3
ugh. You
cc
u can never prepar
ee eenough.” “Yo
pepare enough.” “You
can never prepare enou
gghh.” “You c
ghh. You can
nnever prepare e
nnoouugh.” “You can ne
vveerr pprepare enoug
hh..” “Yo
hh.” “You ca
nn never prepa
rree enough.” “You can never prep enough.” “
YYoou ca
h.” “You
ccan never p
rreepare enough.” “You can never prepar nough.”
“YYoou
h.” “You
ccan never epare enough.” “You can never prepare enoh.” “You c
aan
.” “
YYoou can ner prepare eno.” “You can n prepare enou
ggh.” “You
c
” “YYoou can neer prepare eugh.” “You can never pre
ppaare enough.”
““You can
” ““You can
nnever prepa
rree enough.” “You can never prep
aarree enough.” “You c
” ““You can
nnever pre
paare enough.” “You can never prepare e
nnoough.” “Yo
uu can n
“You c
aann never p
reepare enough
.” ““You can
nneevver prepare e
nnoough.” “
YYoou ca
“You c
aann never p
rreepare enou
gghh.” “You can never p
rreepare enou
gghh.” “You c
aan n
“You
ccan never
pprepare en
oough.” “You can never pr
eeppare enou
ggh.” “You
can
“You
ccaan never
pprepare e
nnoough.” “You can never prepa
rree enough.
”” “You can ne
“You
ccan neve
rr prepare
eenough.” “
YYoouu cann nnever prepa
rree enough
.” “You c
aan
You
ccan neve
rr prepare
eenough.” “
YYou can nev
err prepare
eennough.” “
YYou can
nnev
You can nev
eer prepar
ee enough.” “You can nev
eerr prepare
enough.” “You ca
nn n
ou ccan neve
rr prepare
eenough.”
““You can never p
rrepare en
oough.” “
YYoou can n
eeve
You
can nev
er prepar
ee enough.
”” “You can neve
rr prepare
eenough.” “You ca
nn n
u caan never
pprepare
eenough.”
““YYou can never
pprrepare en
oough.” “
YYoou can n
eeve
ou ccan neve
rr prepare
eenough.”
““YYou can nev
eer prepare
eenough.” “You ca
nn ne
u caann never
prrepare en
oough.” “You
ccaann neevveer prepare e
nnough.” “
YYou can n
eever
u caan never
pprrepare en
oough.” “You can never prepa
rree enough.
”” “You c
ann nev
can
nnever pr
eppare enou
gghh.” “You can never prepar
ee enough.”
““YYou can
nnever p
can
nnever pre
ppare enoug
hh.” “You can never pr
eeppare enoug
hh.” “You
caan neve
can n
eevver prepa
rree enough.” “
YYoouu ccan never
pprreepare enoug
hh..”” “You ca
nn never p
can n
evver prepar
ee enough.” “You can never prepare en
oouugh.” “Yo
uu can nev
ee
an neve
rr prepare en
oouugh.” “You can never prepare en
oouugh.” “You
ccaan never
ppr
an never
pprepare eno
uugghh.” “You can never prepa
rree enough.” “
YYoou can n
eevver
nn never pr
eeppare enough.”
““YYoouu can never pr
eppaare enough.” “Y
oouu can nev
eer pre
an nnever pre
paare enough.” “You can never prepare enough
..”” “You can
nnever p
nevveer prepare
eennough.” “You can never prepare enoug
hh.”” “You can
nneever prep
n nev
eerr prepare en
oouuggh.” “You can never prepare
ennoough.” “You
ccan never p
never p
rreepare enough.
”” ““YYoou can never pre
parree eenough.” “You
ccaan neverpre
pp
never pre
ppaare enough.” “You ca
n never prepareenough ”
ever prepare
eennough.” “Youcanne
nneeverprepa
ghnever
ppppppppprrrrrrreeeeeeeeppppppaaaaarrrrrrrrrreeeeeeeeee eeeeeeeeennnnnnnnnnoooooooooouuuuuuuuugggggggggghhhhhhhhhhh....”””””””””
pare
eenou
gggggghhh....” “““““““YYYYYYYYYYoooooooooouuuuuuuuuuu ccccccccaaaaaaaannnnnn nnnnneeeeeeevvvveeeeeeeeerrrrrrrrr ppppppppprrrrrrreeeeeeeeeppppppppppaaaaaaaaaarrrrrrrrrreeeeeeeeeeee eeeeeeeeeeeeennnnnnnnnooouuuugh.
ccaaaaaaannnnnnnnn nnnnnnnnnneeeeeeeevvvvvvveeeeeeeerrrrrrrrrr ppppppppppppppppprrrrrrrrrrrreeeeeeeeeepppppppppaaaaaarrrrrreeeeeeeee eeeeennnooooouuuuuuuuggggggggggghhhhhhhhhhh......”” “““““YYYYYYYYYYooooooooouuuuuuu cccccaaaaannnnnnnn nnnnnnnneeeeeeeeeevvvvvvvvveeeeeeeerrrrrrrrrr pppppppppprrrrrrrrrreeeeeeeeeepppppppaaaaaaaarrrrrreeeee eeennnnoooooouuuuuuuuuuuuuugggggggggghhh.” “
ccannnnnnnnnn nnnnnnnnnneeeeeeeeeevvvvvvvvvveeeeeeeeeeeeeeeerrrrr pppppprrreepppppppppaaaaaaaaaarrrrrrrrrreeeeee eeeeeeeennnnnnnnnnoooooooooouuuuuuuuuuugggggggggggggghhhhhhhhhhhh..””” ““““““YYYYYooooouuuuuuu ccccccccccaaaaaaaaaannnnnnnnnn nnnnnnnnnneeeeeeeeeevvvvvvvvvvvvvveeeeeeeeeeeeerrrrrrrrrrrrr pprepare
an nnnnnnnnnneeeeeeeeeevvvvvvveeerrr ppppppppprrrrrreeeeeeeeppppppppppaaaaaaaaaarrrrrrrrrreeeeeeeeee eeeeeeeeennnnnnnnooooooouuughhh.””“You
cannnever
“You Can Never Prepare Enough.”“You Can Never Prepare Enough.”
“ไม มี ทางที ่ เราจะเตรี ยมรั บมื อได ทุ กสิ ่ งหรอก”“ไม มี ทางที ่ เราจะเตรี ยมรั บมื อได ทุ กสิ ่ งหรอก”
นพ.นวนรรน ธี ระอั มพรพั นธุ
คณะแพทยศาสตร โรงพยาบาลรามาธิ บดี มหาวิ ทยาลั ยมหิ ดล
E-mail:
[email protected]
ขอคิดประจำฉบับ
3
“You Can Never Prepare Enough.”
“ไม มี ทางที ่ เราจะเตรี ยมรั บมื อได ทุ กสิ ่ งหรอก”
อ านต อหน า 4 Â
หากทานผู อานยังจำกันได ฉบับที ่แลวผมไดแนะนำใหทุกทาน
รู จักกับ “กฎของเมอรฟ” หรือ Murphy’s Law ซึ ่งกลาววา
“Everything that can go wrong will go wrong [and if there is
a worse time for something to go wrong, it will happen
then.]” กล าวคื อ “ทุ กสิ ่ งทุ กอย างที ่ มี โอกาสเกิ ดป ญหาได จะเกิ ดป ญหา
ขึ ้น [และมันจะเกิดขึ ้นในชวงเวลาที ่แยที ่สุด]” ผมไดกลาวว
า กฎของ
เมอรฟ ไมไดมีขึ ้นเพื ่อทำใหเราวิตกจริต นอนไมหลับกับปญหาที ่อาจ
เกิดขึ ้นในงานของเรา แตมีขึ ้นเพื ่อคอยเตือนสติเราใหคำนึงถึงปญหาที ่
อาจเกิดขึ ้นและเตรียมพรอมรับมือไวตามความเหมาะสมเทาที ่จะทำได
นอกจากนี ้ผมไดยกตัวอยางใหเห็นวาเราสามารถนำกฎของเมอรฟ
มา
ปรับใชกับงานและเหตุการณตางๆ ในชีวิตประจำวันของเราได ไมวาจะ
เปนงานบริหาร งานบริการทางการแพทย งานดูแลและพัฒนาระบบ
สารสนเทศ งานวิ จั ย หรื องานอื ่ นๆ อี กมากมาย หากท านลองพิ จารณาดู
ดีๆ จะเห็นวางานดานการแพทยฉุกเฉินและการเตรียมพรอมรับอุบัติภัย
หมู ก็เปนตั
วอยางที ่ดีของการเตรียมรับมือสำหรับเหตุการณฉุกเฉินที ่อาจ
ไมคาดคิด เพื ่อใหเรามีความพรอมมากขึ ้นสำหรับการรับมือหากเกิด
เหตุ การณ นั ้ นขึ ้ นจริ ง (แม เราจะภาวนาว ามั นจะไม เกิ ดขึ ้ นก็ ตาม)
ในฉบั บนี ้ ผมขอเสนอข อคิ ดที ่ เป นอี กหนึ ่ งด านของเหรี ยญครั บ คื อ
ขอคิดที ่วา “You can never prepare enough” ซึ ่งหมายความวา
ไม
มีทางที ่เราจะเตรียมรับมือไดทุกสิ ่งหรอก ฟงดูอาจจะเหมือนขัดแยง
กับกฎของเมอรฟ ดานหนึ ่งก็เตือนเราวาทุกสิ ่งทุกอยางมีโอกาสเกิดขอ
ผิดพลาดไดเสมอ จึงควรหาทางเตรียมรับมือไว อีกดานหนึ ่งก็เหมือนจะ
บอกวา เตรียมพรอมไปก็ไลฟบอย
เดี ๋ยวมันก็เกิดปญหาขึ ้นจนได เอะ ยังไง...
ผมขอยกตัวอยางเรื ่องราวจากบทความในหนังสือพิมพ The
New Yorker เรื ่ อง “Getting Bin Laden” โดย Nicholas Schmidle
(http://www.newyorker.com/reporting/2011/08/08/110808fa_
fact_schmidle) ซึ ่งลำดับเหตุการณที ่นำไปสู ปฏิบัติการตามลาบิน ลาเดน
ที ่สำเร็จลุลวงเมื ่อปลายเดือนเมษายนที ่ผานมาครับ บทความนี ้ไดกลาว
ถึงข
อมูลขาวกรองที ่บงชี ้วาหัวหนาผู กอการรายคนนี ้อาจจะอาศัยอยู ใน
ที ่พักแหงหนึ ่งในปากีสถาน นำไปสู การรวบรวมขาวกรองเพื ่อประเมิน
ความน าเชื ่ อถื อ กระบวนการตั ดสิ นใจของประธานาธิ บดี และที มงาน และ
การเตรี ยมพร อมของปฏิ บั ติ การทางทหารครั ้ งนี ้
เนื ้อหาในบทความมีรายละเอียดที ่นาสนใจอยู มาก ซึ ่งผมแนะนำ
ใหทานอานจากบทความตนฉบับโดยตรง แต
ประเด็นที ่เกี ่ยวของกับ
ขอคิดในฉบับนี ้และขอนำมาเลาโดยสรุปคือ ปฏิบัติการทางทหาร ที ่มี
การเตรียมพรอมกันอยางเต็มที ่มานานหลายเดือน โดยหนวยรบพิเศษ
Navy SEALs ซึ ่งในบทความไดเลาวา หลังจากการตรวจสอบยืนยัน
ข าวกรอง (ซึ ่ งไม สามารถยื นยั นได 100% ว าบิ น ลาเดน อยู ในบ านหลั งนี ้
จร
ิง) และพิจารณาทางเลือกของปฏิบัติการที ่เหมาะสมแลว ประธานาธิบดี
โอบามาไดตัดสินใจวาจะใชปฏิบัติการภาคพื ้นดินแทนการยิงขีปนาวุธ
จากระยะไกล (Drone strike) เพราะต องการให สามารถยื นยั นได อย าง
แนนอนวา บิน ลาเดน อยู ในที ่พักหลังนั ้นจริงหรือไม แทนที ่จะตองมา
กังขาตัวเองในภายหลังหากใช
การยิงจากระยะไกลวาบิน ลาเดน ไดถูก
สั งหารจริ งหรื อไม
ปฏิบัติการทางทหารโดยหนวย SEALs ซึ ่งมีชื ่อวาปฏิบัติการ
หอกของเนปจูน (Neptune’s Spear; Neptune คือเทพเจาแหงผืนน้ำ
และทะเลของชาวโรมัน) เริ ่มตนขึ ้นจากการวางแผนการเขาไปในบาน
หลังดังกลาว วาจะใชเฮลิคอปเตอรบินลงจอดภายในบริเวณบานหลัง
ดังกลาวโดยตรง หรือจะใชการเขาถึงทางเทาโดยหนวย SEALs (หรือ
แมกระทั ่งการขุดอุโมงคเขาไปจากใตดิน!) โดยมีการประเมินความเปน
ไปไดและความเสี ่ยงตางๆ อยางรอบคอบและไดสรุปในที ่สุดวาจะใชการ
บินลงไปโดยตรง จากนั ้นหนวย SEALs ก็มีการซอมกันอยางเขมขน
เป นเวลา 5 วั
นเต็ ม โดยอาศั ยแบบจำลองเสมื อนจริ งของบ านหลั งที ่ เป น
เป าหมาย เพื ่ อให การซ อมเหมื อนจริ งที ่ สุ ด ทั ้ งยั งมี การซ อมอี กหนึ ่ งยกใน
อีกสถานที ่หนึ ่งที ่มีระดับความสูงและสภาพภูมิประเทศใกลเคียงกับ
เปาหมาย เมื ่อทีมพรอม จึงกำหนดวันของปฏิบัติการเปนชวงคืนขางแรม
ที ่กำลังจะมาถึง เพื ่อใหฟ
ามืดและเหมาะสำหรับปฏิบัติการลับสุดยอดนี ้
ซึ ่ งมี เดิ มพั นสู งมาก
นอกจากการซอมเสมือนจริงอยางเต็มที ่แลว ปฏิบัติการนี ้ยังมี
ความซ้ ำซ อน (redundancies) ตั ้ งแต การใช เฮลิ คอปเตอร แบล็ กฮอว ก 2
ลำสำหรับปฏิบัติการนี ้ ทั ้งยังมีเฮลิคอปเตอรชีนุกอีก 4 ลำ ซึ ่งบรรทุก
หน
วย SEALs อีก 25 นาย จอดรอพรอมสงกำลังเสริมหากจำเปน
(หรือแมกระทั ่งการเตรียมน้ำมันสำรองไวเผื ่อเติม!) เพื ่อลดความเสี ่ยง
สำหรับปญหาที ่อาจเกิดขึ ้น ซึ ่งแสดงใหเห็นวาผู วางแผนไดคำนึงถึงกฎ
ของเมอรฟอยางรอบคอบสุดความสามารถ แตแมจะมีการวางแผน
เตรียมพรอม และซ
ักซอมอยางรัดกุมขนาดนี ้ เหตุการณผิดพลาดที ่ไม
คาดฝนก็เกิดขึ ้น เมื ่อปญหาดานอากาศพลศาสตร (aerodynamics)
ทำใหนักบินไมสามารถบังคับเฮลิคอปเตอรที ่กำลังจะลงจอดในบานของ
บิ น ลาเดน ได และตกกระแทกลงภายในรั ้ วของบ านหลั งดั งกล าวในที ่ สุ ด
ปญหาดังกลาว เกิดขึ ้นจากรั ้วบานที ่สูง ท
ึบ ประกอบกับอากาศ
รอน ทำใหเกิดสภาพการไหลของอากาศที ่เปนปญหาตอการควบคุม
เฮลิ คอปเตอร ซึ ่ งเป นป ญหาที ่ รู จั กกั นในหมู นั กบิ น แต ไม ได เป นที ่ คาดคิ ด
เพราะในการฝกซอม รั ้วบานเปนรั ้วโปรง ทำใหอากาศไหลเวียนไดโดย
อิสระและไมเกิดสภาพปญหาดังกลาวขึ ้น และไมมีใครคาดหมายวาจะ
เกิดปญหานี
้ขึ ้นในปฏิบัติการจริง เคราะหดีที ่ไมมีใครบาดเจ็บเมื ่อเครื ่อง
ตกกระแทกพื ้นเพราะความสูงไมมากนัก จากนั ้นหนวยปฏิบัติการก็ตอง
แกปญหาเฉพาะหนาโดยปรับแผนการจู โจม ซึ ่งเปนสิ ่งที ่ทีมปฏิบัติการ
ได รั บการฝ กฝนมาโดยตลอดอยู แล ว และในที ่ สุ ดก็ สามารถจู โจมและตาม
ลาบิน
ลาเดน จนสัมฤทธิ ์ผลในที ่สุด (อานรายละเอียดเพิ ่มเติมไดจาก
บทความที ่ อ างถึ งครั บ)
อธิ บายเสี ยยาว ที ่ ผมต องการจะสื ่ อก็ คื อ แม จะเป นปฏิ บั ติ การทาง
ทหารเดิมพันสูงที ่มีการใชบุคลากรที ่ไดรับการฝกฝนมาอยางดียิ ่ง มีการ
วางแผนเตรียมพรอมอยางสุดความสามารถ อยู ภายใตการติดตามของ
ประธานาธิบดี
อยางใกลชิด และมี redundancies หลากหลายรูปแบบ
รองรับปญหาที ่อาจเกิดขึ ้นแลวก็ตาม (กลาวคือ ไดพิจารณากฎของ
เมอรฟอยางรอบคอบแลว) แตปฏิบัติการนี ้ก็ยังเกิดปญหาที ่ไมคาดฝน