึก
ถึงการอัศจรรย์ของพระองค์แต่โบราณ
12ข้าพระองค์จะใคร่ครวญถึงพระราชกิจของพระองค์ทั้งสิ้น
และเล่าถึงสิ่งที่พระองค์ได้ทรงกระทํา
13ทางของพระองค์ข้าแต่พระเจ้าอยู่ในสถานศักดิ์สิทธิ์
พระเจ้าองค์ใดจะยิ่งใหญ่เท่าพระเจ้าของเรา?
14พระองค์เป็นพระเจ้าผู้กระทําการอัศจรรย์พระองค์ได้ทรง
ประกาศความเข้มแข็งของพระองค์แก่ชนชาติทั้งหลาย
15พระองค์ได้ทรงไถ่ประชากรของพระองค์คือลูกหลาน
ของยาโคบและโยเซฟด้วยพระกรของพระองค์เซลาห์
16ข้าแต่พระเจ้านํ้าก็เห็นพระองค์นํ้าก็กลัวและที่ลึกก็
ปั่นป่วนด้วย
17เมฆทั้งหลายก็เทนํ้าลงมาท้องฟ้าก็เปล่งเสียงออกมา
และลูกธนูของพระองค์ก็พุ่งออกไป
18เสียงฟ้าร้องของพระองค์ดังอยู่ในสวรรค์ฟ้าแลบทําให้
โลกสว่างแผ่นดินก็สั่นสะเทือน
19ทางของพระองค์อยู่ในทะเลและทางของพระองค์อยู่ใน
นํ้าใหญ่และรอยพระบาทของพระองค์ไม่มีใครรู้จัก
20พระองค์ทรงนําประชากรของพระองค์เหมือนฝูงแกะโดย
มือของโมเสสและอาโรน
บทที่78
1(มัสคิลแห่งอาสาฟ)โอประชาชนของข้าพเจ้าจงตั้งใจฟัง
ธรรมบัญญัติของข้าพเจ้าจงเอียงหูฟังถ้อยคําจากปากของ
ข้าพเจ้า

บทสดุดี
2ข้าพเจ้าจะอ้าปากกล่าวเป็นคําเปรียบเทียบข้าพเจ้าจะ
กล่าวถ้อยคําอันมืดมนของสมัยก่อน
3ซึ่งเราได้ยินและทราบแล้วและบรรพบุรุษของเราก็ได้บอก
เรา
4เราจะไม่ซ่อนพวกเขาจากลูกหลานของพวกเขาโดยแสดง
ให้คนรุ่นต่อไปเห็นคําสรรเสริญพระเจ้าและฤทธิ์อํานาจของ
พระองค์และการงานอัศจรรย์ที่พระองค์ทรงกระทํา
5เพราะพระองค์ทรงสถาปนาพยานหลักฐานในยาโคบและ
ทรงตั้งธรรมบัญญัติไว้ในอิสราเอลซึ่งพระองค์ทรงบัญชาแก่
บรรพบุรุษของเราเพื่อให้พวกเขาแจ้งธรรมบัญญัติเหล่านี้ให้
ลูกหลานของพวกเขาทราบ
6เพื่อคนรุ่นต่อไปจะได้รู้จักเรื่องเหล่านี้คือลูกหลานที่จะเกิด
มาและจะได้ลุกขึ้นบอกเรื่องเหล่านี้ให้ลูกหลานของตนฟัง
7เพื่อว่าเขาจะได้ตั้งความหวังไว้ที่พระเจ้าและไม่ลืมการ
งานของพระเจ้าแต่ประพฤติตามพระบัญญัติของพระองค์
8และอย่าให้เป็นเหมือนบรรพบุรุษของพวกเขาคือเป็นชนรุ่น
ที่ดื้อรั้นและกบฏชนรุ่นที่จิตใจไม่มั่นคงและไม่มั่นคงต่อพระ
เจ้า
9บุตรหลานเอฟราอิมมีอาวุธและถือธนูและหันหลังกลับเมื่อ
ถึงวันรบ
10พวกเขาไม่รักษาพันธสัญญาของพระเจ้าและปฏิเสธที่จะ
ดําเนินตามธรรมบัญญัติของพระองค์
11และลืมการกระทําของพระองค์และการอัศจรรย์ที่พระองค์
ทรงแสดงให้พวกเขาเห็น
12พระองค์ทรงกระทําการมหัศจรรย์ต่อหน้าบรรพบุรุษของ
พวกเขาในแผ่นดินอียิปต์ในทุ่งโซอัน
13พระองค์ทรงแยกทะเลและทรงให้พวกเขาเดินลุยไปและ
ทรงทําให้นํ้านิ่งเป็นกอง
14ในเวลากลางวันพระองค์ทรงนําพวกเขาด้วยเมฆและด้วย
แสงไฟตลอดคืน
15พระองค์ทรงผ่าหินในถิ่นทุรกันดารแล้วทรงให้พวกเขาดื่ม
นํ้าเหมือนมาจากที่ลึก
16พระองค์ทรงบันดาลธารนํ้าออกมาจากศิลาและทรงทําให้
นํ้าไหลลงมาเหมือนแม่นํ้า
17แต่พวกเขายังทําบาปมากขึ้นต่อพระองค์โดยยั่วยุองค์ผู้
สูงสุดในถิ่นทุรกันดาร
18และพวกเขาได้ลองใจพระเจ้าในใจของตนโดยขออาหาร
เพื่อตอบสนองความต้องการของตน
19พวกเขาพูดต่อต้านพระเจ้าพวกเขาพูดว่าพระเจ้าทรง
สามารถจัดเตรียมโต๊ะในถิ่นทุรกันดารได้หรือ?
20ดูเถิดพระองค์ทรงตีศิลาจนนํ้าทะลักออกมาและลําธารก็
ล้นตลิ่งพระองค์จะทรงประทานขนมปังด้วยได้หรือพระองค์
จะทรงประทานเนื้อให้แก่ประชากรของพระองค์ได้หรือ
21เพราะฉะนั้นพระเจ้าทรงได้ยินดังนั้นและทรงพิโรธไฟจึง
ลุกไหม้ขึ้นต่อยาโคบและพระพิโรธก็เกิดขึ้นต่ออิสราเอลด้วย
22เพราะพวกเขาไม่เชื่อพระเจ้าและไม่วางใจในความรอด
ของพระองค์
23แม้พระองค์ได้ทรงบัญชาเมฆจากเบื้องบนและทรงเปิด
ประตูสวรรค์
24และทรงโปรยมานาลงมาให้พวกเขากินและประทาน
อาหารจากสวรรค์ให้แก่พวกเขา
25มนุษย์ได้กินอาหารของทูตสวรรค์และทรงส่งเนื้อให้พวก
เขาอย่างอิ่มหนํา
26พระองค์ทรงกระทําให้ลมตะวันออกพัดในฟ้าสวรรค์และ
ด้วยพระกําลังของพระองค์พระองค์ทรงนําลมใต้เข้ามา
27พระองค์ทรงโปรยเนื้อลงมาบนเขาทั้งหลายเหมือนฝุ่น
และทรงให้ขนนกตกลงมาเหมือนเม็ดทรายในทะเล
28แล้วพระองค์ทรงปล่อยให้มันตกลงมากลางค่ายของพวก
เขาและรอบที่พักอาศัยของพวกเขา
29พวกเขาจึงได้กินจนอิ่มเพราะว่าพระองค์ทรงประทานตาม
ความปรารถนาของพวกเขา
30พวกเขาไม่ได้ละทิ้งความใคร่ของพวกเขาแต่ขณะที่
อาหารของพวกเขายังอยู่ในปากของพวกเขา
31พระพิโรธของพระเจ้าก็ลงมาเหนือพวกเขาและสังหารคน
อ้วนที่สุดในพวกเขาและสังหารคนอิสราเอลผู้เลือกสรรเสีย
สิ้น
32ถึงเรื่องทั้งหมดนี้พวกเขาก็ยังกระทําบาปอยู่และไม่เชื่อ
ในพระราชกิจอันอัศจรรย์ของพระองค์
33เพราะฉะนั้นพระองค์จึงทรงทําให้วันของพวกเขาสูญไป
อย่างสูญเปล่าและทรงทําให้ปีของพวกเขาสูญไปอย่างทุกข์
ยาก
34เมื่อพระองค์ทรงสังหารพวกเขาพวกเขาก็แสวงหา
พระองค์แล้วพวกเขากลับมาสืบถามพระเจ้าอย่างเร็ว
35พวกเขาระลึกว่าพระเจ้าทรงเป็นศิลาของพวกเขาและพระ
เจ้าผู้สูงสุดทรงเป็นพระผู้ไถ่ของพวกเขา
36แม้กระนั้นพวกเขาก็ยังยอพระองค์ด้วยปากของพวกเขา
และโกหกพระองค์ด้วยลิ้นของพวกเขา
37เพราะว่าใจของพวกเขาไม่มั่นคงต่อพระองค์และไม่มั่นคง
ในพันธสัญญาของพระองค์
38แต่เพราะพระองค์ทรงเปี่ยมด้วยพระกรุณาพระองค์จึงทรง
ยกโทษความผิดของพวกเขาและมิได้ทรงทําลายพวกเขา
แม้แต่น้อยพระองค์ก็ทรงระงับความโกรธของพระองค์หลาย
ครั้งและมิได้ทรงปลุกความกริ้วของพระองค์ให้รุนแรงขึ้น
39เพราะพระองค์ทรงระลึกว่าเขาทั้งหลายเป็นเพียงเนื้อหนัง
เป็นลมที่ผ่านไปแล้วจะไม่กลับมาอีก
40พวกเขาได้ยั่วยุพระองค์ในถิ่นทุรกันดารบ่อยเพียงไรและ
ทําให้พระองค์เสียพระทัยในถิ่นทุรกันดาร!
41แต่พวกเขากลับหันกลับไปทดลองพระเจ้าและจํากัดพระ
เจ้าผู้บริสุทธิ์ของอิสราเอล
42พวกเขาไม่ระลึกถึงพระหัตถ์ของพระองค์และมิได้ระลึก
ถึงวันที่พระองค์ทรงช่วยพวกเขาให้พ้นจากศัตรู
43พระองค์ทรงกระทําการอัศจรรย์ของพระองค์ในอียิปต์
และทรงกระทําการอัศจรรย์ของพระองค์ในทุ่งโซอัน
44และทรงเปลี่ยนแม่นํ้าของพวกเขาให้เป็นเลือดและนํ้า
ท่วมโลกให้พวกเขาดื่มไม่ได้
45พระองค์ทรงส่งแมลงวันหลายชนิดมากินพวกเขาและ
ทรงส่งกบมาทําลายพวกเขา
46พระองค์ประทานพืชผลของพวกเขาแก่หนอนผีเสื้อและ
แรงงานของพวกเขาแก่ตั๊กแตน
47พระองค์ทรงทําลายเถาองุ่นของพวกเขาด้วยลูกเห็บและ
ทําลายต้นมะเดื่อของพวกเขาด้วยนํ้าค้างแข็ง
48พระองค์ยังทรงมอบฝูงวัวของพวกเขาให้กับลูกเห็บและ
ทรงมอบฝูงแกะของพวกเขาให้กับฟ้าผ่าอันร้อนแรง
49พระองค์ทรงปลดปล่อยความโกรธเกรี้ยวความพิโรธ
ความขุ่นเคืองและความลําบากใจของพระองค์ลงมายังพวก
เขาโดยทรงส่งทูตสวรรค์ชั่วร้ายมาท่ามกลางพวกเขา
50พระองค์ทรงเปิดหนทางให้แก่ความกริ้วของพระองค์
พระองค์ไม่ทรงละเว้นจิตวิญญาณของพวกเขาจากความตาย
แต่ทรงมอบชีวิตของพวกเขาให้แก่โรคระบาด
51และทรงประหารลูกหัวปีทุกคนในอียิปต์ซึ่งเป็นกําลัง
สําคัญของพวกเขาในเต็นท์พักแรมของฮาม
52แต่พระองค์ทรงทําให้ประชากรของพระองค์ออกไป
เหมือนแกะและทรงนําพวกเขาไปในถิ่นทุรกันดารเหมือนฝูง
แกะ
53และท่านได้นําพวกเขาไปอย่างปลอดภัยโดยที่พวกเขา
ไม่กลัวแต่ทะเลก็ท่วมศัตรูของพวกเขา

บทสดุดี
54และพระองค์ทรงนําพวกเขามายังเขตแดนแห่งสถาน
บริสุทธิ์ของพระองค์คือภูเขานี้ซึ่งพระหัตถ์ขวาของพระองค์
ได้ทรงไถ่ไว้
55พระองค์ทรงขับไล่พวกต่างชาติออกไปให้พ้นหน้าพวก
เขาและทรงแบ่งมรดกให้พวกเขาตามสายและทรงให้เผ่า
ต่างๆของอิสราเอลอาศัยอยู่ในเต็นท์ของพวกเขา
56แต่พวกเขายังล่อลวงและยั่วพระเจ้าผู้สูงสุดและไม่รักษา
คําพยานของพระองค์
57แต่กลับหันกลับไปและประพฤติไม่ซื่อสัตย์เหมือนอย่าง
บรรพบุรุษของตนพวกเขาถูกหันออกไปเหมือนคันธนูที่
หลอกลวง
58เพราะเขาทั้งหลายยั่วยุพระองค์ให้กริ้วด้วยเรื่องสถานบูชา
สูงของพวกเขาและยั่วยุให้พระองค์เกิดความอิจฉาริษยา
ด้วยเรื่องรูปเคารพของพวกเขา
59เมื่อพระเจ้าทรงได้ยินดังนี้พระองค์ก็ทรงพิโรธและเกลียด
ชังอิสราเอลยิ่งนัก
60ดังนั้นพระองค์จึงทรงละทิ้งพลับพลาแห่งชิโลห์ซึ่งเป็น
เต็นท์ที่พระองค์ทรงตั้งไว้ท่ามกลางมนุษย์
61และทรงมอบกําลังของพระองค์ให้แก่การถูกจองจําและ
ทรงมอบพระสิริของพระองค์ให้แก่มือของศัตรู
62พระองค์ทรงมอบประชากรของพระองค์ให้แก่ดาบและ
ทรงพิโรธต่อมรดกของพระองค์
63ไฟได้เผาผลาญชายหนุ่มของพวกเขาและสาวๆของ
พวกเขาก็ไม่ได้แต่งงาน
64พวกปุโรหิตของพวกเขาก็ล้มลงด้วยดาบและบรรดาหญิง
ม่ายของพวกเขาก็ไม่ครํ่าครวญเลย
65แล้วองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงตื่นขึ้นเหมือนคนหลับและ
เหมือนคนกล้าที่ตะโกนเพราะเหล้าองุ่น
66และพระองค์ทรงตีศัตรูของพระองค์ในตอนหลังพระองค์
ทรงทําให้พวกเขาถูกดูหมิ่นเหยียดหยามตลอดไป
67พระองค์ยังทรงปฏิเสธพลับพลาของโยเซฟและไม่ทรง
เลือกเผ่าเอฟราอิมด้วย
68แต่ทรงเลือกเผ่าของยูดาห์คือภูเขาศิโยนซึ่งพระองค์ทรง
รัก
69และพระองค์ทรงสร้างสถานศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์เหมือน
พระราชวังสูงเหมือนแผ่นดินที่พระองค์ทรงสถาปนาไว้เป็น
นิตย์
70พระองค์ได้ทรงเลือกดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์และทรง
นําเขามาจากคอกแกะ
71พระองค์ทรงนําแกะที่มีลูกมากจากการดูแลพระองค์มา
เพื่อเลี้ยงดูยาโคบประชาชนของพระองค์และอิสราเอลมรดก
ของพระองค์
72ดังนั้นท่านจึงเลี้ยงดูพวกเขาตามความซื่อสัตย์แห่งพระทัย
ของท่านและนําทางพวกเขาด้วยความชํานาญของมือของ
ท่าน
บทที่79
1(สดุดีของอาสาฟ)ข้าแต่พระเจ้าพวกต่างชาติได้เข้ามาอยู่
ในมรดกของพระองค์แล้วพวกเขาได้ทําให้พระวิหารอัน
บริสุทธิ์ของพระองค์เป็นมลทินพวกเขาได้ทําให้เยรูซาเล็ม
กลายเป็นกองซากปรักหักพัง
2ศพของผู้รับใช้ของพระองค์เขาได้มอบไว้เป็นอาหารของ
นกในสวรรค์และเนื้อของผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์สําหรับสัตว์
ป่าบนแผ่นดินโลก
3พวกเขาหลั่งเลือดของพวกเขาเหมือนนํ้ารอบๆเยรูซาเล็ม
และไม่มีใครฝังพวกเขา
4เราได้กลายเป็นที่อับอายแก่เพื่อนบ้านเป็นที่เยาะเย้ยและ
เยาะเย้ยแก่ผู้ที่อยู่รอบข้างเรา
5อีกนานเท่าใดพระองค์จะทรงกริ้วอยู่ตลอดไปความหึง
หวงของพระองค์จะลุกไหม้เหมือนไฟหรือ?
6ขอทรงเทความพิโรธของพระองค์ลงเหนือบรรดา
ประชาชาติที่ไม่รู้จักพระองค์และเหนือราชอาณาจักรต่างๆที่
ไม่ร้องเรียกพระนามของพระองค์
7เพราะพวกเขาได้กลืนกินยาโคบและทําลายที่อยู่ของเขา
ให้รกร้างไป
8ขออย่าทรงจดจําความผิดในอดีตที่เราทําไว้กับพระองค์
ขอพระเมตตาอันอ่อนโยนของพระองค์ช่วยเราโดยเร็วเพราะ
เราตกตํ่ามากแล้ว
9โปรดช่วยเราด้วยพระเจ้าแห่งความรอดของเราเพื่อความ
รุ่งเรืองของพระนามของพระองค์และโปรดช่วยเราและล้าง
บาปของเราให้หมดไปเพราะเห็นแก่พระนามของพระองค์
10เหตุไฉนพวกต่างชาติจึงควรพูดว่าพระเจ้าของพวกเขา
อยู่ที่ไหน?ขอให้เราทั้งหลายรู้จักพระองค์ท่ามกลางพวก
ต่างชาติโดยการแก้แค้นโลหิตของผู้รับใช้ของพระองค์ซึ่ง
หลั่งออกมา
11ขอให้เสียงครํ่าครวญของผู้ถูกจองจําเข้ามาต่อพระพักตร์
พระองค์ตามความยิ่งใหญ่แห่งพระเดชานุภาพของพระองค์
ขอพระองค์ทรงรักษาผู้ที่ถูกกําหนดให้ตายไว้
12และขอทรงตอบแทนการเยาะเย้ยต่อเพื่อนบ้านของเรา
เจ็ดเท่าในอ้อมอกของพวกเขาซึ่งพวกเขาได้เยาะเย้ย
พระองค์ข้าแต่พระเจ้า
13เพราะฉะนั้นพวกเราประชากรของพระองค์และแกะแห่งทุ่ง
หญ้าของพระองค์จะถวายคําสรรเสริญพระองค์ตลอดไปเรา
จะประกาศคําสรรเสริญพระองค์ไปทุกชั่วรุ่นทุกสมัย
บทที่80
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงสดุดีโชซันนิเมดูธสดุดีของอาสาฟ)
จงเงี่ยหูฟังเถิดข้าแต่ผู้เลี้ยงแกะของอิสราเอลผู้ทรงนําโย
เซฟเหมือนฝูงแกะข้าแต่ผู้ประทับระหว่างเคารูบขอทรง
เปล่งประกายออกไป
2ต่อหน้าเอฟราอิมเบนจามินและมนัสเสห์ขอพระองค์ทรง
ปลุกเร้ากําลังของพระองค์และเสด็จมาช่วยเรา
3โปรดทรงหันเรากลับมาอีกเถิดพระเจ้าและให้พระพักตร์
ของพระองค์ส่องสว่างและเราจะได้รับความรอด
4ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าจอมโยธาพระองค์จะทรงกริ้ว
ต่อคําอธิษฐานของประชากรของพระองค์นานเพียงไร?
5พระองค์ทรงเลี้ยงพวกเขาด้วยขนมปังนํ้าตาและทรงให้
พวกเขาดื่มนํ้าตาอย่างมากมาย
6พระองค์ทรงทําให้เราเป็นที่ทะเลาะวิวาทแก่เพื่อนบ้านของ
เราและศัตรูของเราก็หัวเราะเยาะกันเอง
7ขอทรงหันเรากลับมาอีกเถิดพระเจ้าจอมโยธาและทรงทํา
ให้พระพักตร์ของพระองค์ส่องสว่างและเราจะได้รับความ
รอด
8พระองค์ทรงนําเถาองุ่นออกจากอียิปต์พระองค์ทรงขับไล่
พวกต่างชาติออกไปและทรงปลูกมันไว้
9พระองค์ทรงจัดเตรียมที่ไว้ข้างหน้ามันและทรงทําให้มัน
หยั่งรากลึกและมันแผ่เต็มแผ่นดิน
10เนินเขาเหล่านั้นก็ถูกปกคลุมด้วยเงาของมันและกิ่งก้าน
ของมันก็เหมือนต้นซีดาร์ที่งดงาม
11มันแผ่กิ่งก้านไปถึงทะเลและแผ่กิ่งก้านไปถึงแม่นํ้า
12แล้วเหตุใดท่านจึงทรงทําลายรั้วต้นไม้ของนางลงเสีย
เพื่อให้ทุกคนที่ผ่านไปมาเด็ดนางไป?
13หมูป่าจากป่าก็ทําลายมันและสัตว์ป่าในทุ่งก็กินมัน
14ขอพระองค์หันกลับมาเถิดพระเจ้าจอมโยธาขอทรงมอง
ลงมาจากสวรรค์และทรงเห็นและทรงเยี่ยมเยียนเถาองุ่นนี้

บทสดุดี
15และสวนองุ่นซึ่งพระหัตถ์ขวาของพระองค์ได้ปลูกและกิ่ง
ที่พระองค์ทรงทําให้แข็งแรงสําหรับพระองค์เอง
16มันถูกเผาด้วยไฟมันถูกตัดลงพวกเขาพินาศเพราะการ
ตําหนิจากพระพักตร์ของพระองค์
17ขอพระหัตถ์ของพระองค์จงอยู่ที่ผู้ที่อยู่ทางขวาพระหัตถ์
ของพระองค์คือบุตรมนุษย์ที่พระองค์ทรงทําให้เข้มแข็ง
สําหรับพระองค์เอง
18เพราะฉะนั้นเราจะไม่หันกลับไปจากพระองค์ขอทรงทํา
ให้เรามีชีวิตอยู่และเราจะร้องเรียกพระนามของพระองค์
19ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าจอมโยธาโปรดทรงทําให้เรา
กลับมาอีกครั้งโปรดทําให้พระพักตร์ของพระองค์ส่องสว่าง
และเราจะรอด
บทที่81
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงสดุดีกิตทิธของอาสาฟ)จงขับร้อง
ด้วยความยินดีแด่พระเจ้าผู้เป็นกําลังของพวกเราจงเปล่ง
เสียงร้องด้วยความปิติยินดีแด่พระเจ้าของยาโคบ
2จงนําบทเพลงสดุดีมาและนําเครื่องดนตรีประเภทรําคือ
พิณใหญ่และพิณเล็กมาด้วย
3.ให้เป่าแตรในวันขึ้นคํ่าในเวลาที่กําหนดในวันฉลองอัน
ศักดิ์สิทธิ์ของเรา
4เพราะนี่เป็นธรรมบัญญัติสําหรับอิสราเอลและเป็นธรรม
บัญญัติของพระเจ้าแห่งยาโคบ
5พระองค์ทรงกําหนดให้โยเซฟทําสิ่งนี้เป็นพยานเมื่อ
พระองค์เสด็จออกไปในแผ่นดินอียิปต์เมื่อข้าพเจ้าได้ยิน
ภาษาที่ข้าพเจ้าไม่เข้าใจ
6ข้าพระองค์ได้เอาไหล่ของเขาออกจากภาระและมือของ
เขาได้รับการช่วยเหลือจากหม้อ
7เจ้าร้องเรียกเมื่อมีปัญหาเราก็ช่วยเจ้าไว้เราตอบเจ้าในที่
ลับที่มีฟ้าร้องเราทดสอบเจ้าที่นํ้าเมรีบาห์เซลาห์
8จงฟังเถิดประชาชนของฉันและฉันจะยืนยันแก่เจ้าโอ
อิสราเอลถ้าเจ้าฟังฉัน
9จะไม่มีพระเจ้าแปลกหน้าอยู่ในเจ้าเลยและเจ้าจะไม่บูชา
พระเจ้าแปลกหน้าใดๆ
10เราคือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าผู้ได้นําเจ้าออกจาก
แผ่นดินอียิปต์จงอ้าปากกว้างๆแล้วเราจะกรอกปากเจ้าให้
เต็ม
11แต่ประชากรของเราไม่ฟังเสียงของเราและอิสราเอลก็ไม่
ฟังเราเลย
12ดังนั้นเราจึงมอบพวกเขาไว้ตามความปรารถนาของใจ
ของพวกเขาเองและพวกเขาก็ได้ดําเนินตามคําแนะนําของ
ตนเอง
13โอ้ถ้าประชากรของเราได้ฟังเราและอิสราเอลได้เดินตาม
ทางของเรา!
14ข้าพระองค์น่าจะปราบศัตรูของพวกเขาได้เร็วๆนี้และหัน
มือของข้าพระองค์ต่อสู้กับคู่ต่อสู้ของพวกเขา
15บรรดาผู้เกลียดชังพระเจ้าจะต้องยอมอยู่ใต้อํานาจ
พระองค์แต่เวลาของพวกเขาจะคงอยู่ชั่วนิรันดร์
16พระองค์จะได้ทรงเลี้ยงพวกเขาด้วยข้าวสาลีที่ดีที่สุดและ
จะได้ทรงให้เจ้าพอใจด้วยนํ้าผึ้งจากศิลา
บทที่82
1(สดุดีของอาสาฟ)พระเจ้าทรงยืนอยู่ในที่ประชุมของผู้มี
อํานาจพระองค์ทรงพิพากษาท่ามกลางเหล่าเทพเจ้า
2พวกท่านจะตัดสินอย่างไม่ยุติธรรมและยอมรับคนชั่วไป
นานเพียงไร?เซลาห์
3.ปกป้องคนยากจนและคนกําพร้า:ให้ความยุติธรรมแก่ผู้
ทุกข์ยากและขัดสน
4จงช่วยคนยากจนและคนขัดสนและช่วยพวกเขาให้พ้นจาก
มือของคนชั่ว
5พวกเขาไม่รู้และไม่เข้าใจพวกเขาเดินไปในความมืด
รากฐานของโลกทั้งสิ้นก็ผิดทาง
6เรากล่าวว่าพวกเจ้าทั้งหลายเป็นพระเจ้าและเป็นบุตรของ
ผู้สูงสุดทุกคน
7แต่พวกท่านจะต้องตายเหมือนมนุษย์และล้มลงเหมือน
เจ้านายคนหนึ่ง
8ข้าแต่พระเจ้าขอทรงลุกขึ้นพิพากษาแผ่นดินโลกเพราะว่า
พระองค์จะทรงครอบครองบรรดาประชาชาติทุกชาติเป็น
มรดก
บทที่83
1(บทเพลงหรือสดุดีของอาสาฟ)ข้าแต่พระเจ้าขออย่าทรง
นิ่งเฉยโปรดอย่าทรงนิ่งเฉยและอย่าอยู่นิ่งเลยข้าแต่พระเจ้า
2เพราะดูเถิดศัตรูของพระองค์ก็ก่อความวุ่นวายและบรรดา
ผู้ที่เกลียดชังพระองค์ก็ได้ยกศีรษะขึ้น
3พวกเขาได้วางแผนอันแยบยลต่อประชากรของพระองค์
และปรึกษาหารือกันต่อผู้ที่พระองค์ซ่อนอยู่
4พวกเขากล่าวว่ามาเถิดเราจะตัดพวกเขาออกจากการเป็น
ประชาชาติเพื่อว่าชื่อของอิสราเอลจะไม่อยู่ในความทรงจํา
อีกต่อไป
5เพราะพวกเขาได้ปรึกษากันด้วยความเต็มใจพวกเขาได้
ร่วมมือกันต่อต้านคุณ
6คือเต็นท์ของเอโดมและของพวกอิชมาเอล;ของพวกโม
อาบและของพวกฮาการ์เน;
7เกบาลและอัมโมนและอามาเล็คชาวฟีลิสเตียกับ
ชาวเมืองไทร์
8อัสซูรก็เข้าร่วมกับพวกเขาด้วยพวกเขาช่วยเหลือบุตร
หลานของล็อตเซลาห์
9จงกระทํากับพวกเขาเหมือนอย่างที่ทํากับพวกมีเดียน
เหมือนอย่างที่ทํากับสิเสราและกับยาบินที่ลําธารคีโซน
10ซึ่งพินาศไปที่เมืองเอ็นดอร์พวกเขาก็กลายเป็นเหมือนปุ๋ย
สําหรับพื้นดิน
11จงทําให้ขุนนางของพวกเขาเป็นเหมือนโอเรบและเหมือน
เซเอบและให้เจ้านายของพวกเขาทั้งหมดเป็นเหมือนเซบาห์
และซัลมุนนา
12ผู้ที่กล่าวว่าให้เรายึดเอาบ้านเรือนของพระเจ้ามาเป็น
กรรมสิทธิ์ของตนเถิด
13ข้าแต่พระเจ้าของข้าพเจ้าขอทรงทําให้พวกเขาเหมือน
ล้อเหมือนฟางข้าวต่อหน้าลม
14ดังไฟเผาป่าและดังเปลวเพลิงเผาภูเขาให้ลุกเป็นไฟ
15ขอพระองค์ให้ทรงข่มเหงพวกเขาด้วยพายุของพระองค์
และทรงทําให้พวกเขากลัวด้วยพายุของพระองค์
16โปรดให้พวกเขามีความอับอายเพื่อพวกเขาจะได้
แสวงหาพระนามของพระองค์ข้าแต่พระเยโฮวาห์
17ขอให้พวกเขาได้รับความอับอายและทุกข์ใจตลอดไป
ขอให้พวกเขาได้รับความอับอายและพินาศไป
18เพื่อให้คนทั้งหลายทราบว่าพระองค์ผู้เดียวที่มีพระนามว่า
พระเยโฮวาห์ทรงเป็นพระเจ้าสูงสุดเหนือแผ่นดินโลกทั้งสิ้น
บทที่84
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงสดุดีกิตทิธสําหรับบรรดาลูกหลาน
ของโคราห์)ข้าแต่พระเจ้าจอมโยธาพลับพลาของพระองค์
ช่างน่ารักเสียจริง!

บทสดุดี
2จิตวิญญาณของข้าพเจ้าโหยหาและอาลัยหาบริเวณพระ
นิเวศน์ของพระเจ้าใจและเนื้อหนังของข้าพเจ้าร้องเรียกหา
พระเจ้าผู้ทรงชีวิต
3นกกระจอกก็หาบ้านได้แล้วและนกนางแอ่นก็หารังสําหรับ
ตัวมันเองได้ซึ่งมันจะวางลูกได้แม้แต่แท่นบูชาของพระองค์
ข้าแต่พระเจ้าจอมโยธากษัตริย์ของข้าพเจ้าและพระเจ้าของ
ข้าพเจ้า
4ผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านของท่านเป็นสุขพวกเขาจะยังคง
สรรเสริญท่านต่อไปเซลาห์
5บุคคลผู้มีความเข้มแข็งอยู่ในพระองค์นั้นเป็นสุขและ
บุคคลผู้มีความนึกคิดในทางของตนอยู่ในใจก็เป็นสุข
6ขณะที่กําลังผ่านไปในหุบเขาบาคาเขาก็ทําบ่อนํ้าให้
กลายเป็นบ่อนํ้าฝนก็ทําให้นํ้าเต็มสระด้วย
7พวกเขาไปมีกําลังเพิ่มขึ้นกําลังลงแต่ละคนปรากฏตัวต่อ
พระพักตร์พระเจ้าในศิโยน
8ข้าแต่พระเยโฮวาห์จอมโยธาขอทรงสดับคําอธิษฐานของ
ข้าพระองค์ขอทรงเงี่ยพระกรรณฟังเถิดข้าแต่พระเจ้าของ
ยาโคบเซลาห์
9ขอทรงมองดูพระพักตร์ของผู้ที่พระองค์ทรงเจิมผู้ทรงเป็น
โล่ห์คุ้มครองของพวกเรา
10เพราะวันเดียวในลานพระวิหารของพระองค์ดีกว่าพันวัน
ข้าพเจ้าขอเป็นผู้ดูแลประตูพระนิเวศน์ของพระเจ้าของ
ข้าพเจ้าดีกว่าอยู่ในเต็นท์ของคนชั่วร้าย
11เพราะว่าพระเยโฮวาห์พระเจ้าทรงเป็นดวงอาทิตย์และเป็น
โล่ห์พระเยโฮวาห์จะทรงประทานพระคุณและพระสิริ
พระองค์จะมิได้ทรงยั้งยั้งสิ่งดีใดๆไว้จากผู้ที่เดินในทางชอบ
ธรรม
12ข้าแต่พระเยโฮวาจอมโยธาบุคคลผู้วางใจในพระองค์ก็
เป็นสุข
บทที่85
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงสดุดีสําหรับลูกหลานของโคราห์)
ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระองค์ได้ทรงโปรดปรานแผ่นดินของ
พระองค์พระองค์ทรงนําการเชลยของยาโคบกลับมา
2พระองค์ได้ทรงยกโทษความผิดของประชากรของพระองค์
และทรงปกปิดบาปทั้งหมดของพวกเขาไว้เซลาห์
3พระองค์ได้ทรงเอาความพิโรธทั้งหมดของพระองค์ไป
พระองค์ทรงหันพระองค์จากความรุนแรงของความโกรธของ
พระองค์
4ข้าแต่พระเจ้าแห่งความรอดของพวกเราโปรดทรงหันเรา
กลับมาและโปรดให้ความโกรธของพระองค์ที่มีต่อพวกเรา
ยุติลง
5พระองค์จะทรงกริ้วพวกเราตลอดไปหรือ?พระองค์จะทรง
ระบายความโกรธของพระองค์ออกไปทุกชั่วอายุคนหรือ?
6พระองค์จะไม่ทรงทําให้พวกเราฟื้นขึ้นมาอีกหรือเพื่อ
ประชากรของพระองค์จะได้ชื่นชมยินดีในพระองค์?
7ขอทรงแสดงพระเมตตาของพระองค์แก่พวกข้าพเจ้าพระ
เจ้าและโปรดประทานความรอดแก่พวกข้าพเจ้า
8ข้าพเจ้าจะฟังว่าพระเจ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าจะตรัสว่าอย่างไร
เพราะพระองค์จะทรงตรัสสันติแก่ประชากรของพระองค์และ
แก่บรรดาผู้บริสุทธิ์ของพระองค์แต่อย่าให้พวกเขาหัน
กลับไปสู่ความโง่เขลาอีกเลย
9ความรอดของพระองค์ย่อมอยู่ใกล้ผู้ที่ยําเกรงพระองค์เพื่อ
ความรุ่งเรืองจะได้อยู่ในแผ่นดินของเรา
10ความเมตตาและความจริงได้พบกันและความชอบธรรม
และสันติภาพได้จูบกัน
11ความจริงจะงอกออกมาจากแผ่นดินและความชอบธรรม
จะมองลงมาจากสวรรค์
12พระเจ้าจะประทานสิ่งที่ดีและแผ่นดินของเราจะเกิดผล
มาก
13ความชอบธรรมจะนําหน้าพระองค์และจะตั้งเราไว้ในวิถี
แห่งพระบาทของพระองค์
บทที่86
1(คําอธิษฐานของดาวิด)ข้าแต่พระเยโฮวาห์โปรดทรงเงี่ย
พระกรรณฟังข้าพระองค์เพราะข้าพระองค์ยากจนและขัดสน
2ขอทรงรักษาจิตวิญญาณของข้าพระองค์ไว้เพราะว่าข้า
พระองค์เป็นผู้บริสุทธิ์ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ขอทรง
ช่วยผู้รับใช้ของพระองค์ผู้วางใจในพระองค์
3ขอทรงมีพระกรุณาต่อข้าพระองค์ด้วยเถิดข้าแต่พระเยโฮ
วาห์เพราะข้าพระองค์ร้องทูลพระองค์ทุกวัน
4ขอทรงชื่นชมยินดีในจิตใจของผู้รับใช้ของพระองค์
เพราะว่าข้าพระองค์ขอถวายจิตวิญญาณแด่พระองค์ข้าแต่
พระยาห์เวห์
5เพราะว่าพระองค์ผู้เป็นพระเจ้าทรงดีและทรงพร้อมที่จะยก
โทษและทรงเปี่ยมด้วยพระกรุณาต่อทุกคนที่ร้องเรียก
พระองค์
6โปรดทรงเงี่ยพระกรรณฟังคําอธิษฐานของข้าพระองค์และ
ทรงสดับเสียงวิงวอนของข้าพระองค์
7ในวันทุกข์ยากของข้าพเจ้าข้าพเจ้าจะร้องเรียกพระองค์
เพราะพระองค์จะทรงตอบข้าพเจ้า
8ในบรรดาพระทั้งหลายไม่มีผู้ใดเหมือนพระองค์ข้าแต่พระ
เจ้าและไม่มีงานใดเหมือนงานของพระองค์
9ประชาชาติทั้งหลายที่พระองค์ได้ทรงสร้างจะมาและ
นมัสการต่อพระพักตร์พระองค์ข้าแต่พระยาห์เวห์และจะ
ถวายพระเกียรติแด่พระนามของพระองค์
10เพราะพระองค์ยิ่งใหญ่และทรงกระทําการมหัศจรรย์
พระองค์เป็นพระเจ้าแต่ผู้เดียว
11ขอทรงสอนทางของพระองค์แก่ข้าพระองค์ข้าแต่พระเย
โฮวาห์ข้าพระองค์จะดําเนินตามความจริงของพระองค์
โปรดให้จิตใจของข้าพระองค์ผูกพันกันเพื่อยําเกรงพระนาม
ของพระองค์
12ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์พระเจ้าของข้าพระองค์
ด้วยสุดใจและข้าพระองค์จะถวายเกียรติแด่พระนามของ
พระองค์ตลอดไป
13เพราะพระกรุณาของพระองค์ที่มีต่อข้าพระองค์นั้นใหญ่ยิ่ง
และพระองค์ทรงช่วยชีวิตข้าพระองค์จากนรกที่ลึกที่สุด
14ข้าแต่พระเจ้าคนจองหองลุกขึ้นต่อต้านข้าพระองค์และ
กลุ่มคนอันธพาลได้พยายามแสวงหาชีวิตของข้าพระองค์แต่
พระองค์มิได้ทรงตั้งพระองค์ไว้ต่อหน้าพวกเขา
15แต่พระองค์คือพระเจ้าผู้เปี่ยมด้วยพระกรุณาและพระ
กรุณาทรงอดกลั้นและทรงอุดมด้วยความเมตตาและความ
จริง
16โปรดหันมาหาข้าพเจ้าและมีเมตตาต่อข้าพเจ้าโปรด
ประทานกําลังแก่ผู้รับใช้ของท่านและช่วยบุตรของสาวใช้
ของท่านด้วย
17ขอทรงแสดงเครื่องหมายแห่งความดีให้แก่ข้าพระองค์
เพื่อบรรดาคนที่เกลียดชังข้าพระองค์จะได้เห็นและละอาย
เพราะว่าพระองค์คือพระเยโฮวาห์ทรงช่วยเหลือและทรง
ปลอบโยนข้าพระองค์
บทที่87
1(บทเพลงสดุดีหรือเพลงสําหรับลูกหลานของโคราห์)
รากฐานของเขาอยู่บนภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์

บทสดุดี
2พระเยโฮวาห์ทรงรักประตูเมืองศิโยนมากกว่าที่อยู่อาศัย
ทั้งสิ้นของยาโคบ
3เมืองของพระเจ้าเอ๋ยมีการกล่าวถึงเจ้าด้วยเรื่องอันน่า
สรรเสริญเซลาห์
4เราจะกล่าวถึงราฮับและบาบิลอนแก่บรรดาผู้ที่รู้จักเราดู
เถิดมีเมืองฟีลิสเตียไทร์และเอธิโอเปียชายผู้นี้เกิดที่นั่น
5และจะมีคํากล่าวเกี่ยวกับศิโยนว่ามนุษย์ผู้นี้และมนุษย์ผู้
นั้นเกิดในเธอและพระเจ้าผู้สูงสุดเองจะทรงสถาปนาเธอไว้
6เมื่อพระเจ้าทรงบันทึกเรื่องราวของประชาชนพระเจ้าจะ
ทรงนับว่าชายคนนี้เกิดที่นั่นเซลาห์
7ทั้งนักร้องและนักดนตรีจะอยู่ที่นั่นด้วยนํ้าพุของเราทั้งสิ้นก็
อยู่ในตัวเจ้า
บทที่88
1(บทเพลงหรือสดุดีสําหรับลูกหลานของโคราห์ถึงหัวหน้า
นักร้องเพลงสรรเสริญมาฮาลาธเลนโนธมาสชิลแห่งเฮมาน
ชาวเอซราห์)ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าแห่งความรอดของ
ข้าพระองค์ข้าพระองค์ร้องทูลต่อพระพักตร์พระองค์ทั้งวัน
และคืน
2ขอให้คําอธิษฐานของข้าพระองค์ขึ้นมาต่อพระพักตร์
พระองค์โปรดเงี่ยพระกรรณฟังเสียงร้องไห้ของข้าพระองค์
3เพราะว่าจิตใจของข้าพระองค์เต็มไปด้วยความทุกข์ยาก
และชีวิตของข้าพระองค์ก็เข้าใกล้หลุมศพ
4ข้าพระองค์ถูกนับว่าเป็นคนไร้กําลังข้าพระองค์ถูกนับว่า
เป็นคนไร้กําลัง
5เป็นอิสระท่ามกลางคนตายเหมือนคนที่ถูกฆ่าที่นอนอยู่ใน
หลุมศพซึ่งพระองค์ไม่ทรงรําลึกอีกและพวกเขาถูกตัดขาด
จากพระหัตถ์ของพระองค์
6พระองค์ทรงวางข้าพระองค์ไว้ในหลุมลึกในความมืดและ
ในที่ลึกที่สุด
7ความพิโรธของพระองค์หนักอยู่บนข้าพระองค์และ
พระองค์ทรงทําให้ข้าพระองค์ทุกข์ทรมานด้วยคลื่นทั้งสิ้น
ของพระองค์เซลาห์
8เจ้าทําให้ความคุ้นเคยของข้าพระองค์ห่างไกลจากข้า
พระองค์เจ้าทําให้ข้าพระองค์เป็นที่น่ารังเกียจสําหรับพวก
เขาข้าพระองค์ถูกขังไว้และข้าพระองค์ออกไปไม่ได้
9ตาของข้าพระองค์โศกเศร้าเพราะความทุกข์ยากข้าแต่พระ
เยโฮวาห์ข้าพระองค์ร้องเรียกพระองค์ทุกวันข้าพระองค์ยื่น
มือออกไปหาพระองค์
10พระองค์จะแสดงการอัศจรรย์ให้คนตายเห็นหรือคนตาย
จะลุกขึ้นมาสรรเสริญพระองค์หรือ?เซลาห์
11ความรักมั่นคงของพระองค์จะถูกประกาศไว้ในหลุมศพ
หรือ?และความซื่อสัตย์ของพระองค์จะถูกประกาศในการ
ทําลายล้างหรือ?
12การอัศจรรย์ของพระองค์จะปรากฏในความมืดหรือ?และ
ความชอบธรรมของพระองค์จะปรากฏในแผ่นดินแห่งความ
หลงลืมหรือ?
13แต่ข้าพระองค์ได้ร้องทูลต่อพระองค์ข้าแต่พระเยโฮวาห์
และในยามเช้าคําอธิษฐานของข้าพระองค์จะปกป้อง
พระองค์
14ข้าแต่พระเยโฮวาห์เหตุไฉนพระองค์จึงทรงขับไล่จิต
วิญญาณของข้าพระองค์เหตุไฉนพระองค์จึงทรงซ่อนพระ
พักตร์จากข้าพระองค์?
15ข้าพระองค์ทุกข์ทรมานและพร้อมที่จะตายตั้งแต่เยาว์วัย
ขณะที่ข้าพระองค์ทนทุกข์ทรมานจากความหวาดกลัวของ
พระองค์ข้าพระองค์ก็สับสน
16ความพิโรธอันรุนแรงของพระองค์ท่วมท้นข้าพระองค์
ความหวาดกลัวของพระองค์ได้ตัดข้าพระองค์ออก
17พวกเขาเข้ามาล้อมรอบฉันทุกวันเหมือนนํ้าพวกเขา
ล้อมรอบฉันไว้ด้วยกัน
18พระองค์ทรงทําให้คนรักและมิตรสหายของข้าพระองค์
ห่างไกลจากข้าพระองค์และทรงทําให้ผู้ที่ข้าพระองค์คุ้นเคย
ตกอยู่ในความมืดมน
บทที่89
1(มัสชิลแห่งเอธานชาวเอสราห์)ข้าพระองค์จะร้องเพลงถึง
ความเมตตาของพระเจ้าตลอดไปด้วยปากของข้าพระองค์
ข้าพระองค์จะประกาศความซื่อสัตย์ของพระองค์ไปทุกชั่ว
อายุคน
2เพราะข้าพระองค์ได้กล่าวแล้วว่าความเมตตาของพระองค์
จะทรงสร้างขึ้นเป็นนิตย์และความซื่อสัตย์ของพระองค์จะ
ทรงสถาปนาไว้ในสวรรค์ทั้งหลาย
3เราได้ทําพันธสัญญาไว้กับผู้ที่เราเลือกเราได้สาบานไว้กับ
ดาวิดผู้รับใช้ของเราว่า
4เราจะสถาปนาพงศ์พันธุ์ของเจ้าไว้เป็นนิตย์และเราจะสร้าง
บัลลังก์ของเจ้าไว้ชั่วรุ่นต่อรุ่นเซลาห์
5และฟ้าสวรรค์จะสรรเสริญการอัศจรรย์ของพระองค์ข้าแต่
พระเยโฮวาห์และความซื่อสัตย์ของพระองค์ในชุมนุมของ
บรรดาธรรมิกชนก็เช่นกัน
6เพราะผู้ใดในสวรรค์จะเปรียบกับพระเยโฮวาห์ได้?ใน
บรรดาบุตรของผู้ยิ่งใหญ่ใครเล่าจะเปรียบกับพระเยโฮวาห์
ได้?
พระเจ้าทรงเป็นผู้ที่น่าเกรงขามยิ่งในที่ประชุมของบรรดา
ธรรมิกชนและเป็นที่เคารพนับถือของทุกคนที่อยู่รอบ
พระองค์ด้วย
8ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าจอมโยธาผู้ใดเป็นพระเยโฮวาห์
ผู้เข้มแข็งเหมือนพระองค์หรือเป็นพระเยโฮวาห์ผู้ซื่อสัตย์
ของพระองค์ที่อยู่รอบพระองค์
9พระองค์ทรงปกครองการโหมกระหนํ่าของทะเลเมื่อคลื่น
สูงขึ้นพระองค์ทรงทําให้สงบลง
10พระองค์ทรงทุบราฮับเป็นชิ้นๆเหมือนกับผู้ที่ถูกสังหาร
พระองค์ทรงกระจายศัตรูของพระองค์ด้วยพระกรอันทรงฤทธิ์
ของพระองค์
11สวรรค์เป็นของพระองค์แผ่นดินโลกก็เป็นของพระองค์
ส่วนโลกและสิ่งที่เต็มไปด้วยโลกพระองค์ได้ทรงสถาปนา
มันไว้
12พระองค์ได้ทรงสร้างทิศเหนือและทิศใต้เมืองทาโบร์และ
เฮอร์โมนจะชื่นชมยินดีในพระนามของพระองค์
13ท่านมีพระกรอันทรงฤทธิ์พระหัตถ์ของท่านก็เข้มแข็ง
และพระหัตถ์ขวาของท่านก็สูง
ความยุติธรรมและการพิพากษาเป็นที่ประทับของบัลลังก์ของ
พระองค์ความเมตตาและความจริงจะต้องเดินนําหน้า
พระองค์
15สุขแก่ชนชาติที่รู้จักเสียงชื่นชมยินดีพวกเขาจะเดินไปใน
แสงสว่างจากพระพักตร์ของพระองค์ข้าแต่พระเยโฮวาห์
16ในพระนามของพระองค์พวกเขาจะชื่นชมยินดีตลอดวัน
และในความชอบธรรมของพระองค์พวกเขาจะได้รับการเชิด
ชู
17เพราะว่าพระองค์เป็นสง่าราศีแห่งความเข้มแข็งของพวก
เขาและในความโปรดปรานของพระองค์เขาของพวกเราจะ
ได้รับการเชิดชู
18เพราะว่าพระเยโฮวาห์ทรงเป็นป้อมปราการของเราและ
พระผู้บริสุทธิ์แห่งอิสราเอลทรงเป็นกษัตริย์ของเรา
19แล้วเจ้าได้ตรัสในนิมิตแก่ผู้บริสุทธิ์ของเจ้าและตรัสว่าเรา
ได้ให้ความช่วยเหลือแก่ผู้มีอํานาจคนหนึ่งเราได้ยกย่องผู้ที่
ได้รับเลือกจากประชาชนคนหนึ่ง

บทสดุดี
20เราได้พบดาวิดผู้รับใช้ของเราเราเจิมเขาด้วยนํ้ามัน
ศักดิ์สิทธิ์ของเรา
21ซึ่งพระหัตถ์ของข้าพเจ้าจะมั่นคงอยู่กับเขาและแขนของ
ข้าพเจ้าจะเสริมกําลังเขาด้วย
22ศัตรูจะไม่เรียกร้องอะไรจากเขาและบุตรแห่งความชั่วร้าย
จะไม่ทรมานเขา
23และเราจะทุบตีพวกศัตรูของเขาต่อหน้าเขาและจะ
ลงโทษผู้ที่เกลียดชังเขา
24แต่ความซื่อสัตย์และความเมตตาของเราจะอยู่กับเขา
และเขาจะได้รับการเชิดชูในนามของเรา
25เราจะวางมือของเขาไว้ในทะเลและมือขวาของเขาไว้ใน
แม่นํ้าด้วย
26เขาจะร้องเรียกข้าพเจ้าว่า‘พระองค์เป็นพระบิดาของ
ข้าพเจ้าพระเจ้าของข้าพเจ้าและเป็นศิลาแห่งความรอดของ
ข้าพเจ้า’
27เราจะให้เขาเป็นบุตรหัวปีของเราสูงกว่าบรรดากษัตริย์
แห่งแผ่นดินโลก
28เราจะรักษาความเมตตาของเราไว้ให้กับเขาตลอดไปและ
พันธสัญญาของเราจะมั่นคงกับเขา
29เราจะให้พงศ์พันธุ์ของเขาคงอยู่ชั่วนิรันดร์และบัลลังก์
ของเขาคงอยู่ตราบเท่าวันแห่งสวรรค์
30ถ้าบุตรหลานของเขาละทิ้งธรรมบัญญัติของเราและไม่
ดําเนินตามคําพิพากษาของเรา
31ถ้าพวกเขาทําลายบัญญัติของเราและไม่รักษาบัญญัติ
ของเรา
32แล้วเราจะลงโทษการละเมิดของพวกเขาด้วยไม้เรียวและ
ความชั่วช้าของพวกเขาด้วยการเฆี่ยน
33แม้กระนั้นก็ตามเราจะไม่เอาความรักมั่นคงของเราไปจาก
เขาโดยสิ้นเชิงและจะไม่ปล่อยให้ความซื่อสัตย์ของเราสูญ
สิ้นไป
34เราจะไม่ทําลายพันธสัญญาของเราและจะไม่
เปลี่ยนแปลงสิ่งที่ออกจากริมฝีปากของเรา
35ฉันได้สาบานด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของฉันครั้งหนึ่งว่าฉันจะ
ไม่โกหกดาวิด
36เชื้อสายของเขาจะคงอยู่ชั่วนิรันดร์และบัลลังก์ของเขาจะ
คงอยู่ดังดวงอาทิตย์ต่อหน้าเรา
37จะทรงสถาปนาไว้เป็นนิตย์เหมือนดวงจันทร์และเหมือน
พยานที่ซื่อสัตย์ในสวรรค์เซลาห์
38แต่พระองค์ได้ทรงละทิ้งและเกลียดชังพระองค์ได้ทรง
พิโรธต่อผู้ที่พระองค์ทรงเจิมไว้
39พระองค์ได้ทรงทําให้พันธสัญญาของผู้รับใช้ของพระองค์
เป็นโมฆะพระองค์ทรงทําให้มงกุฎของเขาเป็นมลทินโดย
การเหวี่ยงลงสู่พื้นดิน
40พระองค์ได้ทรงทําลายรั้วต้นไม้ของเขาลงหมดและทรง
ทําลายป้อมปราการของเขาให้พังทลาย
41ทุกคนที่ผ่านไปมาก็ทําลายเขาเขาเป็นที่อับอายของ
เพื่อนบ้าน
42พระองค์ได้ทรงตั้งมือขวาของศัตรูของเขาไว้และทรงทํา
ให้ศัตรูทั้งหมดของเขาเปรมปรีดิ์
43พระองค์ยังทรงหันคมดาบของเขาและมิได้ทรงทําให้เขา
ยืนหยัดอยู่ในสมรภูมิได้
44พระองค์ทรงทําให้พระสิริของเขาสูญสิ้นและทรงเหวี่ยง
บัลลังก์ของเขาลงสู่พื้นดิน
45พระองค์ทรงทําให้วันวัยหนุ่มของเขาสั้นลงพระองค์ทรง
ปกคลุมเขาไว้ด้วยความอับอายเซลาห์
46อีกนานเท่าใดพระองค์จะซ่อนพระองค์อยู่ตลอดไปหรือ
พระพิโรธของพระองค์จะลุกไหม้เหมือนไฟหรือ?
47จงจําไว้ว่าเวลาของฉันสั้นเพียงไรเหตุใดพระองค์จึงทรง
ทําให้ทุกคนสูญเปล่า?
48มนุษย์คนใดยังมีชีวิตอยู่และจะไม่เห็นความตาย?เขาจะ
ช่วยชีวิตของเขาจากหลุมศพได้หรือ?เซลาห์
49ข้าแต่พระเจ้าความรักมั่นคงของพระองค์ในอดีตนั้นอยู่ที่
ไหนซึ่งพระองค์ทรงสาบานไว้กับดาวิดโดยความสัตย์จริง
ของพระองค์?
50ขอทรงระลึกว่าข้าพระองค์ทนการดูหมิ่นเหยียดหยามของ
บรรดาผู้รับใช้ของพระองค์อย่างไรและข้าพระองค์ได้ทนการ
ดูหมิ่นเหยียดหยามของบรรดาชนชาติอันยิ่งใหญ่ทั้งหลายไว้
ในพระทรวงของข้าพระองค์อย่างไร
51ซึ่งบรรดาศัตรูของพระองค์ได้ใช้ดูหมิ่นข้าแต่พระเยโฮ
วาห์และได้ใช้ดูหมิ่นรอยพระบาทของผู้ที่พระองค์ทรงเจิม
52จงถวายพระพรแด่พระเยโฮวาห์ตลอดไปสาธุสาธุ
บทที่90
1(คําอธิษฐานของโมเสสผู้รับใช้ของพระเจ้า)ข้าแต่พระเจ้า
พระองค์ทรงเป็นที่อาศัยของพวกเราตลอดทุกชั่วรุ่นทุกสมัย
2ก่อนที่ภูเขาทั้งหลายจะเกิดขึ้นหรือก่อนที่พระองค์จะทรง
สร้างแผ่นดินและโลกตั้งแต่ชั่วนิรันดร์ถึงชั่วนิรันดร์พระองค์
ยังเป็นพระเจ้า
3เจ้าทําให้มนุษย์ต้องพินาศและเจ้ากล่าวว่าจงกลับมาเถิด
ลูกหลานมนุษย์
เพราะว่าหนึ่งพันปีในสายพระเนตรของพระองค์ก็เหมือนวาน
นี้ที่ผ่านไปและเหมือนยามเดียวในเวลากลางคืน
5พระองค์ทรงกวาดพวกเขาไปเหมือนนํ้าท่วมพวกเขาเป็น
เหมือนการนอนหลับในตอนเช้าพวกเขาก็เป็นเหมือนหญ้าที่
เติบโตขึ้น
6ตอนเช้ามันก็เจริญขึ้นและโตขึ้นตอนเย็นมันก็ถูกตัดลง
และเหี่ยวเฉาไป
7เพราะว่าเราถูกความกริ้วของพระองค์เผาผลาญและเราถูก
ความพิโรธของพระองค์ทําให้ลําบากใจ
8พระองค์ทรงตั้งความชั่วช้าของเราไว้ต่อพระพักตร์พระองค์
และบาปที่ซ่อนเร้นของเราไว้ในความสว่างแห่งพระพักตร์
พระองค์
9เพราะว่าวันทั้งหลายของข้าพระองค์ทั้งหลายผ่านไปใน
พระพิโรธของพระองค์ปีของข้าพระองค์ทั้งหลายผ่านไป
เหมือนเรื่องเล่าที่เล่าต่อๆกันมา
10วันปีของเรามีเจ็ดสิบปีและถึงแม้มีกําลังก็มีอายุยืนถึงแปด
สิบปีแต่กําลังก็ยังต้องตรากตรําทํางานและโศกเศร้าเพราะ
ไม่นานก็จะขาดหายไปและเราจะจากไป
11ใครจะทราบถึงอํานาจของความโกรธของพระองค์?ความ
กลัวของพระองค์ก็ขึ้นอยู่กับความกริ้วของพระองค์
12ขอทรงสอนเราให้รู้จักคํานวณวันของเราเพื่อเราจะได้
ตั้งใจแสวงหาปัญญา
13ข้าแต่พระเยโฮวาห์ขอพระองค์เสด็จกลับมาอีกนาน
เพียงไรและขอพระองค์ทรงกลับพระทัยเกี่ยวกับผู้รับใช้ของ
พระองค์
14โปรดทรงชื่นบานเราด้วยพระเมตตาแต่เช้าเพื่อเราจะได้
ชื่นชมยินดีตลอดวันของเรา
15ขอทรงให้พวกเรามีความยินดีเท่ากับจํานวนวันซึ่งพระองค์
ได้ทรงทําให้พวกเราทุกข์ใจและเท่ากับจํานวนปีซึ่งพวกเรา
ได้เห็นความชั่วร้าย
16ขอให้การงานของพระองค์ปรากฏแก่ผู้รับใช้ของพระองค์
และขอให้พระสิริของพระองค์ปรากฏแก่ลูกๆของพวกเขา
17และขอให้ความงามของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราอยู่
เหนือพวกเราและขอให้พระองค์ทรงสถาปนาการงานของมือ
ของพวกเราอยู่เหนือพวกเราและขอให้การงานของมือของ
พวกเรามั่นคงอยู่เหนือพวกเรา”

บทสดุดี
บทที่91
1ผู้ที่อาศัยอยู่ในสถานที่อันลับของผู้สูงสุดจะต้องอยู่ภายใต้
ร่มเงาของผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์
2ข้าพเจ้าจะกล่าวถึงพระเยโฮวาห์ว่าพระองค์ทรงเป็นป้อม
ปราการของข้าพเจ้าพระเจ้าของข้าพเจ้าข้าพเจ้าจะวางใจ
ในพระองค์
3แน่ทีเดียวพระองค์จะทรงช่วยเจ้าให้พ้นจากบ่วงของพราน
ล่าสัตว์และจากโรคภัยที่ร้ายแรง
4พระองค์จะทรงคุ้มครองท่านด้วยปีกของพระองค์และท่าน
จะวางใจอยู่ใต้ปีกของพระองค์ความจริงของพระองค์จะเป็น
โล่และเป็นเกราะป้องกันท่าน
5เจ้าอย่ากลัวความสยดสยองในตอนกลางคืนและอย่ากลัว
ลูกศรที่พุ่งไปในตอนกลางวัน
6หรือภัยพิบัติที่เดินอยู่ในความมืดหรือการทําลายล้างที่สูญ
สิ้นไปในตอนเที่ยงวัน
7พันคนจะล้มอยู่ที่ข้างๆท่านหมื่นคนจะล้มอยู่ที่ขวามือของ
ท่านแต่ภัยพิบัตินั้นจะไม่มาใกล้ท่าน
8แต่ท่านจะได้เห็นด้วยตาของท่านเองเท่านั้นและจะเห็น
ผลตอบแทนแก่คนชั่ว
9เพราะว่าท่านได้กระทําให้พระเยโฮวาห์ผู้เป็นที่ลี้ภัยของ
ข้าพเจ้าคือองค์ผู้สูงสุดเป็นที่ประทับของท่าน
10ความชั่วจะไม่เกิดขึ้นกับท่านและโรคภัยต่างๆจะไม่มา
เยือนที่อยู่อาศัยของท่าน
11เพราะพระองค์จะทรงมอบหมายเหล่าทูตสวรรค์ของ
พระองค์ให้ดูแลท่านและคุ้มครองท่านในทุกวิถีทางของท่าน
12พวกเขาจะอุ้มเจ้าไว้ในมือของพวกเขาเพื่อเจ้าจะได้ไม่
สะดุดเท้ากับหิน
13เจ้าจะเหยียบสิงโตและงูเห่าเจ้าจะเหยียบยํ่าสิงโตหนุ่ม
และมังกร
14เพราะว่าเขาได้ตั้งความรักของพระองค์ไว้กับเราดังนั้นเรา
จะช่วยเขาให้พ้นเราจะตั้งเขาไว้ในที่สูงเพราะเขารู้จักพระ
นามของเรา
15เขาจะร้องเรียกเราและเราจะตอบเขาเราจะอยู่กับเขาใน
ยามทุกข์ยากเราจะช่วยเขาให้พ้นและจะให้เกียรติเขา
16เราจะให้เขาอิ่มใจด้วยชีวิตยืนยาวและจะแสดงความรอด
ของเราให้เขาเห็น
บทที่92
1(บทเพลงสดุดีหรือเพลงสําหรับวันสะบาโต)เป็นการดีที่จะ
ถวายการขอบพระคุณแด่พระเยโฮวาห์และร้องเพลง
สรรเสริญพระนามของพระองค์ข้าแต่องค์ผู้สูงสุด
2เพื่อจะสําแดงความรักมั่นคงของพระองค์ในยามเช้าและ
ความซื่อสัตย์ของพระองค์ทุกคืน
3ด้วยเครื่องดนตรีที่มีสายสิบสายและด้วยพิณใหญ่และด้วย
พิณใหญ่ด้วยเสียงอันศักดิ์สิทธิ์
4เพราะว่าพระองค์ได้ทรงให้ข้าพระองค์มีความยินดีเพราะ
การงานของพระองค์ข้าพระองค์จะมีความยินดีเพราะการงาน
ของพระหัตถ์ของพระองค์
5ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระราชกิจของพระองค์ยิ่งใหญ่นัก
และพระดําริของพระองค์ลึกซึ้งยิ่งนัก
6คนโง่เขลาไม่รู้และคนโง่ก็ไม่เข้าใจสิ่งนี้
7เมื่อคนชั่วผลิดอกออกผลเหมือนหญ้าและเมื่อบรรดา
ผู้กระทําความชั่วเจริญงอกงามพวกเขาก็จะต้องถูกทําลาย
เสียเป็นนิตย์
8แต่พระองค์ผู้เป็นพระเยโฮวาห์ทรงเป็นผู้สูงสุดตลอดไป
เป็นนิตย์
9เพราะดูเถิดศัตรูของพระองค์ข้าแต่พระเยโฮวาห์ดูเถิด
ศัตรูของพระองค์จะพินาศไปคนกระทําความชั่วทุกคนจะ
กระจัดกระจายไป
10แต่พระองค์จะทรงเชิดชูเขาของข้าพระองค์เหมือนเขา
ของยูนิคอร์นข้าพระองค์จะได้รับการเจิมด้วยนํ้ามันใหม่
11ตาของข้าพระองค์จะเห็นความปรารถนาของข้าพระองค์
ต่อศัตรูของข้าพระองค์และหูของข้าพระองค์จะได้ยินความ
ปรารถนาของข้าพระองค์ต่อคนชั่วที่ลุกขึ้นต่อต้านข้าพระองค์
12ผู้ชอบธรรมจะเจริญขึ้นเหมือนต้นอินทผลัมและจะ
เจริญเติบโตเหมือนต้นซีดาร์ในเลบานอน
13บรรดาผู้ปลูกไว้ในพระนิเวศของพระเจ้าจะเจริญขึ้นใน
บริเวณของพระเจ้าของเรา
14เมื่อพวกเขาแก่ชราพวกเขาก็ยังคงออกผลพวกเขาจะมี
ความอุดมสมบูรณ์และเจริญงอกงาม
15เพื่อแสดงให้เห็นว่าพระเยโฮวาห์ทรงเที่ยงธรรมพระองค์
ทรงเป็นศิลาของข้าพเจ้าและในพระองค์ไม่มีความอธรรม
ใดๆ
บทที่93
1พระเจ้าทรงครองราชย์พระองค์ทรงสวมเครื่องทรงอันทรง
เกียรติพระเจ้าทรงสวมเครื่องทรงอันทรงกําลังซึ่งพระองค์
ทรงคาดเอวไว้โลกนี้ได้รับการสถาปนาไว้ไม่ให้สั่นคลอนได้
2บัลลังก์ของพระองค์ได้รับการสถาปนาไว้ตั้งแต่โบราณ
และดํารงอยู่ตั้งแต่ชั่วนิรันดร์
3นํ้าท่วมได้ยกขึ้นแล้วข้าแต่พระเยโฮวาห์นํ้าท่วมได้ส่ง
เสียงดังนํ้าท่วมได้ส่งคลื่นของมันขึ้น
4พระเยโฮวาห์ผู้ทรงฤทธานุภาพเหนือเสียงนํ้ามากหลาย
และยิ่งกว่าคลื่นทะเลอันแรงกล้า
5พระโอวาทของพระองค์นั้นแน่นอนยิ่งนักความศักดิ์สิทธิ์จะ
เป็นบ้านของพระองค์ตลอดไปเป็นนิตย์ข้าแต่พระเยโฮวาห์
บทที่94
1ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระเจ้าผู้ทรงเป็นการแก้แค้นข้าแต่
พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงเป็นการแก้แค้นขอทรงแสดงพระองค์
2ข้าแต่ผู้พิพากษาโลกขอทรงลุกขึ้นทรงตอบแทนผู้
เย่อหยิ่ง
3ข้าแต่พระเยโฮวาห์คนชั่วจะสรรเสริญนานเท่าใด?คนชั่ว
จะสรรเสริญนานเท่าใด?
4พวกเขาจะพูดจาหยาบคายนานเพียงไรและคนทําความชั่ว
ทุกคนจะโอ้อวดตัวเองนานเพียงไร
5พวกเขาทําลายประชากรของพระองค์ข้าแต่พระเยโฮวาห์
และทําให้มรดกของพระองค์ทุกข์ยาก
6พวกเขาสังหารหญิงม่ายและคนต่างด้าวและสังหารเด็ก
กําพร้าพ่อ
7แต่พวกเขากล่าวว่าพระเจ้าจะไม่เห็นและพระเจ้าของยา
โคบจะไม่ใส่ใจ
8จงเข้าใจเถิดพวกโง่เขลากลางฝูงชนและพวกโง่เขลา
เมื่อไรเจ้าจะฉลาด
9พระองค์ผู้ทรงปลูกหูพระองค์จะไม่ทรงได้ยินหรือพระองค์
ผู้ทรงปั้นตาพระองค์จะไม่ทรงเห็นหรือ
10พระองค์ที่ลงโทษคนต่างชาติพระองค์จะไม่ทรงตักเตือน
หรือพระองค์ที่สอนความรู้แก่มนุษย์พระองค์จะไม่ทรงรู้หรือ?
11พระเจ้าทรงทราบความคิดของมนุษย์ว่าเป็นสิ่งไร้สาระ
12บุคคลผู้ซึ่งพระองค์ทรงตีสอนนั้นเป็นสุขข้าแต่พระเยโฮ
วาห์และทรงสอนเขาด้วยธรรมบัญญัติของพระองค์
13เพื่อพระองค์จะทรงให้เขาได้พักผ่อนจากวันแห่งความ
ทุกข์ยากจนกว่าจะขุดหลุมไว้สําหรับคนชั่ว

บทสดุดี
14เพราะว่าพระเจ้าจะไม่ทรงละทิ้งประชากรของพระองค์
และพระองค์จะไม่ทรงละทิ้งมรดกของพระองค์
15แต่ความยุติธรรมจะกลับคืนสู่ความชอบธรรมและคนเที่ยง
ธรรมในใจทุกคนจะติดตามไปด้วย
16ใครจะลุกขึ้นต่อสู้คนทําชั่วแทนข้าพเจ้า?หรือใครจะยืน
ต่อสู้คนทําความชั่วแทนข้าพเจ้า?
17ถ้าพระเยโฮวาห์มิได้ทรงเป็นผู้ช่วยเหลือข้าพเจ้าจิต
วิญญาณของข้าพเจ้าก็คงจะอยู่อย่างเงียบงันไป
18เมื่อข้าพระองค์กล่าวว่า“เท้าของข้าพระองค์ลื่นไป”พระ
เมตตาของพระองค์ได้คํ้าจุนข้าพระองค์ไว้ข้าแต่พระเยโฮ
วาห์
19ในความคิดมากมายของข้าพระองค์พระองค์ให้ความ
สบายใจของข้าพระองค์ก็ทําให้จิตวิญญาณของข้าพระองค์
ชื่นบาน
20บัลลังก์แห่งความชั่วร้ายซึ่งใช้ธรรมบัญญัติสร้างความชั่ว
ร้ายจะร่วมคบหากับพระองค์ได้หรือ?
21พวกเขารวมตัวกันต่อต้านชีวิตของผู้ชอบธรรมและ
ประณามโลหิตของผู้บริสุทธิ์
22แต่พระเยโฮวาห์ทรงเป็นป้อมปราการของข้าพเจ้าและ
พระเจ้าของข้าพเจ้าทรงเป็นศิลาที่ลี้ภัยของข้าพเจ้า
23และพระองค์จะทรงนําความชั่วของพวกเขามาให้พวกเขา
และจะทรงตัดพวกเขาออกเพราะความชั่วของพวกเขาเอง
ใช่แล้วพระเจ้าของเราจะทรงตัดพวกเขาออก
บทที่95
1มาเถิดเราจะร้องเพลงสรรเสริญพระเยโฮวาห์เราจะเปล่ง
เสียงร้องด้วยความยินดีแด่ศิลาแห่งความรอดของเรา
2เราทั้งหลายจงเข้ามาเฝ้าพระองค์ด้วยการขอบพระคุณและ
เปล่งเสียงชื่นชมยินดีแด่พระองค์ด้วยเพลงสดุดี
3เพราะว่าพระเยโฮวาห์ทรงเป็นพระเจ้าใหญ่ยิ่งและทรงเป็น
กษัตริย์ใหญ่ยิ่งเหนือพระเจ้าทั้งปวง
4ที่ลึกของแผ่นดินอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ความ
แข็งแกร่งของภูเขาก็เป็นของพระองค์ด้วย
5ทะเลเป็นของพระองค์และพระองค์ทรงสร้างมันและพระ
หัตถ์ของพระองค์ได้ปั้นแผ่นดินแห้ง
6มาเถิดเรามาเคารพสักการะและกราบลงเรามาคุกเข่าลง
ต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ผู้ทรงสร้างเรา
7เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของเราและเราเป็น
ประชากรแห่งทุ่งหญ้าของพระองค์และเป็นแกะแห่งพระ
หัตถ์ของพระองค์ถ้าท่านทั้งหลายจะฟังพระสุรเสียงของ
พระองค์ในวันนี้
8อย่าให้ใจของท่านแข็งกระด้างเหมือนอย่างในวันที่ถูกยั่วยุ
และเหมือนอย่างในวันที่ถูกทดลองในถิ่นทุรกันดาร
9เมื่อบรรพบุรุษของท่านทดลองเราพิสูจน์เราและเห็นการ
งานของเรา
10ข้าพระองค์เศร้าโศกต่อคนรุ่นนี้อยู่สี่สิบปีและกล่าวว่า
พวกเขามีใจที่หลงผิดและไม่รู้จักหนทางของข้าพระองค์
11ซึ่งข้าพระองค์ได้สาบานด้วยความพิโรธของข้าพระองค์ว่า
พวกเขาจะไม่ได้เข้าสู่การพักผ่อนของข้าพระองค์
บทที่96
1จงขับเพลงใหม่ถวายแด่พระเยโฮวาห์จงขับเพลงสรรเสริญ
แด่พระเยโฮวาห์ทั่วแผ่นดินโลก
2จงร้องเพลงสรรเสริญพระเยโฮวาห์สรรเสริญพระนามของ
พระองค์ประกาศความรอดของพระองค์ทุกวัน
3จงประกาศพระสิริของพระองค์ท่ามกลางบรรดาประชาชาติ
และบอกเล่าความมหัศจรรย์ของพระองค์ท่ามกลางชนชาติ
ทั้งหลาย
4เพราะว่าพระเยโฮวาห์ทรงยิ่งใหญ่และสมควรได้รับการ
สรรเสริญอย่างยิ่งพระองค์เป็นที่เกรงกลัวเหนือเทพเจ้า
ทั้งหลาย
5เพราะว่าพระเจ้าของบรรดาประชาชาติทั้งหลายเป็นรูป
เคารพแต่พระเจ้าทรงสร้างฟ้าสวรรค์
6เกียรติยศและความสง่างามอยู่ต่อพระพักตร์พระองค์ความ
เข้มแข็งและความงดงามอยู่ในสถานศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์
7พวกพี่น้องประชาชนเอ๋ยจงถวายพระเกียรติและพละกําลัง
แด่พระเยโฮวาห์
8จงถวายพระเกียรติอันควรแก่พระนามของพระองค์แด่พระ
เยโฮวาห์จงนําเครื่องบูชามาถวายที่บริเวณของพระองค์
9จงนมัสการพระเยโฮวาห์ด้วยความงดงามแห่งความบริสุทธิ์
จงยําเกรงพระองค์ทั้งแผ่นดิน
10จงพูดท่ามกลางบรรดาคนต่างชาติว่าพระเยโฮวาห์ทรง
ครองราชย์โลกจะสถาปนาขึ้นเพื่อจะไม่หวั่นไหวและ
พระองค์จะทรงพิพากษาผู้คนอย่างยุติธรรม
11ขอให้ฟ้าสวรรค์ชื่นชมยินดีและแผ่นดินโลกก็เปรมปรีดิ์
ขอให้ทะเลคํารามและสิ่งที่อยู่ในนั้นก็คําราม
12จงให้ทุ่งนาและทุกสิ่งทุกอย่างในนั้นมีความยินดีและ
ต้นไม้ทุกต้นในป่าก็จะชื่นชมยินดี
13ต่อพระพักตร์พระเจ้าเพราะพระองค์จะเสด็จมาเพราะ
พระองค์จะเสด็จมาพิพากษาโลกพระองค์จะทรงพิพากษา
โลกด้วยความเที่ยงธรรมและจะทรงพิพากษาประชาชนด้วย
ความจริงของพระองค์
บทที่97
1พระเยโฮวาห์ทรงครองราชย์ขอให้แผ่นดินโลกชื่นชมยินดี
ขอให้เกาะต่างๆมากมายชื่นชมยินดีกับแผ่นดินนั้น
2เมฆและความมืดอยู่รอบพระองค์ความชอบธรรมและความ
ยุติธรรมเป็นที่ประทับของบัลลังก์ของพระองค์
3ไฟลุกอยู่ข้างหน้าพระองค์และเผาผลาญศัตรูของพระองค์
โดยรอบจนหมดสิ้น
4ฟ้าแลบของพระองค์ทําให้โลกสว่างไสวแผ่นดินโลกเห็น
แล้วสั่นสะเทือน
5ภูเขาทั้งหลายก็ละลายไปเหมือนขี้ผึ้งต่อหน้าพระเจ้าต่อ
หน้าพระเจ้าแห่งแผ่นดินโลกทั้งสิ้น
6ฟ้าสวรรค์ประกาศความชอบธรรมของพระองค์และมวล
มนุษย์เห็นพระสิริของพระองค์
7ขอให้บรรดาผู้ที่บูชารูปเคารพทั้งหลายและผู้ที่โอ้อวดถึงรูป
เคารพนั้นได้รับความอับอายเทพเจ้าทั้งหลายจงนมัสการรูป
นั้นเถิด
8ศิโยนได้ยินและมีความยินดีและธิดาแห่งยูดาห์ก็ชื่นชม
ยินดีเพราะการพิพากษาของพระองค์ข้าแต่พระเยโฮวาห์
9เพราะว่าพระองค์ผู้เป็นพระเยโฮวาห์ทรงสูงส่งเหนือ
แผ่นดินโลกทั้งสิ้นพระองค์ทรงสูงส่งเหนือเทพเจ้าทั้งปวง
10พวกท่านที่รักพระเจ้าจงเกลียดชังความชั่วพระองค์ทรง
คุ้มครองชีวิตของผู้บริสุทธิ์ของพระองค์พระองค์ทรงช่วย
พวกเขาให้พ้นจากมือของคนชั่ว
11ความสว่างได้หว่านลงให้แก่ผู้ชอบธรรมและความยินดีได้
หว่านลงให้แก่ผู้มีใจเที่ยงธรรม
12จงชื่นชมยินดีในพระเยโฮวาห์พวกท่านผู้ชอบธรรมและ
ถวายคําขอบพระคุณเมื่อระลึกถึงความบริสุทธิ์ของพระองค์

บทสดุดี
บทที่98
1(สดุดี)จงขับเพลงใหม่แด่พระเยโฮวาห์เพราะพระองค์ทรง
กระทําการมหัศจรรย์พระหัตถ์ขวาและพระกรอันบริสุทธิ์ของ
พระองค์ได้ทรงนําชัยชนะมาให้พระองค์
2พระเจ้าทรงทําให้ความรอดของพระองค์เป็นที่รู้จักและ
พระองค์ทรงแสดงความชอบธรรมของพระองค์อย่างเปิดเผย
ต่อหน้าบรรดาคนต่างชาติ
3พระองค์ทรงระลึกถึงความเมตตาของพระองค์และความ
จริงของพระองค์ต่อพงศ์พันธุ์อิสราเอลบรรดาส่วนปลาย
แผ่นดินโลกทั้งสิ้นได้เห็นความรอดของพระเจ้าของเรา
4จงเปล่งเสียงชื่นชมยินดีแด่พระเยโฮวาห์เถิดชาวโลก
ทั้งสิ้นจงเปล่งเสียงอันดังและชื่นชมยินดีและร้องเพลง
สรรเสริญ
5จงร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าด้วยพิณด้วยพิณและ
เสียงดนตรีสดุดี
6จงเป่าแตรและเปล่งเสียงรื่นเริงต่อพระพักตร์พระเจ้า
พระมหากษัตริย์
7จงให้ทะเลคํารามพร้อมกับสิ่งที่อยู่ในนั้นและให้โลกและ
บรรดาผู้ที่อาศัยอยู่ในนั้นคําราม
8ให้นํ้าท่วมปรบมือให้ภูเขาทั้งหลายชื่นชมยินดีด้วยกัน
9ต่อพระพักตร์พระเจ้าเพราะพระองค์เสด็จมาพิพากษาโลก
พระองค์จะพิพากษาโลกด้วยความเที่ยงธรรมและชนชาติ
ด้วยความเที่ยงธรรม
บทที่99
1พระเยโฮวาห์ทรงครองราชย์ขอให้ประชากรสั่นสะเทือน
พระองค์ทรงประทับระหว่างเหล่าเครูบขอให้แผ่นดินโลก
สั่นสะเทือน
2พระเยโฮวาห์ทรงยิ่งใหญ่ในศิโยนและทรงสูงเหนือ
ประชากรทั้งปวง
3ให้พวกเขาสรรเสริญพระนามอันยิ่งใหญ่และน่าเกรงขาม
ของพระองค์เพราะว่าพระนามนั้นศักดิ์สิทธิ์
4พระราชอํานาจของกษัตริย์ยังทรงรักความยุติธรรม
พระองค์ทรงสถาปนาความยุติธรรมพระองค์ทรงกระทําความ
ยุติธรรมและความชอบธรรมในยาโคบ
5จงยกย่องพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราและนมัสการที่พระ
บาทของพระองค์เพราะพระองค์ทรงบริสุทธิ์
6โมเสสกับอาโรนอยู่ในบรรดาปุโรหิตของเขาและซามูเอล
อยู่ในบรรดาผู้ที่เรียกหาพระนามของพระองค์พวกเขาร้อง
เรียกพระเยโฮวาห์และพระองค์ก็ทรงตอบพวกเขา
7พระองค์ตรัสแก่พวกเขาในเสาเมฆและพวกเขาก็รักษาคํา
พยานของพระองค์และกฎเกณฑ์ที่พระองค์ประทานแก่พวก
เขา
8พระองค์ได้ทรงตอบพวกเขาทั้งหลายว่าข้าแต่พระเยโฮ
วาห์พระเจ้าของเราพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าผู้ยกโทษให้
พวกเขาถึงแม้ว่าพระองค์ทรงแก้แค้นการประดิษฐ์คิดค้นของ
พวกเขาก็ตาม
9จงยกย่องพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราและนมัสการบน
ภูเขาอันบริสุทธิ์ของพระองค์เพราะว่าพระเยโฮวาห์พระ
เจ้าของเรานั้นบริสุทธิ์
บทที่100
1(บทสดุดีสรรเสริญ)จงเปล่งเสียงชื่นชมยินดีแด่พระเยโฮ
วาห์แผ่นดินทั้งหลาย
2จงปรนนิบัติพระเจ้าด้วยความยินดีจงเข้ามาเฝ้าพระองค์
ด้วยการร้องเพลง
3จงรู้เถิดว่าพระเยโฮวาห์ทรงเป็นพระเจ้าพระองค์ทรงสร้าง
เราทั้งหลายและมิใช่เราเองเป็นผู้สร้างเราเป็นประชากรของ
พระองค์และเป็นแกะแห่งทุ่งหญ้าของพระองค์
4จงเข้าประตูของพระองค์ด้วยการขอบพระคุณและเข้า
บริเวณของพระองค์ด้วยการสรรเสริญจงขอบพระคุณ
พระองค์และถวายสาธุการแด่พระนามของพระองค์
5เพราะว่าพระเยโฮวาห์ทรงดีและพระเมตตาของพระองค์
ดํารงอยู่ชั่วนิรันดร์และความจริงของพระองค์ดํารงอยู่ทุกชั่ว
คน
บทที่101
1(บทสดุดีของดาวิด)ข้าพระองค์จะร้องเพลงสรรเสริญพระ
เมตตาและความยุติธรรมข้าพระองค์จะร้องเพลงสรรเสริญ
พระองค์ข้าแต่พระเยโฮวาห์
2ข้าพเจ้าจะประพฤติตนอย่างฉลาดและสมบูรณ์พร้อม
เมื่อไรพระองค์จะเสด็จมาหาข้าพเจ้าข้าพเจ้าจะเดินไปใน
บ้านของข้าพเจ้าด้วยใจที่สมบูรณ์
3ข้าพระองค์จะไม่ตั้งสิ่งชั่วร้ายใดๆไว้ต่อหน้าข้าพระองค์ข้า
พระองค์เกลียดการงานของผู้ที่หันเหออกไปมันจะไม่ยึดติด
กับข้าพระองค์
4จิตใจที่ดื้อรั้นจะออกไปจากข้าพเจ้าข้าพเจ้าจะไม่รู้จักคน
ชั่ว
5ผู้ใดที่ใส่ร้ายเพื่อนบ้านของตนอย่างลับๆข้าพเจ้าจะกําจัด
เขาออกไปผู้ใดที่หน้าตาหยิ่งยะโสและใจเย่อหยิ่งข้าพเจ้า
จะไม่ทนทุกข์ทรมาน
6ดวงตาของข้าพระองค์จะคอยดูคนซื่อสัตย์ในแผ่นดินเพื่อ
พวกเขาจะได้อาศัยอยู่ร่วมกับข้าพระองค์ผู้ใดดําเนินตาม
ทางที่สมบูรณ์แบบผู้นั้นจะรับใช้ข้าพระองค์
7ผู้ที่ประพฤติหลอกลวงจะไม่อาศัยอยู่ในบ้านของเราผู้ที่พูด
โกหกจะไม่อยู่ในสายพระเนตรของเรา
8เราจะทําลายคนชั่วทั้งหมดในแผ่นดินเสียโดยเร็วที่สุดเพื่อ
เราจะกําจัดผู้กระทําชั่วทั้งหมดออกไปจากนครของพระเจ้า
บทที่102
1(คําอธิษฐานของผู้ทุกข์ใจเมื่อเขาท้อแท้และระบายความ
เศร้าโศกของเขาต่อพระพักตร์พระเจ้า)ข้าแต่พระเจ้าโปรด
ทรงฟังคําอธิษฐานของข้าพระองค์และขอให้เสียงร้องไห้
ของข้าพระองค์ขึ้นไปถึงพระองค์
2ขออย่าทรงซ่อนพระพักตร์จากข้าพระองค์ในวันเมื่อข้า
พระองค์มีความทุกข์ยากขอทรงเอียงพระกรรณฟังข้า
พระองค์ในวันที่ข้าพระองค์ร้องเรียกขอทรงตอบข้าพระองค์
โดยเร็ว”
3เพราะวันเวลาของข้าพระองค์สูญสิ้นไปเหมือนควันและ
กระดูกของข้าพระองค์ก็ถูกเผาเหมือนเตาไฟ
4ใจของข้าพเจ้าถูกทําร้ายและเหี่ยวเฉาเหมือนหญ้าจน
ข้าพเจ้าลืมกินอาหาร
5เพราะเสียงครวญครางของข้าพระองค์กระดูกของข้า
พระองค์จึงเกาะติดกับผิวหนังของข้าพระองค์
6ข้าพระองค์เป็นเหมือนนกกระทุงในถิ่นทุรกันดารข้า
พระองค์เป็นเหมือนนกเค้าแมวในทะเลทราย
7ข้าพระองค์เฝ้าดูอยู่และเป็นเหมือนนกกระจอกโดดเดี่ยวบน
หลังคาบ้าน
8ศัตรูของข้าพระองค์ตําหนิข้าพระองค์ตลอดวันและบรรดา
คนที่โกรธข้าพระองค์ก็สาบานต่อต้านข้าพระองค์
9เพราะว่าข้าพระองค์กินขี้เถ้าเหมือนขนมปังและผสม
เครื่องดื่มของข้าพระองค์กับการร้องไห้

บทสดุดี
10เหตุเพราะความกริ้วและความพิโรธของพระองค์เพราะว่า
พระองค์ทรงชูข้าพระองค์ขึ้นและโยนข้าพระองค์ลง
11วันของข้าพระองค์เหมือนเงาที่จางหายไปและข้า
พระองค์เหี่ยวเฉาไปเหมือนหญ้า
12แต่พระองค์พระเจ้าจะทรงดํารงอยู่ชั่วนิรันดร์และการ
ระลึกถึงพระองค์จะคงอยู่ทุกชั่วคน
13พระองค์จะทรงลุกขึ้นและทรงเมตตาต่อศิโยนเพราะว่า
เวลาที่จะทรงโปรดปรานศิโยนนั้นและเวลาที่กําหนดไว้ก็
มาถึงแล้ว
14เพราะว่าผู้รับใช้ของท่านชื่นชอบก้อนหินของเธอและ
ชอบฝุ่นของก้อนหินนั้น
15ดังนั้นบรรดาประชาชาติต่างชาติจะยําเกรงพระนามของ
พระเจ้าและบรรดากษัตริย์แห่งแผ่นดินโลกทั้งสิ้นจะยําเกรง
พระสิริของพระองค์
16เมื่อพระเจ้าทรงสร้างศิโยนพระองค์จะทรงปรากฏด้วย
สง่าราศีของพระองค์
17พระองค์จะทรงฟังคําอธิษฐานของคนขัดสนและจะไม่
ทรงดูหมิ่นคําอธิษฐานของพวกเขา
18สิ่งนี้จะถูกบันทึกไว้สําหรับคนรุ่นต่อไปและชนชาติที่จะ
ถูกสร้างขึ้นมาจะสรรเสริญพระเจ้า
19เพราะพระองค์ทอดพระเนตรลงมาจากที่สูงแห่งสถาน
บริสุทธิ์ของพระองค์และพระเจ้าทรงทอดพระเนตรแผ่นดิน
โลกจากสวรรค์
20เพื่อทรงฟังเสียงครํ่าครวญของนักโทษเพื่อทรงปล่อยผู้ที่
ถูกกําหนดให้ตายไป
21เพื่อประกาศพระนามของพระเจ้าในศิโยนและประกาศคํา
สรรเสริญของพระองค์ในเยรูซาเล็ม
22เมื่อประชากรและอาณาจักรต่างๆรวมตัวกันเพื่อปรนนิบัติ
พระเจ้า
23พระองค์ทรงทําให้กําลังของข้าพเจ้าอ่อนลงขณะอยู่
ในทางพระองค์ทรงทําให้ชีวิตข้าพเจ้าสั้นลง
24ข้าพเจ้ากล่าวว่า“ข้าแต่พระเจ้าของข้าพเจ้าขออย่าทรง
นําข้าพเจ้าไปในท่ามกลางชีวิตข้าพเจ้าพระองค์ทรงมีอายุ
ตลอดทุกชั่วคน”
25พระองค์ทรงวางรากฐานแผ่นดินโลกไว้ตั้งแต่โบราณและ
สวรรค์ก็เป็นผลงานแห่งพระหัตถ์ของพระองค์
26สิ่งเหล่านี้จะพินาศไปแต่พระองค์จะทรงดํารงอยู่พวกมัน
ทั้งหมดจะเก่าไปเหมือนเสื้อผ้าพระองค์จะทรงเปลี่ยนพวก
มันเหมือนเสื้อคลุมและพวกมันจะถูกเปลี่ยนแปลงไป
27แต่พระองค์ยังทรงเป็นเหมือนเดิมและปีของพระองค์จะ
ไม่มีวันสิ้นสุด
28บุตรหลานของผู้รับใช้ของพระองค์จะดํารงอยู่ต่อไปและ
เชื้อสายของพวกเขาจะได้รับการสถาปนาต่อพระพักตร์
พระองค์
บทที่103
1(บทสดุดีของดาวิด)จงถวายสาธุการแด่พระเยโฮวาห์โอ
จิตวิญญาณของข้าพเจ้าและทุกสิ่งที่มีอยู่ในตัวข้าพเจ้าจง
ถวายสาธุการแด่พระนามอันบริสุทธิ์ของพระองค์
2จงสรรเสริญพระเยโฮวาห์เถิดจิตวิญญาณของข้าพเจ้า
และอย่าลืมคุณความดีของพระองค์ทั้งหมด
3ผู้ทรงอภัยความผิดทั้งหมดของท่านผู้ทรงรักษาโรคภัย
ทั้งหมดของท่าน
4ผู้ทรงไถ่ชีวิตของท่านจากความพินาศผู้ทรงสวมมงกุฎ
แห่งความรักมั่นคงและพระกรุณาอันอ่อนหวานให้แก่ท่าน
5ผู้ทรงให้ปากของท่านอิ่มด้วยสิ่งดีๆจนท่านมีอายุหนุ่มขึ้น
ใหม่เหมือนวัยนกอินทรี
6พระเยโฮวาห์ทรงกระทําความชอบธรรมและความยุติธรรม
ให้แก่ทุกคนที่ถูกข่มเหง
7พระองค์ทรงแจ้งวิธีการของพระองค์ให้โมเสสทราบและ
ทรงแจ้งการกระทําของพระองค์ให้บุตรหลานของอิสราเอล
ทราบ
8พระเจ้าทรงมีพระกรุณาและพระกรุณาทรงโกรธช้าและ
ทรงเปี่ยมด้วยพระกรุณา
9พระองค์จะไม่ทรงดุด่าอยู่เสมอและจะไม่ทรงกริ้วโกรธ
ตลอดไป
10พระองค์มิได้ทรงปฏิบัติต่อเราตามความบาปของเราและ
มิได้ทรงตอบแทนเราตามความชั่วของเรา
11เพราะว่าฟ้าสูงเหนือแผ่นดินเท่าใดความกรุณาของ
พระองค์ที่มีต่อผู้ที่ยําเกรงพระองค์ก็ใหญ่ยิ่งเท่านั้น
12ตะวันออกไกลจากตะวันตกเท่าใดพระองค์ก็ทรงปลดการ
ละเมิดของเราออกไปจากเราเท่านั้น
13บิดาสงสารบุตรของตนฉันใดองค์พระผู้เป็นเจ้าก็สงสารผู้
ที่ยําเกรงพระองค์ฉันนั้น
14เพราะพระองค์ทรงทราบโครงร่างของพวกเราพระองค์
ทรงระลึกว่าเราเป็นแต่ผงคลีดิน
15ส่วนมนุษย์นั้นวันเวลาของเขาเหมือนหญ้าและเขาก็
เจริญงอกงามเหมือนดอกไม้ในทุ่งนา
16เพราะลมพัดผ่านมันไปมันก็หายไปและสถานที่ของมัน
จะไม่รู้จักมันอีกต่อไป
17แต่ความเมตตาของพระเจ้านั้นมีอยู่ตั้งแต่ชั่วนิรันดร์ถึงชั่วนิ
รันดร์ต่อบรรดาผู้ที่ยําเกรงพระองค์และความชอบธรรมของ
พระองค์นั้นก็ต่อลูกหลานทั้งหลาย
18แก่ผู้ที่รักษาพันธสัญญาของพระองค์และแก่ผู้ที่ระลึกถึง
พระบัญญัติของพระองค์เพื่อที่จะประพฤติตาม
19พระเจ้าทรงจัดเตรียมบัลลังก์ของพระองค์ไว้ในสวรรค์
และราชอาณาจักรของพระองค์ครอบครองเหนือทุกสิ่ง
20จงถวายพระพรแด่พระเยโฮวาห์เหล่าทูตสวรรค์ของ
พระองค์ผู้มีกําลังมากผู้ที่ประพฤติตามพระบัญญัติของ
พระองค์และเชื่อฟังเสียงพระวจนะของพระองค์
21จงถวายพระพรแด่พระเยโฮวาห์กองทัพทั้งสิ้นของ
พระองค์บรรดาผู้รับใช้ของพระองค์ผู้กระทําตามพระทัยของ
พระองค์
22จงถวายสาธุการแด่พระเยโฮวาห์พระราชกิจทั้งสิ้นของ
พระองค์ในทุกสถานที่ที่พระองค์ครอบครองอยู่จงถวาย
สาธุการแด่พระเยโฮวาห์โอ้จิตวิญญาณของข้าพเจ้า
บทที่104
1จงถวายพระพรแด่พระเยโฮวาห์เถิดโอ้จิตวิญญาณของ
ข้าพเจ้าโอ้พระเยโฮวาห์พระเจ้าของข้าพเจ้าพระองค์
ยิ่งใหญ่พระองค์ทรงสวมเครื่องทรงเกียรติยศและความสง่า
งาม
2ผู้ทรงคลุมพระองค์ด้วยแสงสว่างเหมือนเสื้อคลุมผู้ทรงขึง
ฟ้าสวรรค์เหมือนม่าน
3ผู้ทรงวางคานห้องของพระองค์ไว้ในนํ้าผู้ทรงทําให้เมฆ
เป็นรถรบผู้ทรงดําเนินไปบนปีกของลม
4ผู้ทรงทําให้ทูตสวรรค์ของพระองค์เป็นวิญญาณและทรง
ทําให้ผู้รับใช้ของพระองค์เป็นเปลวเพลิง
5ผู้ทรงวางรากฐานแผ่นดินโลกไว้ไม่ให้หวั่นไหวเป็นนิตย์
6พระองค์ทรงปกคลุมมันไว้ด้วยนํ้าลึกเหมือนด้วยเสื้อผ้านํ้า
ก็ท่วมอยู่เหนือภูเขา
7เมื่อพระองค์ทรงตําหนิพวกมันก็หนีไปเมื่อได้ยินเสียงฟ้า
ร้องของพระองค์พวกมันก็รีบหนีไป
8นํ้าเหล่านั้นขึ้นไปทางภูเขานํ้าเหล่านั้นลงมาทางหุบเขา
ไปจนถึงสถานที่ซึ่งพระองค์ได้ทรงสร้างไว้ให้นํ้าเหล่านั้น

บทสดุดี
9พระองค์ทรงวางขอบเขตไว้เพื่อมิให้สัตว์เหล่านั้นผ่านไป
และเพื่อมิให้พวกมันหันกลับมาปกคลุมแผ่นดินโลกอีก
10พระองค์ทรงส่งนํ้าพุเข้าไปในหุบเขาซึ่งไหลระหว่างเนิน
เขา
11เขาทั้งหลายให้สัตว์ป่าได้ดื่มนํ้าและลาป่าก็ดับความ
กระหายของมัน
12นกในอากาศจะมีที่อยู่ซึ่งร้องเพลงอยู่ท่ามกลางกิ่งไม้
13พระองค์ทรงรดภูเขาจากห้องของพระองค์แผ่นดินโลกก็
อิ่มด้วยผลแห่งการงานของพระองค์
14พระองค์ทรงให้หญ้าเจริญเติบโตเพื่อสัตว์เลี้ยงและ
พืชผักเพื่อมนุษย์ใช้ดูแลเพื่อให้เขาทําให้เกิดอาหารจาก
แผ่นดิน
15และเหล้าองุ่นซึ่งทําให้ใจของมนุษย์ชื่นบานและนํ้ามัน
เพื่อทําให้หน้าของเขาเปล่งปลั่งและขนมปังซึ่งทําให้ใจของ
มนุษย์เข้มแข็ง
16ต้นไม้ของพระเจ้าอุดมด้วยนํ้าเลี้ยงคือต้นสนซีดาร์แห่ง
เลบานอนที่พระองค์ได้ทรงปลูกไว้
17นกสร้างรังอยู่ในที่ของมันส่วนนกกระสาต้นสนก็เป็นบ้าน
ของมัน
18เนินเขาสูงนั้นเป็นที่ลี้ภัยของแพะป่าและหินเป็นของ
กวางป่า
19พระองค์ทรงกําหนดดวงจันทร์ให้กําหนดฤดูกาลและดวง
อาทิตย์ก็รู้จักเวลาตกของตน
20พระองค์ทรงทําให้เกิดความมืดและเป็นเวลากลางคืนซึ่ง
สัตว์ป่าทุกตัวคลานออกมาในเวลานั้น
21สิงโตหนุ่มคํารามไล่ล่าเหยื่อและแสวงหาอาหารจากพระ
เจ้า
22เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นพวกมันก็รวมตัวกันและนอนลงในถํ้า
ของมัน
23มนุษย์ออกไปทํางานและไปทําภารกิจของเขาจนกระทั่ง
เวลาเย็น
24ข้าแต่พระเยโฮวาห์พระราชกิจของพระองค์มีมากมายจริง
ๆพระองค์ทรงสร้างสิ่งเหล่านี้ทั้งหมดด้วยพระปัญญา
แผ่นดินโลกเต็มไปด้วยทรัพย์สมบัติของพระองค์
25ทะเลนี้ใหญ่และกว้างใหญ่ซึ่งมีสัตว์ต่างๆเลื้อยคลานอยู่
มากมายทั้งสัตว์เล็กสัตว์ใหญ่
26เรือแล่นไปนั่นแหละและนั่นคือเลวีอาธานที่พระองค์สร้าง
ให้เล่นในนั้น
27สิ่งเหล่านี้คอยรับใช้พระองค์เพื่อให้พระองค์ประทาน
อาหารให้เมื่อถึงเวลา
28เมื่อพระองค์ประทานให้พวกมันก็รวบรวมไว้เมื่อพระองค์
ทรงเปิดพระหัตถ์พวกมันก็อิ่มหนําด้วยของดี
29เมื่อพระองค์ทรงซ่อนพระพักตร์พวกเขาทั้งหลายก็ตกใจ
พระองค์ทรงพรากลมหายใจของพวกเขาไปพวกเขาก็ตาย
และกลับคืนเป็นผงคลีดินอีกครั้ง
30เมื่อพระองค์ทรงส่งวิญญาณของพระองค์ออกไปทุกสิ่งก็
ถูกสร้างขึ้นและพระองค์ทรงปรับปรุงโฉมหน้าของแผ่นดิน
โลกใหม่
31ความรุ่งโรจน์ของพระเยโฮวาห์จะคงอยู่ชั่วนิรันดร์พระเย
โฮวาห์จะทรงชื่นชมยินดีในพระราชกิจของพระองค์
32พระองค์ทรงมองดูแผ่นดินโลกมันก็สั่นสะเทือนพระองค์
ทรงแตะต้องภูเขามันก็มีควันขึ้น
33ข้าพเจ้าจะร้องเพลงสรรเสริญพระเยโฮวาห์ตราบเท่าที่
ข้าพเจ้ายังมีชีวิตอยู่ข้าพเจ้าจะร้องเพลงสรรเสริญพระ
เจ้าของข้าพเจ้าตราบเท่าที่ข้าพเจ้ายังมีชีวิตอยู่
34การครุ่นคิดถึงเขาจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีข้าพเจ้าจะชื่นชม
ยินดีในพระเยโฮวาห์
35ขอให้คนบาปถูกล้างผลาญออกไปจากแผ่นดินและขอให้
คนชั่วไม่มีอยู่อีกต่อไปจงสรรเสริญพระเจ้าจิตวิญญาณของ
ข้าพเจ้าจงสรรเสริญพระเจ้า
บทที่105
1จงถวายการขอบพระคุณพระเยโฮวาห์จงร้องเรียกพระนาม
ของพระองค์จงประกาศพระราชกิจของพระองค์ท่ามกลาง
ประชาชน
2จงร้องเพลงสรรเสริญพระองค์จงร้องเพลงสดุดีแด่พระองค์
จงเล่าถึงการงานอัศจรรย์ของพระองค์ทั้งหมด
3จงอวดพระนามอันบริสุทธิ์ของพระองค์และให้ใจของ
บรรดาผู้แสวงหาพระเจ้าชื่นชมยินดี
4จงแสวงหาพระเยโฮวาห์และพระกําลังของพระองค์จง
แสวงหาพระพักตร์ของพระองค์ตลอดไป
5จงระลึกถึงการอัศจรรย์ที่พระองค์ทรงกระทําการมหัศจรรย์
ของพระองค์และการพิพากษาแห่งโอษฐ์ของพระองค์
6โอ้พงศ์พันธุ์ของอับราฮัมผู้รับใช้ของพระองค์บุตรของยา
โคบผู้เลือกสรรของพระองค์
7พระองค์คือพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเรากฎเกณฑ์ของ
พระองค์มีอยู่ทั่วแผ่นดินโลก
8พระองค์ทรงระลึกถึงพันธสัญญาของพระองค์ตลอดไปคือ
พระวจนะที่พระองค์ทรงบัญชาไว้ต่อคนนับพันชั่วอายุคน
9ซึ่งพระองค์ทรงทําพันธสัญญากับอับราฮัมและคําสาบานที่
ทรงกระทํากับอิสอัค
10และทรงยืนยันสิ่งนั้นแก่ยาโคบให้เป็นธรรมบัญญัติและ
แก่อิสราเอลให้เป็นไปตามพันธสัญญาชั่วนิรันดร์
11ตรัสว่าเราจะยกแผ่นดินคานาอันให้แก่เจ้าซึ่งเป็นมรดก
ของเจ้า
12เมื่อพวกเขายังมีคนจํานวนน้อยแม้แต่น้อยนิดเดียวยัง
เป็นคนแปลกหน้าในนั้นด้วย
13เมื่อพวกเขาพเนจรจากประชาชาติหนึ่งถึงอีกประชาชาติ
หนึ่งจากอาณาจักรหนึ่งถึงอีกชนชาติหนึ่ง
14พระองค์มิได้ทรงยอมให้ผู้ใดรังแกพวกเขาเลยแม้กระนั้น
พระองค์ทรงตําหนิกษัตริย์เพื่อพวกเขาด้วย
15โดยกล่าวว่าอย่าแตะต้องผู้ที่ฉันเจิมไว้และอย่าทํา
อันตรายต่อผู้เผยพระวจนะของฉัน
16พระองค์ยังทรงเรียกให้เกิดความอดอยากในแผ่นดิน
พระองค์ทรงหักขนมปังทั้งหมดทิ้ง
17พระองค์ทรงส่งชายคนหนึ่งไปข้างหน้าพวกเขาคือโย
เซฟซึ่งถูกขายไปเป็นทาส
18เท้าของเขาถูกพันธนาการด้วยโซ่ตรวนเขาถูกวางบน
เหล็ก
19จนกระทั่งถึงเวลาที่คํานั้นเกิดขึ้นพระวจนะของพระเจ้า
ทรงทดสอบเขา
20กษัตริย์จึงทรงส่งคนไปปล่อยเขาไปและผู้ปกครองของ
ประชาชนก็ปล่อยเขาไปเป็นอิสระ
21พระองค์ได้ทรงตั้งเขาให้เป็นเจ้านายในบ้านของพระองค์
และเป็นผู้ปกครองทรัพย์สมบัติทั้งสิ้นของพระองค์
22เพื่อจะผูกมัดเจ้านายของพระองค์ตามความพอใจของ
พระองค์และสอนปัญญาแก่บรรดาสมาชิกวุฒิสภาของ
พระองค์
23แล้วอิสราเอลก็มายังอียิปต์และยาโคบก็อาศัยอยู่ใน
แผ่นดินฮาม
24และพระเจ้าได้ทรงเพิ่มประชากรของพระองค์ขึ้นมากมาย
และทรงทําให้พวกเขาเข้มแข็งกว่าศัตรูของพวกเขา
25พระองค์ทรงหันใจพวกเขาให้เกลียดประชากรของ
พระองค์และทรงปฏิบัติอย่างมีเล่ห์เหลี่ยมต่อผู้รับใช้ของ
พระองค์

บทสดุดี
26พระองค์ทรงส่งโมเสสผู้รับใช้ของพระองค์และอาโรนผู้ที่
พระองค์ทรงเลือกไว้
27พวกเขาแสดงหมายสําคัญท่ามกลางพวกเขาและทําการ
อัศจรรย์ในแผ่นดินฮาม
28พระองค์ทรงใช้ความมืดมาและทําให้มันมืดลงและคน
เหล่านั้นก็ไม่กบฏต่อพระวจนะของพระองค์
29พระองค์ทรงเปลี่ยนนํ้าของพวกเขาให้เป็นเลือดและทรง
ฆ่าปลาของพวกเขา
30แผ่นดินของพวกเขาเกิดกบขึ้นเป็นจํานวนมากในท้องพระ
โรงของกษัตริย์ของพวกเขา
31พระองค์ตรัสและมีแมลงวันและเหาหลายชนิดมาทั่วทุก
เขตแดนของพวกเขา
32พระเจ้าทรงประทานลูกเห็บแทนฝนและประทานไฟที่ลุก
โชนในแผ่นดินของพวกเขา
33พระองค์ทรงฟาดเถาองุ่นและต้นมะเดื่อของพวกเขาและ
ทรงหักต้นไม้ในเขตแดนของพวกเขาด้วย
34พระองค์ตรัสตั๊กแตนและหนอนผีเสื้อก็มานับไม่ถ้วน
35และกินพืชในแผ่นดินของพวกเขาจนหมดและกินผลจาก
พื้นดินของพวกเขาจนหมด
36พระองค์ยังทรงสังหารลูกหัวปีทั้งหมดในแผ่นดินของพวก
เขาซึ่งเป็นหัวหน้าแห่งกําลังทั้งหมดของพวกเขา
37แล้วท่านก็นําพวกเขาออกไปพร้อมกับเงินและทองด้วย
และไม่มีคนอ่อนแอสักคนในเผ่าของพวกเขาเลย
38เมื่อพวกเขาจากไปอียิปต์ก็ดีใจเพราะว่าความกลัวต่อ
พวกเขาได้เกิดขึ้นกับพวกเขา
39พระองค์ทรงแผ่เมฆไว้ปกคลุมและทรงแผ่ไฟไว้ส่องสว่าง
ในเวลากลางคืน
40ประชาชนร้องขอและพระองค์ก็ทรงนํานกกระทามาและ
ทําให้พวกเขาอิ่มด้วยขนมปังจากสวรรค์
41พระองค์ทรงเปิดศิลาและนํ้าก็พุ่งออกมาไหลไปในที่
แห้งแล้งเหมือนแม่นํ้า
42เพราะพระองค์ทรงระลึกถึงพระสัญญาบริสุทธิ์ของ
พระองค์และทรงระลึกถึงอับราฮัมผู้รับใช้ของพระองค์
43และพระองค์ได้ทรงนําประชากรของพระองค์ออกมาด้วย
ความยินดีและทรงนําผู้ที่พระองค์เลือกมาด้วยความยินดี
44และประทานแผ่นดินของพวกต่างชาติให้แก่พวกเขาและ
พวกเขาก็รับมรดกผลงานของประชากร
45เพื่อพวกเขาจะได้ปฏิบัติตามบัญญัติของพระองค์และ
รักษาธรรมบัญญัติของพระองค์จงสรรเสริญพระเยโฮวาห์
บทที่106
1จงสรรเสริญพระเยโฮวาห์เถิดจงขอบพระคุณพระเยโฮวาห์
เพราะพระองค์ทรงดีเพราะพระกรุณาของพระองค์ดํารงอยู่ชั่ว
นิรันดร์
2ผู้ใดสามารถกล่าวถึงพระราชกิจอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้าได้
ผู้ใดสามารถแสดงคําสรรเสริญพระองค์อย่างครบถ้วนได้
3ผู้รักษาความยุติธรรมและผู้ประพฤติชอบธรรมทุกเวลาก็
เป็นสุข
4ข้าแต่พระเยโฮวาห์ขอทรงระลึกถึงข้าพระองค์ด้วยความ
โปรดปรานที่พระองค์มีต่อประชากรของพระองค์โปรดทรง
เยี่ยมเยียนข้าพระองค์ด้วยความรอดของพระองค์
5เพื่อข้าพเจ้าจะได้เห็นความดีของผู้เลือกของพระองค์เพื่อ
ข้าพเจ้าจะได้ชื่นชมยินดีในความยินดีของประชาชาติของ
พระองค์เพื่อข้าพเจ้าจะได้อวดดีกับมรดกของพระองค์
6ข้าพระองค์ทั้งหลายได้ทําบาปต่อบรรพบุรุษของข้า
พระองค์เราได้กระทําความชั่วเราได้กระทําความชั่วช้า
7บรรพบุรุษของพวกเราไม่เข้าใจการอัศจรรย์ของพระองค์ใน
อียิปต์พวกเขาไม่ระลึกถึงความเมตตาอันมากมายของ
พระองค์แต่กลับยั่วยุพระองค์ที่ทะเลคือที่ทะเลแดง
8แม้กระนั้นพระองค์ก็ยังทรงช่วยพวกเขาไว้เพื่อเห็นแก่พระ
นามของพระองค์เพื่อว่าพระองค์จะได้ทรงให้ฤทธานุภาพอัน
ยิ่งใหญ่ของพระองค์เป็นที่รู้จัก
9พระองค์ทรงตําหนิทะเลแดงด้วยและทะเลก็แห้งไปดังนั้น
พระองค์ทรงนําพวกเขาผ่านที่ลึกเหมือนกับนําพวกเขาผ่าน
ถิ่นทุรกันดาร
10และพระองค์ทรงช่วยพวกเขาจากมือของผู้ที่เกลียดชัง
พวกเขาและทรงไถ่พวกเขาจากมือของศัตรู
11และนํ้าท่วมศัตรูของพวกเขาไม่เหลือสักคนเดียว
12แล้วพวกเขาจึงเชื่อคําพูดของเขาและร้องเพลงสรรเสริญ
เขา
13พวกเขาลืมการกระทําของพระองค์โดยเร็วและไม่รอคอย
คําแนะนําของพระองค์
14แต่ในถิ่นทุรกันดารมีความปรารถนาอย่างยิ่งและทดลอง
พระเจ้าในถิ่นทุรกันดาร
15และท่านก็ประทานสิ่งที่ขอให้แก่พวกเขาแต่ทรงประทาน
ความผอมแห้งให้แก่จิตวิญญาณของพวกเขา
16พวกเขายังอิจฉาโมเสสในค่ายและอิจฉาอาโรนผู้
ศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าด้วย
17แผ่นดินก็เปิดออกและกลืนดาธานและปกคลุมพวกของ
อาบีรามไว้
18และมีไฟลุกโชนขึ้นในหมู่พวกเขาเปลวเพลิงเผาผลาญ
คนชั่วเสียหมด
19พวกเขาได้สร้างรูปลูกโคในโฮเรบและบูชารูปเคารพที่
หล่อขึ้น
20ฉะนั้นพวกเขาจึงเปลี่ยนสง่าราศีของตนให้เป็นเหมือนวัวที่
กินหญ้า
21พวกเขาลืมพระเจ้าพระผู้ช่วยให้รอดของตนซึ่งได้ทรงทํา
สิ่งใหญ่ๆในอียิปต์
22การงานอันอัศจรรย์ในแผ่นดินฮามและสิ่งที่น่าสะพรึงกลัว
ที่ทะเลแดง
23เพราะฉะนั้นพระองค์จึงตรัสว่าพระองค์จะทําลายพวกเขา
ถ้าหากว่าโมเสสผู้เลือกของพระองค์ไม่ได้ยืนอยู่ต่อหน้า
พระองค์ในช่องโหว่เพื่อระงับความกริ้วของพระองค์เพื่อว่า
พระองค์จะทรงทําลายพวกเขาเสีย
24พวกเขาดูหมิ่นแผ่นดินอันน่ารื่นรมย์พวกเขาไม่เชื่อพระ
วจนะของพระองค์
25แต่พวกเขาบ่นอยู่ในเต็นท์ของตนและไม่ฟังเสียงของ
พระเจ้า
26เพราะฉะนั้นพระองค์จึงทรงยกพระหัตถ์ขึ้นต่อต้านพวก
เขาเพื่อจะทรงควํ่าพวกเขาลงในถิ่นทุรกันดาร
27เพื่อจะทําลายล้างพงศ์พันธุ์ของพวกเขาไปในหมู่
ประชาชาติต่างๆและกระจายพวกเขาไปในแผ่นดินต่างๆ
28พวกเขายังร่วมกินเครื่องบูชาที่ตายไปแล้วกับบาอัลเปโอร์
ด้วย
29ดังนั้นพวกเขาจึงยั่วยุพระองค์ให้โกรธด้วยสิ่งประดิษฐ์ของ
พวกเขาและโรคระบาดก็เกิดขึ้นกับพวกเขา
30แล้วฟีเนฮัสก็ลุกขึ้นและพิพากษาและโรคระบาดก็สงบลง
31และสิ่งนั้นก็ถูกนับว่าเป็นความชอบธรรมแก่เขาตลอดทุก
ชั่วคนชั่วนิรันดร์
32พวกเขายังทําให้โมเสสโกรธด้วยเรื่องนํ้าแห่งการทะเลาะ
วิวาทจนทําให้โมเสสไม่พอใจเพราะเรื่องของพวกเขา
33เพราะพวกเขาทําให้จิตใจของเขาโกรธจนเขาพูดจาไม่
ระวังด้วยริมฝีปากของเขา
34พวกเขาไม่ได้ทําลายล้างประชาชาติที่พระเจ้าทรงบัญชา
พวกเขาไว้

บทสดุดี
35แต่พวกเขาได้ปะปนอยู่กับพวกต่างชาติและเรียนรู้ถึงการ
งานของพวกเขา
36พวกเขาได้ปรนนิบัติรูปเคารพของตนซึ่งเป็นกับดักของ
พวกเขา
37พวกเขาได้บูชายัญบุตรชายและบุตรสาวของตนแก่ปีศาจ
38และได้หลั่งโลหิตผู้บริสุทธิ์คือโลหิตของบุตรชายและ
บุตรสาวของพวกเขาซึ่งพวกเขาได้บูชายัญแก่รูปเคารพแห่ง
คานาอันและแผ่นดินก็เปื้อนด้วยโลหิต
39ฉะนั้นพวกเขาจึงได้แปดเปื้อนด้วยการงานของตนเอง
และประพฤติผิดในกามด้วยการคิดประดิษฐ์ของตนเอง
40เพราะฉะนั้นพระพิโรธของพระเจ้าจึงพลุ่งขึ้นต่อประชากร
ของพระองค์จนพระองค์ทรงเกลียดชังมรดกของพระองค์เอง
41และพระเจ้าทรงมอบพวกเขาไว้ในมือของพวกต่างชาติ
และบรรดาผู้ที่เกลียดชังพวกเขาก็ปกครองเหนือพวกเขา
42ศัตรูของพวกเขาก็กดขี่พวกเขาและพวกเขาก็ตกอยู่
ภายใต้การปกครองของพวกเขา
43พระองค์ทรงช่วยพวกเขาหลายครั้งแต่พวกเขาก็ยั่วยุ
พระองค์ด้วยแผนการของพวกเขาและถูกทําให้ตํ่าลงเพราะ
ความชั่วของพวกเขา
44ถึงกระนั้นพระองค์ก็ทรงเห็นความทุกข์ยากของพวกเขา
เมื่อทรงได้ยินเสียงร้องของพวกเขา
45และพระองค์ทรงระลึกถึงพันธสัญญาของพระองค์เพื่อ
พวกเขาและทรงกลับพระทัยตามพระกรุณาอันอุดมของ
พระองค์
46พระองค์ยังทรงทําให้พวกเขาเป็นที่สงสารของบรรดาผู้จับ
พวกเขาไปเป็นเชลยด้วย
47โปรดช่วยเราด้วยพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราและ
รวบรวมเราจากท่ามกลางบรรดาประชาชาติเพื่อถวายการ
ขอบพระคุณต่อพระนามอันบริสุทธิ์ของพระองค์และเพื่อชื่น
ชมยินดีในการสรรเสริญพระองค์
48จงถวายพระพรแด่พระเยโฮวาห์พระเจ้าของอิสราเอล
ตั้งแต่ชั่วนิรันดร์กาลจนชั่วนิรันดร์และขอให้ประชาชนทั้งปวง
กล่าวว่า"อาเมน"จงสรรเสริญพระเยโฮวาห์
บทที่107
1จงขอบพระคุณพระเยโฮวาห์เพราะพระองค์ทรงดีและพระ
กรุณาของพระองค์ดํารงอยู่ชั่วนิรันดร์
2ขอให้ผู้ที่พระเจ้าทรงไถ่ไว้จากมือศัตรูพูดอย่างนั้น
3และรวบรวมพวกเขามาจากแผ่นดินทั้งหลายจากทิศ
ตะวันออกและจากทิศตะวันตกจากทิศเหนือและจากทิศใต้
4พวกเขาเดินเตร่ไปในถิ่นทุรกันดารอย่างโดดเดี่ยวไม่พบ
เมืองที่จะอยู่อาศัย
5พวกเขาหิวและกระหายจิตวิญญาณของพวกเขาก็อ่อนล้า
ไปด้วย
6แล้วเมื่อพวกเขาทุกข์ลําบากพวกเขาก็ร้องเรียกพระเยโฮ
วาห์และพระองค์ทรงช่วยพวกเขาให้พ้นจากความทุกข์
ลําบาก
7แล้วท่านได้นําพวกเขาออกไปตามทางที่ถูกต้องเพื่อพวก
เขาจะได้ไปยังนครที่น่าอยู่
8ขอให้มนุษย์สรรเสริญพระเยโฮวาห์เพราะความดีของ
พระองค์และเพราะการงานอันน่ามหัศจรรย์ของพระองค์ที่มี
ต่อบุตรหลานของมนุษย์!
เพราะพระองค์ทรงอิ่มใจจิตวิญญาณที่หิวโหยและทรงเติม
จิตวิญญาณที่หิวโหยด้วยความดี
10เช่นผู้ที่นั่งอยู่ในความมืดและเงาแห่งความตายถูกผูกมัด
ด้วยความทุกข์ยากและความยากลําบาก
11เพราะพวกเขากบฏต่อพระวจนะของพระเจ้าและหมิ่น
ประมาทคําปรึกษาของพระผู้สูงสุด
12เพราะฉะนั้นพระองค์จึงทรงทําให้ใจของพวกเขาถดถอย
ด้วยความยากลําบากพวกเขาล้มลงและไม่มีใครช่วยได้
13แล้วเมื่อพวกเขาทุกข์ลําบากพวกเขาก็ร้องเรียกพระเจ้า
และพระองค์ทรงช่วยพวกเขาให้พ้นจากความทุกข์ลําบาก
14พระองค์ทรงนําพวกเขาออกมาจากความมืดและเงา
มัจจุราชและทรงทําลายพันธนาการของพวกเขาให้ขาดออก
จากกัน
15ขอให้มนุษย์สรรเสริญพระเยโฮวาห์เพราะความดีของ
พระองค์และเพราะการงานอันน่ามหัศจรรย์ของพระองค์ที่มี
ต่อบุตรหลานของมนุษย์!
16เพราะพระองค์ทรงทําลายประตูทองเหลืองและตัดคาน
เหล็กให้ขาด
17คนโง่ต้องทนทุกข์เพราะการทรยศและเพราะความชั่วช้า
ของพวกเขา
18จิตวิญญาณของพวกเขาเกลียดอาหารทุกชนิดและเข้า
ใกล้ประตูความตาย
19แล้วเมื่อพวกเขาทุกข์ลําบากพวกเขาก็ร้องทูลต่อพระเย
โฮวาห์และพระองค์ทรงช่วยพวกเขาให้พ้นจากความทุกข์
ลําบาก
20พระองค์ทรงส่งพระวจนะของพระองค์ไปรักษาพวกเขา
และทรงช่วยพวกเขาให้พ้นจากความพินาศของพวกเขา
21ขอให้มนุษย์สรรเสริญพระเยโฮวาห์เพราะความดีของ
พระองค์และเพราะการงานอันน่ามหัศจรรย์ของพระองค์ที่มี
ต่อบุตรหลานของมนุษย์!
22และให้พวกเขาถวายเครื่องบูชาแห่งการขอบพระคุณและ
ประกาศพระราชกิจของพระองค์ด้วยความชื่นชมยินดี
23ผู้ที่ลงเรือไปในทะเลผู้ที่ทําธุรกิจในนํ้าใหญ่
24เหล่านี้เห็นการงานของพระเจ้าและการมหัศจรรย์ของ
พระองค์ในที่ลึก
25เพราะพระองค์ทรงบัญชาและทรงให้เกิดลมพายุซึ่ง
กระทําให้คลื่นทะเลสูงขึ้น
26พวกเขาพุ่งขึ้นสู่สวรรค์แล้วลงไปสู่ที่ลึกอีกครั้งจิต
วิญญาณของพวกเขาละลายไปเพราะความยากลําบาก
27พวกเขาโซเซและเซไปมาเหมือนคนเมาและถึงที่สุดแห่ง
ปัญญาของพวกเขา
28แล้วในความทุกข์ยากของพวกเขาพวกเขาก็จะร้องทูลต่อ
พระเยโฮวาห์และพระองค์ทรงนําพวกเขาออกจากความ
ทุกข์ใจของพวกเขา
29พระองค์ทรงทําให้พายุสงบและคลื่นก็นิ่ง
30แล้วพวกเขามีความยินดีเพราะพวกเขามีความสงบและ
พระองค์ก็ทรงนําพวกเขาไปยังท่าเรือที่พวกเขาปรารถนา
31ขอให้มนุษย์สรรเสริญพระเยโฮวาห์เพราะความดีของ
พระองค์และเพราะการงานอันน่ามหัศจรรย์ของพระองค์ที่มี
ต่อบุตรหลานของมนุษย์!
32ให้พวกเขายกย่องเขาในที่ประชุมของประชาชนและ
สรรเสริญเขาในที่ประชุมของผู้อาวุโส
33พระองค์ทรงเปลี่ยนแม่นํ้าให้เป็นถิ่นทุรกันดารและนํ้าพุให้
เป็นดินแห้ง
34แผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์กลายเป็นแผ่นดินที่แห้งแล้งเพราะ
ความชั่วร้ายของผู้ที่อาศัยอยู่ในนั้น
35พระองค์ทรงเปลี่ยนถิ่นทุรกันดารให้เป็นสระนํ้าและพื้นดิน
แห้งให้เป็นนํ้าพุ
36และพระองค์ทรงทําให้คนหิวโหยอาศัยอยู่ที่นั่นเพื่อพวก
เขาจะได้เตรียมเมืองให้เป็นที่อยู่อาศัย
37และจงหว่านพืชในทุ่งนาและปลูกสวนองุ่นซึ่งจะให้ผล
ดกผลมากขึ้น
38พระองค์ยังอวยพรแก่พวกเขาด้วยว่าพวกเขาได้ทวีจํานวน
ขึ้นอย่างมากมายและมิได้ทรงปล่อยให้สัตว์เลี้ยงของพวก
เขาลดน้อยลง

บทสดุดี
39อีกครั้งหนึ่งพวกเขาถูกทําให้ตํ่าลงและถูกทําให้ตํ่าลง
โดยการกดขี่ความทุกข์และความโศกเศร้า
40พระองค์ทรงเทความดูหมิ่นลงบนบรรดาเจ้านายและทรง
ทําให้พวกเขาพเนจรไปในถิ่นทุรกันดารซึ่งไม่มีทางใดเลย
41พระองค์ยังทรงตั้งคนยากจนขึ้นจากความทุกข์ยากและ
ทรงทําให้เขาเป็นครอบครัวเหมือนฝูงแกะ
42คนชอบธรรมจะเห็นสิ่งนี้และชื่นชมยินดีและความชั่วช้า
ทั้งหมดจะปิดปากของเธอ
43ผู้ใดมีปัญญาและปฏิบัติตามสิ่งเหล่านี้ก็จะเข้าใจถึงความ
รักมั่นคงของพระเจ้า
บทที่108
1(เพลงหรือสดุดีของดาวิด)ข้าแต่พระเจ้าใจของข้าพระองค์
มั่นคงข้าพระองค์จะร้องเพลงสรรเสริญด้วยพระสิริรุ่งโรจน์
ของข้าพระองค์
2จงตื่นเถิดพิณและพิณเขาคู่ข้าพเจ้าเองจะตื่นแต่เช้า
3ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์ท่ามกลางประชาชนและ
จะร้องเพลงสรรเสริญพระองค์ท่ามกลางประชาชาติต่างๆ
4เพราะพระกรุณาของพระองค์ใหญ่ยิ่งเหนือฟ้าสวรรค์และ
ความจริงของพระองค์สูงถึงเมฆ
5ข้าแต่พระเจ้าขอพระองค์ทรงยกย่องเหนือฟ้าสวรรค์และ
พระสิริของพระองค์อยู่เหนือแผ่นดินโลกทั้งสิ้น
6เพื่อว่าผู้ที่พระองค์ทรงรักจะได้รับการช่วยให้พ้นขอทรง
ช่วยโดยพระหัตถ์ขวาของพระองค์และตอบข้าพระองค์ด้วย
7พระเจ้าได้ตรัสในความบริสุทธิ์ของพระองค์ว่า“เราจะชื่น
ชมยินดีเราจะแบ่งเมืองเชเค็มและแบ่งหุบเขาซุคโคธออก”
8กิลอาดเป็นของเรามนัสเสห์เป็นของเราเอฟราอิมเป็นที่
พึ่งของเรายูดาห์เป็นผู้บัญญัติธรรมบัญญัติของเรา
9โมอาบเป็นอ่างล้างของฉันฉันจะโยนรองเท้าของฉันลงบน
เอโดมฉันจะมีชัยเหนือฟีลิสเตีย
10ใครจะพาข้าพเจ้าเข้าไปในเมืองเข้มแข็งใครจะพา
ข้าพเจ้าเข้าไปในเอโดม?
11พระองค์ผู้ได้ทรงทอดทิ้งพวกเราเสียแล้วหรือ?และพระ
เจ้าผู้นี้พระองค์จะไม่ทรงเสด็จออกไปกับกองทัพของพวกเรา
บ้างหรือ?
12ขอทรงช่วยเหลือเราให้พ้นจากความยากลําบากเพราะ
ความช่วยเหลือของมนุษย์นั้นไร้ผล
13โดยพระเจ้าเราจะกระทําด้วยความกล้าหาญเพราะว่า
พระองค์คือผู้ที่จะเหยียบยํ่าศัตรูของเรา
บทที่109
1(ถึงหัวหน้านักร้องสดุดีของดาวิด)ข้าแต่พระเจ้าผู้
สรรเสริญของข้าพระองค์ขออย่าทรงนิ่งเฉย
2เพราะปากของคนชั่วและปากของคนหลอกลวงได้เปิด
ต่อต้านข้าพระองค์พวกเขาได้พูดต่อต้านข้าพระองค์ด้วยลิ้น
ที่โกหก
3พวกเขายังล้อมฉันด้วยคําเกลียดชังและต่อสู้กับฉันโดยไม่
มีเหตุผล
4เพราะความรักของฉันเขาทั้งหลายจึงเป็นศัตรูของฉันแต่
ฉันก็ขออุทิศตัวในการอธิษฐาน
5และพวกเขาตอบแทนฉันด้วยความชั่วตอบแทนความดี
และความเกลียดชังตอบแทนความรักของฉัน
6จงตั้งคนชั่วไว้เหนือเขาและให้ซาตานยืนอยู่ทางขวามือ
ของเขา
7เมื่อเขาจะถูกพิพากษาก็ให้เขาได้รับการลงโทษและ
ขอให้คําอธิษฐานของเขากลายเป็นบาป
8ขอให้วันเวลาของเขามีน้อยและขอให้คนอื่นมาดํารง
ตําแหน่งแทนเขา
9ขอให้บุตรของเขาเป็นกําพร้าพ่อและภรรยาของเขาเป็น
ม่าย
10ขอให้บุตรหลานของพระองค์เป็นคนเร่ร่อนและขอทานอยู่
เสมอขอให้พวกเขาแสวงหาอาหารจากสถานที่รกร้างว่าง
เปล่าของพวกเขาด้วย
11ขอให้ผู้รีดไถเอาทุกสิ่งที่เขามีและขอให้คนต่างด้าวมา
ทําลายงานของเขา
12ขออย่าให้ผู้ใดแสดงความเมตตาต่อเขาเลยและขออย่า
ให้ผู้ใดโปรดปรานบุตรกําพร้าของเขาเลย
13ขอให้ลูกหลานของเขาถูกตัดขาดและขอให้ชื่อของพวก
เขาถูกลบออกไปในชั่วคนต่อๆไป
14ขอให้ความชั่วของบรรพบุรุษของเขาถูกจดจําไว้กับพระเย
โฮวาห์และขออย่าให้บาปของมารดาของเขาถูกลบล้างไป
15ให้พวกเขาอยู่ต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์เสมอเพื่อ
พระองค์จะทรงตัดความทรงจําของพวกเขาเสียจากแผ่นดิน
โลก
16เพราะว่าพระองค์ไม่ทรงระลึกถึงที่จะแสดงความเมตตา
แต่กลับข่มเหงคนจนและขัดสนเพื่อจะฆ่าคนที่ใจสลายเสีย
ด้วยซํ้า
17เมื่อเขาได้รักการแช่งด่าก็ขอให้การแช่งนั้นเกิดขึ้นกับเขา
และเมื่อเขาไม่ยินดีในการให้พรก็ขอให้การอวยพรนั้นอยู่
ห่างไกลจากเขา
18ขณะที่เขาห่มตัวด้วยคําสาปแช่งเหมือนกับเสื้อผ้าของเขา
ก็ขอให้คําสาปแช่งเข้าไปในท้องของเขาเหมือนนํ้าและเข้า
ไปในกระดูกของเขาเหมือนนํ้ามัน
19จงให้เป็นแก่เขาเหมือนเป็นเสื้อคลุมที่คลุมเขาไว้และเป็น
ผ้าคาดเอวที่เขาใช้คาดอยู่เสมอ
20ขอให้สิ่งนี้เป็นรางวัลแก่พวกศัตรูของข้าพเจ้าจากพระเย
โฮวาห์และแก่พวกที่พูดชั่วต่อจิตวิญญาณของข้าพเจ้า
21แต่ขอพระองค์ช่วยข้าพระองค์ด้วยเถิดพระเจ้าผู้เป็นพระ
เยโฮวาห์เพื่อเห็นแก่พระนามของพระองค์เพราะว่าพระ
เมตตาของพระองค์นั้นดีขอพระองค์โปรดช่วยข้าพระองค์
ด้วย
22เพราะว่าข้าพระองค์ยากจนและขัดสนและใจข้าพระองค์ก็
เจ็บปวดอยู่ภายใน
23ข้าพระองค์หายไปเหมือนเงาเมื่อมันเสื่อมลงข้าพระองค์
ถูกโยนขึ้นโยนลงเหมือนตั๊กแตน
24เข่าของข้าพเจ้าก็อ่อนแรงเพราะการอดอาหารและเนื้อ
หนังของข้าพเจ้าก็เหี่ยวแห้งเพราะความอ้วน
25ข้าพระองค์ยังกลายเป็นที่นินทาแก่พวกเขาเมื่อพวกเขา
มองดูข้าพระองค์พวกเขาก็ส่ายหัว
26ขอทรงช่วยข้าพเจ้าด้วยพระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้า
ขอทรงช่วยข้าพเจ้าตามพระกรุณาของพระองค์
27เพื่อให้เขาทั้งหลายรู้ว่านี่เป็นพระหัตถ์ของพระองค์
พระองค์เองเป็นฝ่ายกระทํา
28ขอให้พวกเขาสาปแช่งแต่ขอพระองค์อวยพรเมื่อพวก
เขาลุกขึ้นขอให้พวกเขาอับอายแต่ขอให้ผู้รับใช้ของ
พระองค์ชื่นชมยินดี
29ขอให้ศัตรูของข้าพเจ้าสวมความอับอายและขอให้พวก
เขาปกปิดตัวเองด้วยความอับอายเหมือนเสื้อคลุม
30ข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระเยโฮวาห์ด้วยปากของข้าพเจ้า
อย่างยิ่งและจะสรรเสริญพระองค์ท่ามกลางฝูงชนด้วย
31เพราะพระองค์จะทรงยืนอยู่ทางขวามือของคนยากจน
เพื่อทรงช่วยเขาให้พ้นจากผู้ที่ประณามจิตวิญญาณของเขา

บทสดุดี
บทที่110
1(สดุดีของดาวิด)พระเจ้าตรัสแก่พระเจ้าของฉันว่าจง
ประทับทางขวามือของฉันจนกว่าฉันจะทําให้ศัตรูของท่าน
เป็นบัลลังก์รองพระบาทของท่าน
2พระเจ้าจะทรงส่งคทาแห่งฤทธานุภาพของท่านออกไป
จากศิโยนท่านจงปกครองท่ามกลางศัตรูของท่าน
3ประชากรของท่านจะเต็มใจในวันแห่งฤทธานุภาพของท่าน
ในความงามของความบริสุทธิ์จากครรภ์ของรุ่งอรุณท่านมี
นํ้าค้างของวัยเยาว์ของท่าน
4พระเจ้าทรงสาบานและจะไม่เปลี่ยนพระทัยว่าเจ้าจะเป็น
ปุโรหิตตลอดไปตามลําดับแห่งเมลคีเซเดค
5พระเจ้าอยู่ทางขวามือของท่านจะทรงโจมตีกษัตริย์
ทั้งหลายในวันแห่งพระพิโรธของพระองค์
6พระองค์จะทรงพิพากษาบรรดาประชาชาติต่างชาติ
พระองค์จะทรงบรรจุสถานที่ด้วยศพพระองค์จะทรงทําร้าย
ศีรษะของผู้คนในหลายประเทศ
7พระองค์จะทรงดื่มนํ้าจากลําธารข้างทางและทรงยกพระ
เศียรขึ้น
บทที่111
1จงสรรเสริญพระเยโฮวาห์เถิดข้าพเจ้าจะสรรเสริญพระเย
โฮวาห์ด้วยสุดใจของข้าพเจ้าในที่ประชุมของผู้ชอบธรรม
และในชุมนุมชน
2งานของพระเจ้ายิ่งใหญ่เป็นที่ต้องการของทุกคนที่พอใจ
ในผลงานนั้น
3การงานของพระองค์เป็นที่น่ายกย่องและมีเกียรติและ
ความชอบธรรมของพระองค์ดํารงอยู่ชั่วนิรันดร์
4พระองค์ทรงกระทําการอัศจรรย์ของพระองค์ให้เป็นที่จดจํา
พระเจ้าทรงมีพระคุณและทรงเปี่ยมด้วยพระกรุณา
5พระองค์ประทานอาหารให้แก่ผู้ที่ยําเกรงพระองค์และ
พระองค์จะทรงระลึกถึงพันธสัญญาของพระองค์ตลอดไป
6พระองค์ได้ทรงแสดงอํานาจการงานของพระองค์แก่
ประชากรของพระองค์เพื่อพระองค์จะทรงประทานมรดกของ
บรรดาคนต่างชาติให้แก่พวกเขา
7พระราชกิจแห่งพระหัตถ์ของพระองค์นั้นเที่ยงตรงและ
ยุติธรรมและพระบัญญัติของพระองค์นั้นแน่นอนทั้งสิ้น
8พวกเขายืนหยัดมั่นคงตลอดไปชั่วนิรันดร์และกระทําด้วย
ความสัตย์จริงและเที่ยงธรรม
9พระองค์ทรงส่งการไถ่ให้ประชากรของพระองค์พระองค์
ทรงบัญชาพันธสัญญาของพระองค์ตลอดไปพระนามของ
พระองค์เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์และเคารพนับถือ
10ความยําเกรงพระเจ้าเป็นจุดเริ่มต้นของปัญญาผู้ที่ปฏิบัติ
ตามพระบัญญัติของพระองค์ทุกคนก็มีความเข้าใจที่ดีคํา
สรรเสริญพระองค์ดํารงอยู่ชั่วนิรันดร์
บทที่112
1จงสรรเสริญพระเยโฮวาห์เถิดผู้ที่ยําเกรงพระเยโฮวาห์และ
ชื่นชอบพระบัญญัติของพระองค์มากก็เป็นสุข
2เชื้อสายของเขาจะเข้มแข็งบนแผ่นดินชั่วอายุคนของผู้
ชอบธรรมจะได้รับพระพร
3ทรัพย์สมบัติและความมั่งมีจะมีอยู่ในบ้านของเขาและ
ความชอบธรรมของเขาจะดํารงอยู่ชั่วนิรันดร์
4แสงสว่างจะส่องขึ้นมาในความมืดแก่คนชอบธรรมเขามี
พระคุณเต็มไปด้วยความเมตตาและมีความชอบธรรม
5คนดีย่อมแสดงความโปรดปรานและให้ยืมเขาจะ
ดําเนินการของเขาด้วยความรอบคอบ
6เขาจะไม่หวั่นไหวเป็นนิตย์แต่คนชอบธรรมจะอยู่ในความ
ทรงจําชั่วนิรันดร์
7เขาจะไม่กลัวข่าวร้ายใจของเขามั่นคงวางใจในพระเยโฮ
วาห์
8ใจของเขามั่นคงเขาจะไม่หวาดกลัวจนกว่าเขาจะเห็น
ความปรารถนาของเขาต่อศัตรูของเขา
9เขาแจกจ่ายเขาแบ่งปันให้คนยากจนความชอบธรรมของ
เขาดํารงอยู่ชั่วนิรันดร์เขาของเขาจะได้รับการเชิดชูด้วย
เกียรติยศ
10คนชั่วจะเห็นสิ่งนี้และเสียใจเขาจะขบฟันและละลายไป
ความปรารถนาของคนชั่วจะสูญสิ้นไป
บทที่113
1จงสรรเสริญพระเยโฮวาห์เถิดบรรดาผู้รับใช้ของพระเยโฮ
วาห์จงสรรเสริญพระนามพระเยโฮวาห์
2จงถวายพระเกียรติแด่พระนามพระเยโฮวาห์ตั้งแต่บัดนี้เป็น
ต้นไปชั่วนิรันดร์
3ตั้งแต่ดวงอาทิตย์ขึ้นจนถึงดวงอาทิตย์ตกพระนามของพระ
เจ้าควรได้รับการสรรเสริญ
4พระเยโฮวาห์ทรงสูงเหนือประชาชาติทั้งปวงและพระสิริ
ของพระองค์สูงเหนือฟ้าสวรรค์
5ผู้ใดจะเหมือนพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเราผู้ซึ่งประทับอยู่
บนที่สูง
6ผู้ถ่อมพระองค์ลงมองดูสิ่งที่อยู่ในสวรรค์และบนแผ่นดิน
โลก
7พระองค์ทรงยกคนยากจนขึ้นจากผงคลีและทรงยกคนขัด
สนขึ้นจากกองขี้เถ้า
8เพื่อพระองค์จะได้ทรงตั้งพระองค์ไว้กับพวกเจ้านายคือกับ
บรรดาเจ้านายแห่งชนชาติของพระองค์
9พระองค์ทรงทําให้สตรีที่เป็นหมันดูแลบ้านและเป็นมารดา
ที่เปี่ยมด้วยความยินดีของบุตรทั้งหลายจงสรรเสริญพระเย
โฮวาห์
บทที่114
1เมื่ออิสราเอลออกจากอียิปต์คือพงศ์พันธุ์ของยาโคบจาก
ชนชาติต่างภาษา
2ยูดาห์เป็นสถานศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์และอิสราเอลเป็น
อาณาจักรของพระองค์
3ทะเลเห็นดังนั้นก็หนีไปแม่นํ้าจอร์แดนก็ถูกตีถอยกลับไป
4ภูเขาทั้งหลายกระโดดเหมือนแกะผู้และเนินเขาทั้งหลายก็
กระโดดเหมือนลูกแกะ
5สิ่งใดที่เจ้าประสบเหตุทะเลเอ๋ยเจ้าจึงหนีหรือแม่นํ้า
จอร์แดนเอ๋ยเจ้าจึงถูกขับไล่กลับไป
6ภูเขาทั้งหลายที่เจ้ากระโดดเหมือนแกะและเนินเขา
ทั้งหลายที่เจ้ากระโดดเหมือนลูกแกะ?
7แผ่นดินเอ๋ยจงสั่นสะท้านเถิดต่อพระพักตร์พระเจ้าต่อพระ
พักตร์พระเจ้าของยาโคบ
8ซึ่งได้ทําให้ศิลากลายเป็นนํ้านิ่งและหินเหล็กไฟกลายเป็น
นํ้าพุ
บทที่115
1อย่าถวายพระเกียรติแด่พวกข้าพระองค์เลยข้าแต่พระเยโฮ
วาห์อย่าถวายพระเกียรติแด่พวกข้าพระองค์แต่ขอทรงถวาย
พระเกียรติแด่พระนามของพระองค์เพราะพระเมตตาของ
พระองค์และเพราะความจริงของพระองค์

บทสดุดี
2เหตุไฉนพวกต่างชาติจึงกล่าวว่า'พระเจ้าของพวกเขาอยู่ที่
ไหน?
3แต่พระเจ้าของเราทรงอยู่ในสวรรค์พระองค์ทรงกระทําสิ่ง
ใดๆที่พระองค์ทรงพอพระทัย
4รูปเคารพของพวกเขาทําด้วยเงินและทองเป็นงานฝีมือ
ของมนุษย์
5มีปากแต่พูดไม่ได้มีตาแต่ไม่เห็น
6มีหูแต่ฟังไม่ได้มีจมูกแต่ดมกลิ่นไม่ได้
7มีมือแต่คลําไม่ได้มีเท้าแต่เดินไม่ได้และพูดทางคอ
ไม่ได้
8ผู้ที่สร้างสรรค์สิ่งเหล่านั้นจะเป็นเหมือนสิ่งเหล่านั้นและผู้ที่
วางใจในสิ่งที่เหล่านั้นก็เป็นเหมือนกัน
9โออิสราเอลจงวางใจในพระเยโฮวาห์พระองค์ทรงเป็นผู้
ช่วยเหลือและเป็นโล่ห์ของพวกเขา
10โอพงศ์พันธุ์ของอาโรนจงวางใจพระเยโฮวาห์พระองค์
ทรงเป็นผู้ช่วยเหลือและเป็นโล่ห์ของพวกเขา
11พวกท่านที่ยําเกรงพระเจ้าจงวางใจพระเจ้าเถิดพระองค์
ทรงเป็นผู้ช่วยเหลือและเป็นโล่ของพวกเขา
12พระเยโฮวาห์ทรงระลึกถึงเราทั้งหลายพระองค์จะทรง
อวยพรเราพระองค์จะทรงอวยพรแก่พงศ์พันธุ์อิสราเอล
พระองค์จะทรงอวยพรแก่พงศ์พันธุ์อาโรน
13พระองค์จะทรงอวยพรแก่บรรดาผู้ยําเกรงพระเจ้าทั้งผู้
เล็กและผู้ใหญ่
14พระเจ้าจะทรงเพิ่มพูนคุณและบุตรหลานของคุณให้มาก
ยิ่งขึ้น
15ท่านทั้งหลายได้รับพระพรจากพระเยโฮวาห์ผู้ทรงสร้างฟ้า
สวรรค์และแผ่นดินโลก
16สวรรค์คือสวรรค์ทั้งหลายเป็นของพระเจ้าแต่แผ่นดินโลก
พระองค์ได้ประทานให้แก่บุตรแห่งมนุษย์
17คนตายไม่สรรเสริญพระเจ้าและผู้ที่ลงไปสู่ความเงียบก็
ไม่สรรเสริญ
18แต่เราจะสรรเสริญพระเจ้าตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปตลอดกาล
สรรเสริญพระเจ้า
บทที่116
1ฉันรักพระเยโฮวาห์เพราะพระองค์ทรงฟังเสียงและคํา
วิงวอนของข้าพเจ้า
2เพราะพระองค์ทรงเงี่ยพระกรรณฟังข้าพเจ้าดังนั้นข้าพเจ้า
จะทูลพระองค์ตลอดชีวิต
3ความโศกเศร้าแห่งความตายเข้ามาครอบงําฉันและความ
เจ็บปวดแห่งนรกก็เข้ามาครอบงําฉันฉันพบกับปัญหาและ
ความโศกเศร้า
4แล้วข้าพเจ้าร้องเรียกพระนามพระเยโฮวาห์ข้าแต่พระเยโฮ
วาห์ข้าพเจ้าวิงวอนพระองค์โปรดช่วยชีวิตข้าพเจ้าด้วย
5พระเยโฮวาห์ทรงเปี่ยมด้วยพระคุณและทรงชอบธรรมเออ
พระเจ้าของเราทรงเมตตา
6พระเจ้าทรงคุ้มครองคนซื่อตรงข้าพเจ้าถูกทําให้ตกตํ่า
และพระองค์ก็ทรงช่วยเหลือข้าพเจ้า
7จงกลับไปพักผ่อนเถิดจิตวิญญาณของฉันเพราะว่าพระเย
โฮวาห์ได้ทรงกระทํากับเจ้าอย่างอุดมสมบูรณ์
8เพราะพระองค์ทรงช่วยชีวิตข้าพระองค์จากความตายทรง
ช่วยดวงตาข้าพระองค์จากนํ้าตาและทรงช่วยเท้าข้าพระองค์
จากการล้ม
9ข้าพเจ้าจะดําเนินอยู่ต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ในแผ่นดิน
ของผู้มีชีวิต
10ข้าพเจ้าเชื่อแล้วจึงได้พูดข้าพเจ้าได้รับความทุกข์ใจ
มาก
11ข้าพเจ้ารีบเร่งกล่าวว่ามนุษย์ทั้งหลายเป็นคนโกหก
12ข้าพเจ้าจะต้องถวายสิ่งใดแด่พระเยโฮวาห์เนื่องด้วย
พระคุณของพระองค์ที่มีต่อข้าพเจ้า?
13ข้าพเจ้าจะหยิบถ้วยแห่งความรอดและร้องเรียกพระนาม
ของพระเจ้า
14บัดนี้ข้าพเจ้าจะทําตามคําปฏิญาณของข้าพเจ้าต่อพระเย
โฮวาห์ต่อหน้าประชากรของพระองค์ทั้งสิ้น
15ความตายของผู้บริสุทธิ์ของพระองค์เป็นสิ่งที่ลํ้าค่าใน
สายพระเนตรของพระเจ้า
16ข้าแต่พระเยโฮวาห์ข้าพระองค์เป็นผู้รับใช้ของพระองค์
ข้าพระองค์เป็นผู้รับใช้ของพระองค์และเป็นลูกชายของสาว
ใช้ของพระองค์พระองค์ได้ทรงแก้พันธนาการของข้า
พระองค์เสียแล้ว
17ข้าพระองค์จะถวายเครื่องบูชาเพื่อการขอบพระคุณแด่
พระองค์และจะร้องเรียกพระนามของพระเจ้า
18บัดนี้ข้าพเจ้าจะทําตามคําปฏิญาณของข้าพเจ้าต่อพระเย
โฮวาห์ต่อหน้าประชากรของพระองค์ทั้งสิ้น
19ในบริเวณบ้านของพระเจ้าและในท่ามกลางเจ้าโอ
เยรูซาเล็มจงสรรเสริญพระเจ้า
บทที่117
1โอบรรดาประชาชาติทั้งหลายจงสรรเสริญพระเยโฮวาห์
เถิดบรรดาชนชาติทั้งหลายจงสรรเสริญพระองค์เถิด
2เพราะพระกรุณาอันเปี่ยมล้นของพระองค์ที่มีต่อเรา
ทั้งหลายและความจริงของพระเจ้าจะคงอยู่ชั่วนิรันดร์จง
สรรเสริญพระเจ้าเถิด
บทที่118
1จงขอบพระคุณพระเยโฮวาห์เพราะพระองค์ทรงดีและพระ
กรุณาของพระองค์ดํารงอยู่ชั่วนิรันดร์
2ให้อิสราเอลกล่าวเถิดว่าความเมตตาของพระองค์ดํารงอยู่
ชั่วนิรันดร์
3ให้พงศ์พันธุ์อาโรนกล่าวเถิดว่าพระเมตตาของพระองค์
ดํารงอยู่ชั่วนิรันดร์
4บัดนี้ผู้ที่ยําเกรงพระเจ้าจงกล่าวว่าพระเมตตาของพระองค์
ดํารงอยู่ชั่วนิรันดร์
5ข้าพเจ้าร้องเรียกพระเยโฮวาห์ในยามทุกข์ร้อนพระเยโฮ
วาห์ทรงตอบข้าพเจ้าและทรงตั้งข้าพเจ้าไว้ในสถานที่ที่
กว้างขวาง
6พระเจ้าทรงอยู่ฝ่ายข้าพเจ้าข้าพเจ้าจะไม่กลัวมนุษย์จะทํา
อะไรข้าพเจ้าได้เล่า
7พระเจ้าทรงรับส่วนของฉันไว้กับผู้ที่ช่วยเหลือฉัน
เพราะฉะนั้นฉันจะเห็นผลดีต่อผู้ที่เกลียดชังฉัน
8การวางใจในพระเยโฮวาห์นั้นดีกว่าการวางใจในมนุษย์
9การวางใจในพระเยโฮวาห์นั้นดีกว่าการวางใจในเจ้านาย
10ประชาชาติทั้งหลายได้ล้อมข้าพเจ้าไว้แต่ในพระนามของ
พระเจ้าข้าพเจ้าจะทําลายพวกเขาเสีย
11พวกเขาทั้งหลายได้ล้อมข้าพเจ้าไว้แท้จริงพวกเขาได้
ล้อมข้าพเจ้าไว้แต่ในพระนามของพระเจ้าข้าพเจ้าจะทําลาย
พวกเขาเสีย
12พวกเขาล้อมข้าพเจ้าไว้เหมือนผึ้งพวกเขาดับไปเหมือน
ไฟหนามเพราะว่าในพระนามของพระเจ้าข้าพเจ้าจะทําลาย
พวกเขา
13เจ้าได้ผลักดันฉันอย่างรุนแรงเพื่อให้ฉันล้มลงแต่พระเจ้า
ทรงช่วยฉัน
14พระเยโฮวาห์ทรงเป็นกําลังและบทเพลงของข้าพเจ้าและ
ทรงเป็นความรอดของข้าพเจ้า

บทสดุดี
15เสียงแห่งความชื่นชมยินดีและความรอดอยู่ในเต็นท์ของผู้
ชอบธรรมและพระหัตถ์ขวาของพระเจ้าทรงกระทําอย่างกล้า
หาญ
16พระหัตถ์ขวาของพระเจ้าทรงเชิดชูพระหัตถ์ขวาของพระ
เจ้าทรงกระทําอย่างกล้าหาญ
17ฉันจะไม่ตายแต่ฉันจะมีชีวิตอยู่และประกาศพระราชกิจ
ของพระเจ้า
18พระเยโฮวาห์ทรงตีสอนข้าพเจ้าอย่างหนักแต่พระองค์ไม่
ทรงมอบข้าพเจ้าให้ตาย
19จงเปิดประตูแห่งความชอบธรรมให้ข้าพเจ้าข้าพเจ้าจะ
เข้าไปในประตูเหล่านั้นและจะสรรเสริญพระเจ้า
20ประตูของพระเจ้าซึ่งคนชอบธรรมจะเข้าไปได้
21ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์เพราะพระองค์ทรงฟังข้า
พระองค์และทรงเป็นความรอดของข้าพระองค์
22ก้อนหินที่ช่างก่อสร้างปฏิเสธกลับกลายเป็นศิลาหัวมุม
23การนี้เป็นผลงานของพระเจ้าเป็นสิ่งที่มหัศจรรย์ในสายตา
ของเรา
24นี่คือวันที่พระเจ้าทรงสร้างขึ้นเราจะชื่นชมยินดีในวันนั้น
25ข้าแต่พระเยโฮวาห์ขอพระองค์ทรงช่วยเราไว้เถิดข้าแต่
พระเยโฮวาห์ขอพระองค์ทรงโปรดประทานความ
เจริญรุ่งเรืองมาเถิด
26จงถวายพระพรแก่ผู้ที่มาในพระนามของพระเจ้าเราได้
ถวายพระพรแก่ท่านทั้งหลายจากพระนิเวศของพระเจ้า
27พระเจ้าคือพระเยโฮวาห์ผู้ทรงแสดงความสว่างแก่เราจง
ผูกเครื่องบูชาด้วยเชือกจนถึงเชิงงอนของแท่นบูชา
28พระองค์เป็นพระเจ้าของข้าพระองค์ข้าพระองค์จะ
สรรเสริญพระองค์พระองค์เป็นพระเจ้าของข้าพระองค์ข้า
พระองค์จะยกย่องพระองค์
29จงขอบพระคุณพระเยโฮวาห์เพราะพระองค์ทรงดีและ
พระกรุณาของพระองค์ดํารงอยู่ชั่วนิรันดร์
บทที่119
1อาเลฟผู้ที่ไม่แปดเปื้อนทางใดเป็นผู้มีบุญคือผู้ที่เดินตาม
ธรรมบัญญัติของพระเจ้า
2ผู้ที่รักษาพระโอวาทของพระองค์และผู้ที่แสวงหาพระองค์
ด้วยสุดใจนั้นเป็นสุข
3และพวกเขาไม่ทําความชั่วเลยพวกเขาเดินตามทางของ
พระองค์
4พระองค์ได้ทรงบัญชาให้พวกเราประพฤติตามบัญญัติของ
พระองค์อย่างเคร่งครัด
5โอ้ขอให้ทางของข้าพระองค์ได้ถูกกําหนดไว้เพื่อรักษา
บัญญัติของพระองค์!
6แล้วข้าพระองค์จะไม่มีความละอายเลยเมื่อข้าพระองค์นับ
ถือพระบัญญัติของพระองค์ทั้งสิ้น
7ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์ด้วยใจเที่ยงธรรมเมื่อข้า
พระองค์ได้เรียนรู้ถึงคําพิพากษาอันชอบธรรมของพระองค์
8ข้าพระองค์จะรักษาบัญญัติของพระองค์โปรดอย่าละทิ้งข้า
พระองค์เสียอย่างสิ้นเชิง
9เบธ.ชายหนุ่มจะชําระทางของตนได้อย่างไร?โดยปฏิบัติ
ตามพระวจนะของพระองค์
10ข้าพระองค์แสวงหาพระองค์ด้วยสุดใจขออย่าให้ข้า
พระองค์หลงไปจากพระบัญญัติของพระองค์
11ข้าพระองค์ได้ซ่อนพระวจนะของพระองค์ไว้ในใจของข้า
พระองค์เพื่อข้าพระองค์จะได้ไม่ทําบาปต่อพระองค์
12สรรเสริญพระองค์เถิดพระเจ้าข้าโปรดสอนบัญญัติของ
พระองค์แก่ข้าพระองค์ด้วย
13ข้าพระองค์ได้ประกาศคําพิพากษาทั้งสิ้นแห่งพระโอษฐ์
ของพระองค์ด้วยริมฝีปากของข้าพระองค์
14ข้าพระองค์มีความชื่นชมยินดีในหนทางแห่งพระโอวาท
ของพระองค์เช่นเดียวกับในความรํ่ารวยทั้งสิ้น
15ข้าพระองค์จะใคร่ครวญถึงบัญญัติของพระองค์และจะนับ
ถือแนวทางของพระองค์
16ข้าพระองค์จะชื่นชมยินดีในบัญญัติของพระองค์ข้า
พระองค์จะไม่ลืมพระวจนะของพระองค์
17กิเมลขอท่านโปรดปฏิบัติต่อผู้รับใช้ของท่านอย่างมีนํ้าใจ
เพื่อข้าพเจ้าจะได้มีชีวิตอยู่และรักษาพระวจนะของท่าน
18โปรดเปิดตาข้าพระองค์เพื่อข้าพระองค์จะได้เห็นสิ่ง
มหัศจรรย์จากธรรมบัญญัติของพระองค์
19ข้าพระองค์เป็นเพียงคนต่างถิ่นบนแผ่นดินโลกขออย่า
ทรงซ่อนพระบัญญัติของพระองค์จากข้าพระองค์
20จิตวิญญาณของข้าพระองค์แตกสลายเพราะความ
ปรารถนาที่มันมีต่อการพิพากษาของพระองค์ตลอดเวลา
21พระองค์ได้ทรงตักเตือนคนหยิ่งยะโสที่ถูกสาปแช่งซึ่ง
หลงผิดจากพระบัญญัติของพระองค์
22ขอทรงขจัดการตําหนิติเตียนและความดูหมิ่นออกไปจาก
ข้าพระองค์เพราะข้าพระองค์ได้รักษาพระโอวาทของ
พระองค์ไว้
23บรรดาเจ้านายก็นั่งพูดต่อต้านข้าพเจ้าแต่ผู้รับใช้ของ
พระองค์ได้ใคร่ครวญถึงบัญญัติของพระองค์
24บรรดาพระโอวาทของพระองค์เป็นที่ชื่นชมยินดีของ
ข้าพเจ้าและเป็นที่ปรึกษาของข้าพเจ้า
25ดาเลธจิตวิญญาณของข้าพเจ้าติดอยู่กับผงคลีขอทรง
ให้ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่ตามพระวจนะของพระองค์
26ข้าพระองค์ได้แจ้งทางของข้าพระองค์แล้วและพระองค์
ได้ทรงฟังข้าพระองค์ขอทรงสอนบัญญัติของพระองค์แก่ข้า
พระองค์
27ขอทรงให้ข้าพระองค์เข้าใจทางแห่งบัญญัติของพระองค์
และข้าพระองค์จะได้พูดถึงการงานอันอัศจรรย์ของพระองค์
28จิตใจของข้าพระองค์ละลายไปด้วยความหนักอึ้งโปรด
ทรงเสริมกําลังข้าพระองค์ตามพระวจนะของพระองค์
29ขอทรงขจัดทางแห่งการโกหกออกไปจากข้าพระองค์
และขอทรงประทานธรรมบัญญัติของพระองค์แก่ข้าพระองค์
อย่างมีพระกรุณา
30ข้าพระองค์ได้เลือกทางแห่งความจริงข้าพระองค์ได้วาง
คําพิพากษาของพระองค์ไว้ต่อหน้าข้าพระองค์
31ข้าพระองค์ยึดมั่นถือมั่นตามพระโอวาทของพระองค์ข้า
แต่พระเยโฮวาห์โปรดอย่าทําให้ข้าพระองค์ต้องอับอาย
32ข้าพระองค์จะดําเนินตามทางแห่งพระบัญญัติของ
พระองค์เมื่อพระองค์ทรงขยายใจข้าพระองค์
33ขอทรงสอนข้าพเจ้าให้รู้ทางแห่งธรรมบัญญัติของ
พระองค์เถิดพระเจ้าข้าและข้าพเจ้าจะรักษาทางนั้นไว้จนสุด
ปลาย
34ขอทรงประทานความเข้าใจแก่ข้าพระองค์และข้า
พระองค์จะได้รักษาธรรมบัญญัติของพระองค์และข้า
พระองค์จะรักษาด้วยสุดใจของข้าพระองค์
35ขอทรงโปรดให้ข้าพระองค์ดําเนินตามทางแห่งพระ
บัญญัติของพระองค์เพราะว่าข้าพระองค์พอใจในหนทางนั้น
36ขอทรงโปรดให้ใจข้าพระองค์เอนเอียงไปตามพระโอวาท
ของพระองค์และไม่ใช่ไปตามความโลภ
37โปรดทรงหันตาข้าพระองค์จากการมองดูสิ่งไร้สาระและ
ทรงโปรดให้ข้าพระองค์มีชีวิตอยู่ในหนทางของพระองค์
38ขอทรงให้พระวจนะของพระองค์มั่นคงต่อผู้รับใช้ของ
พระองค์ผู้ซึ่งภักดีต่อความเกรงกลัวพระองค์
39ขอทรงหันการตําหนิติเตียนข้าพระองค์ที่ข้าพระองค์กลัว
นั้นเสียเถิดเพราะว่าการพิพากษาของพระองค์นั้นดี
40ดูเถิดข้าพระองค์ปรารถนาพระบัญญัติของพระองค์ขอ
ทรงให้ข้าพระองค์มีชีวิตอยู่ในความชอบธรรมของพระองค์

บทสดุดี
41.ขอความเมตตาของพระองค์มาถึงข้าพเจ้าด้วยเถิดพระ
เจ้าข้าพระองค์ทรงช่วยให้รอดตามพระวจนะของพระองค์
42เพราะฉะนั้นข้าพเจ้าจะมีวิธีตอบผู้ที่ตําหนิข้าพเจ้าได้
เพราะว่าข้าพเจ้าไว้วางใจในพระวจนะของพระองค์
43และอย่าทรงเอาพระวจนะแห่งความจริงออกไปจากปาก
ข้าพระองค์โดยสิ้นเชิงเพราะว่าข้าพระองค์ได้หวังในคํา
พิพากษาของพระองค์
44ข้าพระองค์จะรักษาธรรมบัญญัติของพระองค์ตลอดไปชั่ว
นิรันดร์
45และฉันจะเดินไปโดยอิสระเพราะว่าฉันแสวงหาหลักคํา
สอนของพระองค์
46ข้าพระองค์จะพูดถึงพระโอวาทของพระองค์ต่อพระพักตร์
กษัตริย์ทั้งหลายและจะไม่รู้สึกละอายเลย
47และข้าพระองค์จะชื่นชมยินดีในบัญญัติของพระองค์ซึ่ง
ข้าพระองค์รัก
48ข้าพระองค์จะยกมือของข้าพระองค์ขึ้นปฏิบัติตามบัญญัติ
ของพระองค์ซึ่งข้าพระองค์รักและข้าพระองค์จะใคร่ครวญ
ถึงธรรมบัญญัติของพระองค์
49ซาอินขอทรงจําคําที่พระองค์ได้ทรงแจ้งให้ข้าพเจ้ามี
ความหวังไว้กับผู้รับใช้ของพระองค์
50นี่แหละเป็นความสบายใจของข้าพระองค์ในยามทุกข์ยาก
เพราะว่าพระวจนะของพระองค์ได้ทําให้ข้าพระองค์มีชีวิตอยู่
51คนหยิ่งยโสทําให้ข้าพระองค์ถูกเยาะเย้ยอย่างยิ่งใหญ่แต่
ข้าพระองค์ก็ยังไม่ละทิ้งธรรมบัญญัติของพระองค์
52ข้าพระองค์ระลึกถึงคําพิพากษาของพระองค์แต่โบราณ
กาลข้าแต่พระเยโฮวาห์และข้าพระองค์ได้ปลอบโยนใจ
ตนเอง
53ความสยดสยองได้เข้าครอบงําข้าพระองค์เพราะคนชั่วที่
ละทิ้งธรรมบัญญัติของพระองค์
54พระราชบัญญัติของพระองค์ได้เป็นบทเพลงของข้า
พระองค์ในบ้านที่ข้าพระองค์แสวงบุญ
55ข้าพระองค์รําลึกถึงพระนามของพระองค์ข้าแต่พระเยโฮ
วาห์ในเวลากลางคืนและได้รักษาธรรมบัญญัติของพระองค์
56ข้าพระองค์มีสิ่งนี้เพราะข้าพระองค์รักษาบัญญัติของ
พระองค์
57เชธพระองค์เป็นส่วนของข้าพเจ้าพระเจ้าข้าพเจ้ากล่าว
ว่าข้าพเจ้าจะรักษาพระวจนะของพระองค์
58ข้าพระองค์ได้วิงวอนขอความโปรดปรานของพระองค์ด้วย
สุดใจขอทรงมีพระกรุณาต่อข้าพระองค์ตามพระวจนะของ
พระองค์
59ข้าพระองค์คิดถึงทางของข้าพระองค์และหันเท้าของข้า
พระองค์มาตามพระโอวาทของพระองค์
60ข้าพระองค์รีบเร่งและไม่ล่าช้าที่จะรักษาพระบัญญัติของ
พระองค์
61พวกคนชั่วได้ปล้นข้าพระองค์แต่ข้าพระองค์ไม่ลืมธรรม
บัญญัติของพระองค์
62เมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนข้าพเจ้าจะลุกขึ้นถวายคํา
ขอบพระคุณพระองค์เพราะการพิพากษาอันชอบธรรมของ
พระองค์
63ข้าพระองค์เป็นเพื่อนของทุกคนที่ยําเกรงพระองค์และ
ของผู้ที่รักษาบัญญัติของพระองค์
64ข้าแต่พระเยโฮวาห์แผ่นดินโลกเต็มด้วยพระเมตตาของ
พระองค์ขอทรงสอนบัญญัติของพระองค์แก่ข้าพระองค์
65TETH.พระองค์ได้ทรงปฏิบัติดีต่อผู้รับใช้ของพระองค์
ตามพระดํารัสของพระองค์ข้าแต่พระเยโฮวาห์
66ขอทรงสอนสติปัญญาและความรู้แก่ข้าพระองค์เพราะว่า
ข้าพระองค์ได้เชื่อพระบัญญัติของพระองค์
67ก่อนที่ข้าพระองค์จะต้องทุกข์ยากข้าพระองค์ก็หลงผิด
แต่บัดนี้ข้าพระองค์ได้รักษาพระวจนะของพระองค์ไว้
68พระองค์ทรงดีและทรงกระทําดีขอทรงสอนบัญญัติของ
พระองค์แก่ฉัน
69คนหยิ่งผยองได้ปรุงแต่งคําเท็จใส่ร้ายข้าพระองค์แต่ข้า
พระองค์จะรักษาบัญญัติของพระองค์ด้วยทั้งใจของข้า
พระองค์
70ใจของพวกเขาอ้วนเหมือนไขมันแต่ข้าพระองค์ชื่นชม
ยินดีในธรรมบัญญัติของพระองค์
71การที่ข้าพระองค์ถูกทรมานนั้นเป็นสิ่งที่ดีสําหรับข้า
พระองค์เพื่อข้าพระองค์จะได้เรียนรู้บัญญัติของพระองค์
72ธรรมบัญญัติแห่งพระโอษฐ์ของพระองค์ดีกว่าทองและ
เงินเป็นพันๆสําหรับฉัน
73JODพระหัตถ์ของพระองค์ได้สร้างและปั้นแต่งข้าพระองค์
โปรดประทานความเข้าใจแก่ข้าพระองค์เพื่อข้าพระองค์จะ
ได้เรียนรู้พระบัญญัติของพระองค์
74บรรดาผู้ยําเกรงพระองค์จะยินดีเมื่อเห็นข้าพระองค์
เพราะว่าข้าพระองค์หวังในพระวจนะของพระองค์
75ข้าพระองค์ทราบดีข้าแต่พระเยโฮวาห์ว่าการพิพากษา
ของพระองค์นั้นถูกต้องและพระองค์ทรงทรมานข้าพระองค์
ด้วยความซื่อสัตย์
76ข้าพระองค์ขอวิงวอนพระองค์ให้ความเมตตากรุณาของ
พระองค์เป็นเครื่องปลอบโยนข้าพระองค์ตามพระดํารัสของ
พระองค์ที่มีต่อผู้รับใช้ของพระองค์
77ขอพระกรุณาอันอ่อนโยนของพระองค์มาสู่ข้าพระองค์
เพื่อข้าพระองค์จะได้มีชีวิตอยู่เพราะว่าธรรมบัญญัติของ
พระองค์เป็นที่ชื่นชมยินดีของข้าพระองค์
78ขอให้คนจองหองอับอายเพราะว่าพวกเขาประพฤติผิดต่อ
ข้าพเจ้าโดยไม่มีเหตุผลแต่ข้าพเจ้าจะใคร่ครวญถึงพระ
บัญญัติของพระองค์
79ขอให้บรรดาผู้ยําเกรงพระองค์หันมาหาข้าพระองค์และ
ขอให้บรรดาผู้ที่รู้จักพระโอวาทของพระองค์
80ขอทรงให้จิตใจของข้าพระองค์มั่นคงตามกฎบัญญัติของ
พระองค์เพื่อข้าพระองค์จะไม่ต้องอับอาย
81จิตวิญญาณของข้าพระองค์อ่อนล้าเพราะความรอดของ
พระองค์แต่ข้าพระองค์หวังในพระวจนะของพระองค์
82ดวงตาของข้าพระองค์มัวคิดถึงพระวจนะของพระองค์
โดยกล่าวว่าเมื่อไรพระองค์จะทรงปลอบโยนข้าพระองค์?
83เพราะว่าข้าพระองค์กลายเป็นเหมือนขวดในควันแต่ข้า
พระองค์ก็ยังไม่ลืมบัญญัติของพระองค์
84วันของผู้รับใช้ของพระองค์จะมีอยู่กี่วัน?เมื่อไรพระองค์จะ
ทรงลงโทษผู้ที่ข่มเหงข้าพระองค์?
85คนหยิ่งยโสขุดหลุมพรางดักข้าพระองค์ซึ่งไม่เป็นไปตาม
ธรรมบัญญัติของพระองค์
86พระบัญญัติของพระองค์นั้นซื่อสัตย์ทั้งสิ้นพวกเขาข่มเหง
ข้าพระองค์อย่างไม่ยุติธรรมขอพระองค์ช่วยข้าพระองค์ด้วย
87พวกเขาเกือบจะกลืนกินข้าพระองค์ลงสู่แผ่นดินแล้วแต่
ข้าพระองค์ก็ไม่ละทิ้งพระบัญญัติของพระองค์
88ขอทรงให้ข้าพระองค์มีชีวิตอยู่ตามพระกรุณาของพระองค์
และข้าพระองค์จะรักษาคําพยานแห่งพระโอษฐ์ของพระองค์
89พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์พระวจนะของพระองค์จะคงอยู่
ในสวรรค์ตลอดไป
90ความซื่อสัตย์ของพระองค์มีอยู่ทุกชั่วคนพระองค์ทรง
สถาปนาแผ่นดินโลกและมันก็คงอยู่
91วันนี้พวกเขากระทําตามบัญญัติของพระองค์เพราะว่าทุก
คนเป็นผู้รับใช้ของพระองค์
92ถ้าหากธรรมบัญญัติของพระองค์มิได้เป็นความชื่นชมยินดี
ของข้าพเจ้าข้าพเจ้าคงจะพินาศไปในความทุกข์ยากของ
ข้าพเจ้า
93ข้าพระองค์จะไม่ลืมบัญญัติของพระองค์เลยเพราะว่า
พระองค์ทรงทําให้ข้าพระองค์มีชีวิตอยู่ด้วยบัญญัติเหล่านั้น

บทสดุดี
94ข้าพระองค์เป็นของพระองค์ขอทรงช่วยข้าพระองค์ด้วย
เพราะข้าพระองค์ได้แสวงหาพระบัญญัติของพระองค์
95คนชั่วคอยท่าการทําลายข้าพระองค์แต่ข้าพระองค์จะ
พิจารณาพระโอวาทของพระองค์
96ข้าพระองค์เห็นความสมบูรณ์แบบสิ้นสุดลงแล้วแต่พระ
บัญญัติของพระองค์กว้างขวางมาก
97ข้าพเจ้ารักธรรมบัญญัติของพระองค์มากเพียงไรธรรม
บัญญัตินั้นเป็นที่ใคร่ครวญของข้าพเจ้าตลอดวัน
98ด้วยพระบัญญัติของพระองค์พระองค์ได้ทรงทําให้ข้า
พระองค์ฉลาดกว่าศัตรูของข้าพระองค์เพราะพวกเขาอยู่กับ
ข้าพระองค์เสมอ
99ข้าพระองค์มีความเข้าใจมากกว่าครูของข้าพระองค์
ทั้งหมดเพราะว่าพระโอวาทของพระองค์เป็นคําตรึกตรอง
ของข้าพระองค์
100ข้าพเจ้าเข้าใจมากกว่าคนโบราณเพราะข้าพเจ้ารักษา
บัญญัติของพระองค์
101ข้าพระองค์ได้ยับยั้งเท้าของข้าพระองค์ไว้จากวิถีชั่วทุก
ทางเพื่อข้าพระองค์จะได้รักษาพระวจนะของพระองค์
102ข้าพระองค์มิได้เบี่ยงเบนจากคําพิพากษาของพระองค์
เพราะว่าพระองค์ได้ทรงสอนข้าพระองค์
103ถ้อยคําของคุณช่างหวานต่อรสชาติของฉันเหลือเกิน
แม้แต่น้อยหวานกว่านํ้าผึ้งในปากของฉันเสียอีก
104โดยพระบัญญัติของพระองค์ข้าพระองค์จึงได้ความ
เข้าใจเพราะฉะนั้นข้าพระองค์จึงเกลียดทุกวิถีทางที่ผิด
105นุนพระวจนะของพระองค์เป็นโคมส่องเท้าของข้าพเจ้า
และเป็นความสว่างส่องทางของข้าพเจ้า
106ข้าพระองค์ได้สาบานและจะกระทําตามนั้นว่าข้า
พระองค์จะรักษาคําพิพากษาอันชอบธรรมของพระองค์
107ข้าพระองค์ทุกข์ใจมากขอทรงช่วยชีวิตข้าพระองค์ไว้
ตามพระวจนะของพระองค์ข้าแต่พระเยโฮวาห์
108ขอพระองค์ทรงรับคําถวายบูชาที่ข้าพระองค์สมัครใจ
ด้วยเถิดข้าแต่พระเยโฮวาห์และขอทรงสอนคําพิพากษา
ของพระองค์แก่ข้าพระองค์
109จิตวิญญาณของข้าพระองค์อยู่ในมือข้าพระองค์เสมอ
แต่ข้าพระองค์ก็ไม่ลืมธรรมบัญญัติของพระองค์
110คนชั่วได้วางกับดักไว้ดักข้าพระองค์แต่ข้าพระองค์ก็ไม่
หลงผิดจากบัญญัติของพระองค์
111ข้าพระองค์รับบรรดาพระโอวาทของพระองค์ไว้เป็น
มรดกชั่วนิรันดร์เพราะว่าพระโอวาทเหล่านั้นเป็นความชื่นชม
ยินดีของใจข้าพระองค์
112ข้าพระองค์ได้ตั้งใจของข้าพระองค์ไว้ที่จะปฏิบัติตาม
บัญญัติของพระองค์เสมอไปจนกว่าจะถึงที่สุด
113ข้าพระองค์เกลียดความคิดไร้สาระแต่ข้าพระองค์รัก
ธรรมบัญญัติของพระองค์
114พระองค์ทรงเป็นที่ซ่อนและเป็นโล่ของข้าพระองค์ข้า
พระองค์หวังในพระวจนะของพระองค์
115จงออกไปจากข้าพเจ้าเถิดพวกผู้ทําความชั่วเพราะว่า
ข้าพเจ้าจะรักษาบัญญัติของพระเจ้าของข้าพเจ้า
116ขอทรงประคองข้าพระองค์ไว้ตามพระวจนะของพระองค์
เพื่อข้าพระองค์จะได้ดํารงชีวิตอยู่และขออย่าให้ข้าพระองค์
ละอายในความหวังของข้าพระองค์เลย
117ขอทรงคํ้าจุนข้าพระองค์ไว้และข้าพระองค์ก็จะปลอดภัย
และข้าพระองค์จะเคารพกฎเกณฑ์ของพระองค์เสมอไป
118พระองค์ได้ทรงเหยียบยํ่าบรรดาผู้ที่หลงผิดจากบัญญัติ
ของพระองค์เพราะว่าการหลอกลวงของพวกเขาเป็นเรื่อง
โกหก
119พระองค์ทรงกําจัดคนชั่วทั้งหลายบนแผ่นดินโลกเสีย
เหมือนขี้แร่เพราะฉะนั้นข้าพระองค์จึงรักพระโอวาทของ
พระองค์
120เนื้อหนังของข้าพระองค์สั่นสะท้านเพราะความกลัว
พระองค์และข้าพระองค์ก็กลัวการพิพากษาของพระองค์
121AINข้าพเจ้าได้กระทําการพิพากษาและความเที่ยง
ธรรมแล้วขออย่าทรงปล่อยข้าพเจ้าให้ตกอยู่ในมือผู้ข่มเหง
ข้าพเจ้า
122ขอพระองค์ทรงรับรองความดีให้แก่ผู้รับใช้ของพระองค์
อย่าให้คนหยิ่งยโสข่มเหงข้าพระองค์
123ดวงตาของข้าพระองค์มัวหมองเพราะความรอดของ
พระองค์และเพราะพระคําแห่งความชอบธรรมของพระองค์
124ขอทรงปฏิบัติต่อผู้รับใช้ของพระองค์ตามพระกรุณาของ
พระองค์และขอทรงสอนกฎเกณฑ์ของพระองค์แก่ฉัน
125ข้าพระองค์เป็นผู้รับใช้ของพระองค์ขอทรงประทาน
ความเข้าใจแก่ข้าพระองค์เพื่อข้าพระองค์จะได้ทราบพระ
โอวาทของพระองค์
126ถึงเวลาที่พระองค์จะต้องทรงงานแล้วข้าแต่พระเยโฮ
วาห์เพราะพวกเขาได้ทําให้ธรรมบัญญัติของพระองค์เป็น
โมฆะ
127เพราะฉะนั้นข้าพระองค์จึงรักบัญญัติของพระองค์ยิ่งกว่า
ทองคํายิ่งกว่าทองคําบริสุทธิ์ด้วย
128เพราะฉะนั้นข้าพระองค์ถือว่าบัญญัติของพระองค์ทุกข้อ
เกี่ยวกับทุกสิ่งเป็นความถูกต้องและข้าพระองค์เกลียดชัง
วิถีทางที่ผิดทุกทาง
129ปต.พระองค์ทรงดลใจข้าพเจ้าให้รักษาพระโอวาทของ
พระองค์ไว้อย่างน่าอัศจรรย์จิตใจของข้าพเจ้าจึงรักษาพระ
โอวาทนั้นไว้
130การสําแดงพระวจนะของพระองค์ให้ความสว่างและให้
ความเข้าใจแก่คนไร้เดียงสา
131ข้าพระองค์เปิดปากข้าพระองค์และหายใจหอบเพราะข้า
พระองค์ปรารถนาพระบัญญัติของพระองค์
132ขอพระองค์ทอดพระเนตรเห็นข้าพระองค์และทรงมีพระ
กรุณาต่อข้าพระองค์เหมือนอย่างที่พระองค์ทรงกระทําต่อผู้
ที่รักพระนามของพระองค์
133ขอทรงกําหนดย่างก้าวของข้าพระองค์ตามพระวจนะของ
พระองค์และอย่าให้ความชั่วใดๆมีอํานาจเหนือข้าพระองค์
134ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากการกดขี่ของมนุษย์
และข้าพระองค์จะรักษาบัญญัติของพระองค์
135ขอทรงให้พระพักตร์ของพระองค์ส่องมายังผู้รับใช้ของ
พระองค์และขอทรงสอนบัญญัติของพระองค์แก่ฉัน
136แม่นํ้าแห่งนํ้าไหลรินลงมาตามตาข้าพระองค์เพราะว่า
พวกเขาไม่รักษาธรรมบัญญัติของพระองค์
137ตซาดดี.พระองค์ทรงชอบธรรมข้าแต่พระเยโฮวาห์และ
พระบัญญัติของพระองค์ก็เที่ยงธรรม
138บรรดาคําพยานของพระองค์ที่พระองค์ทรงบัญชาไว้เป็น
สิ่งที่ชอบธรรมและเชื่อถือได้มาก
139ความกระตือรือร้นของข้าพระองค์ได้เผาผลาญข้า
พระองค์เสียเพราะศัตรูของข้าพระองค์ลืมพระวจนะของ
พระองค์
140พระวจนะของพระองค์บริสุทธิ์มากเพราะฉะนั้นผู้รับใช้
ของพระองค์จึงรักพระวจนะนั้น
141ข้าพระองค์เป็นคนเล็กน้อยและถูกดูหมิ่นแต่ข้าพระองค์
ก็อย่าลืมบัญญัติของพระองค์
142ความชอบธรรมของพระองค์เป็นความชอบธรรมนิรันดร์
และธรรมบัญญัติของพระองค์เป็นความจริง
143ความทุกข์ยากและความทุกข์ทรมานได้เข้าครอบงําข้า
พระองค์แต่พระบัญญัติของพระองค์กลับเป็นที่ชื่นชมยินดี
ของข้าพระองค์
144ความชอบธรรมแห่งพระโอวาทของพระองค์ดํารงอยู่ชั่วนิ
รันดร์โปรดประทานความเข้าใจแก่ข้าพระองค์และข้า
พระองค์จะดํารงชีวิตอยู่

บทสดุดี
145ข้าพระองค์ร้องทูลด้วยสุดใจขอทรงฟังข้าพระองค์เถิด
พระเจ้าข้าพระองค์จะรักษาบัญญัติของพระองค์
146ข้าพระองค์ร้องเรียกพระองค์โปรดช่วยข้าพระองค์ด้วย
และข้าพระองค์จะรักษาพระโอวาทของพระองค์
147ข้าพระองค์ขัดขวางรุ่งเช้าและร้องทูลว่าข้าพระองค์หวัง
ในพระวจนะของพระองค์
148ดวงตาของข้าพระองค์งดการเฝ้ายามในยามกลางคืน
เพื่อข้าพระองค์จะได้ใคร่ครวญถึงพระวจนะของพระองค์
149ขอทรงฟังเสียงข้าพระองค์ตามพระกรุณาของพระองค์
ข้าแต่พระเยโฮวาห์ขอทรงให้ข้าพระองค์มีชีวิตอยู่ตามการ
พิพากษาของพระองค์
150ผู้ที่ทําความชั่วจะเข้าใกล้พวกเขาพวกเขาอยู่ห่างไกล
จากธรรมบัญญัติของพระองค์
151พระองค์ทรงอยู่ใกล้ข้าแต่พระเยโฮวาห์และพระบัญญัติ
ของพระองค์ทั้งหมดก็เป็นความจริง
152ข้าพระองค์ทราบมานานแล้วถึงพระโอวาทของพระองค์
ว่าพระองค์ทรงสถาปนามันไว้เป็นนิตย์
153ขอทรงพิจารณาความทุกข์ยากของข้าพระองค์และทรง
ช่วยข้าพระองค์ให้พ้นเพราะข้าพระองค์ไม่ลืมธรรมบัญญัติ
ของพระองค์
154โปรดทรงแก้ต่างให้ข้าพเจ้าและช่วยข้าพเจ้าให้รอด
โปรดทรงทําให้ข้าพเจ้ามีชีวิตอยู่ตามพระวจนะของพระองค์
155ความรอดนั้นอยู่ห่างไกลจากคนชั่วเพราะว่าพวกเขาไม่
แสวงหาธรรมบัญญัติของพระองค์
156พระกรุณาอันอ่อนโยนของพระองค์นั้นยิ่งใหญ่มากข้า
แต่พระเยโฮวาห์โปรดทรงทําให้ข้าพระองค์มีชีวิตอยู่ตามคํา
พิพากษาของพระองค์
157ผู้ข่มเหงและศัตรูของข้าพระองค์มีมากมายแต่ข้า
พระองค์ไม่ปฏิเสธคําพยานของพระองค์
158ข้าพระองค์เห็นผู้ละเมิดก็เสียใจเพราะพวกเขาไม่รักษา
พระวจนะของพระองค์
159ขอทรงพิจารณาว่าข้าพระองค์รักบัญญัติของพระองค์
มากเพียงไรขอทรงให้ข้าพระองค์มีชีวิตอยู่ตามพระกรุณา
ของพระองค์ข้าแต่พระเยโฮวาห์
160พระวจนะของพระองค์เป็นความจริงตั้งแต่เริ่มต้นและคํา
พิพากษาอันชอบธรรมของพระองค์ทุกประการก็ดํารงอยู่ชั่วนิ
รันดร์
161SCHINพวกเจ้านายได้ข่มเหงฉันโดยไม่มีเหตุผลแต่ใจ
ของฉันยังคงยําเกรงต่อพระวจนะของคุณ
162ข้าพระองค์ชื่นชมยินดีในพระวจนะของพระองค์เหมือนผู้
พบของปล้นมากมาย
163ข้าพระองค์เกลียดและชิงชังการโกหกแต่ข้าพระองค์รัก
ธรรมบัญญัติของพระองค์
164ข้าพระองค์สรรเสริญพระองค์เจ็ดครั้งเนื่องด้วยความ
ยุติธรรมอันชอบธรรมของพระองค์
165บุคคลผู้รักธรรมบัญญัติของพระองค์จะมีสันติสุขใหญ่
หลวงและจะไม่มีสิ่งใดรบกวนพวกเขาได้
166ข้าแต่พระเยโฮวาห์ข้าพระองค์หวังในความรอดของ
พระองค์และได้ปฏิบัติตามพระบัญญัติของพระองค์
167จิตวิญญาณของข้าพระองค์ได้รักษาพระโอวาทของ
พระองค์และข้าพระองค์รักพระโอวาทเหล่านั้นมาก
168ข้าพระองค์ได้รักษาบัญญัติและพระโอวาทของพระองค์
เพราะว่าทางทั้งสิ้นของข้าพระองค์อยู่ต่อหน้าพระองค์
169TAU.ขอให้เสียงร้องของข้าพเจ้ามาใกล้พระองค์ข้าแต่
พระเยโฮวาห์โปรดประทานความเข้าใจแก่ข้าพเจ้าตามพระ
วจนะของพระองค์
170ขอให้คําวิงวอนของข้าพเจ้ามาปรากฏต่อพระพักตร์
พระองค์โปรดช่วยข้าพเจ้าตามพระวจนะของพระองค์
171ริมฝีปากของข้าพระองค์จะเปล่งคําสรรเสริญเมื่อ
พระองค์ทรงสอนข้าพระองค์ถึงธรรมบัญญัติของพระองค์
172ลิ้นของข้าพระองค์จะกล่าวถึงพระวจนะของพระองค์
เพราะพระบัญญัติของพระองค์ทั้งหมดก็ชอบธรรม
173ขอพระหัตถ์ของพระองค์ช่วยข้าพระองค์เพราะข้า
พระองค์ได้เลือกหลักบัญญัติของพระองค์
174ข้าพระองค์ปรารถนาความรอดของพระองค์ข้าแต่พระเย
โฮวาห์และธรรมบัญญัติของพระองค์เป็นที่ชื่นชมยินดีของ
ข้าพระองค์
175ขอทรงให้จิตวิญญาณของข้าพระองค์มีชีวิตอยู่และจิต
วิญญาณจะสรรเสริญพระองค์และขอให้การพิพากษาของ
พระองค์ช่วยข้าพระองค์
176ข้าพระองค์หลงไปเหมือนแกะที่หลงหายขอทรงตามหา
ผู้รับใช้ของพระองค์เพราะข้าพระองค์ไม่ลืมพระบัญญัติของ
พระองค์
บทที่120
1(บทเพลงแห่งระดับ)ในยามทุกข์ยากข้าพเจ้าร้องทูลต่อ
พระเจ้าและพระองค์ทรงฟังข้าพเจ้า
2ข้าแต่พระเยโฮวาห์โปรดทรงช่วยชีวิตข้าพระองค์ให้พ้น
จากริมฝีปากที่พูดปดและจากลิ้นที่หลอกลวง
3ลิ้นเจ้าเล่ห์จะมอบอะไรให้แก่เจ้า?หรือเจ้าจะถูกกระทํา
อย่างไร?
4ลูกศรอันคมกริบของผู้ยิ่งใหญ่พร้อมถ่านไม้จูนิเปอร์
5วิบัติแก่ข้าพเจ้าที่ข้าพเจ้าอาศัยอยู่ในเมเสคและที่
ข้าพเจ้าอาศัยอยู่ในเต็นท์ของเคดาร์
จิตวิญญาณของฉันได้อาศัยอยู่กับผู้ที่เกลียดสันติสุขมาช้า
นาน
7ข้าพเจ้ารักสันติแต่ข้าพเจ้าพูดพวกเขากลับสนับสนุนการ
สงคราม
บทที่121
1(บทเพลงแห่งระดับ)ข้าพระองค์จะแหงนหน้าดูภูเขา
ทั้งหลายว่าความช่วยเหลือของข้าพระองค์มาจากไหน
2ความช่วยเหลือของข้าพเจ้ามาจากพระเจ้าผู้ทรงสร้างฟ้า
สวรรค์และแผ่นดินโลก
3พระองค์จะไม่ยอมให้เท้าของท่านสะดุดพระองค์ผู้ทรง
ดูแลท่านจะไม่ง่วงหลับ
4ดูเถิดพระองค์ผู้ทรงรักษาอิสราเอลจะไม่ทรงหลับหรือ
หลับใหลเลย
5พระเยโฮวาห์ทรงเป็นผู้พิทักษ์ท่านพระเยโฮวาห์ทรงเป็น
ร่มเงาที่อยู่ข้างขวามือท่าน
6ดวงอาทิตย์จะไม่โจมตีท่านในเวลากลางวันและดวงจันทร์
จะไม่โจมตีท่านในเวลากลางคืน
7พระเยโฮวาห์จะทรงปกป้องเจ้าให้พ้นจากความชั่วร้าย
ทั้งสิ้นและจะทรงรักษาจิตวิญญาณของเจ้าไว้
8พระเจ้าจะทรงรักษาการเข้าออกของท่านตั้งแต่บัดนี้เป็นต้น
ไปจนชั่วนิรันดร์
บทที่122
1(บทเพลงสรรเสริญของดาวิด)ข้าพเจ้ามีความยินดีเมื่อเขา
ทั้งหลายกล่าวแก่ข้าพเจ้าว่าให้เราเข้าไปในพระนิเวศน์ของ
พระเจ้ากันเถิด
2เท้าของเราจะยืนอยู่ภายในประตูเมืองของคุณโอ
เยรูซาเล็ม
3เยรูซาเล็มถูกสร้างเป็นเมืองที่ประสานแน่นเข้าด้วยกัน:

บทสดุดี
4ที่ซึ่งบรรดาเผ่าต่างๆจะขึ้นไปคือเผ่าต่างๆของพระเจ้า
ไปสู่พยานของอิสราเอลเพื่อถวายคําขอบพระคุณต่อพระ
นามของพระเจ้า
5เพราะว่ามีพระที่นั่งแห่งการพิพากษาตั้งอยู่ที่นั่นคือพระที่
นั่งของราชวงศ์ดาวิด
6จงอธิษฐานขอสันติภาพให้แก่เยรูซาเล็มผู้ที่รักคุณจะได้
เจริญ
7ขอให้มีความสันติสุขอยู่ภายในกําแพงของคุณและความ
เจริญรุ่งเรืองอยู่ภายในวังของคุณ
8เพื่อเห็นแก่พี่น้องและมิตรสหายของฉันในขณะนี้ฉันจะพูด
ว่าสันติสุขจงมีอยู่ภายในท่าน
9เพราะเห็นแก่พระนิเวศน์ของพระเจ้าของเราข้าพเจ้าจะ
แสวงหาความดีของท่าน
บทที่123
1(บทเพลงแห่งระดับ)ข้าพระองค์เงยหน้าขึ้นดูพระองค์โอ้
ผู้ทรงสถิตในสวรรค์
2ดูเถิดเหมือนอย่างตาของผู้รับใช้ดูที่มือของนายของตน
และเหมือนอย่างตาของหญิงสาวดูที่มือของนายหญิงของตน
ตาของพวกเราก็เฝ้าคอยพระเยโฮวาห์พระเจ้าของพวกเรา
จนกว่าพระองค์จะมีพระเมตตาต่อพวกเรา
3ขอทรงมีพระเมตตาต่อพวกเราด้วยเถิดข้าแต่พระเยโฮวาห์
ขอทรงมีพระเมตตาต่อพวกเราด้วยเถิดเพราะว่าพวกเรามี
ความดูหมิ่นดูแคลนกันมากยิ่งนัก
4จิตใจของเราเต็มไปด้วยการดูถูกเหยียดหยามของผู้ที่
สบายใจและความเหยียดหยามของผู้เย่อหยิ่ง
บทที่124
1(บทเพลงแห่งระดับของดาวิด)หากไม่ใช่พระเยโฮวาห์ทรง
อยู่ฝ่ายพวกเราบัดนี้อิสราเอลอาจกล่าวได้ว่า
2ถ้าพระเยโฮวาห์มิได้ทรงอยู่ฝ่ายเราเมื่อคนทั้งหลายลุกขึ้น
ต่อต้านเรา
3แล้วพวกเขาก็กลืนเราเสียอย่างรวดเร็วเมื่อความโกรธของ
พวกเขาโหมกระหนํ่าเรา
4แล้วนํ้าท่วมเราและกระแสนํ้าก็ไหลผ่านจิตวิญญาณของ
เรา
5จากนั้นนํ้าอันขุ่นเคืองก็ท่วมจิตวิญญาณของเรา
6จงถวายพระพรแด่พระเยโฮวาห์ผู้ไม่ทรงให้เราเป็นเหยื่อ
ฟันของพวกเขา
7จิตวิญญาณของเราหลุดพ้นไปเหมือนนกจากบ่วงของพราน
ล่าสัตว์บ่วงนั้นหักและเราก็หลุดพ้นไป
8การช่วยเหลือของเราอยู่ในพระนามของพระเจ้าผู้ทรงสร้าง
ฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก
บทที่125
1(บทเพลงแห่งระดับ)บรรดาผู้วางใจในพระเยโฮวาห์จะเป็น
เหมือนภูเขาศิโยนซึ่งไม่อาจเคลื่อนย้ายได้แต่คงอยู่ชั่วนิรัน
ดร์
2ดังภูเขาที่อยู่รอบเยรูซาเล็มฉันใดพระเยโฮวาห์ก็ทรงอยู่
รอบประชากรของพระองค์ฉันนั้นตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปชั่วนิ
รันดร์
3เพราะคทาของคนชั่วจะไม่พักอยู่บนที่ดินของผู้ชอบธรรม
เกรงว่าผู้ชอบธรรมจะยื่นมือออกกระทําความชั่ว
4ขอทรงกระทําดีต่อผู้ทําความดีและต่อผู้ที่มีใจเที่ยงธรรม
5ส่วนผู้ที่หันกลับไปทําในทางที่คดโกงนั้นพระเจ้าจะทรงนํา
พวกเขาออกไปพร้อมกับคนทําความชั่วแต่สันติภาพจะมีแก่
อิสราเอล
บทที่126
1(บทเพลงแห่งระดับ)เมื่อพระเจ้าทรงให้การเนรเทศของศิ
โยนกลับสู่สภาพเดิมเราก็เป็นเหมือนคนเหล่านั้นที่ฝันไป
2ปากของเราก็เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะและลิ้นของเราก็เต็ม
ไปด้วยการร้องเพลงแล้วพวกเขากล่าวท่ามกลางพวก
ต่างชาติว่าพระเจ้าทรงกระทําการใหญ่โตแก่พวกเขา
3พระเจ้าทรงกระทําการใหญ่ๆแก่เราและเราก็ชื่นชมยินดีใน
เรื่องนั้น
4ข้าแต่พระเยโฮวาห์โปรดทรงหันการกักขังของเราให้
กลับมาเหมือนกระแสนํ้าในทิศใต้
5ผู้ที่หว่านด้วยนํ้าตาจะเก็บเกี่ยวด้วยความยินดี
6ผู้ที่ออกไปร้องไห้โดยนําเมล็ดพันธุ์อันลํ้าค่ากลับมาจะต้อง
กลับมาด้วยความชื่นชมยินดีโดยนําฟ่อนข้าวของตนมาด้วย
อย่างแน่นอน
บทที่127
1(บทเพลงสรรเสริญสําหรับซาโลมอน)ถ้าพระเจ้ามิได้ทรง
สร้างบ้านบรรดาผู้ที่สร้างบ้านนั้นก็เหนื่อยเปล่าถ้าพระเจ้า
มิได้ทรงเฝ้าเมืองส่วนคนยามก็ตื่นเปล่าประโยชน์
2เป็นการไร้ประโยชน์ที่ท่านตื่นเช้านั่งดึกกินอาหารแห่ง
ความเศร้าโศกเพราะอย่างนั้นพระองค์ก็ประทานความสงบ
สุขให้แก่ผู้ที่พระองค์ทรงรัก
3ดูเถิดบุตรทั้งหลายเป็นมรดกจากพระเยโฮวาห์และผล
แห่งครรภ์ก็เป็นรางวัลของพระองค์
4เหมือนลูกศรอยู่ในมือของผู้มีอํานาจฉันใดลูกหลานของ
คนหนุ่มสาวก็เป็นฉันนั้น
5คนใดที่บรรจุลูกธนูไว้ในถุงของตนก็เป็นสุขเขาจะไม่ต้อง
อับอายแต่จะพูดคุยกับศัตรูที่ประตูเมือง
บทที่128
1(บทเพลงแห่งระดับ)ผู้ที่ยําเกรงพระเจ้าย่อมเป็นสุขคือผู้
ที่เดินตามทางของพระองค์
2เพราะว่าเจ้าจะได้กินผลแรงงานจากมือของเจ้าเจ้าจะ
ได้รับความสุขและมันจะดีกับเจ้า
3ภรรยาของท่านจะเป็นเหมือนเถาองุ่นที่ออกผลดกอยู่ริมรั้ว
บ้านของท่านและลูกๆของท่านจะเป็นเหมือนต้นมะกอกที่
อยู่รอบโต๊ะของท่าน
4ดูเถิดมนุษย์ที่ยําเกรงพระเจ้าจะได้รับพระพรอย่างนี้
5พระเจ้าจะทรงอวยพระพรท่านจากศิโยนและท่านจะได้
เห็นความดีของเยรูซาเล็มตลอดชีวิตของท่าน
6ใช่แล้วท่านจะได้เห็นลูกหลานของท่านและสันติภาพจะมี
อยู่ในอิสราเอล
บทที่129
1(บทเพลงแห่งระดับ)พระองค์ทรงทรมานข้าพเจ้าหลายครั้ง
ตั้งแต่เยาว์วัยขอให้อิสราเอลกล่าวคําเหล่านี้ว่า
2เขาทั้งหลายได้ทรมานข้าพเจ้าหลายครั้งตั้งแต่เยาว์วัยแต่
เขาก็ไม่สามารถเอาชนะข้าพเจ้าได้
3พวกไถก็ไถบนหลังข้าพเจ้าพวกเขาไถร่องของตนให้ยาว
4พระเยโฮวาห์ทรงชอบธรรมพระองค์ทรงตัดเชือกของคน
ชั่วออก

บทสดุดี
5ขอให้บรรดาผู้ที่เกลียดชังศิโยนนั้นสับสนและต้องถอย
กลับไป
6ขอให้เขาเป็นเหมือนหญ้าที่อยู่บนหลังคาบ้านซึ่งเหี่ยวเฉา
ไปก่อนที่มันจะเติบโต
7ซึ่งคนตัดหญ้าไม่เติมมือของเขาและคนที่มัดฟ่อนข้าวไม่
เติมที่อกของเขา
8คนทั้งหลายที่ผ่านไปไม่พูดว่า“ขอพระพรของพระเจ้าจงมี
แก่ท่านทั้งหลายเราอวยพรท่านในพระนามของพระเจ้า”
บทที่130
1(บทเพลงแห่งระดับ)ข้าพระองค์ร้องเรียกพระองค์จากที่ลึก
ข้าแต่พระเยโฮวาห์
2ข้าแต่พระเจ้าขอทรงฟังเสียงของข้าพระองค์ขอทรงเงี่ย
พระกรรณฟังเสียงการวิงวอนของข้าพระองค์
3ข้าแต่พระเยโฮวาห์หากพระองค์จะทรงหมายความถึง
ความชั่วช้าใครจะยืนหยัดอยู่ได้?
4แต่พระองค์มีการอภัยโทษเพื่อพระองค์จะได้เป็นที่เกรง
กลัว
5ข้าพเจ้าคอยพระเจ้าจิตใจของข้าพเจ้าคอยและข้าพเจ้า
หวังในพระวจนะของพระองค์
6จิตใจของข้าพเจ้าคอยพระเจ้ายิ่งกว่าคนเฝ้ารอรุ่งอรุณ
ข้าพเจ้ากล่าวว่ายิ่งกว่าคนเฝ้ารอรุ่งอรุณ
7จงให้อิสราเอลหวังในพระเยโฮวาห์เพราะว่าพระเยโฮวาห์
ทรงมีพระเมตตาและพระองค์มีการไถ่บาปอย่างอุดมสมบูรณ์
8และพระองค์จะทรงไถ่อิสราเอลจากความชั่วช้าทั้งหมด
ของเขา
บทที่131
1(บทเพลงสรรเสริญพระเจ้าของดาวิด)ข้าแต่พระเจ้าใจ
ของข้าพระองค์ไม่หยิ่งผยองและตาของข้าพระองค์ไม่หยิ่ง
ผยองข้าพระองค์ไม่ฝึกฝนตนในเรื่องใหญ่โตและในเรื่องที่
สูงเกินกําลังข้าพระองค์
2แท้จริงข้าพระองค์ได้ประพฤติและสงบนิ่งอยู่เหมือนเด็ก
ที่หย่านนมจากมารดาจิตวิญญาณของข้าพระองค์ก็เหมือน
เด็กที่หย่านนมแล้ว
3ให้อิสราเอลหวังในพระเยโฮวาห์ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ตลอดนิรันดร์
บทที่132
1บทเพลงสรรเสริญพระเจ้าขอทรงระลึกถึงดาวิดและความ
ทุกข์ยากทั้งหมดของเขา
2และท่านได้สาบานต่อพระเยโฮวาห์และปฏิญาณต่อพระ
เจ้าผู้ยิ่งใหญ่ของยาโคบ
3ข้าพระองค์จะไม่เข้าไปยังเต็นท์แห่งบ้านของข้าพระองค์
และจะไม่ขึ้นไปยังที่นอนของข้าพระองค์
4ฉันจะไม่ทําให้ตาของข้าพระองค์หลับและไม่ให้เปลือกตา
ของข้าพระองค์หลับ
5จนกว่าฉันจะพบสถานที่สําหรับพระเยโฮวาห์คือที่ประทับ
ของพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ของยาโคบ
6ดูเถิดเราได้ยินเรื่องนี้ในเอฟราทาห์เราพบเรื่องนี้ในทุ่งป่า
7เราจะเข้าไปในพลับพลาของพระองค์และเราจะนมัสการที่
พระบาทของพระองค์
8ข้าแต่พระเยโฮวาห์ขอทรงลุกขึ้นสู่ที่พักของพระองค์ทั้ง
พระองค์และหีบแห่งพระกําลังของพระองค์
9ขอให้บรรดาปุโรหิตของพระองค์สวมเสื้อผ้าแห่งความชอบ
ธรรมและขอให้บรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์โห่ร้องด้วย
ความยินดี
10เพื่อเห็นแก่ดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์ขออย่าทรงหันหน้า
ของผู้ที่พระองค์ทรงเจิมไว้หนีไป
11พระเยโฮวาห์ทรงสาบานไว้กับดาวิดด้วยความจริง
พระองค์จะไม่ทรงหันกลับจากสิ่งนี้เราจะตั้งผลจากตัวเจ้าไว้
บนบัลลังก์ของเจ้า
12ถ้าบุตรหลานของท่านยอมรักษาพันธสัญญาของเราและ
คําพยานของเราที่เราจะสั่งสอนพวกเขาบุตรหลานของพวก
เขาก็จะนั่งบนบัลลังก์ของท่านตลอดไป
13เพราะพระเยโฮวาห์ทรงเลือกศิโยนและทรงปรารถนา
ให้ศิโยนเป็นที่ประทับของพระองค์
14นี่เป็นที่พักพิงของฉันตลอดไปฉันจะอยู่ที่นี่เพราะฉัน
ปรารถนามัน
15เราจะอวยพรอาหารของนางอย่างเหลือล้นเราจะให้คน
จนของนางอิ่มด้วยอาหาร
16เราจะประทานความรอดให้แก่บรรดาปุโรหิตของนางและ
บรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ของนางจะโห่ร้องด้วยความปิติยินดี
17ณที่นั้นเราจะทําให้เขาของดาวิดแตกหน่อเราได้
สถาปนาประทีปให้แก่ผู้ที่เราเจิมไว้
18ศัตรูของท่านเราจะห่มความอับอายให้ท่านแต่มงกุฎของ
ท่านนั้นจะรุ่งเรืองอยู่บนตัวท่านเอง
บทที่133
1(เพลงสรรเสริญของดาวิด)ดูเถิดการที่พี่น้องอาศัยอยู่
ร่วมกันเป็นนํ้าหนึ่งใจเดียวกันนั้นดีและน่าชื่นใจมากเพียงไร!
2เหมือนนํ้ามันหอมอันลํ้าค่าบนศีรษะไหลลงบนเคราคือ
เคราของอาโรนไหลลงไปจนถึงชายเสื้อของเขา
3เหมือนนํ้าค้างที่ภูเขาเฮอร์โมนและเหมือนนํ้าค้างที่ตกลง
บนภูเขาศิโยนเพราะว่าพระเจ้าทรงบัญชาให้มีพรที่นั่นคือ
ชีวิตชั่วนิรันดร์
บทที่134
1(บทเพลงสรรเสริญ)ดูเถิดจงสรรเสริญพระเยโฮวาห์พวก
เจ้าทั้งหลายผู้เป็นผู้รับใช้พระเยโฮวาห์ผู้ซึ่งยืนอยู่ในพระ
นิเวศน์ของพระเจ้าในเวลากลางคืน
2จงยกมือของท่านขึ้นในสถานศักดิ์สิทธิ์และสรรเสริญพระ
เจ้า
3ขอพระเยโฮวาห์ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกอวยพร
เจ้าจากศิโยน
บทที่135
1จงสรรเสริญพระเยโฮวาห์จงสรรเสริญพระนามพระเยโฮ
วาห์จงสรรเสริญพระองค์ผู้รับใช้พระเยโฮวาห์
2พวกท่านที่ยืนอยู่ในพระนิเวศน์ของพระเจ้าในบริเวณพระ
นิเวศน์ของพระเจ้าของเรา
3จงสรรเสริญพระเยโฮวาห์เพราะพระเยโฮวาห์ทรงดีจงร้อง
เพลงสรรเสริญพระนามของพระองค์เพราะพระองค์ทรงพอ
พระทัย
4เพราะพระเยโฮวาห์ทรงเลือกยาโคบไว้เป็นของพระองค์
และอิสราเอลไว้เป็นทรัพย์สมบัติอันลํ้าค่าของพระองค์
5เพราะข้าพเจ้าทราบว่าพระเยโฮวาห์ทรงยิ่งใหญ่และพระ
เจ้าของเราทรงยิ่งใหญ่เหนือเทพเจ้าทั้งปวง
6พระเจ้าทรงพอพระทัยสิ่งใดพระองค์ก็ทรงกระทําในสวรรค์
และบนแผ่นดินโลกในทะเลและที่ลึกทั้งสิ้น

บทสดุดี
7พระองค์ทรงทําให้ไอระเหยพวยพุ่งขึ้นมาจากปลายแผ่นดิน
โลกพระองค์ทรงทําให้ฟ้าแลบเพื่อฝนพระองค์ทรงนําลม
ออกมาจากพระคลังของพระองค์
8ผู้ทรงสังหารลูกหัวปีของอียิปต์ทั้งของมนุษย์และสัตว์
9ผู้ทรงส่งสัญลักษณ์และการอัศจรรย์มายังท่ามกลางเจ้าโอ
อียิปต์แก่ฟาโรห์และแก่บรรดาข้าราชการของเขา
10ผู้ทรงโจมตีประชาชาติใหญ่ๆและสังหารกษัตริย์ผู้
ยิ่งใหญ่
11ซีโฮนกษัตริย์แห่งชาวอาโมไรและโอกกษัตริย์แห่งบา
ซานและบรรดาราชอาณาจักรแห่งคานาอันทั้งสิ้น
12และประทานแผ่นดินของพวกเขาให้เป็นมรดกเป็นมรดก
แก่อิสราเอลประชาชนของพระองค์
13พระนามของพระองค์ข้าแต่พระเยโฮวาห์ดํารงอยู่ชั่วนิรัน
ดร์และความทรงจําของพระองค์ข้าแต่พระเยโฮวาห์ดํารง
อยู่ตลอดทุกชั่วคน
14เพราะพระเจ้าจะทรงพิพากษาประชากรของพระองค์และ
พระองค์จะทรงเสียพระทัยเกี่ยวกับผู้รับใช้ของพระองค์
15รูปเคารพของคนต่างชาตินั้นเป็นเงินและทองเป็นผลงาน
ของมือมนุษย์
16มีปากแต่พูดไม่ได้มีตาแต่มองไม่ได้
17มีหูแต่กลับไม่ได้ยินและไม่มีลมหายใจในปากของมันมี
18ผู้ที่สร้างสรรค์รูปเหล่านั้นจะเป็นเหมือนรูปเหล่านั้นผู้ที่
ไว้วางใจในรูปเหล่านั้นก็เป็นอย่างนั้นเช่นกัน
19จงถวายพระพรแด่พระเยโฮวาห์โอพงศ์พันธุ์อิสราเอล
จงถวายพระพรแด่พระเยโฮวาห์โอพงศ์พันธุ์อาโรน
20จงถวายสาธุการแด่พระเยโฮวาห์เจ้าพงศ์พันธุ์เลวีผู้ที่ยํา
เกรงพระเยโฮวาห์จงถวายสาธุการแด่พระเยโฮวาห์
21จงถวายพระพรแด่พระเยโฮวาห์จากศิโยนซึ่งประทับอยู่
ในเยรูซาเล็มจงสรรเสริญพระเยโฮวาห์
บทที่136
1จงขอบพระคุณพระเยโฮวาห์เพราะพระองค์ทรงดีและพระ
กรุณาของพระองค์ดํารงอยู่ชั่วนิรันดร์
2จงขอบพระคุณพระเจ้าแห่งพระเจ้าทั้งหลายเพราะความ
เมตตาของพระองค์ดํารงอยู่ชั่วนิรันดร์
3จงถวายการขอบพระคุณแด่พระเจ้าผู้ทรงเป็นเจ้าเหนือ
บรรดาเจ้าทั้งหลายเพราะพระกรุณาของพระองค์ดํารงอยู่ชั่ว
นิรันดร์
4แด่พระองค์ผู้ทรงกระทําการอัศจรรย์ใหญ่แต่ผู้เดียว
เพราะว่าพระเมตตาของพระองค์ดํารงอยู่ชั่วนิรันดร์
5แด่พระองค์ผู้ทรงสร้างสวรรค์ด้วยพระปัญญาเพราะว่าพระ
เมตตาของพระองค์ดํารงอยู่ชั่วนิรันดร์
6แด่พระองค์ผู้ทรงแผ่แผ่นดินโลกออกเหนือนํ้าเพราะความ
เมตตาของพระองค์ดํารงอยู่ชั่วนิรันดร์
7แด่พระองค์ผู้ทรงสร้างดวงประทีปใหญ่เพราะพระเมตตา
ของพระองค์ดํารงอยู่ชั่วนิรันดร์
8ให้ดวงอาทิตย์ครองกลางวันเพราะพระเมตตาของพระองค์
คงอยู่ชั่วนิรันดร์
9ดวงจันทร์และดวงดาวให้ครองกลางคืนเพราะความเมตตา
ของพระองค์ดํารงอยู่ชั่วนิรันดร์
10แด่พระองค์ผู้ทรงตีอียิปต์ในลูกหัวปีของพวกเขาเพราะ
ความเมตตาของพระองค์ดํารงอยู่ชั่วนิรันดร์
11และทรงนําอิสราเอลออกมาจากท่ามกลางพวกเขา
เพราะว่าพระเมตตาของพระองค์ดํารงอยู่ชั่วนิรันดร์
12ด้วยพระหัตถ์อันเข้มแข็งและพระกรที่เหยียดออกเพราะ
ความเมตตาของพระองค์ดํารงอยู่ชั่วนิรันดร์
13แด่พระองค์ผู้ทรงแบ่งทะเลแดงออกเป็นส่วนๆเพราะพระ
เมตตาของพระองค์ดํารงอยู่ชั่วนิรันดร์
14และทรงให้อิสราเอลผ่านไปท่ามกลางนั้นเพราะพระ
เมตตาของพระองค์ดํารงอยู่ชั่วนิรันดร์
15แต่ทรงควํ่าฟาโรห์และกองทัพของเขาลงในทะเลแดง
เพราะความเมตตาของพระองค์ดํารงอยู่ชั่วนิรันดร์
16แด่พระองค์ผู้ทรงนําประชากรของพระองค์ผ่านถิ่น
ทุรกันดารเพราะความเมตตาของพระองค์ดํารงอยู่ชั่วนิรันดร์
17แด่พระองค์ผู้ทรงโจมตีกษัตริย์ใหญ่ทั้งหลายเพราะพระ
เมตตาของพระองค์ดํารงอยู่ชั่วนิรันดร์
18และทรงสังหารกษัตริย์ที่เลื่องชื่อทั้งหลายเพราะพระ
เมตตาของพระองค์ดํารงอยู่ชั่วนิรันดร์
19สิโฮนกษัตริย์แห่งชาวอาโมไรต์เพราะความเมตตาของ
พระองค์ดํารงอยู่ชั่วนิรันดร์
20และโอกกษัตริย์แห่งบาซานเพราะความเมตตาของ
พระองค์ดํารงอยู่ชั่วนิรันดร์
21และทรงประทานแผ่นดินของพวกเขาให้เป็นมรดกเพราะ
พระเมตตาของพระองค์ดํารงอยู่ชั่วนิรันดร์
22แม้จะเป็นมรดกแก่อิสราเอลผู้รับใช้ของพระองค์เพราะ
ความเมตตาของพระองค์ดํารงอยู่ชั่วนิรันดร์
23ผู้ทรงระลึกถึงเราในสถานะตํ่าต้อยของเราเพราะพระ
เมตตาของพระองค์ดํารงอยู่ชั่วนิรันดร์
24และทรงไถ่เราจากศัตรูของเราเพราะพระเมตตาของ
พระองค์ดํารงอยู่ชั่วนิรันดร์
25ผู้ทรงประทานอาหารแก่ทุกชีวิตเพราะความเมตตาของ
พระองค์ดํารงอยู่ชั่วนิรันดร์
26จงขอบพระคุณพระเจ้าแห่งสวรรค์เพราะความเมตตาของ
พระองค์ดํารงอยู่ชั่วนิรันดร์
บทที่137
1ริมฝั่งแม่นํ้าบาบิลอนเรานั่งลงที่นั่นและเราได้ร้องไห้เมื่อ
เรารําลึกถึงศิโยน
2เราแขวนพิณของเราไว้บนต้นหลิวท่ามกลางต้นนั้น
3เพราะที่นั่นบรรดาผู้จับเราไปเป็นเชลยต้องการให้เราร้อง
เพลงและบรรดาผู้ทําให้เราสูญสิ้นก็ขอให้เราร้องเพลง
สนุกสนานโดยกล่าวว่าจงร้องเพลงศิโยนสักบทหนึ่งให้เรา
ฟัง
4เราจะร้องเพลงของพระเจ้าในดินแดนแปลกหน้าได้อย่างไร?
5ถ้าข้าพเจ้าลืมเจ้าเยรูซาเล็มขอให้มือขวาของข้าพเจ้าลืม
เล่ห์เหลี่ยมของตนเสีย
6หากฉันไม่ระลึกถึงคุณขอให้ลิ้นของฉันเกาะติดเพดานปาก
และหากฉันไม่ถือว่าเยรูซาเล็มสําคัญกว่าความชื่นชมยินดี
สูงสุดของฉันก็ขอให้ฉันระลึกถึงคุณ
7ข้าแต่พระเยโฮวาห์ขอทรงระลึกถึงบรรดาบุตรหลานแห่ง
เอโดมในวันเยรูซาเล็มซึ่งกล่าวว่าจงทําลายมันจงทําลาย
มันเสียให้ถึงรากฐานของมัน
8โอธิดาแห่งบาบิลอนผู้กําลังจะต้องถูกทําลายเสียแล้วจง
เป็นสุขเถิดที่เขาได้ตอบแทนเจ้าอย่างที่เจ้าได้รับใช้เรา
ความสุขจงมีแก่คนที่จับและเหวี่ยงเด็กๆของคุณไปที่ก้อน
หิน
บทที่138
1(บทสดุดีของดาวิด)ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์ด้วย
สุดใจข้าพระองค์จะร้องเพลงสรรเสริญพระองค์ต่อหน้าเหล่า
เทพ
2ข้าพระองค์จะนมัสการตรงต่อพระวิหารอันบริสุทธิ์ของ
พระองค์และสรรเสริญพระนามของพระองค์เพราะความรัก
มั่นคงและความจริงของพระองค์เพราะพระองค์ทรงยกย่อง
พระวจนะของพระองค์เหนือพระนามทั้งสิ้นของพระองค์

บทสดุดี
3ในวันที่ข้าพระองค์ร้องทูลพระองค์ได้ทรงตอบข้าพระองค์
และทรงทําให้ข้าพระองค์เข้มแข็งขึ้นด้วยจิตวิญญาณของข้า
พระองค์
4กษัตริย์ทั้งหลายแห่งแผ่นดินโลกจะสรรเสริญพระองค์ข้า
แต่พระเยโฮวาห์เมื่อพวกเขาได้ยินพระวจนะจากพระโอษฐ์
ของพระองค์
5พวกเขาทั้งหลายจะร้องเพลงตามทางของพระเจ้า
เพราะว่าพระสิริของพระเจ้านั้นยิ่งใหญ่
6แม้ว่าพระเยโฮวาห์จะสูงส่งแต่พระองค์ยังทรงเคารพผู้ตํ่า
ต้อยแต่พระองค์ทรงรู้จักผู้เย่อหยิ่งแต่ไกล
7ถึงแม้ข้าพระองค์จะเดินอยู่ท่ามกลางความยากลําบาก
พระองค์จะทรงชุบชีวิตข้าพระองค์ขึ้นพระองค์จะทรงเหยียด
พระหัตถ์ออกต่อต้านความพิโรธของศัตรูของข้าพระองค์
และพระหัตถ์ขวาของพระองค์จะทรงช่วยข้าพระองค์ให้รอด
8องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงทําให้สิ่งที่เกี่ยวกับข้าพเจ้าสมบูรณ์
ยิ่งขึ้นพระเมตตาของพระองค์ดํารงอยู่ตลอดไปข้าแต่พระเย
โฮวาห์ขออย่าทรงละทิ้งผลงานของพระหัตถ์ของพระองค์
เอง
บทที่139
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงสดุดีของดาวิด)ข้าแต่พระเยโฮ
วาห์พระองค์ทรงสํารวจข้าพระองค์และทรงรู้จักข้าพระองค์
2พระองค์ทรงทราบการนั่งลงของข้าพระองค์และการลุกขึ้น
ของข้าพระองค์และพระองค์ทรงเข้าใจความคิดของข้า
พระองค์แต่ไกล
3พระองค์ทรงรอบรู้เส้นทางและการนอนของข้าพระองค์
และทรงทราบทางทั้งสิ้นของข้าพระองค์
4เพราะว่าข้าพระองค์พูดไม่ได้สักคําเดียวแต่ดูเถิดข้าแต่
พระเยโฮวาห์พระองค์ทรงทราบเรื่องนี้ดีแล้ว
5พระองค์ทรงล้อมข้าพระองค์ไว้ทั้งข้างหลังและข้างหน้า
และทรงวางพระหัตถ์บนข้าพระองค์
ความรู้เช่นนี้เป็นสิ่งมหัศจรรย์เกินไปสําหรับข้าพเจ้ามันสูงส่ง
เกินกว่าข้าพเจ้าจะเข้าถึงได้
7ข้าพเจ้าจะไปไหนให้พ้นจากพระวิญญาณของพระองค์
หรือจะหนีไปไหนให้พ้นจากพระพักตร์ของพระองค์
8หากข้าพระองค์ขึ้นไปยังสวรรค์พระองค์ก็ทรงอยู่ที่นั่นหาก
ข้าพระองค์จะทําที่นอนไว้ในนรกดูเถิดพระองค์ก็ทรงอยู่ที่
นั่น
9ถ้าข้าพระองค์จะติดปีกแห่งรุ่งอรุณและประทับอยู่ณส่วน
ที่อยู่สุดของทะเล
10แม้ที่นั่นพระหัตถ์ของพระองค์จะนําข้าพระองค์และพระ
หัตถ์ขวาของพระองค์จะยึดข้าพระองค์ไว้
11ถ้าข้าพเจ้ากล่าวว่าความมืดจะปกคลุมข้าพเจ้าและ
กลางคืนจะยังมีความสว่างอยู่รอบตัวข้าพเจ้า
12แม้ความมืดก็ยังไม่ซ่อนจากเจ้าแต่กลางคืนก็ส่องสว่าง
เหมือนกลางวันความมืดและความสว่างนั้นก็เหมือนกัน
สําหรับเจ้า
13เพราะพระองค์ทรงครอบครองไตของฉันพระองค์ทรงปก
คลุมฉันไว้ในครรภ์มารดาของฉัน
14ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์เพราะว่าพระองค์ทรง
สร้างข้าพระองค์อย่างน่าเกรงขามและน่าพิศวงพระราชกิจ
ของพระองค์นั้นน่าพิศวงและจิตใจของข้าพระองค์ก็ทราบดี
15โครงร่างของข้าพเจ้ามิได้ถูกซ่อนไว้จากเจ้าข้าพเจ้าถูก
สร้างขึ้นในที่ลับและถูกประดิษฐ์ขึ้นอย่างวิจิตรบรรจงในที่ลึก
ที่สุดของแผ่นดินโลก
16พระเนตรของพระองค์ได้เห็นความสมบูรณ์ของข้า
พระองค์แม้ว่าจะยังไม่สมบูรณ์และอวัยวะทั้งหมดของข้า
พระองค์ก็ถูกจารึกไว้ในหนังสือของพระองค์ซึ่งถูกสร้างขึ้น
อย่างต่อเนื่องเมื่อยังไม่มีสักอย่างเลย
17ความคิดของพระองค์มีค่าต่อข้าพระองค์มากเพียงไรข้า
แต่พระเจ้าความคิดเหล่านั้นมีมากมายเพียงไร
18หากข้าพระองค์จะนับก็มากกว่าทรายเมื่อข้าพระองค์ตื่น
ขึ้นข้าพระองค์ก็ยังอยู่กับเจ้า
19แน่นอนพระองค์จะทรงสังหารคนชั่วเสียพระเจ้าดังนั้น
จงออกไปจากข้าพระองค์เถิดพวกคนเลือดเย็น
20เพราะพวกเขาพูดจาชั่วร้ายต่อท่านและศัตรูของท่านก็นํา
พระนามท่านไปใช้อย่างไร้ประโยชน์
21ข้าพระองค์มิได้เกลียดผู้ที่เกลียดพระองค์ดอกหรือ?และ
ข้าพระองค์มิได้เศร้าโศกเสียใจต่อผู้ที่ลุกขึ้นต่อต้านพระองค์
ดอกหรือ?
22ข้าพระองค์เกลียดพวกเขาด้วยความเกลียดอย่างยิ่งข้า
พระองค์นับพวกเขาเป็นศัตรูของข้าพระองค์
23ขอทรงตรวจค้นข้าพระองค์และทรงทราบจิตใจของข้า
พระองค์ขอทรงทดสอบข้าพระองค์และทรงทราบความคิด
ของข้าพระองค์
24และขอทรงทอดพระเนตรดูว่ามีทางชั่วใดๆในตัวข้า
พระองค์หรือไม่และขอทรงนําข้าพระองค์ไปในหนทางนิรัน
ดร์
บทที่140
1(ถึงหัวหน้านักร้องเพลงสดุดีของดาวิด)ข้าแต่พระเยโฮ
วาห์โปรดทรงช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากคนชั่วร้ายโปรดทรง
รักษาข้าพระองค์ให้พ้นจากคนโหดร้าย
2ซึ่งคิดเรื่องร้ายๆไว้ในใจและมักรวมตัวกันทําสงครามอยู่
ตลอดเวลา
3พวกเขาลับลิ้นของพวกเขาให้คมเหมือนงูพิษของงูพิษอยู่
ใต้ริมฝีปากของพวกเขาเซลาห์
4ข้าแต่พระเยโฮวาห์ขอทรงคุ้มครองข้าพระองค์ให้พ้นจาก
มือคนชั่วขอทรงปกป้องข้าพระองค์จากคนโหดร้ายที่คิดจะ
ทําลายการงานของข้าพระองค์
5คนหยิ่งผยองได้ซ่อนบ่วงแร้วดักข้าพระองค์และได้วาง
เชือกไว้ข้างทางพวกเขาได้วางกับดักไว้เพื่อข้าพระองค์เซ
ลาห์
6ข้าพเจ้าทูลพระเยโฮวาห์ว่าพระองค์เป็นพระเจ้าของ
ข้าพเจ้าขอทรงฟังเสียงวิงวอนของข้าพเจ้าเถิดพระเจ้า
7ข้าแต่พระเจ้าผู้เป็นพระยาห์เวห์ผู้ทรงเป็นกําลังแห่งความ
รอดของข้าพระองค์พระองค์ทรงคลุมศีรษะของข้าพระองค์
ในวันรบ
8ข้าแต่พระเยโฮวาห์ขออย่าทรงโปรดให้เป็นไปตามความ
ปรารถนาของคนชั่วและอย่าทรงให้ความคิดชั่วของเขาเป็น
ที่ยกย่องเพราะจะทําให้พวกเขาไม่ยกย่องตัวเอง
9ส่วนศีรษะของบรรดาคนเหล่านั้นที่ล้อมรอบข้าพเจ้าขอให้
ความชั่วร้ายแห่งริมฝีปากของพวกเขาปกคลุมพวกเขาเอง
10ขอให้ถ่านที่ลุกไหม้ตกลงมาบนพวกเขาขอให้พวกเขาถูก
โยนลงในกองไฟลงไปในหลุมลึกเพื่อพวกเขาจะลุกขึ้น
ไม่ได้อีก
11อย่าให้คนพูดจาชั่วร้ายตั้งตัวอยู่ในแผ่นดินความชั่วร้ายจะ
ตามล่าคนโหดร้ายเพื่อโค่นล้มเขา
12ข้าพเจ้าทราบว่าพระเยโฮวาห์จะทรงรักษาความยุติธรรม
ให้แก่ผู้ทุกข์ยากและทรงรักษาความยุติธรรมให้แก่ผู้ยากจน
13แน่ทีเดียวคนชอบธรรมจะถวายคําขอบพระคุณต่อพระนาม
ของพระองค์คนเที่ยงธรรมจะอาศัยอยู่ต่อพระพักตร์ของ
พระองค์

บทสดุดี
บทที่141
1(บทเพลงสดุดีของดาวิด)ข้าแต่พระเยโฮวาห์ข้าพระองค์
ร้องหาพระองค์โปรดรีบมาหาข้าพระองค์โปรดทรงเงี่ยพระ
กรรณฟังเสียงข้าพระองค์เมื่อข้าพระองค์ร้องหาพระองค์
2ขอให้คําอธิษฐานของข้าพเจ้าถูกแสดงต่อพระพักตร์
พระองค์เหมือนดั่งเครื่องหอมและขอให้การยกมือของ
ข้าพเจ้าถูกแสดงเหมือนเครื่องบูชาตอนเย็น
3ข้าแต่พระเยโฮวาห์โปรดทรงเฝ้ารักษาปากของข้าพระองค์
โปรดทรงรักษาประตูริมฝีปากของข้าพระองค์
4อย่าให้ใจของข้าพระองค์เอนเอียงไปในทางชั่วใดๆและ
อย่าทําความชั่วกับคนที่ทําความชั่วและอย่าให้ข้าพระองค์
กินอาหารอันโอชะของพวกเขา
5ขอให้ผู้ชอบธรรมตีฉันมันจะกลายเป็นความเมตตาและ
ขอให้เขาตําหนิฉันมันจะกลายเป็นนํ้ามันชั้นเลิศซึ่งจะไม่ทํา
ให้ศีรษะของฉันแตกเพราะว่าคําอธิษฐานของฉันจะยังคงอยู่
ในความหายนะของพวกเขา
6เมื่อผู้พิพากษาของพวกเขาถูกล้มลงในสถานที่ที่เต็มไป
ด้วยหินพวกเขาจะได้ยินคําพูดของฉันเพราะมันไพเราะมาก
กระดูกของเรากระจัดกระจายอยู่ที่ปากหลุมศพเหมือนเมื่อมี
คนตัดและผ่าไม้บนพื้นดิน
8แต่ดวงตาของข้าพระองค์จ้องไปที่พระองค์ข้าแต่พระเจ้าผู้
เป็นเจ้าข้าพระองค์ไว้วางใจในพระองค์อย่าปล่อยให้จิต
วิญญาณของข้าพระองค์ต้องขัดสนเลย
9ขอทรงรักษาข้าพระองค์ให้พ้นจากบ่วงที่พวกเขาวางไว้ดัก
ข้าพระองค์และจากบ่วงของผู้กระทําความชั่ว
10ขอให้คนชั่วติดอยู่ในตาข่ายของตนเองส่วนข้าพเจ้าจะ
หนีรอดไปได้
บทที่142
1(มัสชิลของดาวิดคําอธิษฐานเมื่อเขาอยู่ในถํ้า)ข้าพเจ้า
ร้องทูลต่อพระเยโฮวาห์ด้วยเสียงของข้าพเจ้าข้าพเจ้า
วิงวอนต่อพระเยโฮวาห์ด้วยเสียงของข้าพเจ้า
2ข้าพระองค์ได้เทความเศร้าโศกของข้าพระองค์ต่อพระ
พักตร์พระองค์ข้าพระองค์ได้แสดงความทุกข์ยากของข้า
พระองค์ต่อพระพักตร์พระองค์
3เมื่อจิตใจของข้าพเจ้าถูกครอบงําพระองค์ทรงทราบทาง
ของข้าพเจ้าในเส้นทางที่ข้าพเจ้าเดินมีคนวางกับดัก
ข้าพเจ้าไว้โดยลับๆ
4ข้าพเจ้ามองดูทางขวามือของข้าพเจ้าก็เห็นแต่ไม่มีใคร
รู้จักข้าพเจ้าข้าพเจ้าไม่มีที่พึ่งไม่มีใครเอาใจใส่จิตวิญญาณ
ของข้าพเจ้าเลย
5ข้าพระองค์ร้องทูลต่อพระองค์ข้าแต่พระเยโฮวาห์ข้า
พระองค์กล่าวว่าพระองค์ทรงเป็นที่ลี้ภัยของข้าพระองค์และ
เป็นส่วนของข้าพระองค์ในแผ่นดินของผู้มีชีวิต
6ขอทรงสดับการร้องไห้ของข้าพระองค์เพราะข้าพระองค์
ตกตํ่ามากโปรดทรงช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากผู้ข่มเหงข้า
พระองค์เพราะพวกเขาเข้มแข็งกว่าข้าพระองค์
7ขอทรงนําจิตวิญญาณของข้าพระองค์ออกจากคุกเพื่อข้า
พระองค์จะได้สรรเสริญพระนามของพระองค์คนชอบธรรมจะ
ล้อมรอบข้าพระองค์ไว้เพราะพระองค์จะทรงปฏิบัติต่อข้า
พระองค์อย่างเอื้อเฟื้อ
บทที่143
1(บทเพลงสดุดีของดาวิด)ข้าแต่พระเยโฮวาห์โปรดทรงฟัง
คําอธิษฐานของข้าพระองค์ขอทรงเงี่ยพระกรรณฟังคํา
วิงวอนของข้าพระองค์ขอทรงตอบข้าพระองค์ตามความ
ซื่อสัตย์ของพระองค์และตามความชอบธรรมของพระองค์
2และอย่าทรงพิพากษาผู้รับใช้ของพระองค์เลยเพราะว่าใน
สายพระเนตรของพระองค์ไม่มีผู้ใดที่มีชีวิตอยู่จะได้รับการ
พิพากษาว่าชอบธรรมได้
3เพราะศัตรูได้ข่มเหงจิตวิญญาณของข้าพเจ้าเขาข่มชีวิต
ข้าพเจ้าลงกับพื้นเขาทําให้ข้าพเจ้าต้องอยู่ในความมืดมิด
เหมือนคนตายมานานแล้ว
4เพราะฉะนั้นจิตวิญญาณของข้าพระองค์จึงท้อแท้ภายใน
ข้าพระองค์และใจของข้าพระองค์ก็ว่างเปล่าภายในข้า
พระองค์
5ข้าพระองค์ระลึกถึงวันเก่าๆข้าพระองค์ตรึกตรองถึงพระ
ราชกิจของพระองค์ทั้งสิ้นข้าพระองค์ครุ่นคิดถึงพระราชกิจที่
พระหัตถ์ของพระองค์ทํา
6ข้าพระองค์ยื่นมือออกไปหาพระองค์จิตวิญญาณของข้า
พระองค์กระหายหาพระองค์เหมือนแผ่นดินที่กระหายนํ้าเซ
ลาห์
7ขอทรงฟังข้าพระองค์โดยเร็วเถิดข้าแต่พระเยโฮวาห์
จิตใจข้าพระองค์กําลังหมดแรงขออย่าทรงซ่อนพระพักตร์
จากข้าพระองค์เพื่อข้าพระองค์จะไม่เป็นเหมือนคนเหล่านั้น
ที่ลงไปสู่หลุม
8โปรดให้ข้าพระองค์ได้ยินถึงความรักมั่นคงของพระองค์ใน
ยามเช้าเพราะข้าพระองค์ไว้วางใจในพระองค์โปรดให้ข้า
พระองค์รู้จักทางที่ควรเดินเพราะข้าพระองค์ยกจิตวิญญาณ
ของข้าพระองค์ขึ้นหาพระองค์
9ข้าแต่พระเยโฮวาห์โปรดทรงช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจาก
ศัตรูของข้าพระองค์ข้าพระองค์หนีไปหาพระองค์เพื่อซ่อน
ข้าพระองค์ไว้
10ขอทรงสอนข้าพระองค์ให้ทําตามพระประสงค์ของ
พระองค์เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเจ้าของข้าพระองค์พระ
วิญญาณของพระองค์ดีขอทรงนําข้าพระองค์ไปในแผ่นดิน
แห่งความเที่ยงธรรม
11ขอทรงช่วยชีวิตข้าพระองค์ไว้เพราะเห็นแก่พระนามของ
พระองค์ขอทรงนําจิตวิญญาณของข้าพระองค์ออกจากความ
ยากลําบากเพราะเห็นแก่ความชอบธรรมของพระองค์
12และขอทรงตัดศัตรูของข้าพระองค์ออกด้วยพระเมตตา
ของพระองค์และทรงทําลายทุกคนที่ทรมานจิตวิญญาณ
ของข้าพระองค์เพราะว่าข้าพระองค์เป็นผู้รับใช้ของพระองค์
บทที่144
1(บทเพลงสดุดีของดาวิด)จงถวายพระพรแด่พระเยโฮวาห์
ซึ่งเป็นกําลังของข้าพเจ้าผู้ทรงฝึกมือของข้าพเจ้าให้ทํา
สงครามและฝึกนิ้วมือของข้าพเจ้าให้สู้รบ
2ความดีของฉันและป้อมปราการของฉันเป็นหอคอยสูง
และผู้ช่วยให้รอดของฉันเป็นโล่ของฉันและเป็นผู้ซึ่งฉัน
ไว้วางใจผู้ทรงปราบประชากรของฉันไว้ใต้อํานาจของฉัน
3ข้าแต่พระเยโฮวาห์มนุษย์เป็นสิ่งใดเล่าที่พระองค์ทรงรู้จัก
เขาและบุตรมนุษย์เป็นสิ่งใดเล่าที่พระองค์ทรงนับบัญชีเขา
4มนุษย์เป็นเหมือนสิ่งไร้สาระวันเวลาของเขาเหมือนเงาที่
ผ่านไป
5ข้าแต่พระเยโฮวาห์ขอทรงโน้มฟ้าสวรรค์ลงมาและเสด็จ
ลงมาโปรดแตะต้องภูเขาและมันจะมีควันขึ้น
6ขอทรงพุ่งสายฟ้าออกไปและกระจายพวกมันออกไปขอ
ทรงยิงลูกศรของพระองค์และทําลายพวกมันเสีย
7ขอทรงส่งพระหัตถ์ของพระองค์มาจากเบื้องบนโปรดทรง
ช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากนํ้าอันใหญ่โตจากมือของ
ชาวต่างชาติ

บทสดุดี
8ปากของเขาพูดแต่เรื่องเท็จและมือขวาของเขาเป็นมือขวา
แห่งความเท็จ
9ข้าพระองค์จะร้องเพลงใหม่ถวายแด่พระองค์ข้าแต่พระเจ้า
ข้าพระองค์จะร้องเพลงสรรเสริญพระองค์ด้วยพิณใหญ่และ
พิณสิบสาย
10พระองค์คือผู้ประทานความรอดแก่บรรดากษัตริย์พระองค์
ทรงช่วยดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์จากดาบอันเป็นอันตราย
11ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากมือของคนต่างด้าวซึ่ง
ปากของพวกเขาพูดจาไร้สาระและมือขวาของพวกเขาก็เป็น
มือขวาแห่งความเท็จ
12เพื่อว่าบุตรชายของเราจะได้เป็นเหมือนต้นไม้ที่เติบโตใน
วัยเยาว์และเพื่อว่าบุตรสาวของเราจะได้เป็นเหมือนศิลาหัว
มุมที่ขัดเงาให้มีลักษณะเหมือนพระราชวัง
13เพื่อยุ้งฉางของเราจะได้เต็มเปี่ยมไปด้วยสิ่งของสารพัด
เพื่อแกะของเราจะได้ออกมาเกิดเป็นพันเป็นหมื่นในถนนของ
เรา
14เพื่อว่าวัวของเราจะแข็งแรงพอที่จะทํางานเพื่อว่าจะไม่มี
ใครบุกรุกเข้ามาหรือออกไปเพื่อว่าจะไม่มีใครบ่นว่าบนถนน
ของพวกเรา
15ความสุขมีแก่ชนชาติที่มีฐานะเช่นนี้ความสุขมีแก่ชนชาติ
ที่มีพระเจ้าเป็นพระเยโฮวาห์
บทที่145
1(บทสรรเสริญของดาวิด)ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์
พระเจ้าของข้าพระองค์โอ้พระราชาและข้าพระองค์จะถวาย
สาธุการแด่พระนามของพระองค์ตลอดไปชั่วนิรันดร์
2ข้าพระองค์จะสรรเสริญพระองค์ทุกวันและจะสรรเสริญพระ
นามของพระองค์ตลอดไปชั่วนิรันดร์
3พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่และสมควรได้รับการสรรเสริญอย่างยิ่ง
และความยิ่งใหญ่ของพระองค์นั้นหาได้ประมาณมิได้
4คนรุ่นหนึ่งจะสรรเสริญพระราชกิจของพระองค์ให้คนอีกรุ่น
หนึ่งฟังและจะประกาศถึงพระราชกิจอันทรงอานุภาพของ
พระองค์
5ข้าพระองค์จะกล่าวถึงเกียรติยศอันยิ่งใหญ่ของความสง่า
งามของพระองค์และถึงการงานอันน่าอัศจรรย์ของพระองค์
6และมนุษย์จะกล่าวถึงอานุภาพแห่งการกระทําอันน่าเกรง
ขามของพระองค์และข้าพระองค์จะประกาศถึงความยิ่งใหญ่
ของพระองค์
7พวกเขาจะกล่าวถึงคุณความดีอันยิ่งใหญ่ของพระองค์อย่าง
ล้นเหลือและจะร้องเพลงถึงความชอบธรรมของพระองค์
8พระเจ้าทรงมีพระคุณและเต็มไปด้วยพระกรุณาทรงกริ้วช้า
และมีพระกรุณาอันใหญ่หลวง
9พระเจ้าทรงดีต่อทุกคนและพระเมตตาของพระองค์มีอยู่
เหนือพระราชกิจทั้งสิ้นของพระองค์
10พระราชกิจทั้งสิ้นของพระองค์จะสรรเสริญพระองค์ข้าแต่
พระเยโฮวาห์และบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์จะอวยพร
พระองค์
11เขาจะพูดถึงพระสิริรุ่งโรจน์แห่งราชอาณาจักรของ
พระองค์และพูดถึงพระเดชานุภาพของพระองค์
12เพื่อให้บรรดาบุตรแห่งมนุษย์ทราบถึงการกระทําอันทรง
อานุภาพของพระองค์และพระสิริรุ่งโรจน์แห่งราชอาณาจักร
ของพระองค์
13อาณาจักรของพระองค์เป็นอาณาจักรนิรันดร์และพระราช
อํานาจของพระองค์ดํารงอยู่ตลอดทุกชั่วรุ่นทุกสมัย
14พระเจ้าทรงประคองคนทั้งหลายที่ล้มลงและทรงยกคน
ทั้งหลายที่ก้มกราบให้ลุกขึ้น
15สายตาของทุกดวงรอคอยพระองค์และพระองค์ก็ทรง
ประทานอาหารแก่พวกมันตามเวลา
16พระองค์ทรงแบพระหัตถ์ของพระองค์และทรงสนอง
ความปรารถนาของสรรพชีวิตทุกสิ่ง
17พระเจ้าทรงชอบธรรมตามทางทั้งสิ้นของพระองค์และ
ทรงบริสุทธิ์ในพระราชกิจทั้งสิ้นของพระองค์
18พระเจ้าทรงอยู่ใกล้ทุกคนที่ร้องเรียกพระองค์และทุกคนที่
ร้องเรียกพระองค์ด้วยความสัตย์จริง
19พระองค์จะทรงสนองความปรารถนาของบรรดาผู้ยําเกรง
พระองค์พระองค์จะทรงฟังเสียงร้องไห้ของพวกเขาและจะ
ทรงช่วยพวกเขาให้รอด
20พระเจ้าทรงคุ้มครองผู้ที่รักพระองค์ทุกคนแต่พระองค์จะ
ทรงทําลายคนชั่วทั้งหมด
21ปากของข้าพเจ้าจะกล่าวสรรเสริญพระเยโฮวาห์และให้
มนุษย์ทั้งปวงสรรเสริญพระนามอันบริสุทธิ์ของพระองค์
ตลอดไปชั่วนิรันดร์
บทที่146
1จงสรรเสริญพระเยโฮวาห์เถิดจิตวิญญาณของข้าพเจ้าจง
สรรเสริญพระเยโฮวาห์เถิด
2ตราบเท่าที่ฉันมีชีวิตอยู่ฉันก็จะยังคงสรรเสริญพระเยโฮ
วาห์ตราบเท่าที่ฉันยังมีชีวิตอยู่ฉันก็จะยังคงร้องเพลง
สรรเสริญแด่พระเจ้าของฉัน
3อย่าวางใจในเจ้านายหรือในบุตรมนุษย์ซึ่งไม่มีใคร
ช่วยเหลือได้
4เมื่อลมหายใจของเขาออกไปเขาก็กลับคืนสู่ดินในวัน
นั้นเองความคิดของเขาก็สูญสิ้นไป
5สุขแก่คนใดที่มีพระเจ้าของยาโคบเป็นผู้ช่วยเหลือซึ่งเขา
วางใจในพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเขา
6ซึ่งทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินทะเลและสิ่งทั้งปวงที่
อยู่ในนั้นซึ่งทรงรักษาความจริงไว้เป็นนิตย์
7ผู้ทรงพิพากษาลงโทษผู้ถูกกดขี่ผู้ทรงประทานอาหารแก่ผู้
หิวโหยพระเจ้าทรงปลดปล่อยผู้ถูกจองจํา
8พระเจ้าทรงเปิดตาคนตาบอดพระเจ้าทรงยกคนที่ก้มหัวขึ้น
พระเจ้าทรงรักคนชอบธรรม
9พระเจ้าทรงปกป้องคนต่างด้าวพระองค์ทรงช่วยเหลือเด็ก
กําพร้าและหญิงม่ายแต่พระองค์ทรงพลิกทางของคนชั่ว
10พระเยโฮวาห์จะทรงครองราชย์ตลอดไปคือพระเจ้าของ
เจ้าโอศิโยนตลอดทุกชั่วอายุคนจงสรรเสริญพระเยโฮวาห์
บทที่147
1จงสรรเสริญพระเยโฮวาห์เถิดเพราะว่าการร้องเพลง
สรรเสริญพระเจ้าของเราเป็นสิ่งที่ดีเพราะว่าเป็นที่น่ายินดี
และการสรรเสริญเป็นสิ่งที่เหมาะสม
2พระเจ้าทรงสร้างเยรูซาเล็มขึ้นพระองค์ทรงรวบรวมผู้ถูก
ขับไล่ออกจากอิสราเอล
3พระองค์ทรงรักษาผู้ชอกชํ้าใจและทรงพันแผลให้แก่พวก
เขา
4พระองค์ทรงบอกจํานวนดาวและทรงเรียกดาวทุกดวงตาม
ชื่อของมัน
5พระเจ้าของเรานั้นยิ่งใหญ่และทรงมีฤทธานุภาพมากความ
เข้าใจของพระองค์นั้นไม่มีที่สิ้นสุด
6พระเจ้าทรงชูคนอ่อนโยนขึ้นพระองค์ทรงเหวี่ยงคนชั่วลงสู่
พื้นดิน
7จงร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าด้วยการขอบพระคุณจงร้อง
เพลงสรรเสริญพระเจ้าของเราด้วยพิณ
8ผู้ทรงคลุมฟ้าสวรรค์ด้วยเมฆผู้ทรงเตรียมฝนให้แก่แผ่นดิน
ผู้ทรงทําให้หญ้าเติบโตบนภูเขา
9พระองค์ประทานอาหารแก่สัตว์และแก่ลูกกาที่ร้อง

บทสดุดี
10พระองค์มิได้ทรงพอพระทัยในกําลังของม้าและพระองค์
มิได้ทรงพอพระทัยในขาของมนุษย์
11พระเจ้าทรงพอพระทัยในผู้ที่ยําเกรงพระองค์และในผู้ที่
หวังในความเมตตาของพระองค์
12จงสรรเสริญพระเยโฮวาห์เถิดเยรูซาเล็มเอ๋ยจงสรรเสริญ
พระเจ้าของเจ้าเถิดศิโยนเอ๋ย
13เพราะพระองค์ทรงเสริมกําลังคานประตูของเจ้าและทรง
อวยพระพรบุตรทั้งหลายของเจ้าที่อยู่ภายในเจ้า
14พระองค์ทรงกระทําสันติสุขในเขตแดนของเจ้าและทรง
ให้ท่านอิ่มด้วยข้าวสาลีที่ดีที่สุด
15พระองค์ทรงส่งพระบัญญัติของพระองค์ไปยังแผ่นดินโลก
พระวจนะของพระองค์ดําเนินไปอย่างรวดเร็วมาก
16พระองค์ประทานหิมะเหมือนขนแกะพระองค์ทรงโปรย
นํ้าค้างแข็งเหมือนขี้เถ้า
17พระองค์ทรงโปรยนํ้าแข็งของพระองค์เป็นชิ้นๆใครจะ
ต้านทานความหนาวเย็นของพระองค์ได้?
18พระองค์ทรงส่งพระวจนะของพระองค์ออกไปและละลาย
มันพระองค์ทรงทําให้ลมพัดและนํ้าก็ไหล
19พระองค์ทรงแสดงพระวจนะของพระองค์แก่ยาโคบและ
บัญญัติและคําตัดสินของพระองค์แก่อิสราเอล
20พระองค์มิได้ทรงกระทําเช่นนี้แก่ประชาชาติใดๆและส่วน
คําพิพากษาของพระองค์พวกเขาไม่รู้จักเลยจงสรรเสริญ
พระเจ้า
บทที่148
1จงสรรเสริญพระเยโฮวาห์จงสรรเสริญพระเยโฮวาห์จาก
สวรรค์จงสรรเสริญพระองค์ในที่สูง
2จงสรรเสริญพระองค์เหล่าทูตสวรรค์ของพระองค์ทั้งหลาย
จงสรรเสริญพระองค์เหล่าพลโยธาของพระองค์ทั้งหลาย
3จงสรรเสริญพระองค์ดวงอาทิตย์และดวงจันทร์จง
สรรเสริญพระองค์ดวงดาวแห่งแสงสว่างทั้งหลาย
4จงสรรเสริญพระองค์สวรรค์ชั้นสูงทั้งหลายและนํ้าที่อยู่
เหนือสวรรค์ทั้งหลาย
5ให้พวกมันสรรเสริญพระนามของพระเจ้าเพราะพระองค์
ทรงบัญชาและพวกมันก็ถูกสร้างขึ้น
6พระองค์ได้ทรงสถาปนาสิ่งเหล่านี้ไว้เป็นนิตย์นิรันดร์
พระองค์ทรงกําหนดกฎเกณฑ์ซึ่งจะไม่ผ่านไปได้
7จงสรรเสริญพระเจ้าจากแผ่นดินโลกมังกรทั้งหลายและ
ทุกห้วงนํ้าลึก
8ไฟและลูกเห็บหิมะและไอนํ้าลมพายุที่ทําตามพระวจนะ
ของพระองค์
9ภูเขาและเนินเขาทั้งหลายต้นไม้ที่ให้ผลและต้นสนซีดาร์
ทั้งหลาย
10สัตว์และสัตว์เลี้ยงทุกชนิดสัตว์เลื้อยคลานและนกที่บิน
ได้
11กษัตริย์แห่งแผ่นดินโลกและชนชาติทั้งปวงเจ้านายและผู้
พิพากษาทั้งหลายแห่งแผ่นดินโลก
12ทั้งชายหนุ่มและหญิงสาวชายชราและเด็กๆ
13ให้คนเหล่านี้สรรเสริญพระนามพระเยโฮวาห์เพราะพระ
นามของพระองค์เท่านั้นที่ประเสริฐพระสิริของพระองค์อยู่
เหนือแผ่นดินโลกและฟ้าสวรรค์
14พระองค์ยังทรงยกย่องเขาของประชากรของพระองค์
สรรเสริญบรรดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์สรรเสริญบรรดาบุตร
หลานของอิสราเอลประชากรที่อยู่ใกล้พระองค์จงสรรเสริญ
พระเยโฮวาห์
บทที่149
1จงสรรเสริญพระเยโฮวาห์เถิดจงร้องเพลงใหม่ถวายแด่พระ
เยโฮวาห์และสรรเสริญพระองค์ในชุมนุมชนของบรรดา
ธรรมิกชน
2ขอให้อิสราเอลชื่นชมยินดีในพระองค์ผู้ทรงสร้างเขาขอให้
บรรดาบุตรหลานของศิโยนชื่นชมยินดีในกษัตริย์ของพวกเขา
3ให้พวกเขาสรรเสริญพระนามของพระองค์ด้วยการเต้นรํา
ให้พวกเขาร้องเพลงสรรเสริญพระองค์ด้วยรํามะนาและพิณ
4เพราะว่าพระเยโฮวาห์ทรงพอพระทัยในประชากรของ
พระองค์พระองค์จะทรงทําให้คนอ่อนโยนมีความรอด
5ให้บรรดาธรรมิกชนชื่นชมยินดีในพระสิริรุ่งโรจน์ให้พวกเขา
ร้องเพลงเสียงดังบนเตียงของพวกเขา
6ขอให้การสรรเสริญอันสูงส่งของพระเจ้าอยู่ในปากของพวก
เขาและให้มีดาบสองคมอยู่ในมือของพวกเขา
7เพื่อแก้แค้นพวกต่างชาติและลงโทษประชาชน
8เพื่อจะผูกมัดกษัตริย์ของพวกเขาด้วยโซ่ตรวนและผูกมัด
ขุนนางของพวกเขาด้วยโซ่ตรวนที่ทําด้วยเหล็ก
9เพื่อจะทรงลงโทษพวกเขาตามที่เขียนไว้ว่าบรรดาผู้
ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ทุกคนจะได้รับเกียรตินี้จงสรรเสริญ
พระเจ้า
บทที่150
1จงสรรเสริญพระเยโฮวาห์จงสรรเสริญพระเจ้าในสถาน
ศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์จงสรรเสริญพระองค์ในท้องฟ้าอันทรง
ฤทธิ์ของพระองค์
2จงสรรเสริญพระองค์เพราะการกระทําอันทรงอานุภาพของ
พระองค์จงสรรเสริญพระองค์ตามความยิ่งใหญ่อันยอดเยี่ยม
ของพระองค์
3จงสรรเสริญพระองค์ด้วยเสียงแตรจงสรรเสริญพระองค์
ด้วยพิณใหญ่และพิณเขาคู่
4จงสรรเสริญพระองค์ด้วยรํามะนาและการเต้นรําจง
สรรเสริญพระองค์ด้วยเครื่องสายและออร์แกน
5จงสรรเสริญพระองค์ด้วยเสียงฉาบอันดังจงสรรเสริญ
พระองค์ด้วยเสียงฉาบอันดัง
6จงให้ทุกสิ่งที่หายใจสรรเสริญพระเจ้าจงสรรเสริญพระเจ้า
Tags